“เดิมทีคุณท่านให้ฉันเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ตอนนี้ฉันมาบอกนาย ถ้านายไม่ได้รังควานเธอแล้วจริงๆ งั้นพรุ่งนี้เธอคงนัดบอดอย่างราบรื่น ถ้านายลงมือก่อกวน ก็หมายความว่านายยังลืมเธอไม่ได้”โซเมนพูดอย่างอยู่ในกรอบไม่สุ่มสี่สุ่มห้าพูด
เทาเท่รู้สึกรังเกียจมาก:“นี่นายกำลังยืนยันอะไรไร้สาระเนี่ย?”
“ไร้สาระเหรอ?”โซเมนผายมือออก“ไม่ไร้สาระเลยสักนิด นายดูฉันนะ ไม่รู้คิดอะไรกับหลินจือสักนิด ดังนั้นฉันก็จะอวยพรให้เธอนัดบอดอย่างราบรื่น”
“นายทำได้ไหม?”โซเมนถามย้อนเขาแบบนี้อีกครั้ง
เทาเท่ส่งเสียงไม่พอใจ:“ฉันทำได้อยู่แล้ว”
โซเมนชูนิ้วโป้งให้เขา จากนั้นชูแก้วขึ้นไปที่เขา
เขาเคารพที่เทาเท่เป็นผู้ชายแมนๆ!
เป็นผู้ชายปากแข็ง
*
เช้าวันถัดมา หลินจือเพิ่งตื่นก็ได้รับสายของคุณท่าน
คุณท่านกำชับเธอเป็นครั้งที่สามในสายว่า ตอนเที่ยงอย่าลืมไปที่นัดหมาย
หลินจือทำไม่ได้ที่จะปฏิเสธความหวังดีของคุณท่าน จึงได้แต่จำต้องตอบตกลง
ถึงเวลานั้นเธอค่อยสารภาพกับอีกฝ่ายก็พอ บอกว่าตัวเองไม่อยากมีความรักจริงๆ
ตอนสิบโมง นานิพาช่างแต่งหน้าของเธอมาหาถึงที่ หลินจือกำลังเขียนต้นฉบับด้วยความทุ่มเท ไปเปิดประตูอย่างไม่สนใจเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัว
นานิกดเธอไว้ที่เก้าอี้แล้วพูดว่า:“สาวน้อย ไม่ใช่ว่าเธอต้องไปนัดบอดตอนเที่ยงเหรอ?นี่สิบโมงแล้ว ยังไม่รีบเก็บของลุกมาอีก?”
หลินจือนวดกระดูกสันหลังตรงคอที่เจ็บและพูดว่า:“มีอะไรให้เก็บ เดี๋ยวฉันแต่งตัวให้สะอาดเรียบร้อยก็ได้แล้วนี่?”
แล้วค่อยแต่งหน้าเบาๆ เธอรับมือเองได้
นานิเอามือกุมหน้าผากพูดไม่ออก แล้วเรียกช่างแต่งหน้ามาแต่งหน้าทำผมให้หลินจือ
หลินจือมึนเล็กน้อย:“ทำไมต้องถึงกับจ้างช่างมามากมายด้วย?”
เมื่อวานนานิบอกกับคุณท่านว่าจะแต่งเธอให้สวย หลินจือคิดว่านานิแค่ล้อเล่น คิดไม่ถึงว่านานิจะพาช่างแต่งหน้าเธอมาจริงๆ
นานิพิงโซฟาเธออย่างขี้เกียจ:“เรียกช่างมาเยอะที่ไหนกัน?ปกติพวกเราร่วมกิจกรรมก็ต้องแต่งถึงหนึ่งหรือสองชั่วโมง ทำให้เธอถือว่าง่ายแล้ว”
หลินจือถอนหายใจ:“เป็นดาราสาวไม่ง่ายเลยจริงๆ”
แต่ว่า มองดูตัวเองในกระจกที่ค่อยๆเริ่มดูน่าดึงดูดผู้คน ความคิดของหลินจือก็เข้าสู่ความทรงจำอย่างห้ามไม่อยู่
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอมีสองครั้งที่แต่งตัวจัดเต็ม
ครั้งแรก เป็นวันที่รับใบสมรสกับเทาเท่
ด้วยความช่วยเหลือของเธอจึงเลือกชุดที่สวยงาม และก็แต่งหน้าอย่างสวยงามอีกด้วย
นานิที่เรียนอ่อน ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะพูดคำในคำภีร์ร้อยกรองมาบรรยายเธอได้:ใบหน้าอันสวยงามพร้อมกับรอยยิ้มอันสวยงาม
หลินจือก็ขำกับคำพูดของเธอ นานิจึงพูดอีกว่า เธอยิ้มสวยมาก หลังจากแต่งกับเทาเท่แล้วก็ต้องยิ้มเยอะๆ รับรองว่าจะทำให้เทาเท่หลงใหลจนเสียศูนย์เลย
น่าเสียดายที่ ความสวยงามในวันนั้นของเธอเทาเท่ไม่แลสักนิด
เขามีใบหน้าเย็นชาตลอดงาน จดทะเบียนเสร็จก็เดินไปโดยไม่หันมา
เธอมองใบสมรสที่มีหน้าบูดบึ้งของชายหนุ่มกับหน้ายิ้มแป้นเหมือนดอกไม้ของเธอ หัวใจก็เหมือนดังมีดกรีด
ครั้งที่สองที่แต่งเต็ม ก็ปีก่อนในวันครบรอบของฟอเรนากรุ๊ป
เพื่อขอหย่ากับเทาเท่ และก็เพื่อให้ตัวเองจากไปอย่างเหมาะสม
แต่งเต็มครั้งหนึ่งเพื่อเข้าใกล้เขา แต่งเต็มครั้งหนึ่งเพื่อบอกลาเขา
วันนี้ในครั้งนี้ ก็เพื่อนัดบอด
หลินจือหลับตาปล่อยให้สไตลิสต์มือฉมังแต่งให้เธอ ในใจก็คิดว่าเป็นการเริ่มใหม่ละกัน
คุณท่านบอกว่าสิบเอ็ดโมงครึ่งจะมีคนขับรถมารับหลินจือ ทำผมเสร็จก็น่าจะถึงเวลาแล้ว แต่หลินจือกลับได้รับสายของควีน
“หลินจือ เดี๋ยวพวกเราประชุมกันนะ”ควีนพูดอยู่ในสาย“ประธานเทาเท่ไล่พวกเนมาออกไป ประธานเจเทาวน์ของพวกคุณเลยอาสารับเป็นผู้กำกับแทน ดังนั้นพวกเราต้องพบกันใหม่เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้”
หลินจือตกใจมาก:“ไล่พวกเนมาออกแล้ว?”
เทาเท่ไม่ได้โทษซูซีไม่ใช่เหรอ?ทำไมต้องไล่พวกเขาออก?
“แล้วก็ ประธานเจเทาวน์จะรับเป็นผู้กำกับเหรอ?”คำพูดของควีนนี้ทำให้หลินจือตกใจมาก
ควีนพูด:“อือ ฉันก็เพิ่งได้รับข่าวจากประธานเทาเท่”
เรื่องเปลี่ยนผู้กำกับ สำหรับโครงการหนังแล้วถือเป็นเรื่องใหญ่ ถึงแม้ผู้กำกับคนใหม่จะเป็นเจเทาวน์ที่ติดตามโครงการนี้เสมอ แต่หลินจือยังคิดว่าประชุมนี้สำคัญมาก
ดังนั้นเธอรีบพูดกับควีนว่า:“ประชุมที่ไหน?กี่โมง?ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
หลินจือลืมเรื่องที่ตัวเองต้องไปนัดบอด นานิที่อยู่ข้างๆก็ร้อนรนแทบตาย
ควีนพูด:“ที่เบลดิ้งของพวกคุณ เริ่มสิบเอ็ดโมงครึ่ง”
หลินจือดูเวลาแล้วตอบรับทันที พอวางสายนานิก็พูดอย่างใจสลาย:“ทำไมประชุมอย่างกะทันหันอย่างนี้ล่ะ?เธอต้องไปนัดบอดไม่ใช่เหรอ?”
“ควีนบอกว่าเทาเท่ไล่พวกเนมาออก ประธานเจเทาวน์อาสาเป็นผู้กำกับเอง ดังนั้นต้องประชุมใหม่”หลินจืออธิบายกับนานิไปก็ไปเก็บคอมของตัวเองด้วย
นานิก็งงเล็กน้อย:“เปลี่ยนผู้กำกับ?และยังเป็นประธานเจเทาวน์ของพวกเราที่เสนอเอง?”
นี่หมายความว่าอะไร?
หมายความว่าเทาเท่รู้สึกกับหลินจือ ดังนั้นจึงโกรธพฤติกรรมน่าขยะแขยงของพวกเนมาและไล่พวกเขาออก?
และยังหมายความว่าเจเทาวน์ก็รู้สึกกับหลินจือ ดังนั้นจึงขอเป็นผู้กำกับ เพื่อปกป้องเธอตลอดการทำงาน?
นานิลูบขมับ ความคิดของคนใหญ่คนโตนั้นคาดเดาไม่ได้จริงๆ
หลินจือเก็บของเสร็จถือกระเป๋าออกมา มองเธอแวบหนึ่งแล้วพูด:“เธอต้องไปประชุมด้วยใช่ไหม?พวกเราไปด้วยกัน?”
นานิมองดูโทรศัพท์ ก็เห็นเลย์ล่าส่งข้อความหาเธอ ให้เธอรีบไปประชุมที่บริษัท
เธอพูดอย่างเสียใจ:“เสียแรงที่ฉันตั้งใจแต่งให้เธอดูอัศจรรย์เพียงนี้”
เดิมทีอยากให้หลินจือไปนัดบอดเพื่อสร้างความตะลึงให้อีกฝ่าย สุดท้ายการประชุมก็ทำลายทุกอย่าง
นานิพูดถึงเรื่องนี้ หลินจือจึงคิดได้ว่าวันนี้ตัวเองแต่งหน้าและแต่งตัวเกินควรมาก จึงรีบยกมือขึ้นพยายามแกะผมที่ถักอยู่:“ฉันจะไปประชุม ทำแบบนี้ไม่เข้าท่าเลย”
นานิรีบหยุดเธอ:“ไม่เข้าท่าตรงไหน?เธอดูฉันแต่งหน้าเข้มกว่าเธออีกไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ต้องแกะแล้ว ทุกคนไม่ได้ทำให้เธออย่างง่ายดายเลย ยังไงก็ตามเธอก็ออกไปสวยๆแล้วค่อยว่ากัน”นานิดึงเธอแล้วพูด“ไปๆๆ รีบไปเดี๋ยวสาย”
หลินจือได้แต่ตามนานิออกไปด้วยกัน
เธอสวมเดรสขาวธรรมดา เพราะว่าเดิมทีจะไปนัดบอด ดังนั้นกระโปรงจึงดูสง่างาม
แต่มีทริคซ่อนอยู่ที่เอว การออกแบบลูกไม้วงกลมขนาดเล็ก เผยให้เห็นเอวบางๆของหญิงสาว ไม่มีเอวบางร่างน้อย ก็ไม่สามารถสวมกระโปรงชุดนี้ได้
ผมสั้นถึงกระดูกไหปลาร้าสไตลิสต์ทำทรงผมให้เธออย่างสวยงาม ทำให้เผยแนวคอที่ยาวและสวยงาม
หลังจากเข้าไปในรถ นานิมองใบหน้าด้านข้างที่สวยงามของเธอแล้วถอนหายใจเงียบๆ:“หลิน ที่รัก ฉันอยากจูบคอเธอและก็ติ่งหูเธอ”
หลินจือ:“……”
นานินี่มีความคิดที่น่าตกใจอะไรกัน?