ตอนที่ 228 สะสาง
ตอนที่หลูจื้อกำลังกลับไป ชุยหังก็ไม่ได้รั้งเขาไว้
แม้ว่าเขายังคงตัดใจไม่ได้เหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่เขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถรักษาผู้ชายคนนี้ไว้ได้อีกแล้ว
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็เปลี่ยนไป
อนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังไม่แน่ใจและไม่กล้าพูดอะไร
แน่นอนว่าในหน้าไทม์ไลน์โมเมนต์วีแชทของหลูจื้อ ผู้หญิงคนนั้นก็จะปรากฏตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะไปช็อปปิ้งหรือไปดูหนัง
แม้ว่าหลูจื้อจะไม่เคยปรากฏตัวอยู่ในเฟรมเดียวกันกับผู้หญิงคนนั้น แต่เหมือนว่าชุยหังยังคงกังวลมาก
เขาปิดการมองเห็นหน้าไทม์ไลน์วีแชทของหลูจื้อไปแล้ว เพราะว่าไม่ต้องการเห็นผู้หญิงคนนั้นเข้าใกล้หลูจื้อขึ้นอีกหนึ่งก้าว
เมื่อเขานอนไม่หลับในตอนกลางคืน เขาอดไม่ได้ที่จะแอบคลิกไปที่อัลบั้มรูปของหลูจื้อ เพื่อดูว่าเขาลบกิจกรรมตอนกลางวันทั้งหมดไปแล้วหรือยัง
หลูจื้อมีเวลาว่างไม่มาก แต่ส่วนใหญ่ก็ถูกผู้หญิงคนนั้นลากไป
ตามที่หลูจื้อเคยบอก ทุกครั้งที่หลูจื้อว่าง ผู้หญิงคนนั้นก็จะรู้ทั้งหมด จากนั้นก็ติดต่อกับครอบครัวของหลูจื้อก่อน เนื่องจากความกดดันของครอบครัวทำให้หลูจื้อต้องออกไปกับเธอ
ชุยหังรู้ว่าตัวเองพบกับคู่แข่งที่เป็นศัตรูหัวใจ แต่ตัวเองกลับไม่สามารถใช้กำลังได้
เขาไม่สามารถขอให้หลูจื้อหงายไผ่ว่าเป็นเกย์กับครอบครัว
เพราะว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีเงื่อนไขนี้ เรื่องอื่นเขาก็ไม่กลัวแต่กลัวว่ามันจะกระทบต่อหน้าที่การงานและครอบครัวของหลูจื้อ
ซ่งไข่ติดต่อชุยหังมาหลายครั้ง จากครั้งแรกที่เริ่มแนะนำจนภายหลังไม่มีอะไรให้พูดแล้ว ทำให้ชุยหังเข้าใจแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นน่าจะปักใจอยากอยู่กับหลูจื้อแล้ว
หลูจื้อสังเกตเห็นความผิดปกติของชุยหัง แต่ชุยหังไม่เคยยอมรับว่าเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น เพราะรูปถ่ายของพวกเขาหรือกังวลเรื่องอนาคตของพวกเขา
เขามักจะหาข้ออ้างบอกว่าสาขาที่พวกเรียนนั้นค่อนข้างยาก เช่น ระบบกำหนดตำแหน่งโรแลนด์ซี เรดาร์อิเล็กทรอนิกส์ APA และยังมีแบบงานที่เขาตามไม่ทันอีก
ชุยหังพบว่าเวลาที่เขาโกหกหลูจื้อสามารถทำได้อย่างง่ายดาย
เพื่อให้เขาแสดงละครกับผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าครอบครัวได้อย่างสบายใจ เขาจะสามารถยับยั้งช่องว่างขนาดใหญ่ในใจของเขาได้ หลังจากนั้นจะทำให้หลูจื้อคิดว่าตัวเองแค่มีปัญหาเรื่องการเรียน
ซย่าอวี้ชิวก็ยุ่งเช่นกัน เขาไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มักจะหาเวลามาหาชุยหัง เพราะสาขาซ่อมเรือของเขาก็ต้องใช้ความรู้และปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ
ตลอดทั้งเดือนเขาไม่ได้พบกับหลูจื้อเลย
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ได้ถือว่าเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว แต่วันหยุดของหลูจื้อก็มันถูกผู้หญิงคนนั้นยึดเวลาไป
ชุยหังไม่ได้เกลียดผู้หญิงคนนั้นและไม่ได้เกลียดครอบครัวของหลูจื้อ เพราะเขาไม่สามารถเกลียดใครได้
ความสัมพันธ์ในตอนนี้ เขาทำได้เพียงโทษโชคชะตา
ในที่สุดก็เป็นอีกหนึ่งคืนที่เขานอนไม่หลับ ชุยหังน้ำตาไหลเมื่อดูในโมเมนต์หน้าไทม์ไลน์ของหลูจื้อ ผู้หญิงคนนั้นไปกินอาหารเห็นเย็นที่บ้านของหลูจื้ออีกแล้ว
เขาเกือบจะมือสั่น จากนั้นก็ลบวีแชทของหลูจื้อทิ้งไป
ขณะที่เขากดปุ่มยืนยัน เหมือนกับว่าเขาใช้แรงทั้งหมดที่มีไปหมดแล้ว
จากนั้นเขาก็ขบกรามเหมือนคนกำลังจะตายและบล็อกเบอร์ของหลูจื้อไป
เขาทำแบบนี้เพื่อให้ตัวเองมีความสุข แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเกลี้ยกล่อมให้หลูจื้อทำเพื่อครอบครัว แต่เขาไม่มีทางเผชิญหน้ากับงานแต่งงานของหลูจื้อกับและผู้หญิงคนนั้นได้แน่นอน
‘ถ้าหากมีวันนั้นจริงๆ เขาต้องเป็นบ้าแน่นอน’
ดังนั้นก่อนที่วันนั้นจะมาถึง เขาจึงตัดการการติดต่อกับหลูจื้อ เพื่อให้เขาไม่สามารถบอกข่าวงานแต่งให้ตัวเองรับรู้
หัวใจของเขานั้นเจ็บปวดจนน่าตกใจ หลังจากนั้นจะรู้สึกชาไปเองเมื่อไม่ได้รับการฟื้นฟูเป็นเวลานาน
ชุยหังเปิดดูรูปถ่ายของตัวเองกับหลูจื้อ จากนั้นก็พูดอย่างสะอื้นเสียงเบา “ลาก่อน…หลูจื้อ”
ตอนที่ 229 อดทน
‘คิดถึงอยู่ลำพัง เดินอยู่ลำพัง ร้องไห้เพียงลำพัง เจ็บปวดเพียงลำพัง…
…คนที่คิดถึงที่สุด คนที่ฉันรักมากที่สุด แต่เธอกลับไม่ใช่ผู้หญิงของฉัน’
ชุยหังครุ่นคิดอยู่สักพักว่าข้อผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างตัวเองกับหลูจื้อน่าจะเป็นเพราะตัวเองไม่ใช่ผู้หญิง จึงไม่สามารถสร้างครอบครัวที่แข็งแรงและเป็นปกติกับเขาได้ในในสายตาของคนทั่วไปและครอบครัวเขา
‘ฝั่งซ้ายของหัวใจตื่นตระหนกด้วยความเจ็บปวด เพราะว่าฉันคุ้นเคยที่เธอยืนอยู่ด้านขวาของฉัน’
หลังจากที่ลบข้อมูลการติดต่อของหลูจื้อไปแล้ว ชุยหังเหลือเพียงความทรงจำระหว่างเขาทั้งสองคน
‘หนึ่งสายลม สองดวงจันทร์ สองสามถ้อยคำ ไม่มีใครเลยทั้งสี่ทิศ’
เดินผ่านประตูสามซึ่งครั้งหนึ่งหลูจื้อเคยมาหาเขาตอนกลางคืนหลังจากที่กลับมาจากต่างจังหวัด และเดินผ่านสนามกีฬาที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเหมือนกับว่าความทรงจำระหว่างตัวเองกับหลูจื้อยังคงชัดเจนอยู่เสมอ
‘เดินอีกครั้งหัวใจก็ยังเหมือนเดิม’
เขากำลังปรับตัวให้อยู่ความเจ็บปวดนี้และทำให้ตัวเองชินชา
มีเพียงความชินชาเท่านั้นที่สามารถทำให้ตัวเองปล่อยวางทุกสิ่งได้ชั่วคราว
เขาไม่เห็นการเคลื่อนไหวอะไรของหลูจื้อเลย อาจเป็นเพราะไม่ได้สังเกตว่าตัวเองลบรายชื่อของเขาไปแล้ว
หรือถ้าเห็นก็แค่ปล่อยไป
สุดท้ายการรักษาความสัมพันธ์แบบนี้เป็นเรื่องยากเหลือเกิน
ชุยหังไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นนักบุญ แต่เมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นอยากจะเข้าไปอยู่ในชีวิตของหลูจื้อ อีกทั้งครอบครอบของหลูจื้อก็เต็มใจยอมรับเธอ แล้วตัวเขาเป็นใครล่ะ
ถ้าหากตัวเองยืดหยัดต่อไป คนที่ต้องเจ็บปวดก็คือคนบริสุทธิ์เหล่านั้น
ดังนั้นทิ้งความเจ็บปวดนี้ไว้กลับตัวเองดีกว่า
เขาไม่ได้รับสายของซย่าอวี้ชิวเลย บอกเพียงว่าตัวเองกำลังซ้อมอยู่ในทีมเต้นจึงไม่มีเวลาออกไปข้างนอก เพราะว่าต้องเตรียมางานเลี้ยงหลังเปิดเรียน
‘งานเลี้ยงปีการศึกษาใหม่มีที่ไหนกันล่ะ เป็นแค่เรื่องโกหก’
เขาแค่ไม่ต้องการให้ใครเห็นความอ่อนแอของตัวเองในเวลานี้
เขารู้ดีว่าตัวเองคงรับไม่ได้ ถ้าได้เห็นคนใกล้ชิดหรือคนเข้าใจตัวเอง เขาจะต้องระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจออกมาแน่นอน
อย่างไรก็ตามน้ำตาช่วยล้างความเจ็บปวดได้เพียงแค่ภายนอกเท่านั้น
ความเจ็บปวดภายในใจที่แท้จริงไม่สามารถแสดงออกไปได้
ตลอดทั้งวันหลูจื้อไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรใดๆ
เมื่อถึงคืนต่อมาหลูจื้อถึงได้รู้ว่าชุยหังได้ลบรายชื่อการติดต่อของเขาไปแล้ว
เขาเพิ่มชุยหังเป็นเพื่อนในวีแชทอีกครั้ง
เขาถามชุยหังในข้อความรอการยืนยัน
[เกิดอะไรขึ้น ทำไมลบรายชื่อของฉัน]
[นายหมายความว่ายังไง ออกมาคุยกัน]
[นายอยากตายใช่ไหม ฉันเคยบอกนายว่าอะไร จำไม่ได้เหรอ]
[ชุยหัง นายอย่าทำเป็นไม่ตอบนะ ออกมาหาฉัน]
[นายจะเชื่อไหมว่าตอนนี้ฉันไปถึงมหา’ ลัยเพื่อเจอนายได้นะ]
จากการเริ่มต้นด้วยคำถามจนสุดท้ายกลายเป็นความโกรธรุนแรงขึ้นมา ทุกครั้งที่ชุยหังอ่านก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองแตกสลายอีกครั้งเหมือนมีมือใหญ่ๆ มาบิดบาดแผลของตัวเองตลอดเวลา
หลายต่อหลายครั้งที่เขาต้องการกดตอบรับเพื่อนจากหลูจื้อ แต่เขาได้บอกกับตัวเองชัดเจนแล้วว่าไม่ต้องการทำให้หลูจื้อเสียเวลาอีกแล้ว เขาควรกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้แล้ว
เมื่อต้องเห็นหน้าไทม์ไลน์โมเมนต์เหล่านั้นที่ผู้หญิงคนนั้นยังคงปรากฏตัวอยู่เสมอ นอกจากจะรู้สึกเสียใจ ทุกข์ใจและหึงหวง ชุยหังก็ยังรู้สึกโกรธอีกด้วย
การผสมผสานอารมณ์ที่หลากหลายทำให้เขาไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับหลูจื้ออย่างไร
ดังนั้นทุกครั้งที่ชุยหังจะปิดหน้าจอ เขาจะล็อกหน้าจอมือถือและเก็บไว้ในกระเป๋าอีก
จนถึงเที่ยงคืนหลูจื้อก็ยังคงส่งคำขอเป็นเพื่อนมาไม่หยุด อีกสักก็คงจะส่งมาอีก
เพื่อไม่ให้กระทบต่อการพักผ่อนของทุกคน ชุยหังจึงปิดมือถือ
‘บางทีชาตินี้เขากับหลูจื้อคงไม่มีวาสนาร่วมกันก็ได้’
ก่อนที่จะหลับไปเขาได้เตือนกับตัวเองว่าจะไม่คบผู้ชายแล้วเพราะมันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน