อวี๋หมิงหลางรีบเข้าไปช่วยเอาถังขยะออก และถือโอกาสจัดการกล่องถุงยางด้วย แค่กๆ โชคดีที่เขาทิ้งแค่กล่องในถังขยะตรงโซฟา พอลองนึกดู เมื่อวานเขากับเสียวเหม่ยเริ่มกันตรงโซฟา แต่กลับเข้าไปดุเดือดในห้องน้ำและจบที่ตรงนั้น ยังดีไม่ได้ทิ้งถุงตรงนี้ ถ้าถูกของแบบนั้นหล่นใส่หัว น้ำอย่างว่าไหลลงหน้าปู่ สงสัยพรุ่งนี้เขาคงไม่ได้เห็นแสงตะวันแล้ว
ใช่ คนที่ถูกถังขยะครอบหัวคนนี้ก็คือคนที่เปรียบเสมือนปู่ของอวี๋หมิงหลาง
“ไอ้ตัวแสบ!” ปู่เอามือเช็ดหน้า โชคดีที่ถังขยะบ้านนี้ค่อนข้างสะอาด มีแต่เศษกระดาษ ขยะแห้ง ถ้าไม่เห็นกล่องถุงยางที่อวี๋หมิงหลางกำจัดไปแล้วก็ไม่มีอะไร
“ผู้อาวุโสทุกท่านจะมาทำไมไม่โทรมาบอกก่อนล่ะครับผมจะได้ลงไปรับด้วยตัวเอง แล้วนี่เล่นอะไรกันอยู่เหรอครับ?”
เสี่ยวเฉียงรู้สึกน้อยใจ เขาทำผิดตรงไหน
กำลังเล่นบทบาทสมมติกับเมียอยู่ในบ้านอยู่ดีๆ แถมกำลังหาทางทำให้เมียพูดเรื่องไม่สบายใจออกมา แก๊งค์ชายชราเหล่านี้กลับยกพวกมางัดบ้านเขา!
เสี่ยวเชี่ยนถือมีดเล่มใหญ่เตรียมพร้อมเป็นกองเสริมเรียบร้อย พอได้ยินเสียงคุยของอวี๋หมิงหลาง ไม่เหมือนกำลังสู้กัน เธอจึงรีบลงมาแต่ในมือก็ยังไม่วางมีด
พอเห็นขยะเต็มพื้น ผู้อาวุสโสหน้าคุ้นหลายคนยืนอยู่ตรงประตูหน้าบ้านด้วยความโกรธเธอก็งงไปหมด
“คุณปู่คุณลุงคุณอา คือว่า…”
เล่นอะไรกันเหรอคะ?
ปู่ที่ถูกถังขยะครอบหัวก้าวออกมาจะพูด พอเห็นมีดเล่มใหญ่ในมือเสี่ยวเชี่ยนแล้งจึงหันไปมองอวี๋หมิงหลาง จากนั้นก็ทำท่าทางโมโห
“เสี่ยวเชี่ยน พวกเรารู้เรื่องหมดแล้ว”
“หืม?” เรื่องอิหยัง?
เธอนั่งดื่มเหล้าคุยเรื่องในใจกับผู้ชายตัวเอง แล้วแก๊งค์สอวอนี่คิดจะทำอะไรกัน?
“อย่าใจร้อนฟันหัวไอ้หมอนี่เลยนะ เรียกผู้หญิงคนนั้นออกมาก่อน”
เป็นผู้ใหญ่ ต้องรู้จักพูดในสถานการณ์สำคัญ จับชู้ก็ต้องเอาผิดทั้งสองคน
“มีดนี่…ไม่ได้เอามาฟันเขาค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนพูดในใจ เอามาฟันพวกลุงๆที่แอบมางัดบ้านคนอื่นนี่แหละ…
ทั้งสองคนทำหน้างง เสี่ยวเชี่ยนมองอวี๋หมิงหลางที่ทำหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว แล้วมองเหล่าบรรดาผู้อาวุโส
“ผู้หญิงที่ทุกท่านพูดถึง…คือใครเหรอคะ?”
“เรื่องมาถึงตอนนี้แล้วไม่ต้องปิดพวกเราหรอก พวกเราเห็นไอ้หมอนี่ตั้งแต่เกิด โตมาในหมู่บ้านทหาร ใช้ชีวิตอยู่แต่กับทหาร ยังกล้าพาผู้หญิงมากินเหล้าในบ้านก่อนแต่งงานได้อีก ในฐานะที่พวกเราเป็นผู้อาวุโสไม่มีทางทนเห็นมันทำพฤติกรรมต่ำช้าได้แน่นอน!”
“ทุกท่านคงไม่ได้คิดว่า…หรอกนะ?” เสี่ยวเชี่ยนกุมขมับอย่างหมดแรง เรื่องล้อเล่นนี่ไปกันใหญ่แล้ว เธอตบบ่าเสี่ยวเฉียงที่ไม่รู้จะขำหรือร้องไห้ดี
“เพื่อน นายเป็นคนเริ่ม จัดการเอาเองเน่อ...”
ใช้เวลาอธิบายที่มาที่ไปให้ฟัง เหล่าผู้อาวุโสถามเพื่อความแน่ใจอยู่หลายรอบว่าไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรม จากนั้นจึงยอมเลิกรา
“ก็ว่าอยู่ เด็กที่โตมาในหมู่บ้านเราจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง” ชายชราคนหนึ่งพูดขึ้น
“งั้นก็ดี งั้นพวกเธอดื่มกันต่อนะ แต่น่าเสียดายอู่เหลียงเย่ขวดนี้จัง…” ชายชราอีกคนยังเสียดายเหล้าขวดที่แตกไม่เลิก
“ลุงชิวคะ ที่หนูยังมีอีกหลายขาด เดี๋ยวอีกไม่กี่วันจะเอาไปให้ทุกคนนะคะ” เสี่ยวเชี่ยนรู้จักพูดจา
เหล่าชายชราพากันยิ้มหน้าบานจนตีนกาโผล่เป็นแถบ “ไม่ต้องลำบากหรอก พ่อสามีหนูเป็นคนยังไงพวกเรารู้ดี ขี้งกเป็นที่หนึ่ง เหล้าดีๆที่เขาสะสมไว้เขาไม่มีทางยกให้พวกเราหรอก”
“ไม่ลำบากค่ะ พวกคนไข้ให้หนูมา หมิงหลางเองก็ไม่ได้ชอบดื่มเท่าไร ช่วงสองปีนี้พ่อสามีหนูก็ถูกห้ามดื่มเยอะ พวกคุณลุงคุณอาใส่ใจอวี๋หมิงหลางขนาดนี้ก็ควรได้รับสิ่งตอบแทนบ้างค่ะ”
เห็นเสี่ยวเชี่ยนทำงานนอกบ้านเก่งขนาดนี้ แต่พอกลับบ้านก็รู้จักเอาใจคนแก่ หลักๆคือปากหวาน
ตามคาด เหล่าบรรดาผู้อาวุโสทำหน้ายิ้มแย้มดีใจกันใหญ่
“มีแค่หนูนี่แหละที่รู้การรู้งาน ตอนนั้นที่ฉันเห็นหนูก็รู้ได้เลยว่าคนนี้แหละเหมาะกับเจ้าเล็ก แต่ก็แน่นอนเจ้าเล็กของพวกเราเองก็เก่งไม่เบา ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตัว…”
เสี่ยวเชี่ยนได้ยินคำพูดนี้แล้วก็อยากหัวเราะแต่ก็กลั้นไว้
อ่อนน้อมถ่อมตัวงั้นเหรอ ดูยังไงคำๆนี้ก็ไม่น่าใช้บรรยายจอมเผด็จการอย่างอวี๋หมิงหลางเลยสักนิด
นี่เป็นคำพูดยกยอจอมเผด็จการหลังจากที่รู้สึกผิดเรื่องมางัดบ้านคนอื่นหรือเปล่า?
“ใช่ค่ะใช่ คุณลุงคุณอาพูดถูกค่ะ แต่ที่หมิงหลางยอดเยี่ยมได้ขนาดนี้ก็เพราะมีผู้อาวุโสคอยสั่งสอน อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน มีคุณลุงคุณอาคอยเลี้ยงดู ไม่มีทางออกนอกลู่นอกทางแน่นอนค่ะ!”
เสี่ยวเฉียงมองแก็งค์ชายชราที่ถูกเมียของเขาพูดจาหลอกล่อ ตอนมาล่ะโมโหฉุนเฉียว แต่ตอนกลับยิ้มหน้าบานกันใหญ่
“ต่อไปเลิกให้คนอื่นเรียกคุณว่าประธานเชี่ยนดีกว่า เปลี่ยนเป็นขวัญใจชายแก่” อวี๋หมิงหลางพูดจบก็ถูกเสี่ยวเชี่ยนถีบ
“นี่ผมชมที่คุณเอาคนแก่พวกนี้อยู่หมัดนะ” เขาออกอาการน้อยใจ
“นายจะไปเข้าใจอะไร!”
“แล้วมาถีบผมทำไม!”
เขาเอามือถูสะโพกพลางทำหน้าตาน่าสงสารมองเธอ
เสี่ยวเชี่ยนขำ ลากเขามานั่งที่โซฟา เลิกเล่นบทบาทสมมติ นั่งลงบนตักของเขา
“มา ฉันจะเล่าเรื่องบางอย่างให้นายฟัง คำว่าขวัญใจชายแก่จะใช้สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ นายรู้ไหมมันหมายถึงอะไร?”
“อะไรเหรอ?” เสี่ยวเฉียงที่วันๆอยู่แต่ในค่ายทหารไม่เข้าใจพวกวิธีการเข้าสังคมจริงๆ
“ตามสวนสาธารณะจะมีพวกป้าๆยายๆประเภทพิเศษอยู่ คอยบริการพิเศษให้ชายแก่ สิบหยวนต่อครั้ง แบบนั้นหรอกถึงจะเรียกขวัญใจชายแก่ เข้าใจ๋?”
“หา!!!” เสี่ยวเฉียงอึ้ง
มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ อยู่ๆก็รู้สึกว่าที่เมียเขาถีบสะโพกเมื่อกี้ก็สมควรแล้ว
เพื่อไม่เป็นการทำผิดต่อเมียอีก เสี่ยวเฉียงจึงไม่เถียงเรื่องนี้ต่อ สมองของเขาคิดหาคำพูดแบบอื่น เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“อันที่จริงผมไม่เคยบอกคุณเลยว่า ผมมีฉายาว่าชายแก่ ดังนั้นขวัญใจชายแก่ที่ผมพูดถึงจึงไม่ได้หมายความแบบนั้น”
“นายมีฉายาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร ทำไมฉันไม่รู้?”
“เมื่อกี้”
เสี่ยวเชี่ยนนั่งมองเขาเงียบๆ จากนั้นก็หัวเราะออกมา
มีตัวเรียกเสียงหัวเราะอยู่ข้างกาย ความเศร้าความเสียใจของเธอมีอยู่ได้ไม่นานจริงๆ
พอเธอหัวเราะ เขาก็รู้สึกว่าโลกนี้สดใส
เขาลุกขึ้นไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาด จัดการเศษขวดแก้วที่แตก กวาดพื้นพลางพูด
“ดูซิเนี่ย พวกลุงๆมองว่าพวกเรากำลังทำเรื่องผิดศีลธรรม เสียเหล้าดีๆไปเลยขวดนึง แถมคุณยังไปรับปากว่าจะให้เหล้าพวกเขาอีก ทำไมผมไม่รู้เลยล่ะว่ามีลูกค้าให้เหล้าคุณด้วย?”
“ให้ใครไปซื้อมาใหม่ก็ได้แล้วนี่”
“มาสร้างความวุ่นวายให้ผมถึงบ้านยังต้องซื้อเหล้าให้อีก มีตรรกะแบบนี้ด้วยเหรอ?”
เสี่ยวเชี่ยนขำ
“นายอย่าใจแคบไปหน่อยเลยน่า ตอนเด็กๆนายก็สร้างความวุ่นวายให้พวกเขาไม่น้อยใช่ไหมล่ะ?”
เรื่องแสบๆของเขาในวัยเด็กเธอเคยได้ยินมานานแล้ว ใครอาศัยอยู่หมู่บ้านเดี๋ยวกับวายร้ายจอมเผด็จการนี่ไม่มีหรอกวันสงบสุขน่ะ
พอได้ยินเธอพูดแบบนั้นเสี่ยวเฉียงก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
“คิดๆไปก็จริงนะ เมื่อก่อนตอนที่ยังอยู่แฟลตเล็กๆ ผมชอบขึ้นไปบนกำแพงแล้วร้องเพลงตอนพวกเขานอนกลางวัน แถมยังรวมแก๊งค์เพื่อนแอบไปขโมยผักในแปลงผักอีก เอาเป็นว่าเรื่องเลวๆน่ะผมทำไว้เยอะ ฮ่าๆๆ!”
ความทรงจำในวัยเด็กทั้งนั้น
“แต่ว่าสมัยนี้จะหาความผูกพันแบบนั้นก็ยากแล้วนะ ดูอย่างที่พวกลุงๆเขามาช่วยจับชู้สิ ฉันให้เหล้าน่ะไม่เสียเปล่าหรอก”
มีแค่เพื่อนบ้านที่ผูกพันกันด้วยความทรงจำแบบพิเศษเท่านั้นถึงจะสร้างเรื่องที่น่าประทับใจแบบนี้ได้