บทที่ 425 นักข่าว

บทที่ 425 นักข่าว

[กฎกติกาสำหรับแมตช์ที่ 2 หรือ แมตช์โปรโมชั่น มีดังนี้! ผู้เล่นทุกท่านที่เอาชนะแมตช์น็อกเอาต์มาได้ จะต้องทำการประลองอีก 20 รอบอย่างต่อเนื่อง จากนั้นผลแพ้ชนะจะเป็นตัวจัดอันดับให้ ผู้เล่น 108 อันดับแรก จะได้เข้าร่วมในแมตช์ไฟนอล!]

เสียงของระบบชี้แจงกฎของการแข่งขันทั้งสองรอบแรกเท่านั้น และด้วยเสียงที่ดังกังวานนี้ มันก็ทำให้เสียงโห่เชียร์ของเหล่าผู้ชมถูกกลบไปหมดด้วย

ครืนนนน!!

สิ้นเสียงประกาศจากระบบ สนามประลองที่เซียวเฟิงและผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ยืนอยู่ก็เริ่มแยกออกจากกันตามเส้นแบ่งเขตสนามที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก มันเคลื่อนห่างออกจากกันเรื่อย ๆ จนกระจายไปอยู่ทั่วทั้งเกาะชิงชัยในที่สุด

“โอ้ สวัสดี เหล่าผู้ชมที่รักและมิตรสหายที่เข้ามารับชม! ไม่ว่าท่านจะมาเพื่อรับชมพวกพ้องที่ได้เข้าร่วมอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์นี้ หรือมารับชมการแข่งขันของเหล่าผู้เข้าร่วมอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การถ่ายทอดสดของพวกเรา!”

ทว่า เซียวเฟิงไม่คาดคิดเลยว่าสิ่งแรกที่เขาจะได้พบหลังจากที่สนามประลองถูกแยกออกจากกันแล้วนั้นจะไม่ใช่การเริ่มการประลองในทันที หากแต่เป็นกลุ่มของผู้เล่นกลุ่มหนึ่งที่มีกล้องอยู่บนหัวของพวกเขากำลังกระจายไปทั่วสถานที่จัดอีเวนต์นี้ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ขึ้นมาบนสนามประลอง ผู้เล่นเหล่านี้แยกย้ายกันไปอยู่ตามแต่ละสนามประลองอย่างรวดเร็ว ยืนอยู่ตามช่องว่างระหว่างสนามประลองและเริ่มทำการถ่ายทอดสด! ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกาะชิงชัยแห่งนี้จึงไม่ได้มีแต่เพียงผู้อยู่ในเกาะเท่านั้นที่จะได้รับรู้!

สิ่งนี้ทำให้เซียวเฟิงประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าอีเวนต์การประลองเช่นนี้มีอะไรให้น่าสนใจนัก? ผู้เข้าแข่งขันก็มีกันไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น แต่กลับมีผู้ชมในเกาะมากถึงหลักสิบล้านคน ไหนจะมีนักข่าวมาคอยถ่ายทอดสดให้ดูในระยะประชิดเช่นนี้อีก

อันที่จริง สิ่งที่เซียวเฟิงยังไม่รู้ก็คือ นอกจากผู้เข้าแข่งขันที่ต้องชิงชัยกันเองเพื่อให้ได้เข้าร่วมอีเวนต์แล้ว ระบบยังปล่อยตั๋วสำหรับผู้เล่นทั่ว ๆ ไปในทุกเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้ามารับชมการต่อสู้แบบสด ๆ ข้างสนามได้ รวมไปถึงตั๋วทองสำหรับเหล่าสื่อทั้งหลาย ทำให้ในอีเวนต์นี้มีพิธีกรและผู้สื่อข่าวมากมายกระจายไปทั่วพื้นที่อีเวนต์แบบนี้

อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่านี่เป็นอีเวนต์ระดับเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นหากมีเพียงยอดฝีมือเฉกเช่นเซียวเฟิงหลายร้อยคนที่ได้เข้าร่วม มันคงจะไม่ยุติธรรมกับผู้เล่นอีกหลายพันล้านคนแน่ ๆ ดังนั้นแล้ว ระบบจึงได้ส่งตั๋วสำหรับคนธรรมดาออกไปด้วยในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ผู้เล่นอีกหลายล้านคนได้มีโอกาสเข้าร่วมอีเวนต์นี้อย่างน้อย ๆ ก็ในฐานะผู้ชมได้

“สวัสดีเหล่ามิตรสหายจากเขตฮัวเซียค่ะ! ฉัน ชิวเย่ว่านเฟิง! ตอนนี้ถ่ายทอดสดของอีเวนต์ประลองระดับเซิร์ฟเวอร์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว! อย่างที่ทุกท่านเห็น ระบบได้กล่าวถึงกฎกติกาของสองแมตช์แรกไปแล้ว! รวมถึงสนามประลองแต่ละแห่งก็แยกออกจากกันเรียบร้อยแล้วอีก! ดังนั้นแล้ว คาดว่าอีกไม่นานแมตช์แรกจะต้องเริ่มการประลองแล้วแน่ ๆ เลยค่า!”

“เหล่าผู้เข้าแข่งขันที่ได้เข้าร่วมในอีเวนต์ครั้งนี้ ล้วนแต่เป็นผู้เล่นระดับสุดยอดจากต่างเขตกันทั้งนั้น! จากการคำนวณคร่าว ๆ ของฉันแล้ว น่าจะมีมากถึงสี่ร้อยคนเลยทีเดียว! นับว่าหาได้ยากที่จะได้เห็นผู้เล่นระดับนี้มารวมตัวกันมากมายถึงเพียงนี้! ตอนนี้การประลองยังไม่เริ่ม ทางด้านเหล่ายอดฝีมือจากแต่ละเขตเองก็ประจำอยู่ในสนามประลองแต่ละแห่งแล้ว เพราะงั้นตอนนี้พวกเราได้แต่รอประกาศจากระบบต่อไป”

“โอ้! ทุกท่าน ดูนี่สิคะ! ที่ด้านหลังฉันคือทีมที่มาจากเขตฮัวเซียของพวกเราล่ะ! เป็นทีมที่มีสิบคนพอดี! แถมพวกเขาต่างก็เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในเขตของพวกเรากันหมดเลยด้วย! ทุกท่านเห็นไหมคะ? นั่น เทพเจ้าแห่งดาบซีเหมินชุยเสวีย! เจ้าแห่งนักรบ ไทแรนนี่! จักรพรรดินีแห่งการสังหาร ไนท์คูนเนอร์! ท่านพาลาดินแห่งการรักษาและนักธนูอายุ 17 เองก็อยู่ที่นี่ด้วย…พระเจ้า! นอกจากเหล่าเทพเจ้าที่กล่าวมาก่อนหน้าแล้ว ที่ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ อีเวนต์ครั้งนี้ มีผู้ที่มาจากกิลด์แอนติควิตี้มากถึงหกคนเลยค่ะ! เท่าที่ฉันได้ยินมา ว่ากันว่า กิลด์แอนติควิตี้เนี่ยเป็นกิลด์ที่รวบรวมเหล่ายอดฝีมือของเขตฮัวเซียไว้มากมายเลย หรือว่าพวกเขาคิดจะกลับมาทวงคืนชื่อเสียงของพวกเขากันนะ!”

ชิวเย่ว่านเฟิง เป็นผู้สื่อข่าวรายเล็กที่มีผู้ติดตามราว ๆ หลักหมื่นคนเท่านั้น ครั้งนี้เธอโชคดีที่ได้ตั๋วทองสำหรับอีเวนต์จนเข้ามาถึงที่นี่ได้ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยหากหญิงสาวคนนี้จะดีใจจนตื่นเต้นได้ขนาดนี้ โอกาสที่เธอรอมานานได้มาถึงมือแล้ว โอกาสที่จะได้เติบโตในวงการถ่ายทอดสดนี้! หากจะให้อธิบายความดีใจในตอนนี้ มันคงจะยากเกินกว่าจะอธิบายได้จริง ๆ

“ด้วยทีมที่รวบรวมยอดฝีมือระดับพระกาฬของเขตฮัวเซียเอาไว้จำนวนมากขนาดนี้ ฉันเชื่อเลยว่าเขตฮัวเซียของพวกเราจะต้องติดท็อป 3 ของอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งนี้แน่ ๆ ! มันน่าเสียดายที่ระบบยังไม่ประกาศว่าอะไรคือของรางวัลของอีเวนต์ในครั้งนี้ แต่มันต้องเป็นของล้ำค่าแน่ ๆ เลยค่ะ! เพราะเมื่ออีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งแรก ก็มีอาร์ติแฟกต์เป็นของรางวัล ดังนั้นในเมื่อเป็นอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งที่สอง ของรางวัลต้องไม่ด้อยไปกว่ากันแน่นอน!”

ได้ยินชิวเย่ว่านเฟิงวิเคราะห์ ผู้เล่นหลาย ๆ คนที่เคยได้มีส่วนร่วมกับอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งแรก ‘ล่าสมบัติ’ ต่างก็มุมปากกระตุกกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เซียวเฟิง

ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าของรางวัลในอีเวนต์จะเป็นอาร์ติแฟกต์ก็จริง แต่มันถูกรวมไว้อยู่ในตู้กาชาปองที่โอกาสสุ่มได้น้อยมาก ๆ! ในตอนนั้น ไม่แน่ใจว่ามีผู้เล่นกี่คนที่เข้าไปเสี่ยงดวงกับตู้กาชาปองนั้นด้วยรอยยิ้ม แต่ต้องจบลงด้วยรอยน้ำตา

หนึ่งในนั้นก็มีเซียวเฟิงที่หน้าดำคร่ำเครียดกับมันจนแทบสติแตกเข้าไปด้วย แม้ว่าในตอนสุดท้ายตัวเองจะได้อาร์ติแฟกต์มา แต่มันก็ยังทำให้ตัวเองดีใจไม่ได้อยู่ดี เพราะสิ่งนั้นเป็นอาร์ติแฟกต์ที่ได้รับความเสียหาย

ดังนั้นแล้ว เหล่ายอดฝีมือที่เคยซึมซับประสบการณ์จากในอดีต ต่างก็ไม่คาดหวังของรางวัลจากอีเวนต์กันแล้ว เผลอ ๆ ในความคิดของพวกเขาทุกคนเองต่างก็น่าจะหวังเพียงชื่อเสียงและแต้มเกียรติยศให้เขตของตนมากกว่าของรางวัลก็เป็นได้ เพราะอย่างน้อย ๆ ของพวกนี้ก็ดูจะมีค่ามากกว่า

“ฮ่า ๆๆ ฉันว่าเดี๋ยวยัยนักข่าวนั่นได้โดนถล่มยับแน่เลย กล้าพูดมาได้ยังไงว่าเขตฮัวเซียของเราอาจจะติดท็อป 3 ได้ นี่เจ้าหล่อนกำลังดูถูกยอดฝีมือของพวกเรางั้นเหรอ?”

“มันก็ไม่ดีจริง ๆ นั่นแหละที่พูดออกมาแบบนั้น! แต่ฉันคิดว่าเธอคนนั้นก็ไม่ได้พูดผิดซะทีเดียว ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อในความแข็งแกร่งของยอดฝีมือจากฮัวเซีย แต่ในอีเวนต์ขนาดใหญ่เช่นนี้ เรากำลังขาดกำลังสำคัญไปจริง ๆ นะ…บางทีผู้ชมที่มาจากเขตเดียวกันก็อาจจะรู้แล้วว่า พวกเราขาดบุคคลสำคัญของเขตฮัวเซียไป!”

“อ๊ะ จริงสิ! ฉันว่าผู้ชมหลาย ๆ คนก็น่าจะพอเดากันได้แล้ว! พวกเราไม่มี บุคคลอันดับ 1 ของเขตฮัวเซีย เจ้าแห่งฮีลเลอร์ อยู่ในอีเวนต์ครั้งนี้ด้วย!”

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์น่ะ ถือเป็นตำนานของเขตฮัวเซียมาโดยตลอด แถมยังเป็นที่น่าสะพรึงในเขตอื่น ๆ อีกด้วย อีเวนต์ล่าสมบัติครั้งนั้นก็ทำให้เขามีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย หากมีเขาอยู่ล่ะก็ ยอดฝีมือจากเขตอื่นคงไม่น่ากลัวเลย แต่เพราะตอนนี้เขาไม่อยู่ไง! เหตุผลที่ทำให้นักข่าวคนนั้นบอกไว้ว่าพวกเราอาจจะติดท็อป 3 อันดับได้ นั่นก็เพราะเขารู้แล้วว่า เจ้าแห่งฮีลเลอร์ ไม่ได้ลงแข่งในครั้งนี้ด้วย!”

“เรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ที่นักข่าวนั่นจะเชื่อในความแข็งแกร่งของเหล่าเทพเจ้าในฮัวเซียมากขนาดไหน แต่มันอยู่ที่คนที่เป็นนักข่าวไม่ควรแสดงความคิดเห็นของตนเองลงไปในการรายงาน ไม่งั้นแล้วมันจะกลายเป็นการชักศึกเข้าบ้าน สถานการณ์ตอนนี้น่ากังวลก็จริง แต่ไม่ต้องอธิบายก็ได้ ฉันเชื่อว่าผู้เล่นเขตฮัวเซียทุกคนต่างก็น่าจะเข้าใจถึงความไร้เทียมทานของเจ้าแห่งฮีลเลอร์กันดีอยู่แล้ว และถ้าหากเจ้าแห่งฮีลเลอร์หายไป พลังในการต่อสู้ของทีมยอดฝีมือจากฮัวเซียย่อมต้องลดลงแน่นอน ดีไม่ดีก็อาจจะหายไปมาถึง 50% เลย ดังนั้นมันก็เป็นไปตามที่นักข่าวคนนั้นพูดแหละ ว่าเขตฮัวเซียของพวกเรายากที่จะรับประกันว่าจะได้อันดับ 1 ในอีเวนต์มาครอง เพราะตัวเจ้าแห่งฮีลเลอร์ก็ไม่ได้ออนไลน์มาร่วมเดือนแล้ว”

“ยังไงก็เถอะ ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์กลับมาในโลกของเกมแล้วเหรอ? ที่ไปโผล่อยู่ในเขตฮันกึล ฉันว่านักข่าวพวกนี้เองก็น่าจะแอบคาดหวังว่าจะได้เจอเขาในอีเวนต์นี้นั่นแหละ พวกเขาคงคิดว่ายังไง ๆ เจ้าแห่งฮีลเลอร์ก็น่าจะสามารถเข้าร่วมอีเวนต์ได้ เพราะคนอย่างเขา ต่อให้ไม่ได้เข้าเกมมาหลักเดือน เขาก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ของเขตฮัวเซียดังเดิม ดังนั้นเรื่องความแข็งแกร่งของเจ้าแห่งฮีลเลอร์น่ะ ไม่ต้องพูดถึงเลย”

“ตอนนี้ก็น่าจะชัดเจนแล้วมั้ง ไม่มีเจ้าแห่งฮีลเลอร์อยู่ในทีมของเขตฮัวเซีย ฉันว่าทั้งนักข่าวทั้งคนดูตอนนี้ก็น่าจะผิดหวังตาม ๆ กันไปนั่นแหละ พวกเราล้วนแต่คาดหวังกันไว้หนักหนา แต่สุดท้ายก็ผิดหวัง ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ยังไงก็ต้องยอมรับความผิดหวังนี้กันให้ได้แหละ”

ชิวเย่ว่านเฟิงถอนหายใจ แต่เมื่อเห็นว่านักธนูอายุ 17 รีบเดินตรงมาทางเธอและหยุดอยู่ที่ขอบสนามที่ซึ่งใกล้กับเธอมาก ๆ พร้อมกับโบกมือเรียกให้เข้าไปหา เจ้าตัวก็เกิดความสงสัยและเดินเข้าไปถาม

“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ ท่านนักธนูอายุ 17?”

ด้วยความตื่นเต้น ชิวเย่ว่านเฟิงรีบถามกลับไป เพราะนี่ถือเป็นโอกาสที่เธอจะได้เข้าใกล้กับคนดังระดับเขต ซึ่งถ้านักธนูอายุ 17 ที่ถือเป็นยอดฝีมือคนนี้โต้ตอบกับเธอ มันจะทำให้การถ่ายทอดสดของเธอมีโอกาสที่จะเพิ่มยอดคนดูได้เป็นอย่างมาก

“เลิกถ่ายพวกฉันซะ คนที่เธอตามหาอยู่ข้างหลังนู่น รีบไป แล้วไม่ต้องมารบกวนพวกฉัน”

ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าการที่นักธนูอายุ 17 เรียกนักข่าวผู้นี้ไปคุยนั้น มันดันเกิดขึ้นเพราะความหงุดหงิดของเขาเสียได้ ขณะที่เขากำลังพูดกับชิวเย่ว่านเฟิงอยู่นั้นเอง ตัวเขาก็ชี้ไปยังสนามประลองที่อยู่ด้านหลังอีกฝ่าย ซึ่งเป็นสนามประลองที่เซียวเฟิงยืนอยู่ไปด้วย

“ข้างหลังมีอะไรเหรอคะ…” ชิวเย่ว่านเฟิงตกใจหลังได้ยินเช่นนั้น เธอไม่เข้าใจในตอนแรกว่านักธนูอายุ 17 ต้องการจะสื่ออะไร แต่ครั้นเมื่ออยากจะถามอีกครั้ง นักธนูอายุ 17 ก็กลับไปยังจุดเดิมที่เดินจากมาเรียบร้อยแล้ว

หญิงสาวทำได้เพียงหันกล้องไปยังสนามประลองที่อยู่ด้านหลังแล้วสังเกตการณ์ “ดูเหมือนทางนั้นจะเป็นทีมจากเขตฮันกึลสินะคะ? ท่านนักธนูอายุ 17 ต้องการจะสื่ออะไรกันนะ ถึงให้ฉันหันไปดู…เดี๋ยวสิ! นั่น!”

หลังจากที่ได้สังเกตทางสนามประลองดังกล่าว เธอก็ได้พบกับเซียวเฟิงจริง ๆ ใบหน้าสวยแสดงความตกใจอย่างมากออกมา

“นั่น เจ้าแห่งฮีลเลอร์! โอ้ พระเจ้า! ดูนั่นสิคะพี่น้อง! ดูว่าฉันเห็นใคร! นั่นเจ้าแห่งฮีลเลอร์จริง ๆ ด้วย! ใช่เขาจริง ๆ! แม้ว่าเขาจะซ่อนชื่อตัวละครไว้และใส่ชุดปกปิดร่างกาย แต่ฉันไม่มีทางจำคนผิดแน่ ๆ! เจ้าแห่งฮีลเลอร์คนนั้นเป็นไอดอลของฉันมาตลอด เพราะงั้นฉันน่ะรู้จักเขาเป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ! แต่ทำไมเจ้าแห่งฮีลเลอร์ถึงไปอยู่ในทีมของเขตฮันกึลกันล่ะ? หรือว่านี่เป็นผลมาจากการที่เขาอยู่ในเขตฮันกึลตอนนี้กันนะ?”

ความตื่นเต้นขับเคลื่อนให้ผู้ประกาศข่าวสาวรีบวิ่งเข้าไปใกล้ยังสนามประลองที่เซียวเฟิงอยู่อย่างรวดเร็ว ทว่ายิ่งเข้าไปใกล้ เธอก็ต้องส่ายหน้าแรง ๆ อีกครั้งด้วยความสับสน หญิงสาวตัดสินใจตะโกนออกไป

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์คะ! ท่านเจ้าแห่งฮีลเลอร์! ฉันชิวเย่ว่านเฟิง นักข่าวจากเขตฮัวเซียค่ะ! ฉันขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหมคะ?”

“ถึงฉันจะไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่ก็น่าเสียดายที่ดูเหมือนเธอจะไม่มีเวลาแล้วล่ะนะ เพราะการแข่งขันแมตช์น็อกเอาต์กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว” เซียวเฟิงส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับพูดตอบ และในขณะที่เสียงของเซียวเฟิงจบลง เสียงประกาศจากระบบก็ดังขึ้นทั่วบริเวณทันที

[แมตช์น็อกเอาต์ แห่งอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งที่ 2 การประลอง ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว! ผู้เข้าแข่งขันทุกท่านโปรดเตรียมพร้อม! การสุ่มคู่ต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น! หากท่านสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของพวกท่านได้ ท่านจะได้เข้าสู่แมตช์โปรโมชั่นต่อ! แต่ถ้าหากท่านพ่ายแพ้ต่อคู่ต่อสู้ ท่านจะสูญเสียสิทธิ์ในการร่วมอีเวนต์ในครั้งนี้ไป!]

สิ้นเสียงประกาศจากระบบ ที่สนามประลองแต่ละแห่งก็เกิดแสงสว่างสีขาวปรากฏขึ้นมา ผู้เล่นทุกคนที่เป็นผู้เข้าแข่งขันในอีเวนต์กำลังถูกสุ่มเทเลพอร์ตไปยังคู่ต่อสู้แต่ละคน และกว่าชิวเย่ว่านเฟิงจะรู้ตัวอีกที สนามประลองตรงหน้าเธอนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ร่างของเซียวเฟิงถูกแทนที่ด้วยผู้เล่นคนอื่นที่เทเลพอร์ตมาเจอกันยังสนามประลองแห่งนี้ ซึ่งนี่หมายความว่าเซียวเฟิงถูกเทเลพอร์ตไปยังสนามประลองอื่นแล้ว! นักข่าวสาวรีบหันมองไปยังสนามประลองรอบ ๆ ตัว เธอรู้ดีว่าการจะทำให้ถ่ายทอดสดของเธอมีผู้ชมมากขึ้นในระดับสูง เธอจำเป็นต้องเลือกสนามประลองให้ถูก!

และสนามประลองที่ถูกต้องนั้น คือสนามประลองที่มีเจ้าแห่งฮีลเลอร์อยู่!