“น่ารังเกียจ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของหยางเฟิงก็เปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด
เจ้าเจี้ยนเฟิง ความรู้สำหรับการป้องกันการสืบค้นหามันช่างเก่งจริงๆ!
เมื่อมองที่เขาลักพาตัวลูกสาวข้าในครั้งนี้ น่าจะเป็นการวางแผนมานานแล้ว
เสือขาวพูดอย่างเสียงเยือกเย็น “ท่านแม่ทัพ !ท่านจะให้ข้าระดมกำลังพลทหารให้หรือไม่”
หยางพั่นพั่นเป็นใครกันแน่?
เป็นลูกสาวของเทพหยางเฟิง?
เจ้าหญิงน้อยแห่งประเทศ!
เจี้ยนเฟิงบังอาจลักพาตัวคุณหนูหยางพั่นพั่น จะต้องให้มันมารับโทษ!
หยางเฟิงครุ่นคิด ก่อนจะพูดพร้อมพยักหน้า “ช่างมันเถอะ! หลังจากนี้สามวัน ข้าจะไปพบเจ้าเจี้ยนเฟิงที่เกาะเจียงซินด้วยตนเอง”
เสือขาวพูดอย่างลังเล “แต่ว่า ข้าเกรงว่าเจ้าเจี้ยนเฟิงจะทำร้ายคุณหนูพั่นพั่น”
“ไม่ต้องกลัวไป! ถ้าหากเจ้าเจี้ยนเฟิงมันฉลาดล่ะก็ มันรู้ดีว่าต้องทำอย่างไง”
“ท่านแม่ทัพ นี่มัน……”
เสือขาวอยากจะพูดต่อ แต่ทว่าหยางเฟิงพูดตัดบทเขา
เขาพูดเยือกเย็น “เจ้ากับหม่าตงสำหรับหน้าที่ตรงนี้ ข้าให้พวกเจ้าไปสร้างเมืองเหล็กให้กับเมืองตงไห่ ข้าไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก”
“รับทราบ!”
เสือขาวและหม่าตง ไม่กล้าที่จะขัดขืนกับคำสั่ง จึงทำได้แต่รับทราบและหันหันหลังไปจัดการ!
ทันใดนั้น
เมืองตงไห่ก็ได้เกิดเสียงดังขึ้น
ทรัพยากรจำนวนมหาศาลนับพันล้าน เงิน จำนวนคน ระดมมาทั้งหมด!
หยางเฟิงยืนอยู่กับที่ ก่อนจะหรี่ตาและพึมพำ “เจี้ยนเฟิง ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง…”
หลังจากเสียงสิ้นสุดลง โทรศัพท์ในมือของเขาก็แตกเป็นผง
ชานเมืองของเมืองตงไห่
ในสถานที่โรงงานอุตสาหกรรมร้าง
สถานที่นี้มีแทบจะไม่มีผู้คน
ที่แม้แต่คนจรจัดก็แทบจะไม่มีอยู่ในสถานที่แห่งนี้
ในตอนนี้
ในโรงงานร้าง หยางพั่นพั่นนั้นโดนจับมัดแขนมัดขา และถูกจับนั่งไว้กับพื้น
เธอเบิกตามองกว่าไปที่เจี้ยนเฟิง ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “คุณลุง ทำไมคุณลุงต้องจับหนูด้วย? คุณลุงมีปัญหากับพ่อของหนูใช่มั้ยคะ?”
เจี้ยนเฟิงมองไปที่หยางพั่นพั่น ก่อนจะส่งสายตาอย่างที่อดไม่ได้
ถึงแม้ในช่วงเวลานี้เขาจะอยู่กับหยางพั่นพั่นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ทำให้เขารู้สึกได้ว่า หยางพั่นพั่นนั้นเป็นเด็กที่น่ารักและฉลาดเอามากๆด้วย
แต่ว่าจางเว่ย เคยพูดสัญญาและปฏิบัติต่อเขา ความจิตใจดีของเขาสำคัญกว่าท้องฟ้า!
แต่ความดี ไม่สามารถที่จะล้างแค้นได้!
เจี้ยนเฟิงถอนหายใจและเอ่ย “ใช่แล้วล่ะ! พ่อของเจ้าฆ่าหัวหน้าของข้า ดังนั้นข้าจะมาล้างแค้นพ่อเจ้า”
หยางพั่นพั่นหนักหน้า “อ้อ! คุณลุง ถ้าอย่างงั้นคุณลุงจะฆ่าหนูไหม?”
ถ้าหากเป็นเด็กคนอื่น น่าจะกลัวจนฉี่รดกางเกงไปแล้ว
แต่ทว่าหยางพั่นพั่น ตั้งแต่เล็กจนโตก็อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทรหดเช่นนี้
โดนตระกูลเย่ตบดี และดูถูก!
เลยทำให้เธอนั้นมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าเด็กปกติทั่วไปในวัยเดียวกับเธอ
เธอรู้ว่า ถ้าหากร้องไห้งอแงขึ้นมา จะทำให้คนที่ลักพาตัวมานั้นทำร้ายเธอได้
จึงทำได้แค่นิ่งเงียบ ถึงจะมีโอกาสอยู่รอด
เจี้ยนเฟิงมองไปที่หยางพั่นพั่น ก่อนจะหนึ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “ไม่ได้! รอให้สามวันก่อน รอข้าพบเจอกับพ่อเจ้าก่อน ข้าถึงจะปล่อยเจ้าไป!”
เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เจี้ยนเฟิงหยิบผ้าขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆใช้มันเช็ดลงไปที่ดาบของเขาอย่างระมัดระวัง
แสงสะท้อนดาบที่เต็มไปด้วยความดุดัน
แสงด้าบที่สะท้อนวิบวับออกมา!
หลังจากนั้นสามวัน ก็ถึงวันที่ต้องพบกับหยางเฟิง
เขารู้ดีว่าชีวิตของเรานั้น ไม่สามารถคาดเดาความตายได้!
หยางพั่นพั่นเบิกตาโตมองอย่างสงสัยไปที่เจี้ยนเฟิง
เธอรู้สึกว่าคุณลุงคนนี้ มีอย่างที่ไม่เหมือนเดิมไป
……
เวลาสามวัน ใช้เวลาไม่นานก็ผ่านไป
หยางเฟิงแต่งเสื้อผ้าเสร็จ ก็เตรียมพร้อมที่จะออกจากคฤหาสน์ เพื่อจะเดินทางไปที่เกาะเจียงซิน
เย่เมิ่งเหยี่ยนได้ถามอย่างรีบร้อนพร้อมทั้งดวงตาแดง “ที่รัก คุณจะต้องช่วยพั่นพั่นกลับมาให้ได้นะ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับพั่นพั่น ข้าคงจะไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป…..”
ในเวลาสามวัน ไม่รู้ว่าเย่เมิ่งเหยียนนั้นได้ร้องไห้ไปกี่รอบแล้ว
เพียงแค่นึกถึงไม่สามารถคาดเดาชีวิตของลูกสาวตนเองได้ นางก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลออกมา
หยางเฟิงเดินเข้ามา ก่อนจะช่วยเช็ดน้ำตาให้เย่เมิ่งเหยียน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ที่รัก คุณวางใจเถอะ ผมจะต้องพาพั่นพั่นลูกสาวของเรากลับมาให้ได้!”
เสียงพูดดังราวกับเสียงของกระทบกับโลหะ
เสียงคำพูดที่แกร่งกล้า
ทำให้เย่เมิ่งเหยียนมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก