ตอนที่ 224 กลับมาหมดแล้ว
ชุยหังมองออกไปข้างนอกหน้าต่างก็สว่างแล้ว
เวลานี้หลูจื้อน่าจะเริ่มทำงานแล้ว
เขาตื่นเช้าและนอนดึกทุกวัน แต่ก็ยังแบ่งเวลาเพื่อมาคุยกับตัวเอง คนที่ลำบากที่สุดก็คือหลูจื้อ
“ช่วงนี้เขาทำงานล่วงเวลา ไม่มีเวลาหรอก” ชุยหังตอบอย่างไม่ต้องคิด
“งานอะไรเหรอ ตรุษจีนยังต้องทำงานอีก?” ซย่าอวี้ชิวเอ่ยถามขณะหยิบของออกจากกระเป๋า
ชุยหังเอ่ยขึ้น “เรื่องนายไม่ต้องถามแล้ว ขนาดฉันยังไม่เคยถามเรื่องงานของเขาเลย”
ซย่าอวี้ชิวยื่นแอปเปิลมาให้พลางเอ่ย “พูดจาลึกลับแบบนี้ ตอนนี้ฉันสงสัยแล้วว่านายมีแฟนจริงหรือเปล่า”
ชุยหังรับแอปเปิลมาแล้วเช็ดอย่างลวกๆ จากนั้นก็กัดหนึ่งคำ ก่อนจะพูดขึ้น “จริงสิ ไม่งั้นฉันจะอยู่ที่นี่ทำไมล่ะ”
“แล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้าไม่ได้มาอยู่กับนายช่วงตรุษจีน”
ชุยหังพูดต่อ “นายรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ได้มาอยู่กับฉัน วันที่สามสิบเราอยู่ด้วยกัน แล้วก็กินเกี๊ยวด้วย”
ซย่าอวี้ชิวบอกไป “โอเค ตอนนี้ความรักของนายเป็นสีชมพู เขายกเวลาทั้งวันให้ นายก็จดจำมันไปตลอดชีวิตแล้ว ให้ฉันนอนเตียงไหนล่ะ”
ชุยหังมองสักพักแล้วชี้ไปที่เตียงของถังเฉิง “นายนอนตรงนั้นก็ได้”
“โอเค สบายใจได้ ฉันจะล้างเท้าทุกวัน” ซย่าอวี้ชิวเอ่ยบอก
ร้านของกินเล่นรอบๆ มหาวิทยาลัยทยอยเปิดทีละร้าน มีซย่าอวี้ชิวมาอยู่เป็นเพื่อน ซุยหังก็ไม่เหงาอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามซย่าอวี้ชิวก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้มีความหมายอะไรต่อเขาเลย นอกจากล้อเล่นกันเป็นบางครั้ง และไม่สามารถพูดถึงเรื่องระหว่างพวกเขาได้อีก
สองวันต่อมาคนในห้องพักของซย่าอวี้ชิวก็กลับมา และใกล้จะถึงเวลาเปิดเทอมแล้ว เขาจึงกลับไป
ชุยหังตั้งใจทำความสะอาดให้เหมือนกับก่อนที่พวกเขาจะออกไป จากนั้นก็เช็ดกระจกและกรอบประตูให้ดี
คนแรกที่กลับมาคือเหลาซื่อถังเฉิง ขณะที่เขากำลังเข้าห้อง ก็พูดกับชุยหัง “เหลาอู่ สวัสดีปีใหม่”
“เหลาซื่อ สวัสดีปีใหม่ ทำไมนายดูแก่ขึ้นหลังปีใหม่ล่ะ”
“เหลาอู่ ทำไมปีใหม่นายพูดแบบนี้ล่ะ” ถังเฉิงเอ่ยขึ้น
ชุยหังรีบเปลี่ยนคำพูดพลางเอ่ยบอก “โอเค นายดูเป็นผู้ใหญ่และมีเสน่ห์ขึ้น”
“ไปๆๆ หมายถึงเสน่ห์แบบผู้ชายเหรอ” ถังเฉิงไม่สามารถทำอะไรกับชุยหังได้
ไม่นานพี่ใหญ่จ้าวหลินก็กลับมา เมื่อเห็นว่าห้องพักสะอาดเรียบร้อย เขาจึงเอ่ยบอก “เหลาอู่ ฉันกำลังคิดว่านายจะทำห้องเสียหายยังไงบ้าง แต่ดูตอนนี้แล้ว ไม่แย่เลยนะ”
“มันจำเป็น ไม่งั้นตอนพวกนายกลับมา ฉันจะถูกรุมได้”
“ใครจะกล้าลงมือกับนายล่ะ นายเป็นสุดยอดชายแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลยนะ” ถังเฉิงแซว
ชุยหังพูดไป “นายเคยเห็นผู้ชายสูงไม่ถึงร้อยเจ็ดสิบเซ็นของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเหรอ ความสูงอย่างฉันอยู่กับพวกเขาแล้วเหมือนเป็นคนพิการอันดับสอง”
ห้องพักกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง จ้าวหลินยังนำของฝากขึ้นชื่อของกุ้ยหลินสามอย่างมาให้ด้วย มีทั้งเหล้าซานหวง กุยช่าย และเต้าเจี้ยวหมัก
ชุยหังอยากลองเหล้าซานหวงสักหน่อย เขาจึงลองชิมและรู้สึกว่ารสชาติน่าตื่นเต้นไม่น้อยเลย
เหล่าซานจังเผิงและพี่รองวังเฉียงมาถึงในเวลาเกือบค่ำ แต่เหลาลิ่วมาถึงในหนึ่งวันต่อมา
คนของห้องพักอื่นก็ทยอยกันกลับมา และห้อง 426 ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ขณะที่เปิดเทอมแล้ว ทางฝั่งของหลูจื้อดูเหมือนจะทำงานเสร็จในที่สุด จากนั้นก็มาหาคุยกับเขาสักพัก แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องเวลาที่จะมาหาหรือออกไปข้างนอกด้วยกัน
พวกเขารู้กันทั้งสองฝ่ายว่าจะไม่พูดเรื่องผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา
อย่างไรก็ตามเรื่องบางอย่าง คนบางคน แม้จะไม่ได้พูดถึง แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงการมีอยู่ได้
ตอนที่ 225 พาเธอกลับบ้าน
“ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว?” หลูจื้อเอ่ยถามตามตรง
“อืม ผ่านปีนี้ไปแบบไม่รู้ตัวเลย” ชุยหังบอกไป
หลูจื้อหัวเราะแล้วพูดขึ้น “นายไม่ได้อยู่สบายๆ เหรอ ไม่ได้เหนื่อยอะไรเหมือนพวกเราที่ไม่ได้พักผ่อนช่วงปีใหม่เลย”
“ทหารบ่นไม่ได้ไม่ใช่เหรอ แล้วที่บอกว่ายินดีบริการเพื่อประชาชนใครเป็นคนบอกกัน” ชุยหังพูดติดตลก
หลูจื้อเอ่ยบอก “เด็กน้อยไม่ต้องมาบ้าเหมือนฉันหรอก รอฉันเสร็จงานช่วงนี้ก่อนเถอะ จะทำให้นายรู้เองว่าฉันจะบริการนายยังไง”
ชุยหังเอ่ยตอบ “นายหาข้ออ้างมาจัดการฉัน?”
“ทำไมเรียกว่าจัดการล่ะ บริการเมียตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเหรอ” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหัวเอ่ยตอบ “โอเค นายมีเหตุผล ฉันยอมแพ้”
“อย่ายอมแพ้สิ นายเป็นคนยังไงกัน นายคือชุยหังพี่สะใภ้ของกองทัพผู้สง่างาม นายจะยอมแพ้ตามใจตัวเองไม่ได้นะ” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังทำอะไรไม่ถูกจึงพูดขึ้น “นายไปเรียนรู้กับใครมาเนี่ย”
“ไม่ต้องเรียนหรอก ก็แค่เปลี่ยนแนวให้นายมีความสุขบ้าง”
“อือ นายสบายดีฉันก็มีความสุขแล้ว”
“สบายใจได้ ฉันจะดูแลตัวเองดีๆ” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังรู้สึกเสมอว่าบทสนทนาดังกล่าวไม่ได้มีประโยชน์อะไร แต่กลับทำให้เขายอมรับความลำบากได้อย่างหน้าชื่นตาบาน
‘สำหรับผู้คนที่หลงใหลในความรักนั้น การทำเรื่องเดิมซ้ำๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ แต่แล้วยังไงล่ะ แค่ในใจมีความสุข อะไรก็ไม่สำคัญแล้ว’
หลังจากเปิดเทอมแล้ว ชุยหังก็เริ่มยุ่งอีกครั้ง ทีมเต้นและชมรมนักข่าวเป็นที่ที่เขามักจะปรากฎตัวอยู่ที่นั่น
เขาไม่อยากให้ตัวเองสบายเกินไป เพราะว่าตอนนี้หลูจื้อไม่ค่อยมีเวลามากนัก เขาจึงทำได้เพียงหาอะไรให้ตัวเองทำ
เดิมทีเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องระหว่างพวกเขาสองคน ไม่ใช่เพราะว่าผู้หญิงคนนั้น แต่เป็นเพราะทำตัวไม่ถูกมากกว่า
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นในหน้าไทม์ไลน์วีแชทของหลูจื้อ หัวใจที่ไม่สามารถควบคุมได้ก็จมดิ่งลง
เธอเป็นผู้หญิงที่ถือว่าน่ามองคนหนึ่ง ไม่ถึงกับพูดได้ว่าสวยมาก แต่ดูเหมือนว่านิสัยของเธอจะค่อนข้างสดใส ไม่เสแสร้ง และใจกว้างซึ่งเป็นนิสัยที่ผู้ใหญ่รุ่นพ่อแม่น่าจะชอบ
ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าแฟนของตัวเองไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้นเลยสักนิดจึงไม่รู้สึกน้อยใจ
บางทีเธออาจจะกำลังคิดว่าเวลาจะเปลี่ยนหลูจื้อได้และยังสามารใช้ความประทับใจค่อยๆ เปลี่ยนความรู้สึกของหลูจื้อ
เธออาจจะกำลังรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ที่หลูจื้อบอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับเธอ เพราะเขาเป็นทหารและไม่อยากทำให้เธอเสียเวลา
แคปชั่นของหลูจื้อเขียนไว้ว่า [ยุ่งมาหลายวันแล้ว ในที่สุดก็มีเวลาพาเธอกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่]
ชุยหังไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกของตัวเองอย่างไร มันไม่ใช่ความว้าวุ่นใจ แต่เป็นความไม่สบายใจ
เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับหัวใจของเขาถูกดึงออกมา
ดูเหมือนว่าอีกสักพักจะไม่สามารถหายใจได้อีกแล้ว
ความจริงแล้วพวกเขากลับไปที่บ้านของหลูจื้อ ซึ่งหลูจื้อไม่ได้บอกเขาว่ามีวันหยุด แต่กลับพาผู้หญิงคนนั้นกลับบ้าน
เมื่อเป็นแบบนี้เรื่องระหว่างพวกเขาทั้งสองคนน่าจะตัดสินใจได้แล้ว
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถบ่นหรือตั้งคำถามได้เลย ทำได้เพียงปลอบใจตัวเองที่ก่อนหน้านี้บอกกับหลูจื้อว่าให้เขารับมือกับที่บ้านและอธิบายกับคุณย่าของเขา
‘ถ้าตอนนี้ตัวเองกลับรู้สึกไม่สบายใจหรือหึงขึ้นมา แล้วไปหาเรื่องทะเลาะโดยไม่มีเหตุผล แบบนั้นก็เหมือนกับกำลังตบหน้าตัวเอง’
‘แล้วจะทำอย่างไรให้เขาสังเกตตัวเองออก’
หลังจากคิดเรื่องนี้สักพัก เขาจึงตัดสินใจกดถูกใจให้กับโพสต์ของหลูจื้อทันที