แดนนิรมิตเทพ บทที่ 410
“เวินฉิง เธอสั่งให้คนไปสืบมาเดี๋ยวนี้ว่าหอว่านเค่อไหลนี้มาจากไหน?” หลี่ซู่เฟินพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ค่ะ” เวินฉิงไปโทรศัพท์ทันที

ไม่นาน เวินฉิงก็เดินกลับมาอย่างตื่นตระหนก น้ำเสียงร้อนรน “ท่านประธานคะ ฉันสืบมาแล้วค่ะ หอว่านเค่อไหลเป็นธุรกิจของตระกูลว่าน ระยะเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่วันก็ได้เปิดสาขาไปทั่วฮ่านหยางแล้วค่ะ พื้นที่อำเภอขึ้นไป ล้วนมีสาขาของพวกเขา”

“หอว่านเค่อไหลเน้นอาหารสมุนไพรจีนบำรุงสุขภาพ ตามการตอบสนองของลูกค้าในหลายวันมานี้ ชื่อเสียงดีมาก ถึงขั้นเล่าลือกันอย่างน่าอัศจรรย์ บอกว่าดื่มซุปเพียงคำเดียวก็สามารถรักษาอาการเรื้อรังหลายปีได้แล้ว ลูกค้าของหอเซียงหม่านส่วนมากล้วนถูกพวกแย่งไปกันหมดแล้วค่ะ”

ด้านหลัง ผู้ดูแลหอเซียงหม่านที่มีสีหน้าเศร้าใจเดินเข้ามา พูดอย่างไม่พอใจว่า “ยังมีที่น่าอัศจรรย์มากกว่านี้อีกค่ะ เมื่อวานนี้ได้ยินลูกค้าหญิงท่านหนึ่ง บอกว่าเพียงแค่ดื่มน้ำซุปคำเดียว ก็สามารถรักษาอาการที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ของเธอได้ในทันที แล้วสามารถรักษาชีวิตแต่งงานที่ใกล้จะล่มของเธอไว้ได้”

“ตอนนี้สังคมได้ถือว่าหอว่านเค่อไหลเป็นโรงพยาบาลที่เชื่อถือได้แห่งหนึ่งไปแล้ว ไม่เพียงแต่แย่งลูกค้าจากพวกเราไปเท่านั้น แม้กระทั่งผู้ป่วยของโรงพยาบาลก็ถูกแย่งไปด้วยเช่นกัน”

หลี่ซู่เฟินสีหน้าเคร่งเครียด คิดวิเคราะห์สักพัก แล้วพูดว่า “ฟังแค่ข่าวลือ ไม่เท่าได้เห็นกับตา พวกเราไปชิมที่หอว่านเค่อไหลด้วยตัวเองกัน แล้วทุกอย่างก็จะรู้ชัดเอง”

“ถ้าหากว่าข่าวลือล้วนเป็นความจริง อย่างนั้นแล้วหอว่านเค่อไหลก็จะเป็นศัตรูตัวอันตรายในเส้นทางการพัฒนาด้านอาหารผักใบเขียวของพวกเรา!”

สาขาของหอว่านเค่อไหลมีมากมายถึงระดับที่ท่วมท้นไปทั่วฮ่านหยางแล้ว หลี่ซู่เฟินและเวินฉิงเพียงแค่เดินเลี้ยว ก็พบกับสาขาหนึ่งแล้ว

เพียงอยู่ไกลๆก็สามารถมองเห็นกลุ่มคนมากมายที่สาขานั้นแล้ว ถึงขั้นต่อแถวยาวเหยียด เยอะมากกว่าช่วงที่ธุรกิจหอเซียงหม่านโด่งดังที่สุดซะอีก ธุรกิจเฟื่องฟูอย่างมาก

ทั้งสองคนแกล้งเป็นลูกค้าธรรมดา ต่อแถวเข้าร้าน แล้วทั้งสองก็สั่งน้ำซุปที่โฆษณาว่าสามารถช่วยให้สดชื่นคนละถ้วย

หลี่ซู่เฟินและเวินฉิงสบตากันด้วยท่าทางสงสัย แล้วต่างก็ดื่มน้ำซุปกระดูกหมูข้าวโพดที่มีสีเหลืองอ่อนและดูธรรมดาในถ้วยเซรามิก

เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว นอกจากกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรที่พิเศษ แต่เมื่อประมาณห้านาทีต่อมา ทั้งหลี่ซู่เฟินและเวินฉิงต่างก็ตะลึงพร้อมกัน

รู้สึกได้ถึงความสดชื่นแผ่ซ่านออกมาจากในกระเพาะสู่ทั่วกระดูกแขนขา ทั้งสองคนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ร่างกายผ่อนคลาย สายตามองดูชัดเจนมากขึ้น การหายใจก็รู้สึกเรียบสบายมากขึ้น

หลี่ซู่เฟินตะลึงอย่างมาก แล้วก็วิเคราะห์น้ำซุปนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ดูยังไง ด้านในก็เป็นแค่ซุปกระดูกหมูข้าวโพดที่แสนธรรมดา หากจะให้บอกความพิเศษเพียงอย่างหนึ่งที่มีอยู่ ก็คือน้ำซุปมีความขุ่น เหมือนกับว่าใช้สมุนไพรผสมตุ๋นออกมา

“ถึงว่าทำไมหอว่านเค่อไหลโฆษณาอาหารสมุนไพรจีนบำรุงสุขภาพออกมาเพียงแค่สามวัน ก็สามารถโด่งดังมากเช่นนี้ มีความสามารถอยู่จริงๆ” หลี่ซู่เฟินแอบถอนหายใจ

หันไปมองเวินฉิง แววตาของหลี่ซู่เฟินเคร่งเครียด “ไปกันเถอะ”

เวินฉิงพยักหน้า สีหน้าก็เคร่งเครียดด้วยเช่นกัน

เมื่อกลับถึงเหม่ยหวากรุ๊ป หลี่ซู่เฟินและเวินฉิงรีบปิดประตูเข้าสู่การปรึกษาหารือกันในทันที

“เสี่ยวฉิง เธอว่าน้ำซุปถ้วยนั้นของหอว่านเค่อไหลใส่อะไรลงไปกันแน่? ถึงได้ให้ผลลัพธ์ที่น่าตกตะลึงเช่นนั้นออกมาได้!” หลี่ซู่เฟินถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เวินฉิงส่ายหัว “ไม่ทราบค่ะ น่าจะมีสูตรลับอยู่ค่ะ ถ้าหากว่าเพียงแค่น้ำซุปถ้วยเดียว คงจะไม่มีผลลัพธ์ให้ความสดชื่นมากเช่นนี้ คาดว่าเบื้องหลังน่าจะมีผู้วิเศษอยู่ค่ะ!”

“เธอไปสืบมาหน่อย ดูสิว่าจะสามารถสืบมาได้มั้ยว่าตระกูลว่านเชิญใครมาเป็นผู้ช่วยกันแน่!” หลี่ซู่เฟินออกคำสั่ง

“ค่ะ ฉันจะเรียกคนไปสืบมาเดี๋ยวนี้ค่ะ แต่ว่าท่านประธานคะ พวกเราโทรไปถามเสี่ยวโม่กันหน่อยไหมคะ ดูสิว่าเขาจะทราบปัญหาในส่วนนี้หรือเปล่า” เวินฉิงลองถามดู

“ไม่จำเป็น นี่คือการแข่งขันในวงการธุรกิจ เสี่ยวโม่ช่วยอะไรไม่ได้หรอก อย่าไปรบกวนเวลาการศึกษาของเขาดีกว่า” หลี่ซู่เฟินส่ายหัวปฏิเสธ

“ค่ะ อย่างนั้นฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ค่ะ”