บทที่ 47 ไอ้บ้านี่ไม่ใช่คน

รักหวานอมเปรี้ยว

“นายบอกชาหวานว่า ครอบครัวนายจนมาก วันหนึ่งทำสามงาน?” มายมิ้นท์ส่งเสียงเหอะๆ แล้วมองมาที่เขาด้วยแววตาเหยียดหยาม “ฉันว่าการแสดงของนายไม่เสียเปล่าเลยนะ คงรับบทนักแสดงยอดเยี่ยมทุกนาทีเลยสิท่า”

ทามทอยยักไหล่ “ก่อนหน้านี้ผมเอารถไปซ่อมที่ศูนย์ เธอก็ยังคิดว่าผมเป็นพนักงานซ่อมรถเลย ผมไม่รู้จริงๆว่าเธอทำงานที่บริษัทคุณ พูดหยอกแค่ไม่กี่คำ ใครจะไปรู้ว่าเธอจะเชื่อทั้งหมด แถมยังโทรบอกให้ผมมาขับรถให้คุณอีก”

มายมิ้นท์เหลือบตามองบน “นายเห็นชาหวานใสซื่อหลอกง่าย เลยเล็งเธอไว้ล่ะสิ?”

“คุณใส่ร้ายผมแล้ว ทุกครั้งล้วนแล้วแต่เป็นเธอที่เข้ามาชวนผมคุยก่อน” ทามทอยเอ่ยพูดด้วยสีหน้าประมาณ “ผู้หญิงชอบเยอะก็งี้” จากนั้นก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “เธอต่างหากอยากเลี้ยงดูผมเอง”

“………..”

มายมิ้นท์หวนนึก ดูยังไงก็เหมือนชาหวานอยากเลี้ยงดูทามทอยจริงๆด้วย

“ประธานมายมิ้นท์ จะไปไหน?” ทามทอยหันกลับไปคาดเข็มขัดนิรภัย “ผมขับรถให้คนอื่นนั่งครั้งแรกเลยนะ แถมยังเป็นรถเก่าๆด้วย คุณนี่มันโชคดีจริงๆ”

หลังจากออกรถ เขาก็เอ่ยแขวะเปปเปอร์ขึ้นมาสองสามประโยค “พวงมาลัยสัมผัสแย่มาก รถคันนี้นี่มันเศษเหล็กดีๆนี่เองพี่เปอร์นี่ยังไง ตัวเองขับไมบัครถหรูๆสักคันยังไม่มีให้เมียเก่าเลยหรือไง”

“เรื่องที่ฝากนายจัดการก่อนหน้านี้ ทำไมนายยังไม่โทรกลับมารายงานฉัน?” มายมิ้นท์ข้ามบทสนทนาไปอย่างเฉยชา

“พนักงานไม่ได้ทำ น้ำขวดนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แล้วผมต้องโทรกลับหาคุณทำไม?” แววตาของทามทอยฉายแววแปลกๆ “ผมดูกล้องวงจรปิดในคืนนั้นแล้ว แค่เดินออกมาจากห้องน้ำคุณยังเดินเซเลย เมาจนภาพตัดขนาดนั้น คุณน่าจะคิดมากไปเองหรือเปล่า”

ทามทอยหัวเราะออกมา เอ่ยเย้าแหย่ว่า “คุณมายมิ้นท์ แต่เมื่อคืนคุณใจกล้ามากนะ ท่าทางแบบนั้นของคุณพี่เปอร์ก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเหมือนกันใช่ไหม?”

“………..” มายมิ้นท์ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกกระอักกระอ่วน และอึดอัดไปทั้งร่างกาย

เธอกลัวว่าทามทอยจะเอาไปพูดมั่วซั่ว และอาศัยความเป็นเจ้าของคลับ ดูวิดีโอไปหมดแล้ว!

“ในเมื่อว่ามาอย่างนั้นก็แล้วไป ตอนนี้โรงเรียนมัธยมอีจงได้แล้ว ฉันง่วงและจะงีบสักหน่อย ถ้าถึงเรียกฉันด้วยนะ” มายมิ้นท์ทำทีเป็นหลับตา ไม่สนใจเขาอีก

ขณะเดียวกัน ทางด้านบริษัทตระกูลภักดีพิศุทธิ์——

เยี่ยมบุญเพิ่งได้รู้ข่าวว่า เทนเดอร์กรุ๊ปของมายมิ้นท์กำลังจะซื้อบริษัทดีย์คูเปอร์ และกำลังติดต่อหาร่องรอยของเจ้าของบริษัทดีย์คูเปอร์

เขานึกไม่ถึงเลยว่า ภายในเวลาสั้นๆ มายมิ้นท์จะกลายมาเป็นคนเก่งขนาดนี้ได้

“แต่แล้วยังไงต่อให้เก่งแค่ไหน ผลักแค่นิดเดียวเทนเดอร์กรุ๊ปก็ล้มแล้ว!” เยี่ยมบุญแสยะยิ้มเย็น พร้อมกับส่งข้อความไปให้คนที่อยู่ข้างนอก

ครั้งนี้เขาจะทำให้เทนเดอร์กรุ๊ปล้มจนลุกไม่ขึ้น!

เขาอยากจัดการเทนเดอร์กรุ๊ปจนอดรนทนรอไม่ไหว แล้วนำชัยชนะไปให้ลูกสาวคนโตที่เสียชีวิตไปได้เชยชม

เยี่ยมบุญเพิ่งออกคำสั่งได้ไม่ทันไร จู่ๆหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะก็กะพริบอย่างบ้าคลั่ง เขากำลังจะกดปิดเครื่อง หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็กลับมาเป็นปกติ พร้อมกับเปิดหน้าต่างวิดีโอหนึ่งขึ้นมา

แสงในวิดีโอคมชัดเป็นอย่างมาก เขาเห็นคนที่กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น บนชุดพนักงานมูนสตาร์คลับอาบไปด้วยเลือด

ดวงตาของเยี่ยมบุญหดเล็กลง

เขาติดต่อคนนี้ไม่ได้มาตลอด ทำไมถึงมาอยู่ในคลิปนี้ได้?

พนักงานที่นอนอยู่บนพื้นครวญครางออกมาอย่างทรมาน ลมหายใจเริ่มรวยริน บ่งบอกได้ชัดว่ากำลังเจ็บปวด ไม่นาน ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่มีเครื่องหน้าเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจกก็โผล่เข้ามาในกล้อง

ชายหนุ่มหันมามองกล้องอย่างชิงชัง แววตาที่เผยแววเย็นยะเยือกสบเข้ากับเยี่ยมบุญเขม็ง “ประธานลาเต้”

“แกเป็นใคร ทำไมมาอยู่ในคอมของฉันได้!” เยี่ยมบุญขมวดคิ้ว คิดจะปิดเครื่อง แต่ไม่ว่ากดปุ่มปิดยังไงเครื่องก็ไม่ดับลงเลย

ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์หัวเราะออกมา เสียงทุ้มแหบดังขึ้นมาว่า “ไม่ใช่แค่คอมบริษัทคุณนะ โทรศัพท์คุณ โทรศัพท์ภรรยาคุณ ผมก็สามารถเข้าไปได้อย่างสบายๆ วันนี้ที่ผมมาหาคุณ เพราะอยากจะเตือนอะไรคุณหน่อย”

มือเรียวยาวจับพนักงานบนพื้นขึ้นมาอย่างไม่นึกรังเกียจ พร้อมกับใช้ปลายมีดเช็ดถูบนคอเขา ภาพนี้ทำให้ศีรษะของเยี่ยมบุญเกร็งกระตุก

“ประธานลาเต้ ละครหลอกเด็กเล่นแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว ไม่อย่างนั้นผมจะรำคาญแล้วนะ” ชายหนุ่มโยนคนที่เสียชีวิตไปแล้วออกไป จากนั้นก็หันกลับมามองกล้องตรงหน้าอีกครั้ง น้ำเสียงน่ากลัวเหมือนผุดขึ้นมาจากนรกดังขึ้นมาว่า “ถ้าคุณกล้าแตะต้องเทนเดอร์กรุ๊ปและมายมิ้นท์ ฉากต่อไปคุณก็จะเป็นแบบเขา”

“แก….” เยี่ยมบุญกลืนน้ำลาย พูดอะไรไม่ออกอยู่เป็นเวลานาน

หลายปีมานี้ เขาให้คนคอยจับตามองมายมิ้นท์ จึงได้รู้ว่าหลังจากที่มายมิ้นท์แต่งงานกับเปปเปอร์ และเข้ามาเป็นคุณนายของตระกูลนวบดินทร์ อย่างเต็มรูปแบบ เธอก็ไม่ค่อยออกไปสร้างสังคมมากเท่าไหร่ เพื่อนก็น้อยลงเรื่อยๆ

ลาเต้ก็ไม่ได้เก่งกล้า ถึงขนาดเล่นงานเขาได้ แล้วถ้าอย่างนั้นผู้ชายในคลิปนี้คือใคร ทำไมถึงปกป้องมายมิ้นท์ขนาดนี้?

เมื่อเห็นสีหน้าดูไม่ได้ของเยี่ยมบุญ ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ในวิดีโอก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก “สามร้อยล้านนี้ถือซะว่าเป็นค่าชดเชยให้มายมิ้นท์ก็แล้วกัน ส่วนของขวัญอีกชิ้น เดี๋ยวอีกสักพักผมจะให้คนส่งไปที่บริษัทตระกูลภักดีพิศุทธิ์”

“บาย ประธานลาเต้” ชายหนุ่มอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ทั้งยังโบกมือที่เปื้อนเลือดให้เยี่ยมบุญราวกับซาตานอีกด้วย

วินาทีต่อมา จู่ๆวิดีโอนั้นก็หายไป เหลือเพียงภาพพื้นหลังหน้าจอ

เยี่ยมบุญมองภาพหน้าจอที่ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว วิดีโอไม่กี่นาทีเมื่อกี้ เหมือนกับเขาตาฝาดไปเอง ทว่าร่างกายของเขากลับหนาววูบ

ค่าชดใช้สามร้อยล้านที่เขาพูดถึง หมายความว่ายังไง?

เยี่ยมบุญยิ้มเยาะ เมื่อคิดได้ว่าตัวเองจะเอาเงินไปให้มายมิ้นท์ทำไมกัน จากนั้นเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมา เป็นเบอร์ฝ่ายการเงินของบริษัทสาขาเมืองน้ำรุ้งที่โทรมา

“ประธานลาเต้ เกิดเรื่องแล้ว” เจ้าหน้าที่การเงินพูดติดๆขัดๆ “เงินในบัญชีถูกยักยอกไปหมดแล้ว…..”

“ว่าไงนะ!” เยี่ยมบุญดีดผึงขึ้นมาจากเก้าอี้ “เท่าไหร่?”

“สาม สามร้อยล้าน……”

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกฉันให้เร็วๆ พวกแกมันไร้ประโยชน์!” เยี่ยมบุญสบถด่าออกมา เดือดดาลจนร่างกายสั่นสะท้าน แทบจะเป็นลมล้มพับไป

ที่แท้ค่าชดใช้สามร้อยล้านที่ผู้ชายคนนั้นพูดถึง คืออย่างนี้นี่เอง!

วิธีการของผู้ชายคนนั้นทำให้เยี่ยมบุญหวั่นกลัวชอบกล เพราะว่าศัตรูอยู่ในที่มืด เขาจึงไม่สามารถจับตัวได้

เยี่ยมบุญควบคุมลมหายใจ แล้วต่อสายหาลูกน้องตัวเองทันที กัดฟันออกคำสั่งว่า “สลายตัวได้แล้ว ข่าวนั่นก็ลบด้วย ไม่ต้องเล่นงานเทนเดอร์กรุ๊ปแล้ว!”

“ประธานลาเต้ คุณบอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้วค่อยรายงานคุณไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมตอนนี้………”

“ฉันให้แกสลายตัวก็ทำอย่างที่ฉันบอกซะ สลายตัวเดี๋ยวนี้!” เยี่ยมบุญตะคอกด่าออกมา “ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเทนเดอร์กรุ๊ป ฉันเอาแกตายแน่!”

“ครับๆ”

หัวใจของเยี่ยมบุญบีบรัดอย่างเจ็บปวด เพิ่งหายใจหายคอได้ไม่ทันไร สายโทรศัพท์จากบริษัทสาขาเมืองน้ำรุ้งก็โทรเข้ามา

“ประธานลาเต้ ฝ่ายบัญชียักยอกเงินไป สองร้อยล้าน……” อีกฝ่ายพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ “เมื่อคืนขึ้นเครื่องไปที่ดินแดนแอลพีแล้ว…..”

“………….” เบื้องหน้าของเยี่ยมบุญพลันมืดมน เดือดดาลแทบอาเจียนออกมาเป็นเลือด

ผู้ชายคนนั้นบอกว่าค่าชดใช้สามร้อยล้านไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องเอาของเขาไปอีกสองร้อยล้าน ไอ้บ้านั่นไม่ใช่คนแล้ว!

ความเสียหายร้อยกว่าล้าน เป็นเหตุให้ร่างกายของเยี่ยมบุญไม่สามารถต้านทานไหว ความดันเลือดพุ่งสูง ยังไม่ทันได้เปล่งเสียงอะไรออกมา ร่างกายก็ร่วงตุบลงบนโต๊ะ

“ประธานลาเต้?” คนในสายส่งเสียงออกมา “ประธานลาเต้ คุณยังฟังอยู่ไหม?”