บทที่ 427 ข่าวใหญ่
บทที่ 427 ข่าวใหญ่
ชิวเย่ว่านเฟิงตอบสนองอย่างว่องไว เธอรีบเปิดจอถ่ายทอดสดของตนขึ้นมาดู และพบว่าคนดูของเธอนั้นยังคงพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นึ้อยู่ ซึ่งบางส่วนก็เริ่มจะสบถถ้อยคำด่าทอออกมาผ่านถ่ายทอดสดแล้ว เพราะท่ามกลางผู้ชมของเธอ หลาย ๆ คนเป็นผู้ติดตามของพาลาดินแห่งการรักษาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งพาลาดิน แน่นอนว่าผู้ติดตามเหล่านี้ ยามที่ได้เห็นเจ้าแห่งฮีลเลอร์กำจัดพาลาดินแห่งการรักษาลงอย่างง่ายดาย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะด่าทออีกฝ่ายออกมา
ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นเอง จำนวนผู้ติดตามของเจ้าแห่งฮีลเลอร์กลับพุ่งสวนทางกับกระแสต่อต้านนั้นอย่างมากมายเลยทีเดียว มันทำให้บรรยากาศในการถ่ายทอดสดของชิวเย่ว่านเฟิงยิ่งคึกคักเข้าไปใหญ่ คึกคักเสียจนเจ้าตัวเองก็ยังรู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วย
ในฐานะที่เป็นนักข่าว เธอย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่า ถ้าในการถ่ายทอดสดนั้นเกิดการถกเถียงกันของผู้ชมขึ้นมา ความนิยมจะยิ่งเพิ่มขึ้น แต่เพราะศีลธรรมมันยังค้ำคอเธออยู่ การที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นี้ต่อไป มันจะทวีคูณและกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้น และท้ายสุดมันจะสะเทือนไปทั่วเขตฮัวเซีย หากหนักหนามาก ๆ ก็จะทำให้พวกเขาแตกแยกกันเอง!
การที่ต้นเหตุของความแตกแยกนี้เกิดจากการถ่ายทอดสดของเธอ หากเธอทำตัวไม่สนใจและปล่อยมันเป็นอย่างนี้ต่อไปเพื่อความโด่งดังแล้วล่ะก็ ปัญหานี้จะไม่มีทางลดลง หนำซ้ำมันจะใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ และที่บั้นปลายของปัญหา เธอจะไม่สามารถหลบหนีการรับผิดชอบได้ แล้วยิ่งปัญหาครั้งนี้มีผู้ที่เป็นอันดับ 1 ของเขตฮัวเซียอย่างเจ้าแห่งฮีลเลอร์มาเกี่ยวข้องด้วยมันก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อเธอมากขึ้นไปอีก เพราะยังไงเสียเขาก็ยังเป็นผู้ที่อยู่เหนือยอดฝีมือทุกคนในเขตฮัวเซียอยู่ดี ตำนานของผู้ที่สามารถยืนหยัดได้ท่ามกลางกองทัพนับหมื่นแสนนั้นเป็นเรื่องจริง ถ้าหากเธอกลายเป็นศัตรูกับเขาล่ะก็ แม้ตอนนี้เจ้าตัวจะไม่ได้อยู่ในเขตฮัวเซีย แต่ในอนาคตเขาจะต้องกลับมาได้แน่ ๆ และถ้าเป็นเช่นนั้น เธอไม่มีทางหนีเขาพ้นได้อย่างแน่นอน
“ห๊ะ! ฉันไม่คิดเลยค่ะ ว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์ที่หายตัวไปเป็นเวลานานยังสามารถคงฉายา ผู้ไร้เทียมทาน เช่นนี้ไว้ได้! แม้ว่าแมตช์น็อกเอาต์นี้จะจบลงในเวลาอันสั้น แต่ถึงอย่างงั้นความตื่นเต้นก็ยังไม่จบลงหรอกนะคะ! เพราะว่าฉันน่ะ ยังมีความลับที่ยิ่งใหญ่พอจะสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเขตฮัวเซียเลยล่ะ! จนกว่าเราจะหาผู้เหมาะสมแก่การถ่ายทอดสดคู่ที่สองได้ ขอให้ผู้ชมทุกท่านคอยติดตามฉันไว้อย่าให้คลาดสายตาเชียวนะคะ! เพราะรอบนี้น่ะ ฉันจะไปถ่ายทอดสดที่สนามของจักรพรรดินักฆ่า ท่านไนท์คูนเนอร์ล่ะ!”
นักข่าวสาวรีบเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาภายในการถ่ายทอดสดของตนอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบหันกล้องเบนหนีจากเซียวเฟิงไปตามหาสนามประลองของซือเยี่ยจิ๋งแทน ในขณะเดียวกันนั้นเอง เธอก็ไม่ลืมที่จะพูดปลุกความสนใจของเหล่าผู้ชมไปด้วย
“สิ่งนี้จะต้องกลายเป็นข่าวใหญ่ที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเขตฮัวเซียแน่นอน ถ้าหากการไลฟ์สดวันนี้ไม่ปังล่ะก็ ฉันคงไม่พูดเรื่องนี้แน่ ๆ! นั่นเพราะมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยส่วนตัวของฉันเองด้วยล่ะค่ะ!”
มันได้ผล ด้วยคำพูดและท่าทีที่ดูมีความลับจริง ๆ ของชิวเย่ว่านเฟิงนั้น มันทำให้ผู้ชมที่แบ่งกันเป็นสองฝ่ายหันกลับมาเป็นปึกแผ่นเดียวกันอีกครั้งอย่างง่ายดาย!
“เรื่องบ้าอะไรที่นักข่าวนั่นจะเปิดเผยวะ? อย่ามายืดเยื้อสิวะ รีบ ๆ พูดมาเลย!”
“ใช่ ๆ! กล้าดียังไงมาทำให้ฉันสงสัยฮะ! ถ้าเกิดเรื่องที่เธอทำให้ดูเป็นความลับนักหนานั่นไม่น่าสนใจเหมือนที่เธอพูดล่ะก็ ระวังไว้ให้ดี ฉันจะตามฆ่าเธอจนเธอกลับไปเกิดใหม่ที่หมู่บ้านเริ่มต้นแน่!”
“รีบ ๆ พูดออกมาได้แล้ว! จะอมความลับไว้ทำไมนักหนาเนี่ย!”
“อย่าบอกนะว่าความลับของเธอที่ว่าจะเกี่ยวข้องกับท่านไนท์คูนเนอร์น่ะ? ทำไมเธอถึงพูดตอนจะเริ่มถ่ายทอดสดท่านไนท์คูนเนอร์กัน?”
ทุกคนที่รับชมการถ่ายทอดสดนี้เบี่ยงเบนความสนใจกันไปหมดแล้ว พวกเขาดูรีบร้อนและกระวนกระวายในขณะที่ชิวเย่ว่านเฟิงยังคงทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น
“อย่าได้กังวลเลยค่ะ! ตอนนี้เราค่อย ๆ จับตาดูการต่อสู้ของท่านไนท์คูนเนอร์กับคู่ต่อสู้กันไปก่อนดีกว่า เห็นไหมคะว่าการเคลื่อนไหวของเขานั้นช่างพริ้วไหวและคล่องแคล่ว เต็มไปด้วยความสง่างาม ซึ่งในตอนนี้เองท่านไนท์คูนเนอร์ก็ได้เปรียบอีกฝ่ายแล้ว อีกไม่นานเขาจะต้องพิชิตศึกนี้ได้อย่างแน่นอนเลยค่ะ! ท่านผู้ชมรู้อะไรไหมคะ? ในขณะที่คู่ต่อสู้กำลังพยายามสู้อย่างเต็มที่ แต่ท่านไนท์คูนเนอร์ยังไม่ได้ใช้สกิลของชุดอาร์ติแฟกต์ที่สวมอยู่แม้แต่สกิลเดียวเลยล่ะค่ะ! เท่านี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเขาแข็งแกร่งสมกับเป็นหนึ่งในยอดฝีมือแห่งเขตฮัวเซียจริง ๆ!”
ชิวเย่ว่านเฟิงกระแอมไอเพื่อให้คอโล่งก่อนจะพูดด้วยเสียงที่เบาและดูลึกลับ
“ความลับที่จะสั่นสะเทือนฮัวเซียนั้น ฉันบอกไว้ก่อนเลยก็ได้ว่าเกี่ยวข้องกับท่านไนท์คูนเนอร์อย่างแน่นอน แต่เพราะความลับนั้นถ้าหากมันถูกเปิดเผยแล้วล่ะก็ ชีวิตของฉันเองก็จะตกอยู่ในอันตรายไปด้วย เพราะงั้นแล้วถ้าหากฉันเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป แล้วภายในหนึ่งเดือนต่อจากนั้นถ้าฉันหายตัวไปด้วยอุบัติเหตุหรืออะไรก็ตาม ไม่สิ เอาเป็นว่า…ถ้าฉันไม่ได้กลับมาไลฟ์สดภายในครึ่งเดือน ทุกคนได้โปรดอย่าปล่อยให้เรื่องนี้เงียบด้วยนะคะ! ช่วยติดตามหาตัวฉันให้เจอกันด้วยนะคะ!”
“โอ้ย! เร็วดิโว้ย! พวกเราอยากรู้จะตายอยู่แล้วเนี่ย!”
“ไม่ต้องห่วง! พวกเราผู้ชมไลฟ์นี้จะคอยปกป้องเธอเอง! อย่าได้กลัวว่าการเปิดเผยความจริงจะทำให้ตัวเองต้องตกที่นั่งลำบากเลย!”
“เดี๋ยวก่อนนะ! หรือว่ามันจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบชู้สาวระหว่างไนท์คูนเนอร์กับโรสที่เป็นเทพธิดาอันดับ 1 แห่งฮัวเซียกัน?”
“เห้ย จริงดิ!? ถ้าเป็นงั้นก็เรื่องใหญ่เลยนะ ฉันได้ยินเรื่องนี้มาพักใหญ่ ๆ แล้ว ที่ว่าความสัมพันธ์ลับ ๆ ระหว่างท่านไนท์คูนเนอร์กับหัวหน้ากิลด์มิดซัมเมอร์นั่น สรุปแล้วเป็นยังไงกันแน่?”
“เดี๋ยว ๆๆ ไม่ใช่ว่าเธอคนนั้นกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์มีซัมติงกันอยู่เหรอ? และเพราะเบื้องลึกเบื้องหลังนั่น เจ้าแห่งฮีลเลอร์ถึงได้ยอมช่วยพัฒนากิลด์มิดซัมเมอร์จนยิ่งใหญ่ขนาดนี้!”
“นั่นก็ใช่ ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าแห่งฮีลเลอร์ที่เป็นอันดับ 1 ในเขตฮัวเซีย มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้ากิลด์มิดซัมเมอร์จะพัฒนาได้อย่างราบรื่นขนาดนี้ และการช่วยเหลือนี้ ต้องไม่ใช่การช่วยเปล่าแน่ ๆ มันต้องเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหัวหน้ากิลด์มิดซัมเมอร์ที่เป็นเทพธิดาอันดับ 1 ในเขตฮัวเซียอย่างแน่นอน!”
“จะว่าไปฉันก็เคยได้ยินเรื่องนั้นนะ พวกคนใหญ่คนโตของกิลด์ฉันเองก็เคยบอกว่ากิลด์มิดซัมเมอร์กับเจ้าแห่งฮีลเลอร์นั้นมีความสัมพันธ์ต่อกันที่แย่มาก ๆ เมื่อตอนเริ่มเกม แต่หลังจากนั้น เพราะหัวหน้ากิลด์มิดซัมเมอร์เสียสละตัวเอง มันเลยไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ที่บาดหมางกันนั้นถูกแก้ไข แต่ยังทำให้เจ้าแห่งฮีลเลอร์หันมาช่วยสนับสนุนกิลด์ของเธออีกด้วย!”
“พระเจ้า! นั่นเทพธิดาอันดับ 1 ของเขตฮัวเซียเลยนะ! เจ้าแห่งฮีลเลอร์น่าอิจฉาเกินไปแล้ว!”
“พวกเราจะอิจฉาเขาก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะถ้าพวกเรามีพลังเหมือนที่เจ้าแห่งฮีลเลอร์มี พวกเราก็มีสิทธิ์แบบนี้เหมือนกัน”
“เดี๋ยว แล้วมันเกี่ยวอะไรกับท่านไนท์คูนเนอร์อะ?”
“โอ๊ะ ฉันเกือบลืมไปเลย ก็ก่อนหน้านี้เจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่ได้ออนไลน์เลยใช่ไหมล่ะ? ส่วนท่านไนท์คูนเนอร์ก็อยู่กับท่านหัวหน้าของมิดซัมเมอร์กิลด์มาตลอด ตั้งแต่ที่กิลด์เติบใหญ่ขึ้นจนถึงตอนนี้น่ะ เขาคนนั้นก็อยู่ข้างกายหัวหน้าคนสวยคนนั้นเสมอ แล้วนี่พอเจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่อยู่ โอกาสเลยตกเป็นของท่านไนท์คูนเนอร์ ไม่รู้ว่าด้วยวิธีไหน แต่เหมือนเขาจะสามารถทำให้ท่านหัวหน้ามิดซัมเมอร์ประทับใจในตัวเขาเองได้ หรือบางทีอาจจะเป็นการบังคับไม่ก็ล่อลวงอะไรก็ตาม ตอนนี้คนคนนั้นน่ะ ดูเหมือนจะกำลังคบหากับท่านหัวหน้ากิลด์มิดซัมเมอร์อยู่ล่ะ!”
“บ้าเอ้ย! แบบนี้เจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่มีทางให้อภัยท่านไนท์คูนเนอร์แน่ ๆ!”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอเนี่ย! ไม่นับตับฉัน อึ่ก! ไม่คิดเลยว่าอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ที่น่าตื่นเต้นนี้จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมรักสามเศร้าครั้งใหญ่ไปได้!?”
“เร็วเข้า! จากนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อ พูดต่อสิ!”
ในตอนนั้นเอง ไลฟ์ของชิวเย่ว่านเฟิงก็เต็มไปด้วยการพูดคุยกันในเรื่องที่ไม่เกี่ยวของกับความพ่ายแพ้ของพาลาดินแห่งการรักษาก่อนหน้า แถมพวกเขาเหล่านี้ยังดูจะถกเถียงกันด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่ตื่นเต้นกันยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
จริง ๆ เรื่องที่พวกเขานำมาพูดกันนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ถูกเหล่าผู้เล่นที่เบื่อกับการเก็บเลเวลแล้วหันไปสร้างเรื่องไว้บนฟอรั่มประจำเขตฮัวเซียเท่านั้น แน่นอนว่าผู้เล่นที่เบื่อกับการเก็บเลเวลย่อมไม่ได้มีคนเดียว ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีหลากหลายเวอร์ชั่น ซึ่งแต่ละเวอร์ชั่นต่างก็มีความเวอร์วังแตกต่างกันไปจนมันแทบจะไม่ต่างกับบทละครน้ำเน่าหลังข่าวแล้ว!
โชคยังดีที่เซียวเฟิงและผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ยังไม่ได้ยิน ไม่งั้นพวกเขาคงไม่รู้ว่าจะโกรธใครดีแน่ ๆ
“ถ้างั้นแบบนี้จะเป็นยังไงต่อ? ในเมื่อตอนนี้เจ้าแห่งฮีลเลอร์กลับมาแล้ว มีใครรู้อะไรต่อจากนี้หรือไง? ฉันรู้แค่ว่ายัยนักข่าวนั่นยังไม่ได้บอกความลับเรามาเลยนะ!”
“เออ จริงด้วย ฉันก็เกือบลืมไปแล้วถ้านายไม่พูด! นี่ยัยนักข่าว รีบ ๆ พูดออกมาซักทีสิว่าความลับที่ว่านั่นคืออะไร!”
ทันใดนั้น เหล่าผู้ชมในไลฟ์ก็เริ่มเร่งเร้าอีกครั้ง พวกเขาพยายามขอให้ชิวเย่ว่านเฟิงรีบคายความลับที่เธอบอกไว้ว่ามันจะสั่นสะเทือนทั่วทั้งฮัวเซียนั่นเร็ว ๆ
จริง ๆ ตอนนี้ชิวเย่ว่านเฟิงกำลังสะพรึงไปกับคอมเมนต์มากมายที่โถมเข้ามาในการถ่ายทอดสดอยู่ เกิดอะไรขึ้นกันนะ? เธอแทบจะเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกของบทละครจนกระทั่งหัวข้อการสนทนาของผู้ชมเริ่มกลายมาเป็นการเร่งเร้าให้เธอคายความลับออกมา เธอถึงได้สติกลับมาอีกครั้ง
“อะ…อะแฮ่ม! ฉันต้องบอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องที่พวกคุณคาดเดากันต่าง ๆ นานานั่นหรอกนะคะ! ไม่! ไม่ใกล้เคียงด้วย! เพราะความลับที่ฉันจะคายออกมานั้น มันอยู่เหนือสิ่งที่พวกคุณคาดเดาเอาไว้ทั้งหมดเลย! สิ่งนั้น…คือตัวตนของท่านไนท์คูนเนอร์ต่างหากล่ะคะ!”
ถึงอย่างนั้น ชิวเย่ว่านเฟิงก็ยังไม่ยอมคายความลับอะไรออกไป เธอรีบพูดต่อไม่รอให้ใครโต้แย้งขึ้นมา “ท่านไนท์คูนเนอร์ ผู้ที่เป็นอันดับ 1 ในอันดับพลังต่อสู้รวมไปถึงผู้ครอบครองฉายาจักรพรรดินักฆ่าคนนั้น แท้จริงแล้ว…เป็นผู้หญิงล่ะค่ะ!”
ขณะนี้ภายในถ่ายทอดสดของชิวเย่ว่านเฟิงมีผู้ชมมากถึงห้าแสนคนแล้ว ทว่าแม้จะมีผู้ชมเยอะขนาดนี้ แต่กลับไม่มีใครพิมพ์หรือถกเถียงอะไรกันเลย ทุกอย่างเงียบสงัดไปทันทีหลังจากได้ยินเจ้าของไลฟ์ป่าวประกาศความลับนั้นออกมา
เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากชิวเย่ว่านเฟิงปิดระบบคอมมเนต์ภายในถ่ายทอดสดแต่อย่างใด แม้ว่าตัวเธอจะมีสิทธิ์ในการทำเช่นนั้นกับถ่ายทอดสดของเธอก็จริง ทุกคนภายในนี้ต่างพากันเงียบไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ราวกับว่าพวกเขากำลังถูกครอบงำด้วยร่างของไนท์คูนเนอร์ที่ภายใต้เกราะเป็นหญิงสาวอยู่
“ฮะ…เฮ้ พิธีกร นี่ล้อกันเล่นหรือยังไงน่ะ?”
ในที่สุด หลังจากเงียบมากว่าสิบนาที ถ่ายทอดสดของชิวเย่ว่านเฟิงที่แทบจะกลายเป็นถ่ายทอดสดร้างคนก็เริ่มมีผู้คนกลับมาถกเถียงกันแล้ว พวกเขาพากันพูดขึ้นมาทีละคนสองคนโดยอิงจากสิ่งที่เธอพูดไว้ก่อนหน้า
“อะไรกันน่ะ…ท่านไนท์คูนเนอร์เป็นผู้หญิงงั้นเหรอ? นี่เธอไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงหรือยังไงน่ะ!?”
“ใช่! คิดเหรอว่าเรื่องพรรค์จะมาหลอกพวกเราได้! ยัยพิธีกรสวะเอ้ย!”
“กล้าดียังไงมาหมิ่นท่านไนท์คูนเนอร์แบบนี้ห๊ะ! อย่าให้เล่าสวีเจอเธอในฮัวเซียเชียว! เขาจะฆ่าจนกว่าเธอจะไปเกิดใหม่ในหมู่บ้านเริ่มต้นแน่!” คอมเมนต์มากมายปรากฏขึ้นในไลฟ์ แต่นั่นก็เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะมันเห็นได้ชัดว่ายังมีผู้ชมอีกหลายคนที่ยังคงอยู่ในอาการช็อก พวกเขากำลังไตร่ตรองเลยไม่ได้พูดอะไรออกมาขณะที่เหล่าผู้ที่สติเตลิดไปก่อนหน้ากำลังด่าทอนักข่าวสาว
“จุ๊ ๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนต่อว่าฉันสิคะ ถ้าเกิดคุณผู้ชมคิดว่าฉันโกหกล่ะก็ พวกคุณมีหลักฐานอะไรมายืนยันเรื่องที่ท่านไนท์คูนเนอร์เป็นผู้ชายหรือเปล่าล่ะ?” ชิวเย่ว่านเฟิงไม่ได้ร้อนไปกับคำขู่เหล่านั้น เธอถามกลับด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจมาก ๆ
“ท่านไนท์คูนเนอร์น่ะเป็นผู้ชายอยู่…เดี๋ยวนะ จะว่าไปรู้สึกว่าท่านไนท์คูนเนอร์ก็ไม่เคยเปิดเผยหน้าตาที่แท้จริงเลยหรือเปล่า?”
“อ่าฮะ ตามปกติแล้วเขาจะสวมชุดคลุมมืดสนิททั้งตัว แถมยังปกปิดเพศของตัวเองในหน้าข้อมูลด้วย เพราะงั้นเลยยังไม่มีใครรู้ว่าเพศที่แท้จริงของเขาคืออะไรกันแน่ แต่ทุกครั้งที่เจอเขาก็ทำตัวเหมือนผู้ชายนะ”
มิธนั้นแตกต่างกับเกมออนไลน์เกมอื่น ๆ เพราะตัวละครของผู้เล่นที่ปรากฏในโลกของเกมนี้ จะถูกสร้างขึ้นจากรูปลักษณ์ของผู้เล่นจริง ๆ ซึ่งไม่สามารถถูกปรับเปลี่ยนได้
ด้วยเหตุนี้ ทักษะการตรวจสอบจึงไม่สามารถตรวจหาเพศของผู้เล่นได้ มันคือเรื่องไม่จำเป็นเพราะเพียงแค่มองตัวละครก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นเพศอะไร และตัวผู้เล่นนั้น ๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเพศในเกมได้ด้วย ทักษะตรวจสอบจึงไม่มีฟังก์ชั่นนี้ติดตั้งเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีข้อยกเว้นอยู่
อย่างเช่น ตัวซือเยี่ยจิ๋งที่แต่เดิมมีรูปร่างผอมบางและไม่ได้มีหน้าอกใหญ่โตนัก การที่เธอมักจะสวมชุดคลุมทั้งตัวจนมิดสนิทอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นเพศอะไรกันแน่?