บทที่ 56 ไม่ค่อยกล้าเผชิญหน้ากับหลินจือ

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

หลินจือโกรธมาก โกรธจนน้ำตาไหล

โจมอนเห็นเธอร้องไห้ ก็จะชกไปที่ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นอีกครั้ง

หลินจือร้องไห้ห้ามเขาไว้:“ไม่ต้องทำแล้ว……”

เธอยังมีสติ ก่อเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ผู้จัดการร้านอาหารก็รีบเข้ามา ถ้าชกต่อไปภาพลักษณ์ของโจมอนก็จะแย่

เธอพยายามหยุดโจมอนไว้อย่างมาก โจมอนจึงหยุดลงแล้วลุกขึ้นจากตัวผู้ช่วยผู้กำกับ

ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นถูกชกจนหน้าบวมเลือดกำเดาไหล เนมาหยิบทิชชูมาห่อหนึ่งแล้วยื่นให้เขาเพื่อหยุดเลือด

เธอหลบอยู่หลังเนมาแล้วผิดจมูกไว้พร้อมด่าไปอย่างแรง:“โจมอน!นายจะฆ่าฉันเหรอไง นายคอยดูเถอะ!”

“คุณยังจะขู่ผมอีกเหรอ?”โจมอนพูดไปก็จะเข้าไป ผู้จัดการร้านอาหารที่อยู่ข้างๆรีบห้าม“ใจเย็นก่อนๆ!ทุกคนใจเย็นก่อนนะครับ”

ร้านนี้เปิดอยู่ด้านข้างโรงถ่ายหนัง ดังนั้นผู้จัดการร้านเลยรู้จักโจมอนและพวกเนมา จึงค่อนข้างเห็นใจทุกคน เลยปิดประตูห้องส่วนตัวทันที ปิดกั้นจากพนักงานบริการและลูกค้าคนอื่นๆที่พยายามที่จะเข้ามาดู

“แจ้งความ!ผมจะแจ้งความ!”ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นโกรธจนตะคอกออกมา

หลินจือตื่นตระหนกเล็กน้อย โจมอนเป็นดาราหนุ่มที่กำลังดัง ถ้าแจ้งความจนเกิดเรื่องราวใหญ่โต ก็จะทำลายภาพลักษณ์ของโจมอนได้

โจมอนกลับไม่กลัวสักนิด จ้องผู้ช่วยผู้กำกับอย่างร้ายกาจ:“เก่งนักก็แจ้งสิ คนลามกที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิงอย่างคุณ ผมยังต่อยคุณเบาไปด้วยซ้ำ”

โจมอนพูดแล้วก็จะเข้ามาต่อยอีก ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นรีบหลบอยู่ด้านหลังเนมา

หลังจากหลินจือโกรธจนร้องไห้ในตอนแรกก็ใจเย็นลงแล้ว เธอดึงโจมอนไว้แล้วถามเนมากับผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้น:“ซูซีให้พวกคุณทำแบบนี้เหรอ?”

เนมายังไม่ทันพูดอะไร ผู้ช่วยผู้กำกับก็ตะโกนอย่างเย่อหยิ่ง:“เหรอ ทำไม?กลัวเหรอ?กลัวก็รีบขอโทษฉัน!”

โจมอนตอบเขา:“ฝันไปเถอะ!”

ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นกัดฟันพูดขู่ว่า:“โจมอน นายก็รู้ใช่ไหมความสัมพันธ์ของซูซีกับเทาเท่?เดี๋ยวเธอต้องแต่งเข้าตระกูลฟอเรนากลายเป็นนายหญิงของตระกูลฟอเรนาแล้ว นายเชื่อไหมว่าเทาเท่บัญชีดำใส่นายได้เลย!”

“ซูซีก็แค่พูดไปงั้นๆ หลินจือก็ถูกให้เปลี่ยนบทเลย แค่นี้ก็รู้แล้วว่าถ้าเธอให้เทาเท่ติดบัญชีดำนาย ก็ไม่ใช่เรื่องยาก”

โจมอนมองไปที่หลินจืออย่างไม่อยากจะเชื่อ:“เขาพูดจริงเหรอ?”

โจมอนไม่รู้ว่าหลินจือประสบเรื่องที่ต้องเปลี่ยนบทแล้ว ยังคิดเสียอีกว่างานของเธอที่นี่จะเป็นไปได้ด้วยดี

และเขาก็ยิ่งไม่รู้ว่า เทาเท่จะโง่ถึงจุดนี้ได้ นึกไม่ถึงว่าจะปล่อยให้ซูซีทำอะไรผิดในเรื่องงานได้

หลินจือไม่ตอบคำถามของโจมอน เธอก็ไม่อยากตอบ

ไม่ว่าเทาเท่ต้องการให้เธอเปลี่ยนบทเพื่ออะไร เธอก็เปลี่ยนแล้ว

เธอดึงโจมอนแล้วพูด:“พวกเราไปกันเถอะ”

“ไป?”ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นไม่เต็มใจ“โจมอน ไอ้เด็กเมื่อวานซืนอย่างแกตีฉันจนเป็นแบบนี้ คิดจะไปเหรอ?”

หลินจือหัวเราะอย่างเย็นชา:“ถ้าคุณไม่ทำอะไรฉันก่อน แล้วจะถูกต่อยได้ไงล่ะ?”

ไม่ว่าอย่างไรหลินจือก็จะยืนอยู่ข้างโจมอน ถึงแม้ทำร้ายคนจะไม่ถูกต้อง

ผู้ช่วยผู้กำกับมองทั้งสองที่ปกป้องกันเอง ก็ถามไปอย่างหน้าบวมๆ:“พวกนายเป็นอะไรกัน?”

โจมอนก็หยอกล้อไปว่า:“คุณสนด้วยเหรอ?”

ผู้ช่วยผู้กำกับหัวเราะอย่างดูถูกทันที:“นี่ นักเขียนบทหลินจือ ดูไม่ออกเลยนะ ว่าคุณจะมีเสน่ห์แบบนี้ เด็กหนุ่มวัยรุ่นแบบนี้ก็ยังคบคิดกันได้”

“แกล้งทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ ที่แท้ลับหลังก็เป็นคนหมกมุ่นทางนี้เหมือนกัน”

ผู้ช่วยผู้กำกับพูดจบ หลินจือโกรธจนตัวสั่น

โจมอนสะบัดมือที่เธอดึงเขาอยู่ และต่อยไปแรงๆอีกครั้ง

ผู้จัดการร้านกับเนมาดึงโจมอนออกไปอีกครั้งอย่างไม่ง่ายเลย ผู้ช่วยผู้กำกับถ่มเลือดไปแล้วตะโกนไปว่า:“แจ้งความ!ฉันจะแจ้งความ!”

สุดท้าย เรื่องนี้ก็จบลงเมื่อตำรวจมาและพาพวกเขาไปที่สถานีตำรวจ

ถือว่าผู้จัดการร้านเป็นคนฉลาด ก่อนถึงตรงนี้ได้เคลียร์ทุกคนในร้านไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะมีใครเห็นหรือได้ยินและถ่ายคลิปที่โจมอนต่อยผู้ช่วยผู้กำกับไปไหม

เรื่องนี้ทำเจเทาวน์ตกใจมาก และผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทโจมอนก็ยังตกใจด้วย

ทางเทาเท่ก็รู้ เพราะนานิโทรมา

นานิด่าอยู่ในสาย:“เทาเท่ ไอ้ห่าเอ๊ย!”

“หย่ากันแล้วยังจะไม่ปล่อยหลินจืออีก สนใจยัยแรดแสนเจ้าเล่ห์นั่นของคุณเถอะ ถ้ายังรังแกหลินจือแบบนี้อีก ฉันไม่ยอมพวกคุณแน่!”

เทาเท่ถูกด่าอย่างงงๆ จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างมาก:“เกิดอะไรขึ้น?”

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?คุณก็ไปถามยัยแพศยาซูซีนั่นเองสิ!”นานิตะโกนอีกครั้งแล้ววางสายไป

เทาเท่ขมวดคิ้วเรียกจอนห์เข้ามา ให้เขาไปสืบว่าเกิดอะไรขึ้น

นานิโกรธจนเป็นแบบนี้ หลินจือต้องเกิดเรื่องแน่

ไม่นานนักจอนห์ก็เข้ามารายงานด้วยสีหน้าตึงเครียด:“เนมากับผู้ช่วยผู้กำกับของเขานัดหลินจือกินข้าว บอกว่าจะคุยเรื่องบท สุดท้ายผู้ช่วยผู้กำกับก็รังแกหลินจือ ถูกโจมอนชกไป จนใหญ่โตถึงตำรวจ”

“กลางวันแสกๆแบบนี้ รังแกหลินจือ?”เทาเท่ฟังจอนห์เล่าแบบนี้ก็โมโหทันที

ในฐานะผู้ชาย เขายังเป็นผู้ชายที่ไปงานตามสังคมต่างๆ เทาเท่รู้ดีว่ามีผู้ชายบางคนชอบรังแกผู้หญิง เอาเปรียบผู้หญิงจริงๆ

หลายครั้งเขาเลือกที่จะไม่สนใจ แต่พอคิดว่าเรื่องแบบนี้เกิดกับหลินจือ เขาก็ร้อนใจอยากสับมือของผู้ช่วยผู้กำกับ

และยังมีครั้งที่แล้วที่เนมาพยายามไปลูบเอวของหลินจือ เขาก็ทนไม่ไหว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ให้ควีนติดต่อผู้กำกับคนอื่นเพื่อเตรียมจะเปลี่ยนคนหรอก

จอนห์พยักหน้า จากนั้นพูดอย่างลังเล:“ว่ากันว่า ผู้ช่วยผู้กำกับตะโกนออกมาว่า ซูซีให้เขาทำแบบนี้ เพื่อให้หลินจือออกไปจากโครงการนี้”

สีหน้าของเทาเท่หม่นลงไปมาก

จอนห์ที่อยู่ข้างๆก็แนะนำอย่างประจวบเหมาะ:“ตอนนี้พวกเราต้องปิดเรื่องนี้ไว้ก่อนไหมครับ เรื่องราวใหญ่โตแบบนี้ยังไงก็ไม่ดีต่อโจมอน ไม่ว่าอย่างไรที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะช่วยหลินจือด้วย”

ถ้าโจมอนเป็นอะไรไป หลินจือต้องรู้สึกผิดและโทษตัวเอง

เจ้านายพวกเขาปกป้องโจมอน เท่ากับว่าให้ความรู้สึกที่ดีต่อหลินจือ

จอนห์คิดว่าเจ้านายพวกเขาต้องการความรู้สึกที่ดีนี้ของหลินจือ ดังนั้นจึงกล้ามีคำแนะนำแบบนี้

เทาเท่รู้ดีถึงเจตนาในการแนะนำของจอนห์ดี จึงกำชับอย่างไม่ลังเลใดๆ:“ใช้คอนเนคชั่น ปิดเรื่องนี้ไว้ ห้ามให้หลุดออกไปเด็ดขาด”

เขากำชับเสร็จจึงพูดอีกว่า:“ให้ควีนไปโรงพักกับผม”

เขาพูดจบก็ลุกขึ้นหยิบกุญแจรถออกไป จากนั้นควีนกับเขาก็เข้าไปในรถ

ที่เทาเท่เรียกควีน เพราะว่าควีนกับหลินจือมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ควีนสามารถช่วยเขาบรรเทาความสัมพันธ์กับหลินจือได้

เทาเท่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่หลินจือทะเลาะและเถียงกับเขา เขาก็ไม่ค่อยกล้าเผชิญหน้ากับเธอ

หรือจะพูดได้ว่า ไม่กล้าเผชิญหน้ากับหลินจือที่เย็นชาต่อเขา