แม้ในใจของฮองเฮาจะรู้สึกประหลาดใจ ทว่าไม่ได้พูดอันใด นางทำเพียงพยุงแม่นมเจิ้งกับแม่นมจูออกไปพร้อมกัน
“เฮ้ นางเป็นเสด็จป้าเก้าของเจ้าจริงๆ หรือ? ” จอมวายร้ายไป๋เฉ่าถามอย่างประหลาดใจ
มู่หรงฉีไพล่แขนทั้งสองไว้ด้านหลัง เขาทอดสายตามองไปไกลโดยไม่พูดอันใด
จอมวายร้ายไป๋เฉ่านึกแปลกใจ “พูดออกมาสิ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวชวนไม่สบายใจในบ้านของพวกเจ้านั้น ในสายตาของข้าไม่นับว่าเป็นความลับซับซ้อนอันใด เสด็จป้าเก้าผู้นั้นของเจ้ามาที่แคว้นจงหนิงได้อย่างไร? คิดไม่ถึงว่า นางจะเป็นถึงฮองเฮาแห่งแคว้นจงหนิงอีกด้วย”
“เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่ทราบ” มู่หรงฉีไม่รู้จริงๆ “ในปีนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในวังหลวง เจ้าเองก็รู้ดี”
“พวกเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ตอนนั้นหรือ? ”
“อืม” มู่หรงฉีพยักหน้าอย่างมั่นใจ
หลังจากที่ฮองเฮากับแม่นมจูช่วยกันพยุงแม่นมเจิ้งออกจากจวนจงอู่โหวแล้ว เมื่อออกมาหน้าประตูก็เห็นรถม้าที่ซูอวี้พาคนมาจอดรออยู่ตรงหัวมุมถนน ไม่ไกลจากหน้าประตูนัก
แม่นมเจิ้งกับแม่นมจูประหลาดใจอย่างมาก “คุณชายน้อยอวี้ ท่านทราบได้อย่างไรว่าพวกเราจะออกมาทางจวนจงอู่โหว? ”
“พี่จิ่นซีบอกว่า นางเคยเห็นข้อมูลจำนวนมากของไหวหยางจวิ้นจู่ จึงรู้ว่าตอนที่ฝ่าบาทยังเป็นรัชทายาทได้แอบลอบพบกับไหวหยางจวิ้นจู่ และได้สร้างเส้นทางลับแห่งนี้ขึ้น พวกเจ้าทั้งสองติดตามไทเฮามาทั้งชีวิต ย่อมรู้จักเส้นทางลับนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงคำนวณว่า หลังจากพวกเจ้าช่วยคนแล้ว มีความเป็นไปได้ถึงแปดส่วนที่จะออกมาจากเส้นทางลับนี้ จึงให้ข้านำคนมารอบริเวณนี้”
“พระชายาช่างน่าทึ่งเสียจริง” แม่นมจูอดเอ่ยปากชมไม่ได้
ดวงตาของแม่นมเจิ้งแน่วแน่ เหมือนไม่มีสิ่งใดจะแน่วแน่ไปมากกว่านี้อีกแล้ว ทว่านางไม่ได้พูดอันใด
“รีบขึ้นรถเถิด พวกเรารีบกลับไป พี่จิ่นซียังรอพวกเจ้าอยู่! ” ซูอวี้พูด
ทันใดนั้น แม่นมเจิ้งเหมือนจะคิดอันใดขึ้นมาได้ “แม่นมจู พวกเรารีบออกมาอย่างกะทันหัน ลืมซูเซียนฮุ่ยไปเลย”
“เจ้าจะห่วงใยนางเพื่ออันใด? ”
“คุณชายน้อยอวี้ รีบให้คนไปดู มีเรือนแห่งหนึ่งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซูเซียนฮุ่ยอยู่ในห้องนอนของเรือนนั้น”
“ซูเซียนฮุ่ย? ” ซูอวี้ประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ซูเซียนฮุ่ยและอนุซุนหายตัวไปด้วยกัน คิดไม่ถึงว่าตอนนี้นางจะอยู่ที่นี่
ซูอวี้รีบสั่งให้คนไปตามหานาง
ผ่านไปครู่หนึ่ง องครักษ์สองนายก็อุ้มซูเซียนฮุ่ยที่สวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยเท่าใดนักออกมา มองท่าทางของนางก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอันใดขึ้น ทว่าทุกคนไม่ต้องการพูดให้มากความ ทำเพียงจับนางยัดใส่ในรถม้าเท่านั้น
แม้ซูเซียนฮุ่ยจะถูกมัดมือมัดเท้าและยังมีผ้าอุดปาก ทว่าระหว่างทาง นางไม่ยอมอยู่อย่างสงบเอาเสียเลย ดวงตาทั้งคู่จ้องมองพลางโอดครวญไม่หยุด แม่นมจูจึงตีนางให้หมดสติ
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงเรือนทางทิศใต้
“พระชายา บ่าวสองคนไม่เพียงช่วยฮองเฮาออกมาได้ ยังมอบของขวัญสองชิ้นใหญ่ให้ท่านอีกด้วยเพคะ” แม่นมเจิ้งพูดพลางมองไปด้านหลัง องครักษ์สองคนนำตัวซูเซียนฮุ่ยเข้ามา
เมื่อเห็นซูเซียนฮุ่ย ซูจิ่นซีก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง
ซูเซียนฮุ่ยไม่พูดออกมาแม้แต่คำเดียว ดวงตาคู่นั้นมองซูจิ่นซีด้วยความดุดัน
แม้ซูจิ่นซีจะโกรธแค้นซูเซียนฮุ่ย ทว่าตอนนี้นางต้องควบคุมสติ เนื่องจากไม่ต้องการพูดอันใดมากกับซูเซียนฮุ่ย
ซูจิ่นซีเพียงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “จุดจบของซูเซียนฮุ่ย ฮั่วซื่อ และซูจวิ้น ล้วนเป็นการทำร้ายตนเองทั้งสิ้น หากเจ้าโกรธแค้นข้าก็มาแก้แค้นกับข้า ข้าจะรอ”
จากนั้นซูจิ่นซีก็พูดกับฮูหยินปี้ว่า “ฮูหยินปี้ ซูเซียนฮุ่ยเป็นคนของสกุลซู มอบให้เจ้าเป็นคนจัดการเถิด! ”
“เพคะ! ” ฮูหยินปี้พยักหน้า จากนั้นก็ให้คนนำตัวซูเซียนฮุ่ยออกไป “พระชายาโปรดวางพระทัย ครั้งนี้หม่อมฉันต้องดูแลซูเซียนฮุ่ยให้ดี จะไม่ให้นางหนีไปได้อีกแน่นอนเพคะ”
ซูจิ่นซีพยักหน้า
“แม่นมเจิ้ง ท่านบอกว่ามีของขวัญสองชิ้นจะมอบให้พี่จิ่นซีไม่ใช่หรือ? อีกชิ้นคือสิ่งใด? ” ซูอวี้ถาม
อีกชิ้นก็คือ…
อย่างไรซูอวี้ก็ยังเป็นเด็ก เรื่องสกปรกที่เยี่ยเซินถูกทำร้ายจนอวัยวะเพศใช้งานไม่ได้นั้น ไม่ควรพูดต่อหน้าซูอวี้ แม่นมเจิ้งลังเลเล็กน้อย ทว่าไม่ได้พูดอันใด
“แม่นมเจิ้ง มีเรื่องอันใดหรือ?” ซูอวี้ถามอีกครั้ง
เมื่อมองท่าทางแม่นมเจิ้ง และเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงของซูเซียนฮุ่ยเมื่อครู่ ซูจิ่นซีก็ทราบทันทีว่าต้องเกิดเรื่องที่ไม่เหมาะสมอันใดขึ้นแน่นอน
แม่นมที่เคยอยู่ในวังหลวง แต่ละคนช่างร้ายกาจเสียจริง ซูจิ่นซีเคยสัมผัสอย่างลึกซึ้งจากแม่นมฮวามาแล้ว คิดไม่ถึงว่าแม่นมเจิ้งผู้นี้ยังร้ายกาจยิ่งกว่าที่นางคิดไว้เสียอีก
“พอเถิด แม่นมเจิ้ง อีกสักครู่เจ้าไปที่ห้องของข้า! ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
ซูจิ่นซีตั้งใจเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา นางต้องการให้แม่นมเจิ้งไปที่ห้องแล้วค่อยคุยกัน
ซูอวี้ราวกับเข้าใจอันใดบางอย่าง จึงไม่ถามอีก
“พระชายา แม่นมเจิ้งได้รับบาดเจ็บ ท่านรีบดูนางสักหน่อยเถิด” แม่นมจูพูด
แม่นมเจิ้งมีรูปร่างค่อนข้างผอม อีกทั้งก่อนหน้านี้ตอนที่ออกจากจวนจงอู่โหว แม่นมจูได้เอาเสื้อคลุมตัวหนาของตนสวมให้นาง บาดแผลจึงถูกเสื้อคลุมปกปิดไว้ หากไม่มองอย่างละเอียดก็คงไม่เห็น
“อวี้เอ๋อร์” ซูจิ่นซีหันไปมองซูอวี้
ซูอวี้รีบตรวจชีพจรให้แม่นมเจิ้ง
ก่อนหน้านี้ตอนที่แม่นมเจิ้งเข้ามา ซูจิ่นซีตรวจพบว่าแม่นมเจิ้งได้ใช้ยาห้ามเลือด แต่ซูจิ่นซีเห็นว่านางไม่เป็นอันใดมาก จึงไม่ได้กังวลนัก ทว่าเมื่อมองไปที่บาดแผล ซูจิ่นซีก็ต้องตกใจ
“เหตุใดเจ้าไม่รีบบอก? ” ซูจิ่นซีพูด
แม่นมเจิ้งหัวเราะ หึหึ สองครั้ง ทว่าไม่ได้พูดอันใด
“โชคดีที่หยุดเลือดได้อย่างรวดเร็วและไม่บาดเจ็บในจุดสำคัญ จึงไม่มีอันใดร้ายแรง เพียงพักฟื้นสักระยะ รับประทานยาตามเวลา รอจนบาดแผลหายดีก็ไม่เป็นอันใดแล้ว ท่านแม่ อีกสักครู่รบกวนท่านพันแผลให้นางด้วย! ” ซูอวี้พูดขึ้น
ฮูหยินปี้พยักหน้า
“เจ้าบาดเจ็บได้อย่างไร? พบกับเรื่องยุ่งยากใช่หรือไม่? ” ซูจิ่นซีถาม
แม่นมจูกำลังจะพูดพอดี แม่นมเจิ้งก็กดมือของนางไว้ พลางมองซูอวี้โดยไม่เผยพิรุธ
ซูจิ่นซีเห็นสายตาของแม่นมเจิ้ง ก็แอบชื่นชมความรอบคอบของนางอยู่ในใจ ซูจิ่นซีพูดกับซูอวี้ว่า “อวี้เอ๋อร์ เจ้ากลับจวนก่อนเถิด จงไปจัดยาสมุนไพรที่ใช้สำหรับรักษาแม่นมเจิ้ง และให้คนนำมาให้ข้า”
ซูอวี้ขมวดคิ้ว ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใดที่ไม่ต้องการให้เขารับรู้ แต่เขาไม่ได้ถามมาก ทำเพียงรับคำแล้วเดินออกไป
หลังจากที่ซูอวี้เดินออกไปแล้ว แม่นมเจิ้งก็เล่าเรื่องที่พวกนางออกมาจากเส้นทางลับ พูดสิ่งที่ได้เจอ สิ่งที่ได้เห็น สิ่งที่ได้ฟังทั้งหมดรอบหนึ่ง
แม่นมเจิ้งหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “พระชายา ความจริงแล้วของขวัญอีกชิ้นหนึ่งที่บ่าวมอบให้ท่านคือ บ่าวทำให้อวัยวะเพศของเยี่ยเซินใช้งานไม่ได้เพคะ นี่เป็นการกระทำของบ่าว นับว่าเป็นการช่วยท่านแก้แค้น”
นัยน์ตาทั้งคู่ของซูจิ่นซีปรากฏแววลึกล้ำ ทว่านางไม่ได้พูดอันใด
“ครั้งนี้ลำบากพวกเจ้าสองคนแล้ว อีกสักครู่ ข้าจะให้คนเอายาถอนพิษยันต์เป็นตายมาให้พวกเจ้า เรือนนี้น่าจะยังมียาที่ใช้รักษาบาดแผลอยู่บ้าง เจ้าไปกับฮูหยินปี้ก่อน ใช้ยาเหล่านี้รักษาบาดแผลชั่วคราว พักฟื้นร่างกายให้ดี”
แม่นมเจิ้งต้องการพูดอันใดบางอย่าง แต่นางรู้ดีว่าซูจิ่นซีตั้งใจกันนางกับแม่นมจู และฮูหยินปี้ออกไป เพราะมีเรื่องจะพูดกับฮองเฮา แม่นมเจิ้งจึงไม่ได้พูดอันใด และเดินออกไปพร้อมกับฮูหยินปี้
ในห้องจึงเหลือเพียงซูจิ่นซีกับฮองเฮาเพียงสองคน
“ซูจิ่นซี อวิ๋นเกอเล่า? ”
“ท่านร้อนใจอันใด? ในเมื่อข้าสามารถพาท่านออกมาจากวังหลวงได้ ย่อมสามารถนำตัวหลวงจีนทุศีลออกมาจากคุกหลวงได้แน่นอน แต่… เจ้าต้องบอกข้าถึงจุดประสงค์ที่พวกเจ้ามายังแคว้นจงหนิง ยังมี… เกิดเหตุอันใดขึ้นที่เมืองเจียงหลิง? ”
ตอนที่ฮองเฮาได้ยินซูจิ่นซีพูดถึงเมืองเจียงหลิงนั้น ดวงตาของนางสั่นไหวเล็กน้อย ทว่าในไม่ช้านางก็แย้มยิ้มแล้วพูดว่า “ซูจิ่นซี ข้ารู้ว่าอวิ๋นเกอไม่ได้พูดอันใดกับเจ้า ข้าเคยพูดไว้แล้ว วันที่ข้ากับอวิ๋นเกอออกไปได้อย่างปลอดภัย ข้าจะบอกในสิ่งที่เจ้าควรรู้”