ตอนที่ 1399 หน้ากากภูติไม้ (2)
ปลายเถาวัลย์เลื้อยขึ้นไปรวมตัวกันที่ด้านบน กลายเป็นกรงขังทรงกลมขนาดใหญ่ที่ดักจับพวกคนพิษจำนวนมากเอาไว้ภายใน
จวินอู๋เสียค่อยๆลอยลงสู่พื้นอย่างสง่างาม เท้าของนางแตะลงบนพื้นที่แตกหักอย่างแผ่วเบา นางหรี่ตามองกรงเถาวัลย์ขนาดใหญ่ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มสังหาร
“โทสะแห่งภูติไม้” นางเปล่งเสียงเบาๆ มือขวาที่แบอยู่กำแน่นทันที!
เกิดเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ!
ทันใดนั้น คุกเถาวัลย์ขนาดใหญ่ก็หดตัวและรัดแน่นเข้า จากที่ตอนแรกเป็นทรงกลมขนาดใหญ่มหึมา ก็กลายมาเป็นลำต้นหนาที่ก่อตัวขึ้นจากเถาวัลย์ ในตอนที่เถาวัลย์รัดแน่นขึ้น พวกคนพิษที่อยู่ข้างในก็ถูกบดขยี้กลายเป็นเศษเนื้อเละๆอย่างรวดเร็ว เลือดเหนียวๆสีดำของพวกมันผสมอยู่ในเนื้อและกระดูกที่ถูกบดจนเละ และถูกพ่นออกมาตามช่องว่างเล็กๆระหว่างเถาวัลย์!
ในชั่วพริบตา รอบๆตัวจวินอู๋เสียก็กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่ากว้างใหญ่ คนพิษที่อยู่ในวงกลมนั้นล้วนถูกส่งลงนรกทั้งหมด ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว
ภาพที่ศัตรูนับหมื่นถูกสังหารในไม่กี่วินาที เป็นเหมือนเหล็กตราร้อนๆที่นาบลงมา ประทับตราที่ไม่อาจลบได้ลงในใจทุกคนที่อยู่ที่นั่น
เหล่าทหารของแคว้นฉูจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้างและเหลือเชื่ออย่างที่สุด พวกเขามองต้นไม้สีเขียวที่ตั้งตระหง่าน สูงจนยอดขึ้นไปถึงก้อนเมฆ ถึงเถาวัลย์จะเปื้อนสีดำจากเลือดที่ปนเปื้อน แต่ก็ทำให้ก้อนเมฆบนท้องฟ้าแยกออก และแสงสีทองก็ส่องผ่านยอดไม้ลงมา ทำให้สนามรบสว่างไสว ราวกับความหวังกำลังลงสู่โลกมนุษย์
มันน่าจะเป็นภาพที่น่าสยดสยองเมื่อคนพิษเกือบแสนคนถูกฆ่าตายในชั่วพริบตา แต่ไม่รู้ทำไม ทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างอดตะลึงกับความงามที่น่าเหลือเชื่อในช่วงเวลานั้นไม่ได้
แสงอาทิตย์ส่องลงมาผ่านร่มเงาสีเขียวที่ราวกับความฝัน ร่างที่ยืนอยู่ใต้แสงแดดดูเหมือนเทพที่ลงมาจากสวรรค์
นี่เป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เสียใช้หน้ากากภูติไม้ ตอนอยู่ที่ผาสุดสวรรค์ เพื่อใช้เวลาให้คุ้มค่า นางจึงไม่เคยออกจากสุสานเลยสักครั้ง ตอนนี้พลังของหน้ากากภูติไม้ทำให้นางรู้ว่า ทำไมท่ามกลางของวิเศษที่ทรงพลังมากมายนับไม่ถ้วน มันก็ยังโดดเด่นเหนือของวิเศษอย่างอื่นจนถูกนับว่าเป็นหนึ่งในของวิเศษที่ทรงพลังที่สุด
เมื่อพลังชีวิตหมดลง เถาวัลย์ก็ค่อยๆหดตัวทีละนิด ท่ามกลางสายตาจ้องมองของทุกคนที่นั่น ต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้าจนถึงก้อนเมฆก็หดตัวกลายเป็นแสงขนาดเท่าเมล็ดถั่วเล็กๆ
จวินอู๋เสียโบกมือ ตุ้มหูที่อยู่บนพื้นก็ลอยเข้ามาในมือของนาง
สะอาดเกลี้ยงเกลา ไม่มีรอยเปื้อนเลยแม้แต่นิด จวินอู๋เสียสวมมันกลับเข้าที่หูของนางอย่างเงียบๆ
ไม่ว่าใครก็ไม่อยากจะเชื่อภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา ถ้าไม่ใช่พื้นดินแตกที่ยังปรากฏอยู่ตรงหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะเนื้อและเลือดที่กระจายอยู่เต็มพื้นสนามรบ ทุกคนคงคิดว่านี่เป็นเพียงความฝันตื่นหนึ่งเท่านั้น
ตอนที่หน้ากากภูติไม้โจมตี เฉียวฉู่ก็ถอยจากสนามรบทันที ตอนนี้เขามองไปที่พื้นดินว่างเปล่า แล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างเงียบๆ
“ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมพี่ใหญ่อู๋เหยาถึงพยายามอย่างมากเพื่อหาหน้ากากนั้นให้จวินเสีย นี่มัน……น่ากลัวเกินไปแล้ว……”
พลังของคนเพียงคนเดียวสามารถฆ่าคนพิษเกือบแสนคนได้ในพริบตา พลังมหาศาลเช่นนี้ ทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้จริงๆ
“นี่คือพลังของหน้ากากภูติไม้……” ฮัวเหยาพึมพำขณะมองจวินอู๋เสียที่ยืนอยู่คนเดียวในพื้นที่ว่างเปล่าด้วยสายตาตื่นเต้น
บนสนามรบที่มีการต่อสู้รุนแรงเป็นเวลานานพลันเงียบกริบลงทันที แม้แต่พวกคนพิษที่บ้าคลั่งไร้สติก็ยังตกใจกับกลิ่นเหม็นเน่าที่ลอยอยู่ในอากาศ กลิ่นเลือดของพรรคพวกตัวเอง ทำให้ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง