ตอนที่ 235

Black Tech Internet Cafe System

“เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าต้องการใช้ชื่อนี้?” ชายวัยกลางคนที่ทำหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการลงทะเบียนมองหน้าฟางฉี หน้าของเขากระตุกเล็กน้อยจากความคิดและวาวตาเขาบ่งบอกว่าเหมือนฟางฉีไม่ค่อยเต็มเท่าไรนัก แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องถามให้แน่ใจเพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์ในภายหลัง

 

‘สมาคมเกมเชื่อมต่อสวรรค์’ มันไม่ได้ยากที่จะเข้าใจเท่าไรแม้อ่านแล้วจะดูเหมือนเย่อหยิ่งไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร เนื่องจากในเมืองนี้มีคนที่หยิ่งผยองอยู่ไม่น้อย ทำนองเดียวกันคำว่าสมาคมฟังดูเหมือนกลุ่มและเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนเท่าไรนัก

 

อย่างไรก็ตาม เกมออนไลน์คืออะไร!? ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นเขารู้สึกสับสนกับคำโฆษณาที่อยู่ด้านล่างไม่น้อย [จะมอบดาบมังกรให้แก่ผู้ที่คลิ้กเข้ามา .. ]

 

นี่มันอะไรกัน!? อะไรประหลาดๆ เช่นนี้จะดึงดูดผู้คนมาสมัครได้ยัง?

 

“ข้าแน่ใจ” ฟางฉีกล่าวโดยไม่ลังเล

 

ชายวัยกลางคนมองฟางฉีอย่างเฉยชา เขาไม่เอ่ยอะไรอีกเพราะเขามีหน้าที่แค่เก็บเงินเท่านั้น เขารู้สึกว่าเด็กสองคนนี้ช่างเหยียดหยามหรือทำอะไรพาดพิงกับสวรรค์ พวกเจ้านี่ช่างไม่กลัวที่จะถูกตีเลยจริงๆ

 

หลังจากฟางฉีนำคริสตัลส่งให้เขา เขารับและนำเหรียญโทเค็นออกมาและกล่าวว่า “นี่เป็นโทเค็นชั่วคราว เจ้าสามารถเดินทางมารับโทเค็นอย่างเป็นทางการได้อีกเจ็ดวัน ขอแสงความยินดีด้วย การจัดตั้งสมาคมเกมเชื่อมต่อสวรรค์ได้รับการอนุมัติเป็นที่เรียร้อย!”

 

เสียงแสดงความยินดีของชายวัยกลางคนดึงดูดความสนใจของคนรอบข้าง

 

“เชื่อมต่อสวรรค์?”

 

“สมาคมออนไลน์?”

 

“มันคืออะไรวะ?”

 

สำคัญไปกว่าเสียงที่ได้ยินคือ เจ้าหนุ่มสองคนนี้สามารถเดินทางเข้ามาที่นี่แถมยังมีเงินสร้างกองกำลังสมาคมเป็นของตัวเอง!

 

“หัวหน้า! ดูนั่นสิ ผู้ชายคนนี้ต้องรวยแน่” ผู้ปลูกฝใังหัวล้านพูดกับผู้ปลูกฝังผิวคล้ำที่กำลังจะเดินออกจากประตู

 

“ไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อน” ผู้ปลูกฝังผิวคล้ำเอ่ย “ไปกันเถอะ”

 

“ทุกคนดูรอบๆ สิ” ฟางฉีเอ่ยชวนขณะกำลังถ่ายทอดสด เขารู้สึกอารมณ์ดีหลังจากออกจากสำนักงานมังกรม้วน

 

บนหน้าจอยักษ์ในร้านค้าที่จิวหัว ปรากฏภาพอาคารที่ยิ่งใหญ่มีสัญลักษณ์มังกรม้วนอยู่ด้านหลังฟางฉี ส่วนข้างหน้าฟางฉีนั้นคือลานกว้างคล้ายสวนสุขภาพจัดแต่งไปด้วยต้นไม้ มันเป็นภาพที่งดงาม

 

“ว้าว! นี่เป็นเมืองใหม่ที่ตั้งของอีกสาขาใช่มั้ย?” เจียงเสี่ยวหยูตาลุกวาว “มันสวยมาก ข้าอยากไปที่นั่นด้วย!”

 

[ท้องฟ้าที่นั่นดูมืดมน] นาหลันหมิงสื่อถามในหัวข้อย่อย [ฝนตกบ่อยมั้ย?]

 

“ไม่เท่าไร” ฟางฉีกล่าว “อย่างน้อยก็ยังไม่ตกหลังจากที่ข้ามาถึง”

 

“โอ้ข้าจะแนะนำพนักงานใหม่ของสาขานี้ให้พวกเจ้ารู้จัก!” ฟางฉีกวักมือเรียกซูโม “ซูโมมานี่เร็ว”

 

เขาดึงซูโมเข้ามาและพูดต่อว่า “นี่คือซูโมน้อยพนักงานใหม่ของสาขานี้!”

 

“หัวหน้า .. ท่านกำลังพูดกับใครหรือ?” ซูโมเอ่ยถามเบาๆ

 

ฟางฉีได้อธิบายให้เขาฟังเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดและการใช้อินเตอร์เน็ต เขารู้สึกประหลา่ดใจอย่างมาก “หัวหน้า ท่านหมายถึงว่าการสนทนาของเราที่นี่สามารถถ่ายทอดผ่านเวทย์มนตร์ทางจิตวิญญาณไปยังสถานที่ซึ่งอยู่ห่างออกไปนับหมื่นกิโลเมตรน่ะหรอ!?”

 

ซูโมรู้สึกประทับใจไม่น้อย “ร้านของเราสุดยอดมาก!”

 

ผู้คนมองดูชายคนนี้ที่ปรากฏตัวบนจอขนาดยักษ์ เขาดูอายุประมาณสิบห้าปี และกำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต เขาสูงประมาณร้อยหกสิบเซน

 

“พนักงานใหม่ของเจ้าช่างตัวเล็กมาก!” ซงฉิงเฟิงมองชายหนุ่มที่กำลังโบกมือ

 

“เขากำลังเติบโต” ฟางฉีเดินไปพร้อมกับซูโม “ไปที่อื่นกันเถอะ”

 

“เอ่อ ท่าน .. เราลืมปิดร้าน” ซูโมเอ่ยเตือนเขาเบาๆ

 

“อ่า ชิบละ!!” ฟางฉีเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาลืมผิดร้าน เขาไม่ได้กังวลว่าจะมีใครเข้าไปยุ่งหยาม แต่เขากลัวว่าจะเจอศพที่กองเกลือนอยู่บนเพื่อนเมื่อกลับไปตั้งหาก!

 

“งั้นกลับกันเถอะ!” ฟางฉีโบกมือให้ทุกคนที่กำลังดูการถ่ายทอดสด “วันนี้ข้าจะให้พวกเจ้าได้ดูเมืองครึ่งคราวๆ”

 

“นี่คือเมืองชั้นในและที่นี่มีผู้ปลูกฝังไม่น้อย” ฟางฉีชี้ไปที่ถนนที่ปูด้วยหินสีขาว

 

“ที่นั่นดูเหมือนเมืองแห่งผู้ฝึกฝนมากกว่ายูจิงเสียอีก” ซัวเต๋าพึมพำแสดงความเห็น

 

“นั่นสัตว์ร้ายกำลังดึงรถม้า .. พวกมันดูเหมือน”

 

“พวกมันเหมือนมังกรปีศาจ!” ซูเทียนจิกล่าว “พวกมันคือมังกรปีศาจจากอาณาจักรแม่น้ำซื่อสัตย์”

 

“ช่างน่ารังเกียจ พวกเขาใช้ปีศาจดึงรถแทนม้า!”

 

“ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีเมืองแบบนี้ด้วย” เยซงเต๋าพูดขึ้น “แต่ดูเหมือนที่นั่นจะห่างไกลจากเรามาก..”

 

 

ดวงตาของซูโมไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่เขาชอบหรี่ตามันจึงทำให้เขาดูคล้ายว่าง่วงนอนตลอดเวลา .. เขาหรี่ตาเพราะรู้สึกไม่สบายตาเมืองเห็นแสงสว่างและความรู้สึกนี้เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่เขาได้รับสาระสำคัญทางจิตวิญญาณบางอย่างในร่างกาย

 

อย่างไรก็ตามสายตาของเขาดีมาก “เจ้านาย .. ข้ารู้สึกเหมือนเห็นบางอย่างอยู่หัวมุมที่เราเดินผ่านมา”

 

เขากระพริบตาเพื่อเรียกสติ

 

“คืออะไร?” ฟางฉีเดินต่อไป เขาจำได้ว่าเหมือนเคยมาที่นี่มาก่อนและมันค่อนข้างไกล มุมข้างหน้าของพวกเขาไกลออกไปจากเดิม มีเพียงไม่กี่คนที่ผ่านเส้นทางนี้

 

[ท่าน! มีคนอยู่ข้างหลัง ที่ท่านเพิ่งเดินผ่านมาเมื่อกี้] ขณะเดียวกันผู้ชมส่งความเห็นเพราะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

 

“อะไรกัน?” ฟางฉีมองไปรอบๆ “มีคนกำลังตามเรา?”

 

ขณะเดียวกันผู้ปลูกฝังหัวล้านเดินออกมาอย่างกล้าหารพร้อมผู้ปลูกฝังอีกคนที่หน้าเต็มไปด้วยกระ แต่ .. ที่ด้านหลังเองก็ยังคงมีผู้ปลูกฝังบางคนที่ยืนแอบมองพวกเขาอยู่

 

“เจ้าหนูน้อย เจ้าดูฃ่ำซ่ำนะ”

 

“สมาคมเกมเชื่อมต่อสวรรค์? พวกเจ้านี่ช่างจองหอง!”

 

“แทนที่จะเสียคริสตัลไปหลายพัน ส่งมาให้พวกเราซะดีกว่า!” ผู้ปลูกฝังพูดด้วยความเกลียดชังราวกับว่าฟางฉีไปแตต้องเงินของพวกเขา

 

“เจ้ามีเงินเยอะมากงั้นหรอ?” ผู้ปลูกฝังหัวร้านเดินพุ่งมาทางฟางฉีเขาชกหมัดกระแทกผนังข้างฟางฉีและยิ้มด้วยรอยยิ้มเย็นชา “รวยแบบนี้ ไม่มีให้พวกเรายืมบ้างหรอ?”

 

เวลาเดียวกันผู้ชมที่กำลังดูการถ่ายทอดสดต่างอ้าปากค้าง

 

“ชิบละ!” พวกเขากำลังท้าทายเจ้าของร้าน

 

“ไม่สิ นี่เป็นการปล้น!”

 

“พวกเขากล้าปล้นคนในเมืองหรอ!?”

 

“เจ้าของจะเอาชนะพวกเขาได้มั้ย?”

 

“โอ้ย! ต้องนะสิ” เสียงกรีดร้องดังขึ้น

“พวกเจ้าช่วยเขาได้มั้ย” เจียงเสี่ยวหยูถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแอ

 

“เราจะทำอะไรได้” ซูเทียนจิมีสีหน้ากังวล “เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นั่นไกลแค่ไหน!”

 

พวกเขาพูดถึงบางสิ่งอะไรสักอย่างเกี่ยวกับสมาคมเชื่อมต่อสวรรค์ มันคืออะไร? แล้วทำไมพวกเขาถึงโกรธ? ทุกคนในร้านมองหน้ากันอย่างสับสน