กลับไปยังบ้านใหม่ของตัวเอง เสี่ยวเฉียงเอาเหล้า กับแกล้ม รวมถึงเนื้อย่างที่ซื้อข้างทางมาวางรวมกัน แล้วถามเสี่ยวเชี่ยนด้วยท่าทางสบายๆ
“เพื่อนว่าที่นี่เป็นไงบ้าง?”
“ก็ดีนะ แต่ขาดนายหญิงของบ้านไป” เขาเล่นแล้วสนุกเธอก็จะเล่นเป็นเพื่อน
“เวลากินเหล้าไม่พูดถึงผู้หญิง—เอ่อ แต่พูดหน่อยก็มีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์ของครอบครัว” เสี่ยวเฉียงที่อินหนักเกือบหลุดพูดประโยคเด็ดของพวกผู้ชายเวลากินเหล้า พอรู้สึกได้ถึงรังสิอำมหิตเขาก็รีบเปลี่ยนคำพูด
“งั้นเดี๋ยวผมเล่าเรื่องนายหญิงคนนั้นของบ้านให้ฟังดีไหม?”
เสี่ยวเชี่ยนส่ายมือ ช่างมันเถอะ
เธอเองก็อยากออกจากบทบาทนั้น หาใครสักคนนั่งฟังเธอระบาย อันที่จริงเขาจะพูดกับเธอด้วยสถานะไหนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือมีความสุขร่วมกันเป็นพอ
“ไม่ต้องเล่าหรอก ใช้โอกาสตอนที่นายยังไม่แต่งงานนี่ พวกเรามาดื่มกันให้เต็มที่ดีกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์บนโลก ไม่ได้มีแค่รักๆใคร่ๆเสียหน่อย”
เสี่ยวเชี่ยนรินเหล้าจนเต็มแล้วชี้ไปที่เขา “ไม่ถอดเสื้อเหรอ มันดูอึดอัดนะ”
เสี่ยวเชี่ยนปลดกระดุมตรงคอสองเม็ด เผยให้เห็นคอขาวนวล
“คุณกินเหล้ากับผู้ชายคนอื่นก็ทำแบบนี้เหรอ?” ครั้งนี้กลายเป็นเสี่ยวเฉียงหึงบ้างแล้ว
“เพื่อนผู้ชายของฉันมีไม่น้อย…แต่ว่า มีแค่ตอนอยู่กับนายเท่านั้นที่ฉันจะทำแบบนี้ นายรู้ไหมว่าสามีฉันเป็นผู้ชายที่หึงเก่งสุดๆ เรื่องบางอย่างนะฉันต้องปกปิดไว้บ้างครอบครัวจะได้สงบสุข”
เธอยิ้มหวานให้เขา “เวลากินเหล้าเลิกพูดเรื่องรักๆใคร่ๆดีกว่า มา เต็มแก้วเลยนะ”
สถานการณ์ของทั้งสองคนในเวลานี้ทำให้อวี๋หมิงหลางนึกถึงตอนที่เพิ่งรู้จักกัน เขาบังคับลากเธอมาที่บ้าน ซื้อของกินมาด้วย แถมเธอยังคิดจะใช้ฉากสยองในหนังแกล้งเขาอีกต่างหาก
สาวน้อยคนงามในวันนั้นในที่สุดเขาก็ได้เธอมาครอบครอง เขาหวังว่าชีวิตเธอจะไร้ความกังวลในทุกๆวัน แต่เห็นได้ชัดว่าวันนี้เธอมีเรื่องในใจ อวี๋หมิงหลางนั่งกินเหล้ากับเธอไปเงียบๆก่อน แต่ในใจก็หาทางจะทำยังไงให้เธอยอมพูดออกมา
แต่ที่ด้านนอกบ้าน บรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลายของอวี๋หมิงหลางกำลังทำไม้ทำมือคุยกันแบบไร้เสียง
บทสนทนาของด้านในคนที่อยู่ด้านนอกพอได้ยินบ้าง พอผ่านเข้าไปในหูของคนแก่ทั้งหลายเหล่านี้กลับกลายเป็นบทสนทนาเชิงชู้สาว นี่ก็คือสามีจอมเจ้าชู้พานจินเหลียนกับซีเหมินชิ่งในชีวิตจริงๆ!
ทุกคนล้วนได้เห็นอวี๋หมิงหลางเติบโตมา แล้วจะปล่อยให้เด็กคนนี้ทำผิดก่อนแต่งงานได้อย่างไร?
ไม่มีทาง!
ชายชราที่แอบฟังคนนั้นอาศัยอยู่ชั้นล่างตึกเดียวกับอวี๋หมิงหลาง สมัยก่อนนั้นตอนที่ยังไม่ต้องย้ายบ้านทุกคนล้วนอาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ต่อมาพอย้ายแล้วก็มาอยู่ตึกเดียวกัน ทำงานหน่วยงานเดียวกับพ่ออวี๋ ถ้าจะไล่ลำดับความอาวุโสอวี๋หมิงหลางต้องเรียกปู่ด้วยซ้ำ จะเรียกว่าเป็นญาติอาวุโสของอวี๋หมิงหลางเลยก็ยังได้
ชายชราคนนี้คิดว่ายังไม่ต้องบอกพ่ออวี๋หมิงหลาง จึงพาเพื่อนๆที่เกษียณแล้วมาจับให้ได้คาหนังคาเขา แล้วค่อยดูว่าจะไปบอกพ่อแม่เจ้าเล็กดีหรือไม่
ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ที่เห็นอวี๋หมิงหลางมาตั้งแต่เล็กๆ พวกเขารู้สึกเสียใจและอับอายกับพฤติกรรมที่อวี๋หมิงหลางพาผู้หญิงมากินเหล้าถึงในบ้านก่อนแต่งงาน ระหว่างทางที่มาพวกเขาคิดกันไว้แล้วว่า ถ้าเด็กคนนี้ทำอะไรประเจิดประเจ้อล่ะก็ พวกเขาจะจัดการซัดให้น่วมแท่นพ่ออวี๋เอง
ทุกคนล้วนเป็นทหารที่เคยทำสงครามมาก่อนเกษียณ หลังเกษียณแล้ววันๆก็เลี้ยงนกเลี้ยงปลาเล่นหมากล้อม พอเกิดเหตุการณ์กะทันหันแบบนี้พวกเขาก็รู้สึกเลือดร้อนขึ้นมาทันที คล้ายกับว่าได้กลับไปสู่สมัยก่อนอีกครั้ง
มีชายชราคนหนึ่งหยิบเส้นลวดออกมาทำท่าอวดทุกคน นี่เป็นวิชาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆแล้ว ในที่สุดก็ได้นำกลับมาใช้อีก!
คนอื่นๆพากันผลักเขา อย่ามัวแต่โม้ รีบๆจัดการเร็วเข้า!
อวี๋หมิงหลางกำลังรินเหล้าให้เพื่อนที่ชื่อว่าเสียวเหม่ย ส่วนเหล่าคนชราด้านนอกก็ไม่ใช่คนธรรมดา แต่มีหรือที่จะเล็ดลอดสายตาของเสี่ยวเฉียงไปได้?
พอได้ยินเสียงเบาๆจากทางด้านนอกอวี๋หมิงหลางก็รู้ตัว เขาทำท่าไม่ให้เสี่ยวเชี่ยนส่งเสียง จากนั้นก็สั่งให้เธอขึ้นไปข้างบน
เสี่ยวเชี่ยนอยู่กับเขามานานขนาดนี้ย่อมเข้าใจนิสัยของเขาดี ถึงยามปกติเสี่ยวเฉียงจะชอบล้อเล่นทำให้เธอหัวเราะ แต่ถ้าเขาจริงจังขึ้นมาก็แสดงว่าเกิดเรื่องแล้ว
เสี่ยวเชี่ยนให้ความร่วมมืออย่างดี เธอแสร้งพูดคุยกับเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นพลางทำเป็นดื่มเหล้ากินกับแกล้ม ส่วนเท้าก็เดินขึ้นชั้นบน บ้านนี้มีสองชั้น ชั้นที่สองเป็นชั้นลอย ตรงบันไดทางขึ้นมีรูปปั้นที่เธอขนมาจากบ้านเก่า ซึ่งก็คือตัวที่มีมีดดาบเล่มใหญ่ตัวนั้น
เสี่ยวเชี่ยนเดินขึ้นไปอย่างเงียบๆ มือก็ถือมีดดาบโลหะ ถึงของสิ่งนี้จะไม่มีความคม เป็นเพียงแค่ของประดับ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ย่อมเอามาใช้สู้ได้
อวี๋หมิงหลางมือหนึ่งถือขวดเหล้า ส่วนอีกมือก็คว้าถังขยะในบ้านขึ้นมาแล้วค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ประตู เขาล่ะอยากจะรู้นักว่าเป็นโจรกระจอกคนไหนที่กล้าเข้ามาแหยมในหมู่บ้านจวินยุ่นแห่งนี้
ตอนที่พี่ใหญ่สร้างหมู่บ้านแห่งนี้ ด้วยทำเลที่ดีบวกกับเป็นบ้านที่สร้างจากวัสดุอย่างดี ส่วนใหญ่จึงขายแต่คนใน คนที่สามารถเข้ามาอยู่ในนี้ได้ล้วนเป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกๆหลานๆทหาร
ถึงการรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะเทียบเท่าหมู่บ้านสวัสดิการทหารไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ต่างกันเยอะ ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่นี่กลับมีพวกไม่ดูตาม้าตาเรือเข้ามาหาเรื่องใส่ตัว อวี๋หมิงหลางตัดสินใจแล้วว่าจะสั่งสอนให้รู้เรื่อง!
ประตูถูกแง้มออกเล็กน้อยคล้ายกับกำลังแอบดูด้านใน ชายชราเห็นตรงโซฟาไม่มีคน แต่เหล้ากับอาหารยังอยู่
จึงดันประตูเปิดอีกเล็กน้อยด้วยความสงสัย ดันอีกหน่อย…
พอโผล่หัวเข้าไปได้ก็ ผลุบ!
รู้สึกเหมือนมีบางอย่างครอบเข้ามาที่หัว อยู่ๆฟ้าก็มืด จากนั้นก็ถูกคนลากคอเข้าไปด้านใน
ส่วนเหล่าชายชราด้านหลังที่กำลังรอรายงานสถานการณ์ด้านใน พวกเขาเห็นพอประตูเปิดแนวหน้าของพวกเขาก็ถูกลากเข้าไปด้านใน กว่าจะรู้ตัวเพื่อนก็ถูกถังขยะครอบหัว เศษขยะร่วงหล่นใส่ตัว พวกเขาพากันงงไปหมด
ท่าทางอันรวดเร็วของอวี๋หมิงหลางนั้นถูกฝึกมาอย่างดี ขณะที่เอาถังขยะครอบหัวอีกฝ่ายสำเร็จกำลังจะใช้ขวดเหล้าตีหัวซ้ำคนที่กล้าเข้ามางัดบ้านเขา จังหวะที่ง้างมือกำลังจะฟาดลงสายตาก็เหลือบไปเห็นเหล่าชายชรายืนตัวแข็งทื่ออยู่ด้านนอก เอ๊ะทำไมหน้าคุ้นๆ…
สมกับเป็นหัวหน้าใหญ่แห่งทหารหน่วยรบพิเศษที่ถูกฝึกมาอย่างดี สมองอวี๋หมิงหลางประมวลผลอย่างรวดเร็วเบนแขนที่กำลังจะตีลงบนหัวชายชราที่ถูกถังขยะครอบ ขวดจึงไปโดนกรอบประตูเสียงแตกดังเพล้ง กลิ่นเหล้าชั้นดีส่งกลิ่นหอมโชยมา
มีชายชราที่ยืนตัวแข็งด้านนอกคนหนึ่งพูดขึ้น “นี่มันเหล้าอู่เหลียงเย่…”
ชายชราอีกคนถลึงตาใส่ นี่มันเวลาไหนแล้วยังจะสนเรื่องเหล้า?
อวี๋หมิงหลางทิ้งขวดในมือพลางทำตาตี่ใส่
“อาหลิว อาหลี่ ลุงชิว…ทำไมไม่อยู่บ้าน ออกมางัดบ้านผมทำไมครับ?”
นี่ดีนะที่เขามีไหวพริบ ถ้าเป็นคนทั่วไปล่ะก็คงตีโดนหัวไปแล้ว คนอายุปูนนี้ถ้าโดนตีจะเหลือเหรอ?
เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครที่ถูกเขาเอาถังขยะครอบหัว?
ชายชราที่ถูกถังขยะครอบเอาถังออก เนื้อตัวของเขาเลอะไปด้วยขยะนานาชนิด สภาพน่าสงสารและน่าขำในเวลาเดียวกัน
อวี๋หมิงหลางเหลือบเห็นบนไหล่ของชายชรามีกล่องใส่ถุงยางด้วย…