บทที่ 498 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
บทที่ 498 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
หลี่หรงมองตามสายตาของเขาไป และพบกับชายวัยกลางคนยืนอยู่กลางทางเดินด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
คนอีกกลุ่มหนึ่งถือกล่องใบเล็กไว้ในมือ
“อย่าทำฉัน! อย่าทำฉันเลย!!”
เสียงแผ่วเบานั้นทำให้สายตาของผู้คนโดยรอบต้องหันมามอง
“ฉันไม่อยาก…”
“สวัสดีค่ะ คุณผู้ชาย มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?”
“คุณคะ กรุณากลับไปนั่งที่เดิมด้วยค่ะ”
พนักงานสายการบินหลายคนเห็นว่าอีกกลุ่มคนหนึ่งมีท่าทีไม่ปกติ จึงรีบก้าวไปข้างหน้า
แต่ชายหนุ่มก็ลุกลี้ลุกลนและไม่ฟังใครทั้งนั้น
“ตาย! ทุกคนตายไปด้วยกันให้หมด!”
หลังจากที่แผดเสียงลั่น เขาก็หยิบปืนพกออกมาจากแขนทั้งสองข้างทันที!
ขณะเดียวกันก็เปิดกล่องออกและเผยให้เห็นสิ่งที่บรรจุอยู่ภายใน
มันคือระเบิด!
เมื่อเห็นดังนั้นอวี้ฮ่าวหรานก็อดทำหน้าบึ้งไม่ได้
เป็นไปไม่ได้เลยที่เรื่องแบบนี้จะทำให้เครื่องบินเดินทางต่อไปได้อย่างราบรื่น
หลี่หรงหวาดผวาและรีบคว้าคนข้างกายเข้ามากอด
“คุณน้ากอดแน่นจนถวนถวนจะหายใจไม่ออกแล้ว”
เด็กสาวตัวน้อยยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ในไม่ช้าทุกคนรอบตัวเธอก็กรีดร้อง ไม่มีใครคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
“ฉันไม่อยากตาย! เร็ว! เร็วเข้า! ใครก็ได้หยุดเขาที”
“มันจบแล้ว มันจบแล้ว… ฉันยังหนุ่มอยู่เลย…”
“…”
สถานการณ์บนเครื่องบินตกอยู่ในความโกลาหล
แม้แต่ชายวัยกลางคนที่หยิบระเบิดออกมาเองก็ตื่นตระหนกอย่างมาก
“ผมไม่อยาก… ผมขอโทษ… ผมขอโทษ…”
ขณะที่ขอโทษขอโพย เขาก็ติดตั้งระเบิดเข้ากับด้านข้างเครื่องบิน เห็นได้ชัดว่ามีบางสิ่งถูกซ่อนเอาไว้
หวังเหยียนหันไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นยะเยือก แต่เขายังไม่แน่ใจว่าจะลั่นไกเมื่อไหร่
ตอนนี้ระเบิดอยู่ในมือของอีกฝ่าย หากเขาช้าไปแม้แต่นาทีเดียว เครื่องบินต้องระเบิดแน่
ที่ระดับความสูงกว่าหมื่นเมตรนั้นอันตรายถึงตาย
ชายหนุ่มรีบติดตั้งสิ่งต่าง ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรออก
“ฮัลโหล ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว…คุณ…คุณปล่อยครอบครัวของผมได้แล้ว…”
“ดีมาก แกทำได้ดีมาก”
เสียงที่ดังออกมานั้นเป็นภาษาจีนแย่ ๆ ชัดเจนแล้วว่าเขาเป็นชาวต่างชาติ
ด้วยสัมผัสเสียงชั้นยอด อวี้ฮ่าวหรานได้ยินคำพูดทั้งหมด
“ทีนี้เปิดเสียงให้ดังที่สุด ฉันอยากคุยกับพวกชาวจีน”
ในไม่ช้า ชายวัยกลางคนก็เปิดลำโพงโทรศัพท์
“สวัสดีทุกคน ฉัน…”
อีกฝ่ายอธิบายเรื่องราวให้ฟัง พ่อค้ากลุ่มหนึ่งเดินทางเข้ามาในเขตแดนของประเทศจีนเพื่อทำภารกิจบางอย่าง แต่ก็ถูกจับกุมด้วยปืนทันทีที่เข้าสู่เขตแดน
“… ตอนนี้พวกเราต้องการให้เจ้าหน้าที่ของพวกแกปล่อยคนพวกนั้นไป”
คำพูดเหล่านี้ถูกส่งต่อไปยังสนามบินอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่กี่นาทีเจ้าหน้าที่ก็ติดต่อมา
“โปรดใจเย็นก่อน…ฉัน…พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะส่งคนพวกนั้นไปที่ชายแดน! แต่คุณต้องรับประกันความปลอดภัยของพวกเราด้วย”
แอร์โฮสเตสคนหนึ่งกล่าวด้วยความหวาดกลัว
เธอทำงานนี้มาหลายปี และนี่คือครั้งแรกที่ต้องเผชิญหน้ากับอะไรแบบนี้
พูดอีกอย่างคือ ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มงวด การใช้กำลังเข้ายึดเครื่องบินนั้นแทบไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย
“ดีมาก… ดูเหมือนว่าชีวิตคนจีนของพวกแกจะยังมีค่าอยู่มาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกแกจะปลอดภัย… อีกอย่าง สิ่งที่พวกแกเคยฉกฉวยไปก็ต้องคืนกลับมาที่เราด้วยเหมือนกัน…”
ชาวต่างชาติที่ปลายสายพึงพอใจ แต่ก็มีเงื่อนไขเพิ่มเติมอีก
ต่างไปจากเดิม คราวนี้เวลาที่ใช้ในการตอบรับคำขอดำเนินไปอย่างเชื่องช้า
“มัวทำอะไรอยู่? ทำไมยังไม่ตอบอีกล่ะ? ถ้าอย่างนั้น ฉันจะให้เขาระเบิดเครื่องบินนะ!”
ชายในโทรศัพท์ดูใกล้จะหมดความอดทน
“คุณได้โปรดใจเย็นลงก่อน พวกเราพยายามติดต่อเบื้องบนแล้ว เดี๋ยวพวกเขาก็ตอบกลับมา”
“ฮิฮิ เจ้าพวกหมูผิวเหลืองกลัวตาย ถ้าไม่ใช่เพราะของพวกนั้น ฉันคงส่งพวกแกไปพบพระเจ้าตั้งนานแล้ว”
ชายที่ปลายสายก่นด่าด้วยคำพูดเหยียดหยาม
ทุกคนในเครื่องบิน รวมไปถึงพนักงานสายการบินทั้งหลายต่างก็เงียบกริบหลังจากที่ถูกชาวต่างชาติพูดจาดูถูกประเทศของตัวเอง ไม่มีใครรู้สึกสบายใจได้ทั้งนั้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้
ในตอนนั้นเอง พลังจิตวิญญาณของอวี้ฮ่าวหรานก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของร่างกายในที่สุด
เช่นเดียวกันกับหวังเหยียน เขารอคอยโอกาสมาตลอด
รอคอยโอกาสที่ไร้ช่องโหว่!
แม้ว่าจะมีโอกาสพลาดเพียงหนึ่งในหมื่น เขาก็จะไม่รีบร้อนเคลื่อนไหวเด็ดขาด
เพราะราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไป
การตกลงจากความสูงระดับหมื่นเมตรนั้น เขาสามารถการันตีได้แค่ชีวิตของตัวเองคนเดียวเท่านั้น
“ตอนนี้แหละ”
เมื่อชายวัยกลางคนผู้กระวนกระวายเดินผ่านอวี้ฮ่าวหรานด้วยโทรศัพท์และเครื่องควบคุมในมือ เขาก็เคลื่อนไหวทันที!
ระหว่างสายฟ้ามากมายราวกับอยู่ท่ามกลางพายุโหมฝนฟ้าคะนอง เขาต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของชายวัยกลางคนอย่างจัง
น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!
เขาต่อยชายวัยกลางคนกระเด็นออกไปทันที
แต่อุปกรณ์ควบคุมในมือของเขาหายไป
อวี้ฮ่าวหรานคว้ามันเอาไว้ ระเบิดจะทำลายทันทีที่ตัวควบคุมถูกปล่อย
อีกฝ่ายหนึ่ง หวังเหยียนซิ่งพุ่งตัวไปยังชายวัยกลางคนทันที
“มันจบแล้ว!”
ด้วยเสียงแผ่วเบา เขาคว้าเอวของอีกฝ่ายไว้และกำจัดสิ่งอันตรายทั้งหมด
ชายวัยกลางคนถูกกดไว้กับพื้น และโทรศัพท์มือถือของเขาหล่นลงบนพื้นใกล้ ๆ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในชั่วลมหายใจ กว่าทุกคนบนเครื่องบินจะได้ตอบสนองทุกอย่างก็จบลงแล้ว
หลังจากนั้น ทุกคนก็เปลี่ยนจากตื่นตระหนกเป็นไม่เชื่อสายตา พวกเขาไม่รู้ว่ใครเป็นผู้ลงมือและเริ่มปรบมือในที่สุด
‘ปะป๊า ปะป๊า…’
หลังจากเสียงปรบมือหยุดลง ชาวต่างชาติที่ปลายสายก็สับสนกับสถานการณ์บนเครื่องบินอย่างเห็นได้ชัด
“ฮัลโหล?? เวรเอ๊ย! มัวทำอะไรกันอยู่? ฉันจะให้เขาระเบิดเดี๋ยวนี้! รีบตอบมาซะ!!”
แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขาอีกแล้ว
“คุณสุภาพบุรุษ…ขอบคุณมาก”
พนักงานสายการบินที่เข้าไปเจรจาก่อนหน้านี้ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วจึงรีบกล่าวขอบคุณทั้งสอง
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้ามั่ว ๆ เขาตรวจสอบอุปกรณ์ควบคุมในมือและปลดกลไกข้างใน เมื่อเห็นว่าไม่มีอันตรายใดอยู่ภายในเครื่องบินแล้ว เขาก็กลับไปนั่งที่เดิม
“เย้! พ่อจ๋าเป็นฮีโร่!”
ถวนถวนโผล่หัวออกมาจากอ้อมแขนแม่และตะโกนลั่น
หลี่หรงกะพริบตาราวกับว่ายังไม่ทันได้ตอบสนอง “มัน… มันจบแล้วเหรอ?”
“ถึงสนามบินแล้วรีบไปกันเถอะ อย่าหยุดเลย”
อวี้ฮ่าวหรานตอบเบา ๆ เขาไม่อยากให้เวลาล่าช้าเพราะเหตุการณ์นี้
ตอนนี้ชายวัยกลางคนถูกมัดไว้แน่น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
”จบแล้ว… มันจบแล้ว ครอบครัวของฉัน…” เขาพึมพำ
เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตนเองเกือบจะคร่าผู้คนหลายร้อยชีวิตไปจากโลกใบนี้
หวังเหยียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากพื้น
“เวรเอ๊ย! ทำอะไรอยู่? รีบตอบมาเดี๋ยวนี้นะ!”
“ฮะ ๆ แกกล้ามาที่จีนไหมล่ะ? ไอ้โง่!”
หลังจากที่หัวเราะเยาะ หวังเหยียนก็วางสายและส่งมันให้กับลูกเรือ
หากจะมาที่ประเทศจีนเพื่อค้าขายแล้ว คุณไม่อยากตายด้วยวิธีแบบนั้นหรอก
หลังจากเหตุการณ์นั้น เครื่องบินก็กลับไปสู่ความสงบสุขอย่างรวดเร็ว