บทที่ 428 สนับสนุน

บทที่ 428 สนับสนุน

“ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรู้จริง ๆ สินะว่าสรุปแล้วท่านไนท์คูนเนอร์เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?”

“ถ้างั้น…แสดงว่าสิ่งที่นักข่าวคนนั้นพูดอาจจะเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ? มันเป็นไปได้เหรอที่ท่านไนท์คูนเนอร์เป็นผู้หญิงน่ะ?”

“ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่ก็อาจจะเป็นคุณป้าก็ได้!”

“ไร้สาระน่า! ท่านไนท์คูนเนอร์น่ะต้องเป็นหญิงสาวอยู่แล้วสิ!”

“บ้าเอ้ย เรื่องนี้มันร้อนแรงเกินไปแล้ว! เฮ้ พิธีกร งัดเอาหลักฐานของเธอออกมาเซ่! รีบ ๆ ยืนยันเลยว่าเธอพูดเรื่องจริงน่ะ!”

“หรือว่าเธอมีรูปของท่านไนท์คูนเนอร์? ถ้ามีก็รีบเอาออกมาโชว์เดี๋ยวนี้เลย! อยากรู้จริงว่าท่านไนท์คูนเนอร์จะสวยขนาดไหน?”

บรรยากาศภายในการถ่ายทอดสดเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ในขณะที่ผู้ชมครึ่งหนึ่งนั้นยังไม่เชื่อว่าไนท์คูนเนอร์เป็นผู้หญิง ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งก็ไม่ได้เชื่อว่าชิวเย่ว่านเฟิงพูดเรื่องจริงขนาดนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกร้องให้เธอแสดงหลักฐานออกมา

“อยากให้ฉันโชว์หลักฐานเหรอคะ? ถ้าเป็นหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรฉันอาจจะไม่มีให้ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันมั่นใจเรื่องนี้ล่ะก็ มันคือ การที่ฉันเผอิญไปได้ยินท่านไนท์คูนเนอร์พูดมาน่ะค่ะ! เสียงนั้นน่ะ ไม่เพียงแต่เป็นเสียงของผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังทั้งสาวและสวยมาก ๆ อีกด้วย!” ชิวเย่ว่านเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงช่วยไม่ได้

“ฉันเริ่มจะคิดจริง ๆ แล้วว่าท่านไนท์คูนเนอร์เป็นผู้หญิงจริง ๆ เพราะฉันเองก็ไม่เคยได้ยินเขาพูดเหมือนกัน ถ้านี่เป็นการจงใจจริง ๆ ล่ะก็ ฉันค่อนข้างมั่นใจเลยว่ามันคือการพยายามปกปิดน้ำเสียงอย่างแน่นอน”

“เธอเป็นผู้หญิงจริง ๆ เหรอ?”

“พระเจ้า! จักรพรรดินักฆ่าไนท์คูนเนอร์ที่เป็นอันดับ 1 ในอันดับพลังต่อสู้แห่งฮัวเซีย แท้จริงแล้วเป็นผู้หญิงงั้นเหรอ!? ให้ตายเถอะ ฉันตื่นเต้นไปหมดแล้ว! นี่มันทำลายหลักความเชื่อมั่นเนิ่นนานของฉันจนป่นปี้ไปหมดแล้วเนี่ย!”

“ฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเธอเลยละกัน”

“ฉันจะถวายดวงใจของฉันให้กับท่านไนท์คูนเนอร์!”

“พวกเราจะเล่นเกมนี้ต่อไปเพื่อท่านไนท์คูนเนอร์!”

แม้ว่าเหล่าผู้คนในการถ่ายทอดสดจะต่างพูดนู่นพูดนี่กันไม่หยุด แต่ทุกบทสนทนาต่างก็มุ่งกลับไปหาซือเยี่ยจิ๋งกันหมด

สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ชิวเย่ว่านเฟิงถอนหายใจอย่างโล่งอกได้ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกผิดกับไนท์คูนเนอร์แต่นี่ก็เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่อาจจะหนักหนากว่านี้ในอนาคตนั่นแหละ

[ประกาศจากอีเวนต์! แมตช์น็อกเอาต์ของอีเวนต์ชิงชัยทั่วเซิร์ฟเวอร์ได้จบลงแล้ว! มีผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบมาทั้งหมด 298 คน! แมตช์โปรโมชันจะเริ่มในอีกไม่ช้านี้ จะมีผู้เข้าแข่งขันเพียง 108 คนเท่านั้นที่จะได้เข้าสู่แมตช์ไฟนอล!]

เสียงของระบบดังขึ้น เป็นสัญญาณว่ารอบแรกของอีเวนต์ชิงชัยได้จบลงแล้ว ในตอนนี้แต่ละสนามประลองเหลือผู้เล่นเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นคือผู้ที่ถูกคัดออกจากการเข้าร่วมในรอบต่อไป

“โอเคค่ะ! อย่างที่ท่านผู้ชมได้เห็นกันแล้วว่า แมตช์แรกของอีเวนต์ชิงชัยได้จบลงแล้ว และอีกไม่นานก็จะเป็นแมตช์โปรโมชัน ยึดจากกฎที่ระบบได้กล่าวไว้ก่อนหน้า ผู้เข้าแข่งขันที่เข้าสู้แมตช์โปรโมชันได้ จะต้องประลองทั้งหมด 10 เกม ซึ่งคู่ต่อสู้จะถูกระบบสุ่มมาให้ ในแมตช์นี้ ทางระบบไม่ได้ระบุเป็นพิเศษด้วยว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาจะไม่ได้มาจากเขตเดียวกัน เพราะฉะนั้นแสดงว่ามีโอกาสที่พวกเขาจะได้เจอกับผู้เข้าแข่งขันที่มาจากเขตเดียวกันก็ได้ การวัดผลแพ้ชนะในแมตช์โปรโมชันนี้จะใช้ระบบแต้ม ซึ่งถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด มันเป็นระบบที่นับการชนะของแต่ละคน เช่น ถ้าฉันชนะ ฉันจะได้ 1 แต้ม มีเพียงผู้ที่สะสมแต้มได้เยอะที่สุดเป็น 108 อันดับแรกเท่านั้น ถึงจะได้เข้าสู่แมตช์ไฟนอลต่อไป ส่วนกฎของแมตช์ต่อไปนั้นยังไม่ถูกประกาศออกมา ถ้ายังไงขอให้ท่านผู้ชมทุกคนอยู่รับชมกันต่อไปเรื่อย ๆ นะคะ! ส่วนตอนนี้ฉันจะเริ่มเตรียมตัวถ่ายทอดสดแมตช์โปรโมชันแล้วล่ะค่ะ!”

ชิวเย่ว่านเฟิงยังคงถ่ายทอดสดอย่างต่อเนื่อง เธอตื่นเต้นและกระตือรือร้นที่ได้โอกาสในการเพิ่มความนิยมในช่องของตนเช่นนี้เป็นอย่างมาก

“เอาล่ะค่ะท่านผู้ชม! ตอนนี้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนที่ถูกส่งตัวไปยังสนามประลองแต่ละแห่งได้กลับมารวมตัวกันในสนามประลองเขตตนเองเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ! ดูท่าอีกไม่นานการแข่งขันแมตช์ต่อไปจะเริ่มแล้วจริง ๆ!”

[ประกาศจากอีเวนต์! แมตช์โปรโมชันของอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ ชิงชัย เริ่มการแข่งขัน ณ บัดนี้! ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือเพียงครึ่งหนึ่งจากแมตช์ที่แล้ว จะถูกสุ่มคู่ต่อสู้ให้ ภายในแมตช์โปรโมชันนี้ การตัดสินหาผู้เข้ารอบต่อไปจะใช้ระบบป้องกันแต้ม ผู้เล่นที่ชนะจะได้แต้มในเกมนั้น ๆ ไป ส่วนผู้ที่แพ้จะไม่ถูกตัดสิทธิ์ในทันที พวกท่านจะได้รับการจับคู่ใหม่อีกจนกว่าจะครบ 10 เกม ผู้เล่น 108 อันดับแรกจะได้ไปต่อในแมตช์ไฟนอล!]

เสียงของระบบดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันเป็นอย่างที่ชิวเย่ว่านเฟิงสรุปไว้จริง ๆ ระบบการหาผู้เข้ารอบเป็นแบบระบบนับแต้ม และเมื่อเสียงประกาศจบลง สนามประลองต่าง ๆ ก็เริ่มสั่นคลอนขึ้นมา บางสนามเองก็สั่นและจมหายไปภายในพื้นที่ของเกาะชิงชัยแห่งนี้

ขณะเดียวกันนั้นเอง ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือครึ่งหนึ่งก็ถูกเทเลพอร์ตไปตามสนามประลองต่าง ๆ พร้อมกับคู่ต่อสู้ของพวกเขาเอง

“หือ?”

สนามประลองที่เซียวเฟิงถูกเทเลพอร์ตมานั้น อยู่ในส่วนด้านใน เขายืนรอดูคู่ต่อสู้ที่จะถูกเทเลพอร์ตตามมาด้วยความใจเย็น ทว่าเมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ที่ถูกสุ่มมาเป็นใคร สีหน้าใจเย็นนั้นถึงกับเปลี่ยนเป็นงุนงงขึ้นมาทันที นั่นเพราะผู้ที่อยู่อีกฝั่งนั้น คือนักฆ่าที่สวมชุดคลุมโทนเข้ม รูปร่างของฝ่ายตรงข้ามผอมบางและที่เหนือหัวของคนคนนั้น มีชื่อ ‘ไนท์คูนเนอร์ จาก ‘ฮัวเซีย’ ปรากฏเด่นหราอยู่

เธอคือ ซือเยี่ยจิ๋ง!

เซียวเฟิงพูดอะไรไม่ออก เขาไม่คิดว่าวันนี้ค่าโชคที่สูงลิ่วของเขานั้นดันไม่ใช่ความโชคดี แต่เป็นความโชคร้ายเสียอย่างนั้น เมื่อเกมที่แล้วเขาก็เพิ่งประจันหน้ากับผู้เข้าแข่งขันที่มาจากเขตฮัวเซียไป เกมนี้เขาก็ต้องมาเจอผู้ที่มาจากเขตเดียวกันอีก แถมยังเป็นซือเยี่ยจิ๋งด้วย

“ไอ้เจ้าบ้านี่! ฮึ่ม!”

ซือเยี่ยจิ๋งเองเมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ของเธอคือเซียวเฟิง เธอเองก็ชะงักไปครู่หนึ่งเหมือนกัน แต่เมื่อได้สติแล้วเธอก็อดสบถใส่เขาไม่ได้ พร้อมกับแววตาที่แสดงให้เห็นว่าเธอคิดจะโค่นเขาให้ได้

“เธอต้องการอะไร?” เซียวเฟิงเหลือบมองหญิงสาวในชุดคลุมแล้วถาม

“แน่นอนว่า ฉันต้องการที่จะจัดการนายอยู่แล้ว! จงรู้เอาไว้ซะ ว่าตอนนี้น่ะ ฉันคืออันดับ 1 แห่งฮัวเซีย!”

หญิงสาวกัดฟันแน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ภายนอกสนามประลองไม่สามารถได้ยินได้

“โอ้? ไม่กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนเมื่อวานซืนหรือไง?” ได้ยินเช่นนั้นเซียวเฟิงก็เลิกคิ้วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเชิงกระแซะ

“นาย! ฮึ่ม ครั้งนี้นายตายแน่! ฉันมีชุดเกราะมังกรแล้ว! นายไม่มีทางรอดจากฉันไปได้เด็ดขาด!” ซือเยี่ยจิ๋งหน้าแดงขึ้นมาทันที แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครรู้เพราะเธอสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าไว้ด้วย เธอถากถางเซียวเฟิงกลับเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายนี้

“แฮ่ก…แฮ่ก… โอเคค่ะ หลังจากที่ผู้ชมส่วนใหญ่ร้องขอกันมา ในที่สุดฉันก็เดินมาถึงสนามประลองที่ท่านไนท์คูนเนอร์อยู่แล้ว…เอ๊ะ? เจ้าแห่งฮีลเลอร์? ทะ…ท่านไนท์คูนเนอร์ต้องเจอกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์ล่ะค่ะท่านผู้ชม! นะ…นี่มัน!?”

ชิวเย่ว่านเฟิงที่หาตัวซือเยี่ยจิ๋งได้ในตอนนั้น ก็รีบตัดเข้าการถ่ายทอดสดของตนทันที ทว่าเมื่อเธอเห็นเซียวเฟิงเป็นคู่ต่อสู้ มันก็ทำให้เธออ้ำอึ้งไปไม่น้อยเลยเหมือนกัน

“ให้ตายสิ! นี่มัน การประลองแห่งความรัก!”

“นายโง่หรือไงน่ะ ท่านไนท์คูนเนอร์เป็นผู้หญิง สองคนนี้จะมาประลองแห่งความรักกันได้ยังไง?”

“จะพูดว่าไม่ใช่ก็ไม่เชิง ยังไงซะเพศของท่านไนท์คูนเนอร์ก็ยังไม่เปิดเผยอยู่ดี หรือต่อให้ท่านไนท์คูนเนอร์เป็นผู้หญิงจริง ๆ ทำไมเธอคนนั้นจะไม่มีสิทธิ์สู้กับเจ้าแห่งฮีลเลอร์เพื่อให้ได้มาถึงเทพธิดาอันดับ 1 ของเขตฮัวเซียกันล่ะ? ด้วยความสามารถระดับยอดฝีมือ ฉันมั่นใจเลยว่าท่านไนท์คูนเนอร์ไม่ธรรมดาแน่ ๆ เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ คู่นี้จะต้องกลายเป็นคู่ที่ดุเดือดแน่ ๆ!”

“ใช่แล้ว! ฉันตื่นเต้นแล้วเนี่ย! ไม่ว่าจะยังไง การประลองรอบนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ชาวฮัวเซียต้องจับตามองกันเลยจริง ๆ!”

“พวกเราที่ได้มาอยู่ข้างสนามแบบนี้อดไม่ได้แล้วที่จะเชียร์ท่านไนท์คูนเนอร์!”

ผู้ชมในถ่ายทอดสดต่างพากันส่งเสียงเชียร์กันอย่างเมามัน ในขณะที่สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นกลับทำให้ชิวเย่ว่านเฟิงเหงื่อตกแทน

“สู้เขาท่านไนท์คูนเนอร์!”

“เอาเลยท่านไนท์คู สู้เค้า ผมรักคุณ!”

“เอาชนะเจ้าแห่งฮีลเลอร์ให้ได้! เธอคือยุคสมัยใหม่แห่งฮัวเซียแล้ว!”

ที่นั่งของผู้ชมภายในอีเวนต์นี้มีผู้เล่นหลักล้านคนนั่งอยู่ ดังนั้นเมื่อพวกเขาส่งเสียงเชียร์ออกมาพร้อม ๆ กัน มันก็ทำให้เกิดเสียงกังวานจากรอบสนามประลองดังกระหึ่มไปหมด

ซึ่งเสียงเชียร์เหล่านั้น กำลังกล่าวถึงซือเยี่ยจิ๋ง

“เห? เธอกลายมาเป็นดาวเด่นของเขตฮัวเซียตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?” ด้วยความที่หูของเซียวเฟิงนั้นดีกว่าคนทั่วไปเป็นทุนอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงพอได้ยินเสียงที่เล็ดลอดเข้ามาจากด้านนอกสนามประลองได้ อีเวนต์ในครั้งนี้มีผู้เล่นจากเขตฮัวเซียได้รับตั๋วเข้าชมมากกว่าครึ่ง มันจึงไม่ใช่เรื่องประหลาดใจเลยหากพวกเขาจะดูตื่นเต้นกับการต่อสู้ครั้งนี้เป็นพิเศษ แต่ที่น่าแปลก คือเสียงเชียร์เหล่านี้ กำลังตะโกนเชียร์ซือเยี่ยจิ๋งกันทั้งหมดเลยต่างหาก ไม่มีใครเลยที่เชียร์เซียวเฟิง

“เฮอะ! เพราะฉันเป็นความคาดหวังของพวกเขาไง รู้ซึ้งถึงความแตกต่างระหว่างฉันกับนายหรือยังล่ะ?” ซือเยี่ยจิ๋งดูจะภาคภูมิใจกับเสียงเชียร์เหล่านี้มาก ๆ แถมเธอกล่าวว่าเซียวเฟิงที่ทำตัวมีปัญหากับกองเชียร์ของเธอกลับไปด้วย

[ประกาศจากอีเวนต์! ผู้เข้าแข่งขันทุกท่านในแมตช์โปรโมชันถูกส่งตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ถึงเวลานับถอยหลังก่อนที่แมตช์จะเริ่ม 10, 9 ,8 ,7…3, 2, 1! การแข่งขันแมตช์โปรโมชันของอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ชิงชัย เริ่มต้น!]

การนับถอยหลังสิ้นสุดลง และทันใดนั้นการประลองทุกสนามก็เริ่มต้นขึ้นในเวลาเดียวกัน!

เซียวเฟิงเองก็เช่นกัน ซือเยี่ยจิ๋งตรงหน้าเขาเข้าสู่โหมดล่องหนในทันทีที่การนับถอยหลังสิ้นสุดลงและย่องเบาเข้าหาเขาโดยไร้ซึ่งเสียงใด ๆ หญิงสาวอ้อมโค้งไปด้านหลังแล้วพุ่งเข้าโจมตีพร้อมกับมีดสั้นสองเล่มในมือที่ถือไขว้กันไว้หมายจะให้เข้าจุดตายด้านหลังหัวของเขา!

บล็อก!

เซียวเฟิงไม่แม้แต่หันไปมองด้วยซ้ำ เขาเพียงยกคทาขึ้นไปกันไว้ด้านหลัง ก็สามารถป้องการการรอบโจมตีของซือเยี่ยจิ๋งได้อย่างง่ายดาย

“ล่องหนใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอกนะ” เซียวเฟิงพูดเสริม อันที่จริงระดับการล่องหนของซือเยี่ยจิ๋งนั้นนับว่าสูงมาก ๆ นั่นเพราะเธอได้รับพาสซีฟของชุดเกราะมังกรที่สวมอยู่ด้วย ทำให้สกิลทุกสกิลมีเลเวลเพิ่มขึ้นอีก 1 เลเวล ดังนั้นสกิลล่องหนของเธอจึงถูกพัฒนาขึ้นเป็นระดับสูงไปด้วย ซึ่งสำหรับผู้เล่นทั่วไป การล่องหนระดับนี้ พวกเขาไม่สามารถรับรู้ได้เลยแม้จะใช้สกิลตรวจจับไล่หา

แต่เซียวเฟิงนั้นต่างออกไป ต่อให้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขาก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของอีกฝ่ายได้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเคลื่อนที่ไปไหนก็ตามผ่านสายลมที่พัดไปมา

หลังจากที่เซียวเฟิงพูดจบ คทาในมือของเขาก็ถูกตวัดเพื่อโต้กลับ เขาหวดมันใส่ซือเยี่ยจิ๋งที่อยู่ด้านหลังกลับไป

พลาด!

ซือเยี่ยจิ๋งกระโดดถอยออกหลบการหวดของเซียวเฟิงได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้เปิดระยะห่างจากอีกฝ่ายไว้เยอะ ยามที่ปลายเท้าของเธอสัมผัสพื้นเพียงนิดเดียว ร่างที่ผอมบางภายใต้ผ้าคลุมก็เข้าโจมตีเซียวเฟิงใหม่จากด้านหลังเพื่อให้เซียวเฟิงได้รับความเสียหายแบบเต็มสูบก่อนที่เขาจะได้หันกลับมา

บล็อก!

น่าเสียดายที่เซียวเฟิงคอยระวังหลังตนเองอยู่ตลอด และด้วยการตวัดคทาเช่นเดิม เขาก็สามารถป้องกันการโจมตีนั้นได้อีกครั้งอย่างรวดเร็วและสมบูรณ์

และคราวนี้ เซียวเฟิงก็หันหน้ากลับไปหาเธออย่างช้า ๆ ด้วย

ตอนนี้ล่ะ!

แววตาของซือเยี่ยจิ๋งเป็นประกาย เธอกะเอาไว้แล้วว่าเซียวเฟิงจะต้องหันกลับมา เธอจึงเตรียมตัวให้ดีและเข้าโจมตีจากด้านหลังอีกครั้งหมายจะเผด็จศึกเซียวเฟิงด้วยการโจมตีครั้งนี้

การโจมตีจากด้านหลังในครั้งนี้ต่างออกไป เพราะด้านหลังที่ว่า หมายถึงเธอเทเลพอร์ตไปอยู่ด้านหลังของเซียวเฟิงที่สลับทิศทางกันในพริบตา แต่ด้วยการที่เซียวเฟิงไม่ได้หันมาทั้งตัว การใช้สกิลเข้าจู่โจมจากด้านหลังมันจึงกลายเป็นการเทเลพอร์ตไปด้านหน้าของเซียวเฟิงแทน เธอคาดเดาการกระทำของเซียวเฟิงไว้ล่วงหน้าจากการที่รู้ว่าเซียวเฟิงจะสามารถใช้สกิลได้ก็ต่อเมื่อเจ้าตัวมองไปยังทิศทางนั้น ๆ เท่านั้น ดังนั้นการเทเลพอร์ตไปยังจุดอับสายตาของเซียวเฟิง มันชิงโจมตีก่อนที่เจ้าตัวจะรับรู้ มันจะทำให้เซียวเฟิงไม่มีโอกาสมากพอที่จะป้องกันการโจมตีได้อีกแน่นอน!

ทุกอย่างนี้อยู่ในการคำนวณไปกระทั่งถึงตอนจบแล้ว เธอมั่นใจมาก ๆ ว่าวิธีนี้จะสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะจังหวะทุกอย่างมันเอื้อให้เธอหมดแล้ว ไม่ว่าจะอย่างไร เซียเฟิงก็หมดทางหนีแล้ว!

บล็อก!

อย่างไรก็ตาม ความคิดก็เป็นได้แค่ความคิด ขณะที่ความจริงก็ยังคงเป็นความจริง แต่คทาของเซียวเฟิงก็สามารถกลับมาป้องกันการโจมตีที่ซือเยี่ยจิ๋งคำนวณไว้อย่างดิบดีได้รวดเร็วและแม่นยำ ด้วยความประหลาดใจเพียงเสี้ยววินาที สีหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปเป็นตกใจแทนเมื่อเห็นว่า เซียวเฟิงที่ควรจะหันไปมองเธอที่ด้านหลังนั้น ไม่ได้หันกลับไปแต่อย่างใด เขาเพียงแค่จะหัน หากแต่ใบหน้าของเขาตอนนี้ก็กำลังเผชิญหน้าอยู่กับเธอตรง ๆ อยู่!