ประโยคของเทาเท่นี้เป็นคำขู่เตือนอย่างโจ่งแจ้ง เนมากับผู้ช่วยผู้กำกับตื่นตระหนกทันที
ละครทุกเรื่องของฟอเรนากรุ๊ปจะไม่ใช้พวกเขาแล้ว?
งั้นเท่ากับว่าพวกเขาถูกแบนไปครึ่งหนึ่งแล้วใช่ไหม?
และถ้าเรื่องที่ฟอเรนากรุ๊ปไม่ใช้พวกเขาอีกแล้วถูกพูดออกไป ละครเรื่องอื่นก็จะเลี่ยงพวกเขา นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาตกงานเหรอ?
น้ำเสียงและอาการของเทาเท่ไม่เหมือนล้อเล่นสักนิด ผู้ช่วยผู้กำกับมองไปที่ซูซีอย่างขอความช่วยเหลืออีกครั้ง แต่กลับเห็นซูซีละสายตาหนีไม่สนเขา
เขาอดไม่ได้ที่จะขาอ่อน นั่งลงไปกับพื้น
สีหน้าของเนมาก็ซีดขาวไป รีบไปอ้อนวอนเทาเท่:“ประธานเทาเท่ พวกเราขอโทษ พวกเราขอโทษ!”
“เรื่องนี้ล้วนเป็นความผิดของพวกเรา พวกเราไม่ควรรังแกคุณหลินจือ พวกเราสมควรแล้ว!”
เนมากับผู้ช่วยผู้กำกับยังจะกล้าให้โจมอนขอโทษที่ไหนกัน ทันใดนั้นท่าทีก็เปลี่ยนไป ได้แต่ขอให้เทาเท่ปล่อยพวกเขาไป
ใครจะไปคิดได้ว่าซูซีจะไม่ยอมรับ และใครจะไปคิดล่ะว่าเทาเท่จะโกรธแบบนี้?
เนมามองออก เทาเท่ไม่ได้เอาซูซีมาใส่ใจมากนัก
ตั้งแต่ซูซีเข้ามา เทาเท่ก็มองเธอเล็กน้อย มองหลินจือคนเขียนบทนี้มากกว่าเยอะเลย
เทาเท่พูดกับเนมาอย่างเบื่อหน่าย:“คนที่คุณมีเรื่องด้วยไม่ใช่ผม ขอโทษผมมีประโยชน์อะไร?”
เนมาเข้าใจความหมายของเทาเท่ทันที ดึงผู้ช่วยผู้กำกับที่อยู่ตรงพื้นขึ้นมา เดินมาตรงหน้าหลินจือแล้วพูดอย่างจริงใจ:“คุณหลินจือ ขอโทษนะ เป็นความผิดของพวกเราสองคนเอง หวังว่าคุณจะใจกว้าง ยกโทษให้พวกเราครั้งนี้ ความรับผิดชอบของโจมอนพวกเราก็ไม่เอาแล้ว”
“ถ้าพวกคุณอยากให้พวกเรารับผิดชอบ ตีพวกเราอีกหมัดพวกเราก็ยอม”
แค่อย่าแบนพวกเราทำให้พวกเขาไม่มีงานก็พอ
อารมณ์ของหลินจือนิ่งลงนานแล้ว เธอเก็บความรังเกียจในดวงตาของเธอแล้วพูดว่า:“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรับคำขอโทษของพวกคุณ”
แค่พวกเขาไม่แกล้งโจมอนอีก หลินจือก็ได้ทั้งนั้น
อีกอย่าง คนที่ควรขอโทษจริงๆ ก็ไม่ใช่พวกเนมาสองคนนี้
ให้ตายยังไงซูซีก็ไม่ยอมรับว่าเธอชักจูงอยู่ข้างหลัง แต่หลินจือเชื่อว่าตอนที่ผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้นถูกชกแล้วขอร้องจนพูดออกมาเป็นความจริง
เทาเท่ไม่คิดจะเอาความกับซูซีเลย ซูซีบอกว่าเธอไม่ได้ทำ เขาก็ไม่พูดอะไรอีก เธอติดใจเอาความเนมาสองคนนี้ จะมีความหมายอะไรล่ะ
หลินจือพูดจบแล้ว เทาเท่ก็มองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง เหมือนไม่พอใจอย่างมากที่เธอไม่ติดใจเอาความ
แต่ทั้งกระบวนการนี้หลินจือไม่ได้มองเทาเท่ เทาเท่ก็ได้แต่ปล่อยไป
เธอไม่เอาความก็ช่างแล้ว วันข้างหน้าเขาค่อยจัดการพวกเนมาก็พอ
ในเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจเอาความกันแล้ว งั้นข้อพิพาทนี้ก็จบลง ผู้รับผิดชอบทางสถานีตำรวจก็เช็ดเหงื่อที่หน้าผากแล้วจึงส่งเทาเท่ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้และยังมีไอดอลชื่อดังกับพวกผู้กำกับ
เนมาประคองผู้ช่วยผู้กำกับเกิดรถแล้วออกไป ส่วนโจมอนกลับออกไปกับผู้จัดการ
โจมอนอยากพาหลินจือไปด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรผู้จัดการเขาก็ไม่ยอม
วันนี้ผู้จัดการเขาตกใจกลัวกับเรื่องของเขาในวันนี้ไปหมด ไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้หลินจือแน่
ครั้งที่แล้วเขาไปเยี่ยมหลินจือกลางดึกจนถูกแฟนๆขวางอยู่ในอาคารก็ทำให้ปวดหัวมากพอแล้ว วันนี้นึกไม่ถึงว่าจะชกคน ผู้จัดการของโจมอนคิดว่าเป็นแบบนี้ต่อไปโรคหัวใจกำเริบแน่
หลินจือมีคนมารับ เดี๋ยวนานิก็มาถึงแล้ว
ดังนั้นเธออยู่หลังสุด และยืนอยู่ตรงมุมหน้าโรงพักคนเดียว เพื่อไม่ให้ซูซีพุ่งเล็งอะไรอีก
ซูซีเทาเท่และควีนสามคนนี้ออกมาด้วยกัน ซูซีอธิบายกับเทาเท่ด้วยตาแดงก่ำ:“เทาเท่ คุณเชื่อฉัน ฉันไม่ได้ทำจริงๆ”
หลินจือแอบหัวเราะในใจ ทำหรือไม่นั้นในใจของซูซีรู้ดีที่สุด
เทาเท่ไม่สนใจซูซี แต่หันไปกำชับควีน:“เธอขับรถของคุณซูซีไปส่งเธอกลับด้วย”
เทาเท่เรียกคุณซูซี ดูห่างเหินมาก
ซูซีรีบดึงเขาไว้อย่างตื่นตระหนก:“เทาเท่——”
หลายปีมานี้เทาเท่เอาแต่เรียกเธอว่าซี ตอนนี้จู่ๆมาเรียกเธอว่าคุณซูซี ซูซีจึงรู้สึกขนหัวลุก
ถึงแม้เมื่อกี๊เทาเท่จะไม่ว่าอะไรเธอ แต่เธอก็คิดว่าเทาเท่รู้ทุกอย่าง
เทาเท่เหลือบมองไปที่ควีน ควีนดึงซูซีไปทันที:“คุณซูซี ไปเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งคุณ”
ชัดเจนว่าเจ้านายอยากอยู่เพื่อไปส่งหลินจือ เธอจึงรีบเอาซูซีออกไป
ซูซีตามควีนออกไปอย่างไม่เต็มใจแล้ว เทาเท่จึงเงยตาขึ้นมองหลินจือที่อยู่ตรงมุม
เธอยืนตรงนั้นคนเดียว เหมือนโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว
อยู่ตามลำพัง ทำให้คนรู้สึกสงสาร
ถึงครั้งที่แล้วจะทะเลาะจนรู้สึกแย่สุดๆ แต่เทาเท่ก็ตัดสินใจพูดก่อน:“ขึ้นรถ ผมจะไปส่งคุณ”
หลินจือรู้สึกกระแนะกระแหนสุดๆ:“ไม่รบกวนหรอกค่ะ”
หลินจือทนไม่ไหว จึงแดกดันใส่เทาเท่อย่างทนไม่ไหวว่า:“ประธานเทาเท่ คุณกับซูซีร่วมมือกันดีเสียจริงนะคะ เธอรับหน้าที่ทำร้ายฉัน ส่วนคุณรับหน้าที่ปลอบฉัน พวกคุณคิดว่าฉันต่ำต้อยขนาดนี้เลยเหรอคะ?”
หรือพวกเขาคิดว่า เธอหย่ากับเทาเท่แล้วจะอยู่ไม่ได้ เทาเท่พูดดีๆสักหน่อย เธอก็ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้?
สำหรับที่หลินจือคิดว่าเขากับซูซีร่วมมือกัน เทาเท่ขมวดคิ้วแล้วอธิบายให้ตัวเอง:“คุณหมายความว่าไง?ผมไม่รู้ว่าซูซีจะทำเรื่องแบบนี้กับคุณ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
หลินจือยิ้มเยาะไปว่า:“คุณรู้หรือไม่ คุณรู้ดีที่สุด”
ชัดเจนว่าไม่เชื่อว่าเขาบริสุทธิ์
เทาเท่กำลังจะอธิบายอะไรอีก รถโดยสารส่วนตัวของนานิก็มาถึง
นานิรีบลงมาปิดหลินจือไว้ตรงหน้า:“หลินจือ อย่าเสียเวลากับคนแบบนี้เลย พวกเราไปกันเถอะ”
นานิพูดไปก็ดึงหลินจือไป หลินจือก็ไปกับนานิ
แต่เดินไปไม่กี่ก้าวจู่ๆเธอก็หยุดลง เธอหันไปมองที่เทาเท่ พูดทีละคำ:“ถึงคุณไม่รู้จริงๆ คุณก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ไม่ใช่เหรอ?”
“เพราะว่าคุณตามใจซูซี ทำให้เธอเย่อหยิ่งแบบนี้ เพราะว่าคุณเคยไม่เคารพฉัน จึงทำให้เธอรังแกฉันได้ตามใจชอบ”
หลินจือทิ้งคำนี้เสร็จก็ขึ้นรถโดยสารส่วนตัวของนานิรถสีขาวพาสองสาวออกไป
เทาเท่ยืนอยู่ตรงนั้น ลึกลงในแววตาซ่อนเรื่องราวเอาไว้
หลินจือพูดถูก มันเป็นความผิดของเขาทั้งหมด
เวลานี้สายของเจเทาวน์โทรมา เทาเท่รับแล้วจึงพูดอย่างทนไม่ไหวว่า:“ผมรู้คุณจะพูดอะไร ต่อไปผมจะไม่จ้างพวกเนมาอีก”
“แบบนี้ดีที่สุด”เจเทาวน์พูด“ผมไม่สนว่าต่อไปพวกคุณจะจ้างไหม ผมรู้แค่ว่าเรื่องนี้ผมไม่เห็นด้วยที่จะจ้างพวกเขา”
“ผมตัดสินใจแล้วผู้กำกับของเรื่องนี้ ผมจะรับผิดชอบเอง”เจเทาวน์พูดอีกครั้ง
เทาเท่ถอนหายใจเล็กน้อย:“เจเทาวน์ คุณจริงจังเหรอ?”
เทาเท่ไม่ได้สงสัยความสามารถในการเป็นผู้กำกับของเจเทาวน์ คนอย่างเจเทาวน์ที่ถ่ายหนังละครมาสิบยี่สิบปี สามารถแสดงและกำกับได้
ที่เขาสงสัยคือ น้ำใจที่เจเทาวน์มีต่อหลินจือ นั้นจริงจังหรือไม่
ผู้กำกับเป็นงานที่หนัก เจเทาวน์เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องหลินจือที่เป็นคนเขียนบท?