หลินจือโกรธมาก โกรธจนน้ำตาไหล
โจมอนเห็นเธอร้องไห้ ก็จะชกไปที่ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นอีกครั้ง
หลินจือร้องไห้ห้ามเขาไว้:“ไม่ต้องทำแล้ว……”
เธอยังมีสติ ก่อเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ผู้จัดการร้านอาหารก็รีบเข้ามา ถ้าชกต่อไปภาพลักษณ์ของโจมอนก็จะแย่
เธอพยายามหยุดโจมอนไว้อย่างมาก โจมอนจึงหยุดลงแล้วลุกขึ้นจากตัวผู้ช่วยผู้กำกับ
ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นถูกชกจนหน้าบวมเลือดกำเดาไหล เนมาหยิบทิชชูมาห่อหนึ่งแล้วยื่นให้เขาเพื่อหยุดเลือด
เธอหลบอยู่หลังเนมาแล้วผิดจมูกไว้พร้อมด่าไปอย่างแรง:“โจมอน!นายจะฆ่าฉันเหรอไง นายคอยดูเถอะ!”
“คุณยังจะขู่ผมอีกเหรอ?”โจมอนพูดไปก็จะเข้าไป ผู้จัดการร้านอาหารที่อยู่ข้างๆรีบห้าม“ใจเย็นก่อนๆ!ทุกคนใจเย็นก่อนนะครับ”
ร้านนี้เปิดอยู่ด้านข้างโรงถ่ายหนัง ดังนั้นผู้จัดการร้านเลยรู้จักโจมอนและพวกเนมา จึงค่อนข้างเห็นใจทุกคน เลยปิดประตูห้องส่วนตัวทันที ปิดกั้นจากพนักงานบริการและลูกค้าคนอื่นๆที่พยายามที่จะเข้ามาดู
“แจ้งความ!ผมจะแจ้งความ!”ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นโกรธจนตะคอกออกมา
หลินจือตื่นตระหนกเล็กน้อย โจมอนเป็นดาราหนุ่มที่กำลังดัง ถ้าแจ้งความจนเกิดเรื่องราวใหญ่โต ก็จะทำลายภาพลักษณ์ของโจมอนได้
โจมอนกลับไม่กลัวสักนิด จ้องผู้ช่วยผู้กำกับอย่างร้ายกาจ:“เก่งนักก็แจ้งสิ คนลามกที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิงอย่างคุณ ผมยังต่อยคุณเบาไปด้วยซ้ำ”
โจมอนพูดแล้วก็จะเข้ามาต่อยอีก ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นรีบหลบอยู่ด้านหลังเนมา
หลังจากหลินจือโกรธจนร้องไห้ในตอนแรกก็ใจเย็นลงแล้ว เธอดึงโจมอนไว้แล้วถามเนมากับผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้น:“ซูซีให้พวกคุณทำแบบนี้เหรอ?”
เนมายังไม่ทันพูดอะไร ผู้ช่วยผู้กำกับก็ตะโกนอย่างเย่อหยิ่ง:“เหรอ ทำไม?กลัวเหรอ?กลัวก็รีบขอโทษฉัน!”
โจมอนตอบเขา:“ฝันไปเถอะ!”
ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นกัดฟันพูดขู่ว่า:“โจมอน นายก็รู้ใช่ไหมความสัมพันธ์ของซูซีกับเทาเท่?เดี๋ยวเธอต้องแต่งเข้าตระกูลฟอเรนากลายเป็นนายหญิงของตระกูลฟอเรนาแล้ว นายเชื่อไหมว่าเทาเท่บัญชีดำใส่นายได้เลย!”
“ซูซีก็แค่พูดไปงั้นๆ หลินจือก็ถูกให้เปลี่ยนบทเลย แค่นี้ก็รู้แล้วว่าถ้าเธอให้เทาเท่ติดบัญชีดำนาย ก็ไม่ใช่เรื่องยาก”
โจมอนมองไปที่หลินจืออย่างไม่อยากจะเชื่อ:“เขาพูดจริงเหรอ?”
โจมอนไม่รู้ว่าหลินจือประสบเรื่องที่ต้องเปลี่ยนบทแล้ว ยังคิดเสียอีกว่างานของเธอที่นี่จะเป็นไปได้ด้วยดี
และเขาก็ยิ่งไม่รู้ว่า เทาเท่จะโง่ถึงจุดนี้ได้ นึกไม่ถึงว่าจะปล่อยให้ซูซีทำอะไรผิดในเรื่องงานได้
หลินจือไม่ตอบคำถามของโจมอน เธอก็ไม่อยากตอบ
ไม่ว่าเทาเท่ต้องการให้เธอเปลี่ยนบทเพื่ออะไร เธอก็เปลี่ยนแล้ว
เธอดึงโจมอนแล้วพูด:“พวกเราไปกันเถอะ”
“ไป?”ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นไม่เต็มใจ“โจมอน ไอ้เด็กเมื่อวานซืนอย่างแกตีฉันจนเป็นแบบนี้ คิดจะไปเหรอ?”
หลินจือหัวเราะอย่างเย็นชา:“ถ้าคุณไม่ทำอะไรฉันก่อน แล้วจะถูกต่อยได้ไงล่ะ?”
ไม่ว่าอย่างไรหลินจือก็จะยืนอยู่ข้างโจมอน ถึงแม้ทำร้ายคนจะไม่ถูกต้อง
ผู้ช่วยผู้กำกับมองทั้งสองที่ปกป้องกันเอง ก็ถามไปอย่างหน้าบวมๆ:“พวกนายเป็นอะไรกัน?”
โจมอนก็หยอกล้อไปว่า:“คุณสนด้วยเหรอ?”
ผู้ช่วยผู้กำกับหัวเราะอย่างดูถูกทันที:“นี่ นักเขียนบทหลินจือ ดูไม่ออกเลยนะ ว่าคุณจะมีเสน่ห์แบบนี้ เด็กหนุ่มวัยรุ่นแบบนี้ก็ยังคบคิดกันได้”
“แกล้งทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ ที่แท้ลับหลังก็เป็นคนหมกมุ่นทางนี้เหมือนกัน”
ผู้ช่วยผู้กำกับพูดจบ หลินจือโกรธจนตัวสั่น
โจมอนสะบัดมือที่เธอดึงเขาอยู่ และต่อยไปแรงๆอีกครั้ง
ผู้จัดการร้านกับเนมาดึงโจมอนออกไปอีกครั้งอย่างไม่ง่ายเลย ผู้ช่วยผู้กำกับถ่มเลือดไปแล้วตะโกนไปว่า:“แจ้งความ!ฉันจะแจ้งความ!”
สุดท้าย เรื่องนี้ก็จบลงเมื่อตำรวจมาและพาพวกเขาไปที่สถานีตำรวจ
ถือว่าผู้จัดการร้านเป็นคนฉลาด ก่อนถึงตรงนี้ได้เคลียร์ทุกคนในร้านไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะมีใครเห็นหรือได้ยินและถ่ายคลิปที่โจมอนต่อยผู้ช่วยผู้กำกับไปไหม
เรื่องนี้ทำเจเทาวน์ตกใจมาก และผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทโจมอนก็ยังตกใจด้วย
ทางเทาเท่ก็รู้ เพราะนานิโทรมา
นานิด่าอยู่ในสาย:“เทาเท่ ไอ้ห่าเอ๊ย!”
“หย่ากันแล้วยังจะไม่ปล่อยหลินจืออีก สนใจยัยแรดแสนเจ้าเล่ห์นั่นของคุณเถอะ ถ้ายังรังแกหลินจือแบบนี้อีก ฉันไม่ยอมพวกคุณแน่!”
เทาเท่ถูกด่าอย่างงงๆ จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างมาก:“เกิดอะไรขึ้น?”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?คุณก็ไปถามยัยแพศยาซูซีนั่นเองสิ!”นานิตะโกนอีกครั้งแล้ววางสายไป
เทาเท่ขมวดคิ้วเรียกจอนห์เข้ามา ให้เขาไปสืบว่าเกิดอะไรขึ้น
นานิโกรธจนเป็นแบบนี้ หลินจือต้องเกิดเรื่องแน่
ไม่นานนักจอนห์ก็เข้ามารายงานด้วยสีหน้าตึงเครียด:“เนมากับผู้ช่วยผู้กำกับของเขานัดหลินจือกินข้าว บอกว่าจะคุยเรื่องบท สุดท้ายผู้ช่วยผู้กำกับก็รังแกหลินจือ ถูกโจมอนชกไป จนใหญ่โตถึงตำรวจ”
“กลางวันแสกๆแบบนี้ รังแกหลินจือ?”เทาเท่ฟังจอนห์เล่าแบบนี้ก็โมโหทันที
ในฐานะผู้ชาย เขายังเป็นผู้ชายที่ไปงานตามสังคมต่างๆ เทาเท่รู้ดีว่ามีผู้ชายบางคนชอบรังแกผู้หญิง เอาเปรียบผู้หญิงจริงๆ
หลายครั้งเขาเลือกที่จะไม่สนใจ แต่พอคิดว่าเรื่องแบบนี้เกิดกับหลินจือ เขาก็ร้อนใจอยากสับมือของผู้ช่วยผู้กำกับ
และยังมีครั้งที่แล้วที่เนมาพยายามไปลูบเอวของหลินจือ เขาก็ทนไม่ไหว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ให้ควีนติดต่อผู้กำกับคนอื่นเพื่อเตรียมจะเปลี่ยนคนหรอก
จอนห์พยักหน้า จากนั้นพูดอย่างลังเล:“ว่ากันว่า ผู้ช่วยผู้กำกับตะโกนออกมาว่า ซูซีให้เขาทำแบบนี้ เพื่อให้หลินจือออกไปจากโครงการนี้”
สีหน้าของเทาเท่หม่นลงไปมาก
จอนห์ที่อยู่ข้างๆก็แนะนำอย่างประจวบเหมาะ:“ตอนนี้พวกเราต้องปิดเรื่องนี้ไว้ก่อนไหมครับ เรื่องราวใหญ่โตแบบนี้ยังไงก็ไม่ดีต่อโจมอน ไม่ว่าอย่างไรที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะช่วยหลินจือด้วย”
ถ้าโจมอนเป็นอะไรไป หลินจือต้องรู้สึกผิดและโทษตัวเอง
เจ้านายพวกเขาปกป้องโจมอน เท่ากับว่าให้ความรู้สึกที่ดีต่อหลินจือ
จอนห์คิดว่าเจ้านายพวกเขาต้องการความรู้สึกที่ดีนี้ของหลินจือ ดังนั้นจึงกล้ามีคำแนะนำแบบนี้
เทาเท่รู้ดีถึงเจตนาในการแนะนำของจอนห์ดี จึงกำชับอย่างไม่ลังเลใดๆ:“ใช้คอนเนคชั่น ปิดเรื่องนี้ไว้ ห้ามให้หลุดออกไปเด็ดขาด”
เขากำชับเสร็จจึงพูดอีกว่า:“ให้ควีนไปโรงพักกับผม”
เขาพูดจบก็ลุกขึ้นหยิบกุญแจรถออกไป จากนั้นควีนกับเขาก็เข้าไปในรถ
ที่เทาเท่เรียกควีน เพราะว่าควีนกับหลินจือมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ควีนสามารถช่วยเขาบรรเทาความสัมพันธ์กับหลินจือได้
เทาเท่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่หลินจือทะเลาะและเถียงกับเขา เขาก็ไม่ค่อยกล้าเผชิญหน้ากับเธอ
หรือจะพูดได้ว่า ไม่กล้าเผชิญหน้ากับหลินจือที่เย็นชาต่อเขา