ตอนที่ 1400 หน้ากากภูติไม้ (3)
หลังจากพวกคนพิษจำนวนมากถูกกวาดล้าง ทหารของแคว้นฉูก็ได้ทีขี่แพะไล่ การต่อสู้เริ่มพลิกกลับเป็นการโจมตีฝ่ายเดียว
พวกของเฉียวฉู่ได้เห็นพลังอันยิ่งใหญ่ของหน้ากากภูติไม้กับตาตัวเอง ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เลือดในกายเดือดพล่าน พวกเขาต่างต่อสู้เต็มกำลังอย่างไม่ยอมน้อยหน้าคนอื่นๆ
ในที่สุดเหล่าทหารของแคว้นฉูก็ปีนขึ้นจากความสิ้นหวังอันมืดมิดไปสู่แสงสว่าง ในใจของพวกเขารู้สึกซับซ้อนอย่างมาก พวกเขารวมตัวกันอย่างรวดเร็วเพื่อจะเริ่มโต้กลับ แต่แล้วก็พบว่า……
ไม่มีโอกาสให้พวกเขาได้แสดงฝีมือมากนัก
กลุ่มผู้เยาว์ที่มีแสงสีม่วงห่อหุ้มร่างมีฝีมือร้ายกาจน่าทึ่งมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แสดงวิชาที่ท้าทายสวรรค์อย่างโทสะแห่งภูติไม้ แต่การลงมือของพวกเขาก็ยังทำให้เหล่าทหารแคว้นฉูพากันปากอ้าตาค้างได้อยู่ดี
เมื่อเห็นกองทัพคนพิษที่เคยทำให้พวกเขาตกอยู่ในความคับแค้นสิ้นหวัง ถูกกำจัดลงอย่างบ้าคลั่งเหมือนเกี่ยวข้าวสาลี ภายใต้การร่วมกันของกลุ่มผู้เยาว์ ในใจของเหล่าทหารก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
พลังของพวกเขากับผู้เยาว์กลุ่มนี้แตกต่างกันมากจนไม่อาจเอามาเปรียบเทียบกันได้เลย
พลังของกลุ่มผู้เยาว์ไม่กี่คนยังแข็งแกร่งกว่าพลังของทั้งกองทัพที่มีทหารอยู่หลายแสนคน!
วิกฤตของแคว้นฉูจบสิ้นลงในเวลาไม่นาน ผู้ครองแคว้นฉูที่ยืนอยู่ในค่ายทหารเฝ้ามองคนพิษกลุ่มสุดท้ายถูกกำจัด เส้นประสาทที่ตึงเครียดมานาน ในที่สุดก็ผ่อนคลายลง เมื่อความเครียดหายไป ขาของเขาก็อ่อนแรงจนเกือบจะล้มลงบนพื้น
แม่ทัพใหญ่รีบวิ่งไปพยุงเขาขึ้น จักรพรรดิแคว้นฉูพูดขึ้นทันทีว่า “เร็วเข้า! ไปขอบคุณจักรพรรดิแห่งแคว้นเหยียนกับข้า!”
พวกเฉียวฉู่ได้ต่อสู้จนหนำใจ ร่างกายของพวกเขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างมาก ขณะที่พากันสำรวจผลการต่อสู้ของตัวเอง
ซากศพคนพิษที่กองเป็นภูเขาเลากานั้น เป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างแท้จริง
“เผาซะ” จวินอู๋เสียเหลือบมองซากพวกนั้นแวบนึง
เฉียวฉู่ลงมือทันทีโดยไม่ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง มังกรเพลิงพุ่งออกจากหมัดของเขา เข้าห่อหุ้มซากศพของพวกคนพิษทันที
เสียงเปะทุจากเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ กลายเป็นสัญญาณการเฉลิมฉลองการสิ้นสุดการรบครั้งนี้ เปลวไฟได้กลืนกินหุ่นเชิดที่น่าสมเพชภายใต้ท้องฟ้าในฤดูร้อน
จวินอู๋เหยาค่อยๆลอยลงมาจากอากาศ มายืนอยู่ข้างๆจวินอู๋เสีย
การต่อสู้ครั้งนี้ เขาไม่ได้ลงมือเลย แค่ลอยตัวอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆ ชมการต่อสู้ครั้งแรกของผู้เยาว์กลุ่มนี้หลังการเก็บตัวฝึกฝน
เมื่อเขาได้เห็นกระบวนท่าที่หมดจดงดงามของจวินอู๋เสีย จวินอู๋เหยาก็รู้สึกว่ามันงดงามสมบูรณ์แบบมาก นักเต้นที่เก่งที่สุดในโลกก็ยังเทียบไม่ได้กับท่าทางการออกหมัดออกเท้าในสนามรบของนาง
“เป็นยังไงบ้าง?” เขาเลิกคิ้วถามยิ้มๆ
จวินอู๋เสียแตะหน้ากากภูติไม้ที่หูของนาง และพูดว่า “ใช้ดีมาก”
ตอนแรกนางคิดว่าหน้ากากภูติไม้เป็นแค่ของวิเศษที่ช่วยเพิ่มพลังวิญญาณเท่านั้น ไม่เคยคิดมาก่อนว่า ภายใต้การชี้แนะจากจวินอู๋เหยา มันจะซ่อนพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้เอาไว้
ตอนนั้นที่เขาไม่ยอมเลิกหา ก็เพราะว่าเขาต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดกับนาง
และเขาก็ทำได้แล้ว
ไม่มีอะไรดีไปกว่าหน้ากากภูติไม้อีกแล้ว
“ชอบก็ดีแล้ว” จวินอู๋เหยาหัวเราะเบาๆ แค่คำว่า “ดีมาก” ของจวินอู๋เสียคำเดียว ก็ทำให้เขาพอใจได้มากกว่าถ้อยคำหวานๆซะอีก
ขณะที่พวกเขาพูดคุยหัวเราะกัน จักรพรรดิแคว้นฉูกับแม่ทัพใหญ่ก็เดินออกมาจากกองทัพของพวกเขา ทหารแคว้นฉูต่างพากันแหวกทางเดินให้โดยไม่กล้าก้าวออกมาข้างหน้า
“ถวายบังคมฝ่าบาท! วันนี้ได้จักรพรรดิแห่งแคว้นเหยียนมาช่วย นับเป็นโชคดีของแคว้นฉู! ฝ่าบาทโปรดรับการคารวะจากข้าด้วย! ขอบคุณท่านที่ช่วยแคว้นฉูให้พ้นหายนะ!” ผู้ครองแคว้นฉูคุกเข่าลงตรงหน้าจวินอู๋เสียต่อหน้าทุกคนโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย!