บทที่ 423 การดักซุ่มที่น่ากลัว
บทที่ 423 การดักซุ่มที่น่ากลัว
หยิบคัมภีร์เมืองขึ้นมาและฉีกทิ้ง เซียวเฟิงเลือกที่จะกลับไปยังเมืองเซียนรี่ก่อน เพราะเขาอยากจะลองว่าชื่อสีแดงของตัวเองนั้นยังมีผลอะไรอยู่หรือไหม ถ้ามันยังมี เขาจะได้ไม่โยนตัวเองลงไปในปัญหาอย่างการเข้าไปยังเมืองจักรวรรดิ
โชคดีที่ผลลัพธ์นั้นเป็นที่น่าพึงพอใจ เซียวเฟิงสามารถเดินไปทั่วเมืองเซียนรี่ได้โดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ถึงแม้ว่าจะมีผู้เล่นบางคนจำเขาได้ แต่ตราบใดที่ NPC ไม่ได้มาก่อปัญหากับเขา มันก็ไม่ถือว่ามีอะไรให้ห่วง
อย่างไรก็ตาม เพื่อจะปกปิดตัวตนของตนเองไว้ เซียวเฟิงจึงมุ่งหน้าไปยังร้านค้าเสื้อผ้าของระบบและเปลี่ยนชุดเสีย นอกจากนี้เขายังไม่ลืมที่จะซ่อนชื่อของตนไว้ด้วย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาก็ไม่รอช้าที่จะเทเลพอร์ตตนเองไปยังเมืองจักรวรรดิผ่านจุดเคลื่อนย้ายประจำเมืองเซียนรี่ด้วยความสบายใจ
ด้วยความที่เขาปลอดภัยแล้ว ไม่มีทหารยาม NPC คนไหนจำเซียวเฟิงได้ ราวกับว่าไม่เคยเกิดความวุ่นวายในเมืองจักรวรรดิขึ้นมาก่อนเลย เพราะงั้นสถานการณ์ตอนนี้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเซียวเฟิงมาก ๆ เขามุ่งหน้าเข้าไปในสนามประลองและเริ่มจับคู่ประลองต่อในทันที
การต่อสู้แต่ละรอบของเขายังคงเป็นรอบสั้น ๆ และจบลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เขาเสียเวลาไม่ถึง 5 วินาทีในแต่ละรอบ ค้อนสีทองขนาดยักษ์นั้นกลับมาประจักษ์ต่อสายตาของทุกคนอีกครั้ง และมันทำให้ผู้เล่นภายในเมืองจักรวรรดิจำเซียวเฟิงได้อย่างรวดเร็ว!
“เร็วเข้า! นั่นผู้บุกรุกจากเขตฮัวเซีย! มันกลับมาอีกแล้ว! ฉันเห็นมันอยู่ในสนามประลองล่ะ!”
ทันใดนั้น ไม่ถึงสิบนาที ที่บริเวณส่วนผู้ชมรอบ ๆ สนามประลองที่เซียวเฟิงกำลังทำการประลองที่แต่เดิมร้างคน ตอนนี้มันกลายเป็นศูนย์รวมผู้เล่นฮันกึลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้านี่เพิ่งจะฆ่าคนอย่างทารุณในเมืองจักรวรรดิไปเหรอ? ทำไมถึงยังอยู่ในเมืองนี้ได้อีก? มีใครช่วยบอกฉันได้ไหมว่าทำไมเจ้านี่ถึงสามารถลอยหน้าลอยตาอยู่ในเมืองนี้ได้โดยที่ไม่โดนอะไรเลยแบบนี้?”
ซาตานเองก็มายังที่แห่งนี้ด้วย สีหน้าเขาดูไม่ยินดีสุด ๆ พร้อมกับตะโกนออกมาอย่างอดไม่ได้ ด้านหลังเขามีฮัวเซียตามมาติด ๆ เธอมองเซียวเฟิงที่กำลังกำจัดศัตรูในสนามประลองไปทีละคน ๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไร
“เร็วเข้า! ไปแจ้งการ์ดเร็ว!”
ผู้เล่นบางคนเห็น NPC ยามลาดตระเวนประจำเมืองจักรวรรดิเดินผ่านมาละแวกนั้นพอดี พวกเขาจึงไม่รอช้าที่จะไปแจ้งเรื่อง ทว่าเมื่อกลุ่มของยามลาดตระเวนเหล่านั้นเดินมาหาเซียวเฟิง มันก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น พวกเขาเดินจากไปโดยไม่ทำอะไรจนกลายเป็นเหล่าผู้เล่นจากฮันกึลเองที่พูดอะไรไม่ออก
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? เมืองจักรวรรดิเพิ่งเผชิญกับเรื่องร้ายแรงเมื่อวานขนาดที่ต้องให้อัศวินกริฟฟินออกมาเลยไม่ใช่หรือไง?
ทำไมวันนี้เรื่องมันกลับดูสงบสุขจนเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลยล่ะ?
แบบนี้ก็แสดงว่าเจ้าผู้บุกรุกจากเขตฮัวเซียนี่จะสามารถฆ่าใครในเมืองจักรวรรดิก็ได้งั้นเหรอ?
เซียวเฟิงไม่ได้สนใจสายตาอาฆาตแค้นจำนวนนับไม่ถ้วนที่มองมายังตัวเองเลย ชายหนุ่มเลือกที่จะประลองต่อไป รอบแล้วรอบเล่าเพื่อสะสมแต้มชัยชนะให้ได้เร็วที่สุด
นอกจากหายไปทานข้าวเย็นมาครึ่งชั่วโมง เซียวเฟิงก็ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลยนอกจากประลองอย่างต่อเนื่อง เพราะยิ่งระดับของเขาสูงขึ้น แต้มชัยชนะที่ได้รับก็จะยิ่งมากขึ้น มันเลยทำให้เขาเลือกที่จะทำมันอย่างไม่หยุดยั้ง จนจำนวนรอบในการประลองนี้เริ่มทะลุหมื่นรอบในที่สุด
โชคยังดีที่ก่อนจะที่อีเวนต์เซิร์ฟเวอร์จะมาถึงยี่สิบนาทีสุดท้าย เซียวเฟิงก็ยังคงสามารถชนะต่อเนื่องได้และทำให้ตัวเขากลายมาเป็นอันดับ 4 ของลานประลองประจำเขตฮันกึลได้!
“เป้าหมายของมันคือเข้าร่วมอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์! มันกำลังปั่นอันดับของตัวเอง! ไอ้หมอนี่พยายามชิงโอกาสของพวกเราชาวฮันกึล!”
ตอนนั้นเอง ซาตานและคนอื่น ๆ ก็เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเซียวเฟิงถึงอยู่แต่ในสนามประลองเช่นนี้ ซึ่งความจริงนั้นก็ทำเอาผู้เล่นนับไม่ถ้วนพากันช็อกไปถ้วนหน้า! พวกเขาทั้งตกใจและโกรธแค้น!
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เซียวเฟิงขึ้นมาอยู่ ณ อันดับ 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาเริ่มจะรู้สึกขี้เกียจที่จะยุ่งกับคนพวกนี้ต่อ ยังไงเสียโควต้าก็เป็นของเขา ถึงเวลาที่เขาจะพักบ้างแล้ว เซียวเฟิงลงจากลานประลองแล้วยืดเส้นยืดสายให้สบายเนื้อสบายตัวขณะเดินไปยังร้านค้าเพื่อแลกเปลี่ยนแต้มชัยชนะด้วยความเชื่องช้า หลังจากที่แลกค่าประสบการณ์เสร็จ เขายังหันไปทักทายหลีเซียนหยุนที่อยู่ไม่ไกลออกไปด้วยท่าทีสบาย ๆ ด้วย
“ที่เขตฮัวเซียไม่มีที่ให้นายหรือไง? ทำไมนายถึงต้องอยากได้ตำแหน่งในเขตฮันกึลขนาดนี้?” หลีเซียนหยุนพูดคุยกับเซียวเฟิงผ่านข้อความส่วนตัว เธอมีเขาอยู่ในรายชื่อเพื่อน กระนั้นตัวเธอเองก็ไม่ได้แสดงความเป็นศัตรูกับเขาแต่อย่างใด
“ฉันไม่ได้อยู่ในเขตฮัวเซียตอนนี้ แล้วก็ฉันไม่ได้ติดอันดับอะไรเลยในเขตนั้นด้วย เพราะงั้นทางเดียวที่ฉันจะร่วมอีเวนต์ได้ก็คือการใช้เขตของเธอนั่นแหละ” เซียวเฟิงเปลี่ยนแต้มชัยชนะทั้งหมดเป็นค่าประสบการณ์ขณะตอบอีกฝ่ายกลับไปอย่างง่าย ๆ ด้วย
ค่าประสบการณ์ที่ได้มาจากแต้มชัยชนะนั้นไม่ใช่น้อย ๆ เลย มันมากพอที่จะทำให้หลอดค่าประสบการณ์เลเวล 45 ของเขาถูกเติมเต็มและเลเวลอัปเป็น 46 ได้ในทันที! เท่านี้เขาก็สามารถตามผู้เล่นระดับสูงคนอื่น ๆ ทันแล้ว เพราะตอนนี้ขนาดเทพเจ้าสายฟ้าที่เป็นอันดับ 1 ของทุกเซิร์ฟเวอร์เองก็มีเลเวลเพียง 48 เท่านั้น
ขณะเดียวกันนั้นเอง ค่าสถานะที่ได้จากชุดเกราะพระเจ้าอวยพรที่สวมอยู่ก็เพิ่มขึ้น เขาได้แต้มมาอีกร่วม ๆ 12 แต้มซึ่งแม้จะดูไม่เยอะแต่มันก็เพิ่มความแข็งแกร่งให้เซียวเฟิงอีกมากเลย
อย่างไรก็ตาม ความพึงพอใจของเซียวเฟิงก็ไม่ได้อยู่นานนัก เพราะเมื่อเขากลับไปดูที่อันดับสนามประลอง ความพอใจของเขาก็หายไป
นั่นเพราะจากอันดับ 4 ก่อนหน้านั้น ตอนนี้เขาร่วงลงมาเป็นอันดับ 5 แล้วในเวลาเพียง 2 นาที!
เกิดอะไรขึ้นกัน?
มันน่าประหลาดใจที่แต้มชัยชนะของเขาน่ะสูงกว่าอันดับ 5 ถึง 100 แต้มเลย ถ้าหากอันดับ 5 จะปั่นแต้มคืน อย่างน้อย ๆ เขาคนนั้นก็ต้องใช้เวลาขั้นต่ำ 10 นาทีเพื่อให้ได้ 100 แต้มนี้มาสิ! อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า การที่ประลองจบในเวลา 5 วินาทีได้นั้น หากไม่ใช่เซียวเฟิงก็ไม่สามารถทำได้หรอก เพราะศักยภาพที่น่ากลัวของเขา เขาถึงทำได้ขนาดนี้ แต่หากเป็นผู้เล่นธรรมดาแล้วล่ะก็ ยังไงก็ต้องใช้เวลามากกว่านี้ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเก่งแค่ไหนก็ตาม
ทั้ง ๆ ที่มันควรจะเป็นแบบนี้แท้ ๆ อันดับของเขาไม่ควรจะถูกกลบได้ง่ายขนาดนี้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าเขาร่วงลงมาในเวลา 2 นาทีเท่านั้นน่ะนะ?
เซียวเฟิงยังคงงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นิดหน่อย เขาไม่สามารถละสายตาจากอันดับคะแนนได้เลย ซึ่งเมื่อมองไปยังอันดับที่ 6 เขาก็ต้องขมวดคิ้วในทันที เพราะไม่เพียงแค่อันดับ 6 แต่เหตุการณ์ประหลาดนี้มันเกิดขึ้นกับทุกอันดับไล่ลงไปถึงอันดับ 10 เลย จู่ ๆ อันดับของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งดูเหมือนคนเหล่านี้กำลังพยายามตามเซียวเฟิงให้ฟังด้วย
สีหน้าของเซียวเฟิงเปลี่ยนไปอีกรอบ เขามองไปยังเวลาที่เหลือและพบว่ามันเหลือไม่ถึง 20 นาทีแล้วก่อนที่อีเวนต์เซิร์ฟเวอร์จะเริ่มต้นขึ้น! นี่ไม่ใช่เวลามาล้อเล่นแล้ว!
เขากลับไปยังสนามประลองอย่างรวดเร็วและเริ่มจับคู่ประลองใหม่อีกครั้ง!
แม้จะยังไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ แต้มชัยชนะของคนพวกนั้นถึงได้เพิ่มขึ้นมาเร็วขนาดนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาแน่ ๆ คนพวกนี้กำลังทำตัวเป็นม้ามืดในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนอีเวนต์จะเริ่มต้นขึ้น และถ้าเซียวเฟิงไม่สามารถวิ่งนำคนเหล่านี้ได้ มีหวังเขาได้ถูกตัดออกจากการเข้าร่วมอีเวนต์แน่!
คิดได้เช่นนั้นเซียวเฟิงก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง โอกาสของเขากำลังสั่นคลอนลงมาเรื่อย ๆ ตอนนี้เขาจำเป็นต้องชนะด้วยความเร็วที่มากที่สุดแล้วรีบกดรอบใหม่ในทันทีเพื่อเพิ่มแต้มชัยชนะดักคนเหล่านี้ไว้!
ทว่าระหว่างที่กำลังทำเช่นนั้น เซียวเฟิงก็เหลือบไปมองยังอันดับสนามประลองด้วย ซึ่งสิ่งที่แสดงอยู่บนกระดานนั้น หากไม่เห็นด้วยตาเขาต้องไม่เชื่อแน่ ๆ สิ่งที่ทำให้แม้แต่เซียวเฟิงยังต้องขมวดคิ้วนั้นคือ แต้มชัยชนะของอันดับที่ 6 นั้น มันเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเร็วเท่า ๆ กับเซียวเฟิงเลย! ไม่สิ มันเร็วกว่าด้วยซ้ำ!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่! ทั้ง ๆ ที่ทุก ๆ รอบเซียวเฟิงก็ไม่ได้ใช้เกิน 5 วินาทีเลยแท้ ๆ! คู่ต่อสู้ทุกคนล้วนแต่ถูกค้อนแห่งการพิพากษาทุบตายตั้งแต่แมตช์เริ่มแต่ทำไมความเร็วของเขายังตามไม่ทันอีก! ผลลัพธ์พวกนี้ มันกำลังบอกว่าอันดับที่ 6 นั้นใช้เวลาชนะการประลองแต่ละรอบเร็วกว่าเซียวเฟิงเสียอีกนะ!
ไม่เพียงแค่อันดับที่ 6 เท่านั้น อันที่จริง ทั้ง 9 อันดับยกเว้นเซียวเฟิง ต่างก็กำลังมีแต้มชัยชนะที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ใจเลย!
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่…บัคของเกมเหรอ?” เซียวเฟิงขมวดคิ้ว เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนที่สามารถชนะการประลองได้เร็วกว่าเขาอยู่ด้วย แถมยังมีมากถึงเก้าคนอีก!
ถึงแม้ว่าเซียวเฟิงจะจับคู่ใหม่และเริ่มประลองอยู่ตลอดเวลา แต่มันก็ยังพอมีเวลาอยู่บ้างนิดหน่อยก่อนที่ผลลัพธ์ของรอบนั้น ๆ จะสรุปออกมา ซึ่งเมื่อจบกระบวนการนี้แล้ว ระบบก็จะสุ่มว่าจะให้ใครเทเลพอร์ตมายังสนามของเขาหรือจะเทเลพอร์ตเขาไปยังสนามของคู่ต่อสู้
การที่นักสู้ไม่ได้อยู่ประจำสนามเดิมตลอดนั้นไม่ใช่ปัญหาอะไรกับผู้ชมที่คอยตามนักสู้เพียงคนเดียวนัก เพราะพวกเขายังคงสามารถติดตามนักสู้ที่เขาสนใจได้ผ่านจอในสนามประลองที่เหมือนเป็นการถ่ายทอดสดจากสนามแต่ละแห่งที่มีการต่อสู้ให้รับชมแทน
และก่อนที่กระบวนการสรุปผลจะเสร็จ ก่อนที่เซียวเฟิงจะถูกส่งตัวไปยังสนามประลองอื่น เขาก็เผอิญเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับสนามประลองข้าง ๆ ในที่สุดเซียวเฟิงก็รู้ได้เสียทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น!
ผู้เล่นเขตฮันกึลกำลังปั๊มแต้มกันจริง ๆ ด้วย!
กลวิธีนั้นง่ายมาก เพียงแค่ให้ผู้เล่นฮันกึลทุกคนเข้าร่วมสนามประลองแล้วก็แจกแต้มโดยการกดยอมแพ้ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ใช่เซียวเฟิงและเป็นสิบอันดับแรกสามารถชนะได้ง่าย ๆ เท่านี้แต้มพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว!
ทั้งนี้วิธีที่ทั้งเก้าอันดับเลือกใช้คือ ให้คู่ต่อสู้กดยอมแพ้ ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่า 3 วินาที เท่านี้พวกเขาทั้งเก้าคนก็สามารถชนะเกมได้อย่างรวดเร็ว
สาเหตุที่ผู้เล่นฮันกึลทำเช่นนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ พวกเขาต้องการจะปัดเซียวเฟิงให้หลุดจากการมีสิทธิ์เป็นตัวแทนเขตฮันกึล เพราะถ้าหากระบบจับคู่ประลองให้ไม่ได้ เซียวเฟิงก็จะไม่สามารถชนะต่อเนื่องได้ด้วย แต่โชคร้ายที่จังหวะที่เซียวเฟิงชนะนั้น มันเร็วเกินกว่าที่พวกเขาจะยื้อไว้ได้ เซียวเฟิงจึงสามารถจับคู่ได้เรื่อย ๆ
เซียวเฟิงไม่คาดคิดเลยว่าชาวฮันกึลจะยอมใช้วิธีนี้ได้! เพราะการจะทำให้กลยุทธ์เช่นนี้ประสบผลสำเร็จได้นั้น จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือจากผู้เล่นฮันกึลจำนวนมากดีไม่ดีอาจจะทั้งเขตเลยเพื่อหยุดเซียวเฟิงไว้! บางทีตอนนี้ผู้ที่เข้าสนามประลอง อาจจะมีแต่ผู้ที่อยู่ในเก้าอันดับกับตัวแจกแต้มเท่านั้นก็ได้!
แม้จะเป็นวิธีที่น่ารังเกียจไม่น้อยแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันได้ผลมากจริง ๆ!
เขาเรียกเสี่ยวเสวียออกมาขี่ และใช้เสี่ยวเสวียขณะประลองด้วยเพื่อลดเวลาลงไปให้เหลือ 4 วินาที! แต่ถึงอย่างนั้นแต้มชัยชนะของเขาก็ยังถูกไล่ตามอย่างรวดเร็วอยู่ดี!
ตอนนี้เหลือเพียง 5 นาทีสุดท้ายแล้วก่อนที่อีเวนต์จะเริ่ม! และช่วงห่างแต้มชัยชนะของอันดับ 6 และเซียวเฟิงก็ต่างกันเพียง 25 แต้มเท่านั้น!
3 นาทีสุดท้าย แต้มห่างกันเพียง 15 แต้ม!
1 นาทีสุดท้าย แต้มห่างกัน 5 แต้ม!
30 วินาทีสุดท้าย แต้มห่างกัน 2 แต้ม!
20 วินาทีสุดท้าย แต้มห่างกัน 1 แต้ม!
10 วินาทีสุดท้าย แต้มห่างกัน 0 แต้ม!
5 วินาทีสุดท้าย คะแนนของเซียวเฟิงตามหลังแล้ว 1 แต้ม!
ตอนนี้เซียวเฟิงหลุดออกจากอันดับที่ 5 ไปอยู่อันดับ 6 ที่ขึ้นมาแทนที่เขาไปเสียแล้ว!
สีหน้าของเซียวเฟิงดูไม่ดีสุด ๆ แล้ว เขาไม่คิดเลยว่าตนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้! ไม่คิดเลยว่าจะมาพ่ายแพ้ให้กับแผนการของพวกฮันกึล!
ในตอนที่เหลืออีก 5 วินาทีสุดท้ายก่อนที่อีเวนต์เซิร์ฟเวอร์จะเริ่ม สำหรับเซียวเฟิง มันเหลือเวลาพอที่จะประลองเพิ่มอีก 1 รอบ กระนั้นการที่ได้เพิ่มเพียง 1 คะแนนมันก็ไม่ได้ทำให้เขาขึ้นเป็นอันดับ 5 ได้อยู่ดี เพราะถ้าเขาจะกลับขึ้นไป เขาจำเป็นต้องใช้ 2 แต้ม!
สิ่งนี้ทำให้เซียวเฟิงรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวมาก ๆ ร่างกายของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความอาฆาตแค้น กระนั้นชายหนุ่มก็ยังกดหาคู่ต่อสู้ใหม่อยู่ดี ด้วยวินาทีสุดท้าย และด้วยตัวละครของเขา
เขาจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด!
เพียงชั่วพริบตาที่แสงสว่างมอดดับลงอันเป็นสัญญาณว่าคู่ต่อสู้ได้เทเลพอร์ตลงมายังสนามประลองเรียบร้อยแล้ว เซียวเฟิงก็หรี่ตามองก่อนจะแสยะยิ้มออกมา
นั่นเพราะคู่ต่อสู้ของเขาในครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคืออันดับที่ 5 ที่เพิ่งจะเขยิบขึ้นมาเมื่อครู่นี้นั่นแหละ ผู้ที่ซึ่งมีคะแนนนำเซียวเฟิงอยู่ 1 คะแนน! เพราะเซียวเฟิงจับตามองเขาอยู่ตลอด จะไม่ให้รู้ได้ไงว่าชื่อตัวละครของอันดับที่ 5 ชื่อว่าอะไร
พลันเมื่อฝั่งคู่ต่อสู้ชาวฮันกึลเห็นว่าศัตรูของตนคือเซียวเฟิง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เขารู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร ถ้าหากเซียวเฟิงเอาชนะเขาได้และได้รับ 1 แต้ม ตัวเขาก็จะเสีย 1 แต้มและทำให้แต้มของเขาน้อยกว่าเซียวเฟิงในทันที! เซียวเฟิงจะกลับขึ้นไปยังอันดับ 5 ได้อีกครั้ง!
เพราะงั้นแล้ว ทันทีที่สัญญาณเริ่มต้นการประลองดังขึ้น เขาจึงรีบถอยหลังเพื่อถ่วงเวลาไว้อีก 5 วินาที เขาหวังว่าอีเวนต์จะเริ่มก่อนที่การประลองนี้จะจบลง เท่านี้เขาก็จะสามารถรักษาอับดับของตนไว้ได้ ยังไงเสียเขาก็เป็นถึงยอดฝีมือของเขตฮันกึล! ทักษะการหนีของเขาย่อมต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว!
ทว่า เซียวเฟิงก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาแต่อย่างใด!
“เสี่ยวเสวีย! เคลื่อนวายุ!”
เสียงกำแพงเสียงที่ถูกทะลายดังตามหลังร่างของยูนิคอร์นสีขาวสะอาดที่พุ่งทะยานด้วยความเร็วเหนือเสียง ยามที่ปีกขนาดใหญ่ของเธอสยายเต็มอัดตราแล้ว ความเร็วของเธอก็เข้าสู่จุดสูงสุดด้วยเช่นกัน เพราะงั้นเพียงพริบตาเดียว เซียวเฟิงก็มาปรากฏตัวต่อหน้ายอดมฝีมือของเขตฮันกึลคนนี้แล้ว!
ขณะเดียวกันนั้นเอง แรงลมมหาศาลก็พัดหวนราวกับเกิดระเบิดขึ้นใกล้ ๆ ส่งผลให้ยอดฝีมือแห่งฮันกึลผู้นี้ติดสถานะมึนงง!
ค้อนแห่งการพิพากษา!
1,807!
[คู่ต่อสู้ของท่านถูกกำจัดแล้ว ผู้ชนะได้รับแต้มชัยชนะ + 1 แต้ม!]
ไม่มีการลังเล ค้อนแห่งการพิพากษาถูกหวดทุบลงไปยังร่างเบื้องหน้าเต็มแรงจนพื่นสั่นสะเทือน ยอดฝีมือเขตฮันกึลถูกฆ่าได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว! ซึ่งระหว่างเดียวกันนั้นเอง อีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ก็ได้เวลาเฟ้นหาผู้เข้าร่วมแล้ว!