ตอนที่ 253 พิธีอภิเษกสมรสที่แสนวุ่นวาย
อะไรนะ? พิธีอภิเษกสมรส ใครอยากจะแต่งงานกับหมอนั่นกัน!
ซูหวานหว่านครุ่นคิดไม่นานก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ใครก็ได้ไปพาเฉียวหน่วนอวี้ไปเก็บข้าวของแล้วพามาที่นี่!”
ไม่รู้ว่าเฉียวหน่วนอวี้นั้นได้ยินอะไรมา เมื่อนางกลับมายังห้องโถงและพอเจอกับซูหวานหว่านอีกฝ่ายจึงพูดขึ้นมาว่า “ข้าได้ยินมาว่าองค์ชายรองมาสู่ขอข้า! ในเมื่อข้าเป็นนางสนมขององค์ชายสามไม่ได้ ได้เป็นสนมขององค์ชายรองก็ถือว่าดี! คงไม่เหมือนกับใครแถวนี้ที่แม้แต่วังก็ยังไม่เคยได้เข้าไป!”
ระหว่างพูดเฉียวหน่วนอวี้ก็จ้องไปที่แม่จ้าวอย่างโกรธเคือง “ท่านยังคงเป็นแม่ของข้าในนาม ท่านจะต้องปฏิบัติต่อข้าอย่างดี! มิฉะนั้น หากข้าได้แต่งงานเข้าจวนขององค์ชายรองได้เมื่อใด ข้าสามารถทำให้ฝ่าบาทกำจัดกิจการเกลือของตระกูลจ้าวได้!”
“เฮ้อ อย่างไรเสียพ่อแม่เป็นเช่นไร ลูกก็เป็นเช่นนั้น เจ้าก็คงถอดแบบมาจากแม่ของเจ้า ช่างหยิ่งทะนง ชอบดูถูกคนอื่นจากก้นบึ้งของหัวใจ” ซูหวานหว่านกลอกตาพูดออกมาอีกครั้งว่า “ตอนนี้ขันทีไห่ต้องการเจอลูกสาวของตระกูลจ้าว ข้าบอกท่านแม่ว่า ข้าเป็นคุณหนูใหญ่ ส่วนเจ้าเป็นน้อง และนั่นก็หมายความว่าเจ้าเป็นลูกคนรอง! หากตอนนี้เจ้าต้องการแต่งกับคนในราชวงศ์ เจ้าจะต้องพึ่งพาแม่ของข้า! เจ้าอย่าหยิ่งทะนงเกินไปนักเลย หรือกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าเจ้านั้นเป็นฮันเปา*[1]
ถึงแม้ว่าเฉียวหน่วนอวี้จะไม่รู้ว่า ‘ฮันเปา’ หมายถึงอะไร แต่หลังจากได้ฟังจากน้ำเสียงของนาง หญิงสาวก็สามารถรู้ได้ว่ามันต้องไม่ใช่คำที่ดีแน่ ภายในใจของนางโกรธมากแต่นางก็ไม่กล้าพูดสิ่งใดออกไป เพราะแม่หลิวได้ถูกขังไว้ในห้องเก็บฟืนแล้ว นางต้องแกล้งทำเป็นยอม ๆ ไป มิฉะนั้นตระกูลเฉียวของพวกนางได้จบสิ้นแน่!
“พระราชกฤษฎีกาอยู่ที่นี่…” เสียงสูงแหลมคมดังขึ้น ทันใดนั้นก็มีเหล่าคนในเครื่องแบบเดินเข้ามา โดยมีองค์ชายรองที่ยืนอยู่ต่อหน้าฝูงชนในชุดคลุมสีส้มเหลือง ขันทีไห่เดินรุดขึ้นไปด้านหน้า และทุกคนก็นั่งคุกเข่าลง ขันทีไห่กางราชโองการและกล่าวออกมาว่า “ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการตามพระราชกฤษฎีกาของฝ่าบาท ‘ตระกูลจ้าวมีบุตรสาวที่เกิดมาโดดเด่นทั้งในด้านพรสวรรค์ คุณงามความดี และมีคุณธรรม…”
หลังจากที่ขันทีไห่อ่านพระราชโองการเสร็จ ซูหวานหว่านก็เข้าใจทันที พวกเขาจะจัดงานแต่งงานให้องค์ชายรองกับลูกสาวของตระกูลจ้าว
เจาะจงเรียกนางมา ดูเหมือนจะให้นางแต่งงานกับองค์ชายรอง!
ซูหวานหว่านลอบมองฉีเต๋อหลงที่กำลังเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม “ซู…คุณหนูจ้าว ดูเหมือนพวกเราจะมีโชคชะตาต่อกัน”
“ใช่!” ซูหวานหว่านส่งยิ้ม เมื่อเห็นว่าแม่จ้าวอยู่ในอาการตื่นตระหนก หญิงสาวก็เข้าใจทันทีว่าแม่จ้าวไม่ต้องการให้นางแต่งงานกับองค์ชายรอง ดังนั้นนางจึงจับข้อมือขององค์ชายรองและจับมือของเฉียวหน่วนอวี้ที่ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำพร้อมกับพูดว่า “นี่เป็นน้องสาวที่น่ารักของข้า! องค์ชายรองมั่นคง สง่างาม และรูปงาม พวกท่านทั้งสองเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก! พี่สาวคนนี้นั้นรู้สึกมีความสุขมาก ต่อไปองค์ชายรองคงจะนำพาความสุขมาให้กับน้องสาวข้า เมื่อคิดเช่นนี้ข้าก็รู้สึกมีความสุขมากจริง ๆ!”
เมื่อได้ยินแบบนี้ฉีเต๋อก็ขมวดคิ้วแน่น เขาต้องการแต่งงานกับซูหวานหว่าน! ไม่ใช่เฉียวหน่วนอวี้!
“พวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว ที่จริงที่ข้ามาในวันนี้…” ก่อนที่ฉีเต๋อหลงจะได้เอ่ยประโยคถัดไป ซูหวานหว่านพลันใช้โอกาสนี้พูดขัดจังหวะขึ้นมาว่า “น้องสาวที่แสนดีของข้า! ข้าได้ยินข่าวมาว่าตอนนี้เจ้าตั้งครรภ์ลูกขององค์ชายรองอยู่! เหตุใดองค์ชายรองจึงจะไม่มาสู่ขอเจ้าแต่งงานเล่า?! องค์ชายรองคงจะไปคุกเข่าอ้อนวอนต่อฝ่าบาทให้มีราชโองการสมรสแบบนี้ออกมา องค์ชายรองมีความรักที่ลึกซึ้งต่อเจ้ามากจนข้ารู้สึกทึ่ง มันทำให้พี่คนนี้อิจฉามาก!”
นางกำลังท้องงั้นหรือ ทำไมนางถึงไม่รู้เรื่องนี้ เฉียวหน่วนอวี้ตกใจที่ได้ยินแบบนั้น แต่หลังจากที่ได้ยินซูหวานหว่านพูดออกมาแบบนี้ ก็จะส่งผลดีต่อนางเช่นกัน ดังนั้นหญิงสาวจึงเล่นไปตามน้ำ เฉียวหน่วนอวี้มองไปทางองค์ชายรองด้วยใบหน้าน้ำตานองแล้วกล่าวว่า “องค์ชายรอง ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจมาก ต่อไปนี้หน่วนอวี้คนนี้จะคอยรับใช้ปรนนิบัติท่านเป็นอย่างดี”
ฉีเต๋อหลงกัดฟันของตัวเองแน่น และเหลือบมองไปที่ซูหวานหว่าน ดูเหมือนว่านางจะไม่ต้องการแต่งงานกับเขา
ฉีเต๋อหลงกำหมัดแน่น ในใจของเขารู้สึกไม่เต็มเป็นอย่างมาก หากไม่ใช่ข่าวที่ว่าซูหวานหว่านกลายเป็นลูกสาวของตระกูลจ้าว และข่าวที่เฉียวหน่วนอวี้จะโดนฆ่า เขาคงจะไม่ขอให้ฮ่องเต้ออกราชโองการเช่นนี้! และตอนนี้เฉียวหน่วนอวี้ก็กลายเป็นคุณหนูรองของตระกูลจ้าวไปแล้ว แถมในพระราชกฤษฎีกาไม่ได้ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นลูกสาวคนไหนของตระกูลจ้าว และเขาก็ไม่สามารถออกพระราชกฤษฎีกาใหม่ได้ ดังนั้นเขาทำได้เพียงแต่งงานกับคุณหนูรองของตระกูลจ้าว!!
ฉีเต๋อหลงเผยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ชายหนุ่มมองไปที่แม่จ้าวและกำลังจะพูดแย้งคำพูดของซูหวานหว่าน แต่เหล่าคนคุ้มก็เดินเข้ามาโดยมีคุณชายถังเดินนำอยู่หน้าขบวน!
ก่อนหน้านี้เขาก็ได้เคยยินข่าวลือเกี่ยวกับคุณชายถังและซูหวานหว่านมาบ้าง ในตอนนี้คุณชายถังยังมาปรากฏตัวที่นี่ และเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ฉีเต๋อหลงรู้สึกไม่พอใจมาก ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงความอบอุ่นบริเวณหน้าอก เมื่อก้มมองก็เห็นเป็นว่าเฉียวหน่วนอวี้เป็นคนเข้ามากอดตัวเขาเอาไว้!
กล้าทำแบบนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย ช่างดูไม่ดี! ฉีเต๋อหลงผลักตัวเฉียวหน่วนอวี้จากอ้อมแขน ด้วยใบหน้าที่เย็นชาและกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าตระกูลจ้าวคงจะยุ่งมาก งั้นวันนี้ข้าคงจะต้องขอตัวลา”
“เดี๋ยวก่อน! ข้าอยากไปกับท่านด้วย!” เฉียวหน่วนอวี้นึกถึงที่ตัวเองต้องนอนในห้องเก็บฟืนเมื่อคืน นางก็รู้สึกไม่อยากอยู่ที่นั่นจึงรีบคว้าตัวฉีเต๋อหลงเอาไว้ทันที ราวกับว่านางกลัวว่าตัวเองจะถูกทอดทิ้ง ช่างน่าสงสารมาก!
แต่ว่าในสายตาของผู้อื่นที่มามอง การกระทำเช่นนี้ช่างไม่เหมาะสม จะไปนอนกับเขาได้อย่างไรในเมื่อยังไม่ได้แต่งงานกัน!
“เฮ้อ องค์ชายรองทรงโปรดประทานอภัยให้กับน้องสาวคนนี้ของข้าด้วย โปรดอย่าถือสานางเลย” ซูหวานหว่านกล่าวออกมา
เมื่อได้ยินแบบนี้ องค์ชายรองก็คิดว่าซูหวานหว่านจะไม่เห็นด้วย หากแต่นางก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “ข้าเพิ่งรู้ว่าน้องสาวของข้าตั้งครรภ์เมื่อวานนี้ พวกเราตระกูลจ้าวยังมีเรื่องอีกมากที่จะต้องจัดการ เพื่อไม่ให้เรื่องนี้ได้รับการกระทบกระเทือนไปถึงเด็กในท้อง ท่านเอานางไปอยู่ด้วยเถอะ”
ฉีเต๋อหลงพยายามระงับโทสะภายในใจของตน ไม่อยากให้เรื่องการตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานของเฉียวหน่วนอวี้แพร่งพรายออกไปมากกว่านี้ เขาจึงตอบตกลง “ก็ได้”
หลังจากพูดจบก็พาตัวเฉียวหน่วนอี้เดินจากไปพร้อมกับขันทีไห่และเหล่าทหารองครักษ์ทันที
คนคุ้มกันของตระกูลถังหลีกทางให้กับฉีเต๋อหลง เมื่อพวกเขาได้เดินออกไปแล้วคนของตระกูลถังก็กำลังจะเดินเข้ามา แต่แม่จ้าวก็พูดขึ้นมาว่า “พวกเจ้าเป็นใคร! ตระกูลจ้าวของพวกเราไม่ต้อนรับพวกเจ้า”
หลังจากได้ยินแบบนี้ คุณชายถังก็ยิ้มออกมาและพูดว่า “ฮูหยินจ้าว ข้า…”
ก่อนที่คุณชายถังจะพูดจบก็มีเกี้ยวมาหยุดที่หน้าประตูและมีสตรีนางหนึ่งเดินออกมา พร้อมกับรอยยิ้มหวาน”เอ๊ะ! ฮูหยินจ้าว เมื่อก่อนข้าไม่รู้ว่าซูหวานหว่านเป็นลูกตระกูลไหน ตอนนี้ข้ารู้แล้ว ว่านางเป็นลูกสาวของเจ้า เอาล่ะตอนนี้ข้าได้นำสินสอดมาแล้ว! วันนี้พวกเรามาคุยเรื่องวันแต่งงานกันดีกว่าไหม ข้าคิดว่าพรุ่งนี้น่าจะดี! พรุ่งนี้ฝนจะไม่ตกอย่างแน่นอน…”
ทำไมคนเหล่านี้ถึงหน้าหนาเช่นนี้ หวังว่าจะให้นางแต่งงานออกเรือนเข้าบ้านพวกเขาในวันพรุ่งนี้! ซูหวานหว่านจึงพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ฮูหยินถัง ข้าจะไม่แต่งงานกับลูกชายของท่าน และไม่ยอมที่มีแม่สามีที่ชั่วร้ายแบบท่านหรอก”
“เจ้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร!” ฮูหยินถังฝืนยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มเจื่อน “พวกเราเองก็เป็นสตรีด้วยกัน ข้ารู้ว่าเจ้าหมายถึงอะไร ข้าเองก็ไม่อยากแต่งงานไปอยู่กับแม่สามีที่ไม่ดีเหมือนกัน! มันอาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับหญิงแบบเราในการปรับตัว แต่ข้ารับรองว่าจะดูแลรักเจ้าเหมือนกับลูกสาวแท้ ๆ ของข้า!”
คำพูดของนางช่างไม่เหมือนกับถึงที่นางพูดออกมาเมื่อวานเลย! ช่างเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกเสียจริง ๆ สีหน้าของซูหวานหว่านพลันเปลี่ยนไปในทันที แต่แม่จ้าวกลับจับมือของซูหวานหว่านเอาไว้ “โปรดอย่าเอาเรื่องราวเหล่านี้มากวนใจลูกสาวของข้า ท่านไม่ต้องมาพูดถึงเรื่องนี้อีก ให้มันเป็นธุระของข้าที่จะหาสามีให้กับนางเอง นอกจากนี้ด้วยวัยของนาง ข้าก็ยังทำใจให้นางแต่งงานออกเรือนไปไม่ได้ ดังนั้นได้โปรดออกไปซะ!”
“…”
ฮูหยินถังเหลือบมองผู้เป็นลูกชายแล้วพูดกระซิบว่า “ลูกชาย! เจ้าเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่านางเชื่อใจเจ้า แล้วนางก็ยังคงจะร่วมมือกับเจ้าอีก! นางต้องการเงินของครอบครัวเรา! เจ้าจะต้องพูดโน้มน้าวใจนาง! ครอบครัวของเราไม่สามารถเสียบ่อเงินบ่อทองอย่างตระกูลจ้าวไปได้!”
[1] 憨包 ฮันเปา คนโง่