ตอนที่ 394 โดนควบคุม

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 394 โดนควบคุม

“เจ้ากำลังข่มขู่เปิ่นหวางอยู่หรือ ? ” สถานการณ์ในห้องมิได้เหมือนกับที่อันหลิงเกอคิดไว้เลยเพราะใบหน้าของมู่จวินฮานเย็นชาขณะที่บีบคางของฟางซู่ซู่เอาไว้

“ซู่ซู่มิกล้า เพียงอยากเตือนท่านอ๋องว่าพิษหนอนกู่ที่อยู่ในกายของพระชายารุนแรงกว่าที่ระบาดตอนนี้มาก หากมิเชื่อ ท่านอ๋องจักลองดูก็ได้เจ้าค่ะ” กล่าวจบนางก็หยิบกล่องเล็ก ๆ กล่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋าอกเสื้อ

มู่จวินฮานเห็นสิ่งที่ดิ้นอยู่ภายในกล่อง สิ่งแรกที่อยากทำคือเงื้อกระบี่และฟันใส่มันให้ตายเสียตรงนี้ ทว่าฟางซู่ซู่เอ่ยปากขึ้นมาก่อน

“นี่มิใช่หนอนธรรมดา หากท่านอ๋องฆ่ามันแล้ว พระชายาก็คง…”

พูดจบแล้วฟางซู่ซู่ก็ใช้นิ้วมือบีบไปที่ลำตัวของหนอนตัวกลม ครู่เดียวก็มีเสียงจากด้านนอกประตูดังเข้ามา

“พระชายาระวัง บ่าวเดินไปส่งเองขอรับ ! ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นมู่จวินฮานก็อดร้อนใจขึ้นมามิได้ ทว่าก็มิสามารถก้าวออกไปดู

“เจ้าต้องการสิ่งใด ! ” มู่จวินฮานคาดมิถึงว่าวันหนึ่งจักถูกสตรีควบคุมไว้เช่นนี้

“ข้าและท่านปู่ออกมาจากแคว้นชิงเยว่แล้วย่อมมิคิดกลับไปอีก เพียงแต่…” นางเก็บกล่องเอาไว้ตามเดิม “เพียงแต่ข้าต้องเก็บหนอนตัวนี้ไว้ให้ดี มิเช่นนั้นจักรับประกันจิตใจของท่านอ๋องได้เยี่ยงไร ? ”

เมื่อเห็นท่าทางของฟางซู่ซู่แล้ว มู่จวินฮานก็อดขมวดคิ้วมิได้

เขาคาดมิถึงว่าฟางซู่ซู่จักกล้าทำเรื่องเช่นนี้

ตอนแรกที่เขาโดนท่านหมอฟางบีบบังคับ เขาเองก็ทราบถึงฐานะของสองคนนี้ดี แต่คาดมิถึงว่าตอนที่หมอฟางจัดยามาให้ ฟางซู่ซู่ยังใช้วิธีต่ำช้าเยี่ยงนี้ด้วย

นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขามิอาจปฏิเสธการแต่งนางเข้าจวน

คนที่อยู่เบื้องหลังสองปู่หลานนี้ เขาก็รู้ดีว่าเป็นใคร !

ผู้ที่กล้าร่วมมือกับคนของแคว้นชิงเยว่ ทั้งยังทำเช่นนี้กับเขาย่อมมีเพียงฮ่องเต้พระองค์เดียว !

ความคิดของฮ่องเต้นั้นมู่จวินฮานทราบดี คือด้านหนึ่งอยากบีบเขา อีกด้านหนึ่งก็อยากที่ทดสอบ ‘ของล้ำค่า’ ที่มาจากแคว้นชิงเยว่

บัดซบ !

หากทุกอย่างมาลงที่เขาเองก็คงมิเป็นไร แต่ตอนนี้มันอยู่ในกายของอันหลิงเกอ

“ช่างเถิด วันที่กลับบ้านเดิมก็หวังว่าท่านอ๋องจักดูแลซู่ซู่อย่างดีเจ้าค่ะ”

ฟางซู่ซู่ยิ้มออกมาเบาบาง ใบหน้าเต็มไปด้วยมารยาและความพึงพอใจ

การได้รับภารกิจเพื่อบีบบังคับมู่จวินฮานเช่นนี้ ชีวิตของนางก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

“ชิงเฟิง ! ”

เมื่อฟางซู่ซู่จากไปแล้ว มู่จวินฮานจึงเรียกชิงเฟิงเข้ามา

“เมื่อครู่พระชายาเป็นอย่างไรบ้าง ? ” สีหน้าของมู่จวินฮานแสดงถึงความกังวล ชิงเฟิงก็ทราบดีว่าหากมิได้ทำเพื่อพระชายา ท่านอ๋องมิมีทางโดนคนอื่นข่มขู่ได้แน่นอน

“เรียนท่านอ๋อง เมื่อครู่พระชายาบอกว่าเจ็บที่หัวใจขอรับ” ชิงเฟิงตอบตามความจริง

“จงสอบสวนพวกสายลับแคว้นชิงเยว่ที่จับตัวไว้อย่างหนัก ห้ามให้ตายแม้แต่คนเดียว ! ” มู่จวินฮานขบกรามแน่น สถานการณ์ในตอนนี้เขาต้องรีบกำจัดพิษหนอนกู่ในตัวของนางโดยเร็วที่สุด

“รีบสืบเรื่องหนอนกู่ให้เร็วที่สุดด้วย ! ”

“รับทราบขอรับ ! ”

ชิงเฟิงทราบดีว่าปัญหานี้ร้ายแรงเพียงใด แม้คนที่อยู่เบื้องบนจักมิทำร้ายสองสามีภรรยาจนตาย ทว่าแค่ทำให้พระชายาเจ็บปวดก็สามารถทำให้ท่านอ๋องทุกข์ทรมานได้แล้ว

เวลาผ่านไปมินานก็ถึงวันที่ฟางซู่ซู่กลับไปเยี่ยมบ้านเกิด มู่จวินฮานและฟางซู่ซู่นั่งรถม้าคันเดียวกัน ส่วนอันหลิงเกอนั่งอยู่อีกคันราวกับคนที่ตกต่ำ

“เหตุใดจึงมิมีคนออกมาต้อนรับเลย ? ” ฟางซู่ซู่ที่ลงจากรถม้าก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา

แม้ตระกูลของนางมิได้ร่ำรวย แต่อย่างไรก็ยังมีคนใช้อยู่บ้าง

ท่านปู่น่าจักเตรียมให้พวกเขาออกมาต้อนรับแล้วมิใช่หรือ ?

อันหลิงเกอเดินลงจากรถม้า เมื่อมองไปที่ประตูของตระกูลฟางก็คิดบางอย่างขึ้นมา

“เชิญท่านอ๋องและพระชายาเข้าไปด้านในก่อนเจ้าค่ะ ภายในเรือนอาจมีคนมิพอจึงละเลยเรื่องนี้ไปบ้างเจ้าค่ะ” ฟางซู่ซู่ก็มิได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้มากนัก ขอแค่มีหนอนตัวนั้นอยู่ในมือ นางก็สามารถควบคุมทุกอย่างได้แล้ว

นางจึงมิจำเป็นต้องสนใจเรื่องภาพลักษณ์อันใดอีก

“ท่านปู่อยู่ไหนเจ้าคะ ? ”

ภายในเรือนดูสงบเงียบ ทว่าอันหลิงเกอกลับได้กลิ่นคาวเลือดลอยออกมา

มู่จวินฮานอยู่ในสนามรบมานานย่อมรู้สึกได้ถึงไอสังหารที่คละคลุ้งอยู่ด้วยเช่นกัน

เมื่อประตูห้องโถงถูกชิงเฟิงผลักออก ท่าทางของทุกคนก็เตรียมพร้อมป้องกันตัว มีเพียงฟางซู่ซู่ที่ยังตามหาคนไปทั่ว

“กรี๊ด ! ”

เมื่อเข้าไปด้านในก็พบว่าเต็มไปด้วยศพ ส่วนศพของท่านหมอฟางถูกแขวนไว้บนคาน ช่างน่าเวทนายิ่งนัก

“ท่านปู่ ! ” ฟางซู่ซู่พุ่งตัวเข้าไป ใต้ฝ่าเท้าของนางเต็มไปด้วยศพของบ่าวรับใช้

“ไม่ ทำไม เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ไม่ ! ”

นางส่ายหน้าและก้าวถอยหลังออกมาแต่มิสามารถเอ่ยประโยคใดออกมาได้เลย

พวกนางมิได้ทำอันใดผิด เหตุใดต้องถูกสังหารยกครัวเช่นนี้ !

“ส่งพระชายากลับจวน ! ” มู่จวินฮานสั่งชิงเฟิงเพราะเขาต้องอาศัยโอกาสนี้สืบเรื่องของหนอนกู่จากฟางซู่ซู่และย่อมมิอาจให้อันหลิงเกออยู่ที่นี่ได้

“ทำไมเจ้าคะ” อันหลิงเกอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

นางรู้สึกเหมือนมู่จวินฮานมีบางอย่างปิดบังนางอยู่ แต่มิรู้ว่าคือเรื่องใด

“กลับไป ! ” น้ำเสียงของมู่จวินฮานเฉียบขาดกว่าเมื่อครู่ แม้อันหลิงเกอมิเต็มใจก็รู้ดีว่าตนอยู่ที่นี่ก็มิสามารถสืบอันใดได้

มิสู้กลับจวนเพื่อสั่งให้องครักษ์เงาไปสืบเองดีกว่า

เมื่อรอจนนางจากไปแล้ว มู่จวินฮานจึงย่อตัวลงข้างกายของฟางซู่ซู่

ศพของท่านหมอฟางถูกวางลงกับพื้นแล้ว ฟางซู่ซู่ก็ร้องห่มร้องไห้จนเหนื่อยเช่นกัน

“พูดมา เขายังให้พวกเจ้าทำอันใดอีก ? ” น้ำเสียงของมู่จวินฮานเย็นชาไร้ความรู้สึก

“มิมีอันใดทั้งนั้น” ฟางซู่ซู่ข่มอารมณ์ไว้ ตอนนี้นางโยนความผิดทุกอย่างไปให้อันหลิงเกอเรียบร้อยแล้ว

หากมิใช่เพราะมัน เรื่องทั้งหมดก็คงมิเกิดขึ้น !

หากมิใช่เพราะมันรักษาพิษหนอนกู่ได้ ท่านปู่ก็ต้องทำยารักษาจนสำเร็จก่อนมันและสามารถบรรลุข้อตกลงกับฝ่าบาทได้

ทว่า…

เพราะเหตุนี้ท่านปู่จึงใช้วิธีที่อันตรายเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของพิษหนอนกู่ให้แก่ฝ่าบาท

ทว่าหนอนกู่ที่อยู่ในมือของพวกนางโดนใช้งานกับอันหลิงเกอ ส่งผลให้ราชาหนอนกู่ที่อยู่ในแคว้นชิงเยว่สัมผัสได้ พวกแคว้นชิงเยว่จึงตามมาถูกและสังหารฆ่าล้างครอบครัวนางเช่นนี้

ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางต้องเผชิญล้วนเป็นเพราะอันหลิงเกอ !

“ท่านอ๋อง ต่อไปถ้าท่านต้องการรักษาชีวิตของพระชายา ท่านต้องปกป้องให้ข้าปลอดภัยเท่านั้นเจ้าค่ะ” อยู่ ๆ ฟางซู่ซู่ก็ยิ้มออกมา “หากคนร้ายสังหารข้าด้วยก็เกรงว่ามิมีผู้ใดถอนพิษนี้ได้แล้วเจ้าค่ะ”

กล่าวจบ ฟางซู่ซู่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเคาะกล่องที่อยู่ตรงเอวของนาง

“หนอนกู่ตัวนี้จักลอกคราบเดือนละ 1 ครั้ง ทุกครั้งที่ลอกคราบตัวก็ใหญ่ขึ้น หากมิรีบนำหนอนกู่ออกมาจากตัวพระชายาแล้ว ภายในสามปีนางต้องตายสถานเดียว”

ฟางซู่ซู่ในตอนนี้ราวกับคนเสียสติ นางสนใจแต่ความพึงพอใจของตนเท่านั้น

สำหรับนางแล้วความเกลียดชังที่มีต่ออันหลิงเกอก็เหมือนการพักใจ

เพราะนางมิสามารถทำอันใดฝ่าบาทได้และไร้วิธีไปแก้แค้นพวกแคว้นชิงเยว่จึงทำได้แค่นำความแค้นมาลงที่อันหลิงเกอ

“เจ้ากล้าหรือ ! ”

มู่จวินฮานนอกจากโมโหแล้วภายในใจก็ยังตำหนิตนเองไปด้วย

หากเขาวางแผนป้องกันไว้ตั้งแต่แรก หมอฟางก็มิสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้และพิษหนอนกู่ก็คงมิมีทางเข้าไปในกายของอันหลิงเกอได้

อันหลิงเกอที่เพิ่งจากไปกลับรู้สึกเจ็บที่หัวใจขึ้นมาเพราะการเคาะของฟางซู่ซู่เมื่อครู่

“พระชายาขอรับ” ชิงเฟิงรีบก้าวเข้าไปหา

“ข้ามิเป็นไร”

อันหลิงเกอตรวจชีพจรของตน แต่มิพบความผิดปกติใดเลย ตลอดสองวันมานี้เหตุใดนางจึงรู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายตลอดเวลา ?

นางยังมิทันได้ไตร่ตรองอย่างละเอียดก็มาถึงจวนเสียก่อน ตระกูลฟางอยู่มิไกลจากจวนมากนัก เมื่อมาถึงแล้ว อันหลิงเกอจึงรีบเรียกองครักษ์เงาของนางมารวมตัวกัน

“ไปตรวจสอบสถานการณ์ของตระกูลฟาง หากมีสิ่งใดผิดปกติให้รีบรายงานท่านโหวอันและให้ท่านตรวจสอบเรื่องของแคว้นชิงเยว่ด้วย”

“รับทราบขอรับ ! ”