[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 463 : ประกาศศักดา (5)
พลแม่นปืนชาวญี่ปุ่นทั้งสี่คนเห็นหลิงหยุนสามารถฝ่าทั้งดงกระสุนและระเบิด จนสามารถขึ้นมาบนเรือได้ พวกมันจึงตกใจราวกับกำลังพบเห็นเทพเจ้าแห่งสงครามปรากฏอยู่ตรงหน้า แววตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ร่างของพลแม่นปืนทั้งสี่คนสั่นอย่างรุนแรง และแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น
แม้ทหารญี่ปุ่นทั้งสี่นายจะพูดภาษาจีนไม่ได้ และไม่เข้าใจในสิ่งที่หลิงหยุนพูด แต่พวกมันก็สามารถสัมผัสได้ถึงความตายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
ทั้งสี่คนต่างก็หันไปมองหน้ากันด้วยแววตาที่หวาดกลัวสุดขีด จากนั้นจึงกระหน่ำยิงใส่หลิงหยุนอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
สายตาของหลิงหยุนเป็นประกายขึ้นมาทันที กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของเขาก็ฟันไปตามแนวขวางอย่างแรง และศรีษะของพลแม่นปืนทั้งสี่ก็ร่วงลงสู่พื้นดินเกือบจะพร้อมกัน
หลิงหยุนได้ให้โอกาสกับทหารญี่ปุ่นแล้ว แต่เพราะพวกมันบ้าเกินไป ถึงแม้จะหวาดกลัวต่อความแข็งแกร่งของหลิงหยุนอย่างมาก แต่ก็ไม่มีใครยอมแพ้แม้แต่คนเดียว..
เมื่อหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนที่อยู่ในห้องบัญชาการของเรือลาดตระเวน-478 เห็นหลิงหยุนขึ้นมาบนเรือได้แล้ว เขาก็หมดหวังทันที แต่ก็ยังคงสั่งการเป็นครั้งสุดท้าย..
ทานากะได้รายงานเหตุการณ์ทุกอย่างบนเกาะเตียวหยูให้ทางโตเกียวรับทราบแล้ว และโนซากิก็สั่งให้เรือลาดตระเวน-477 หนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด และไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะไม่ต้องถูกศัตรูจับได้
โนซากิรู้ดีว่า.. ต่อให้หลิงหยุนแข็งแกร่งมากเพียงใด ก็ไม่มีทางที่จะไล่ตามเรือลาดตระเวน-477 ที่ตอนนี้วิ่งห่างออกไปมากแล้วได้ทันอย่างแน่นอน
จากนั้นโนซากิก็ได้นำทีมผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมด และลูกน้องคนสนิทพร้อมอาวุธครบมือออกไปด้านนอก.. แต่ที่พวกมันออกไปเผชิญหน้ากับหลิงหยุนนั้นไม่ใช่เพราะคิดที่จะสู้ตั้งแต่แรก แต่เพราะพวกมันกำลังไม่ต่างจากสุนัขจนตรอก..!
หลังจากที่สังหารพลแม่นปืนทั้งสี่คนไปแล้ว หลิงหยุนก็เดินตรงเข้าไปยังห้องบัญชาการของโนซากิ และก็เช่นเดียวกับครั้งแรก หลิงหยุนฆ่าทุกคนยกเว้นทหารหญิงเท่านั้น..
การที่หลิงหยุนไม่ฆ่าทหารหญิงนั้น ไม่ใช่เพราะเขาใจอ่อนแต่อย่างใด แต่มันคือหลักการที่เขายึดถือมาโดยตลอด! หากไม่มีความจำเป็น หรือสถานการณ์ไม่บีบบังคับ หลิงหยุนจะไม่ทำร้ายสตรี และไม่ลงมือสังหารสตรีอย่างเด็ดขาด..
ทันทีที่หลิงหยุนก้าวเดินไปยังห้องบัญชาการ กระสุนหลายนัดก็รัวใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว แต่เพียงแค่พริบตาเดียวร่างของหลิงหยุนก็พุ่งเข้าใส่ทหารที่อยู่ด้านหน้า และกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของเขาก็สังหารทหารญี่ปุ่นตายไปอีกหกคน และหนึ่งในนั้นก็คือทานากะ..
ในห้องบัญชาการนั้น เหลือเพียงโนซากิ และทหารหญิงหน้าตาสะสวยซึ่งสามารถพูดภาษาจีนได้
เห็นได้ชัดว่าเรือลาดตระเวนรอบเกาะเตียวหยูที่นำโดยโนซากินั้น ดูเหมือนว่าจะมีทหารหลายนายจะได้เรียนภาษาจีนมาด้วย
ถึงแม้โนซากิจะกลัวจนหน้าซีด แต่ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเย็นชา ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะพูดออกไปว่า..
“แกคงจะเป็นจอมยุทธของประเทศจีนสินะ! แต่แกคงไม่รู้ตัวว่ากำลังทำผิดข้อตกลงลับระหว่างสองประเทศอยู่ รับรอบว่าจากนี้ไปแกจะต้องถูกองค์กรเอสเปอร์ (Esper – ผู้ที่มีพลังจิต) ระหว่างประเทศไล่ล่าอย่างแน่นอน!”
หลิงหยุนไม่รู้เรื่องข้อตกลงลับระหว่างสองประเทศว่ามันคืออะไร? และมีรายละเอียดอะไรบ้าง? แต่จากการที่เขาวิเคราะห์นั้น หนึ่งในข้อตกลงน่าจะมีข้อห้ามไม่ให้จอมยุทธของประเทศจีนจีนใช้กำลังภายใน และวรยุทธจัดการกับคนธรรมดาด้วยอย่างแน่นอน!
และในความคิดเห็นของหลิงหยุนนั้น.. เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าขัน และโง่เขลาสิ้นดี!
หลิงหยุนยิ้มเหยียดก่อนจะพยักหน้า และตอบกลับไปว่า “ขอบใจที่เตือนข้า!”
โนซากิจ้องมองหลิงหยุนอย่างแค้นเคือง “แกใช้ความได้เปรียบทางด้านวรยุทธของชาวจีนสังหารทหารญี่ปุ่นที่เก่งกาจไปหลายนาย ยอดฝีมือของชาวญี่ปุ่นจะต้องตามแก้แค้นเอาชีวิตของแกอย่างแน่นอน!”
หลิงหยุนพยักหน้าอีกครั้ง เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบกลับไปว่า “เจ้าไม่ต้องกังวลไป ต่อให้พวกมันไม่มาตามฆ่าข้า ยังไงข้าก็ต้องไปที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว..”
ฝาหม้อทองแดงยังคงอยู่กับตระกูลโทคุงาวะในประเทศญี่ปุ่น และหลิงหยุนก็ตั้งใจที่จะไปนำกลับคืนมา..
เมื่อได้ยินว่าหลิงหยุนจะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น สีหน้าของโนซากิก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดลงทันที เขาเม้มริมฝีปากและจ้องมองหลิงหยุนก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ฉันยอมรับว่าแกแข็งแกร่ง และเก่งกาจมากจริงๆ แต่ที่ฉันไม่เข้าใจก็คือว่า คนแบบแกน่าจะสนใจแต่เรื่องการฝึกวรยุทธมากกว่า แต่ทำไมถึงได้เข้ามายุ่งเรื่องข้อพิพาททางทหารและการเมืองของทั้งสองประเทศ? ในเมื่อแกเองก็ไม่ได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้แม้แต่น้อย?”
หลิงหยุนตอบกลับไปอย่างไม่ปิดบัง น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย “ข้าไม่ได้ต้องการเข้าไปยุ่งเรื่องกรณีพิพาทระหว่างประเทศอะไรทั้งนั้น ข้าเพียงแค่ต้องการมาเที่ยวที่เกาะเตียวหยูเท่านั้นเอง และเกาะนี่ก็เป็นดินแดนของประเทศจีน..”
โนซากิถึงกับกัดฟันกรอดพร้อมกับร้องตะโกนด้วยความโมโห “ประเทศจีนมีพื้นที่ใหญ่โตมหาศาล ทำไมยังต้องมาแย่งชิงเกาะเล็กๆกับพวกเราอีก?”
หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยและสวนกลับไปทันที “ดูเหมือนเจ้าจะพูดผิดไปแล้ว.. คนที่แย่งชิงไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นพวกเจ้าต่างหาก!”
หญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งสูดลมหายใจลึก สายตาของเธอจ้องมองไปทางหลิงหยุนก่อนจะพูดขึ้นว่า..
“คุณทำแบบนี้ไม่กลัวว่าจะสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับอเมริกาหรือยังไง? คุณไม่กลัวว่านี่จะเป็นการยั่วยุให้เกิดสงครามระหว่างประเทศงั้นหรือ? แล้วไม่กลัวว่าประเทศจีนของคุณจะถูกนานาชาติคว่ำบาตรหรือยังไง?”
หลิงหยุนเหลือบมองหญิงสาวก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แล้วเกี่ยวอะไรกับสหรัฐอเมริกา.. ข้าอยู่บนผืนแผ่นดินของประเทศจีน ถ้าอเมริกาอยากจะลองดีก็ได้เลย!”
หญิงสาวหน้าตาสะสวยเงียบไปเพราะคำพูดของหลิงหยุนครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อว่า “แต่เกาะเตียวหยูแห่งนี้ สหรัฐอเมริกาได้ส่งมอบให้กับประเทศของเรา และได้ยืนยันว่าเป็นดินแดนของพวกเรา!”
หลิงหยุนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย เพราะดูเหมือนว่าสงครามที่อาจเกิดขึ้นเพราะเกาะเตียวหยูนั้น ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่กลับมีสหรัฐอเมริกาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ประเทศสหรัฐอเมริกาดูเหมือนจะยุ่งกับประเทศอื่นๆไปทั่วโลก ความน่ากลัวของสหรัฐอเมริกานั้นอยู่ที่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ ความน่าเกรงขาม และความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังมีกองทัพพที่ทรงพลังสามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับหลายๆประเทศได้
แต่หลิงหยุนเองก็เข้าใจดีว่า มันเป็นธรรมชาติที่จะต้องแสดงแสนยานุภาพของตนเอง ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะไม่ได้รับการยอมรับจากคนอื่น หรือไม่ก็อาจถูกโจมตี และถูกรังแกก็ได้หากคุณไม่แข็งแกร่งพอ!
หยิงหยุนยิ้มเหยียด “ในสายตาของข้า.. เกาะเตียวหยูเป็นดินแดนของประเทศจีน และต่อให้คนทั้งโลกบอกว่ามันเป็นของประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้าข้าไม่ยอมรับ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่พวกเจ้าจะมานั่งอธิบาย.. พวกเจ้าเข้าใจที่ข้าพูดใช่ไม๊?”
หลิงหยุนกำลังต้องการจะบอกว่า.. เขาไม่สนใจว่าประเทศสหรัฐอเมริกาจะพูดอย่างไร เพราะถึงแม้สหรัฐอเมริกาจะควบคุมทั่วทั้งโลกได้ แต่ไม่ใช่เขา!
หญิงสาวชาวญี่ปุ่นได้ฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เธอมองหลิงหยุนอย่างขุ่นเคืองพร้อมกับตอบไปว่า
“คุณช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!”
หลิงหยุนหัวเราะหึหึ “ฟังให้ชัดๆนะ ตราบใดที่ข้ายังสามารถยืนคุยกับพวกเจ้าอยู่ แสดงว่าข้ามีเหตุผลมากพอ! เพราะหากข้าไม่มีเหตุผลอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ ป่านนี้พวกเจ้าคงไม่ได้ยืนพูดอยู่แบบนี้แน่!”
ตอนนี้หลิงหยุนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด คำพูดของเขาจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด!
หลิงหยุนเหลือบมองเรือลาดตระเวน-477 ที่แล่นออกไปไกลมากจนเห็นเป็นเพียงจุดขาวเล็กๆท่ามกลางท้องทะเลที่มืดมิด จากนั้นก็หันกลับมาพูดต่อว่า
“ข้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น นอกจาก..”
หลิงหยุนยกมือขึ้นชี้ไปทางเกาะเตียวหยู พร้อมกับพูดยิ้มๆ “ตราบใดที่ข้าอยู่บนเกาะแห่งนี้ เกาะนี่ก็จะเป็นของประเทศจีน และหากข้ายังไม่กลับออกไป พวกเจ้าก็หุบปาก และไม่ต้องอธิบายอะไรอีก เพราะข้าไม่สนใจเรื่องกรณีพิพาทอะไรทั้งนั้น..”
โนซากิยิ้มเหยียด “เป็นของคนจีนอย่างงั้นเหรอ? แกรู้ไว้ด้วยว่าสิ่งที่แกทำลงไปในวันนี้ ฉันได้รายงานไปยังหน่วยงานในโตเกียวจนหมดแล้ว ตอนนี้ไม่เพียงแค่กองทัพญี่ปุ่นจะยกพลมาที่นี่ กองทัพสหรัฐก็อาจจะยกพลมาด้วยเช่นกัน..”
หลิงหยุนยิ้มเยือกเย็นและตอบกลับไปว่า “กองทัพสหรัฐงั้นรึ.. ฟังดูน่ากลัวดีนี่! คนอื่นฟังแล้วอาจจะกลัว.. แต่สำหรับข้า.. ขอบอกว่าไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย! ข้าจะบอกอะไรให้.. ปล่อยให้พวกมันยกพลมาเลย ยิ่งมากันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!”
เมื่อใดก็ตามที่เจ้าขาวปุยต้องเผชิญกับสายฟ้าฟาด ถึงตอนนั้นต่อให้ยกพลกันมามากแค่ใหน ทุกคนก็จะต้องถูกฝังร่างลงใต้ท้องทะเล แม้แต่หลิงหยุนเองก็ยังยากที่จะต้านทาน..
โนซากิและหญิงสาวญี่ปุ่นหน้าตาสะสวยถึงกับหันไปมองหน้ากัน ทั้งคู่ต่างก็คิดในใจว่าดูเหมือนชายสวมผ้าปิดบังใบหน้าที่อยู่ต่อหน้าพวกเขานั้น คงจะไม่รู้เรื่องกฏหมายเลยแม้แต่น้อย!
“เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกไม๊?”
หลิงหยุนถามขึ้นเพราะเห็นเรือประมงใกล้เข้ามามากแล้ว และตอนนี้มันก็อยู่ห่างจากเรือลาดตระเวน-478 ไปเพียงห้าร้อยเมตร หลิงหยุนรู้ว่ามันคือเรือประมงของคนจีนที่พบก่อนหน้านี้..
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับเหลือบไปมองทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และเห็นว่าเรือลาดตระเวนของจีนก็อยู่ห่างไปเพียงแค่หนึ่งไมล์ทะเล และกำลังวิ่งตรงมาที่นี่ด้วยความเร็วสูงเช่นกันกัน
โนซากิรู้ตัวดีว่าเขาต้องตายอย่างแน่นอน จึงรีบใช้เวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดนี้ชี้ไปทางหญิงสาวหน้าตาสวยงาม และพูดขึ้นว่า
“นี่คือคุณโยชิซาวะ มินามิ ฉันหวังว่าแกจะปล่อยเธอไป!”
โยชิซาวะ มินามิ จ้องมองหลิงหยุนด้วยร่างกายที่สั่นเทา แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความเกลียดชังพร้อมกับพูดขึ้นอย่างจองหอง
“หัวหน้าโนซากิ.. ถึงแม้ฉันจะเป็นผู้หญิง ก็เป็นทหารญี่ปุ่นเหมือนกัน ฉันไม่ต้องการให้เขาไว้ชีวิต!”
“เขาเป็นปีศาจ! ทหารญี่ปุ่นหลายคนต้องตาย และจมลงใต้ทะเลด้วยน้ำมือของเขา หากฉันรอดชีวิตไปเพียงแค่คนเดียว คงจะเป็นเรื่องน่าอับอายมาก!”
แต่หลิงหยุนกลับเพียงแค่ยิ้มบาง และตอบไปว่า “ไม่ใช่เจ้าเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต.. เพราะข้าไม่ฆ่าสตรี! อีกอย่างเรือลาดตระเวน-472 ที่ถูกหัวหน้าของเจ้ายิงจมลงทะเลไปนั้น ข้าก็ได้ช่วยทหารหญิงที่อยู่บนเรือไว้ได้สองคน!”
“อะไรนะ?!” โยชิซาวะตาเป็นประกายอย่างไม่อยากจะเชื่อ
หลิงหยุนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “ต่อให้นี่เป็นสงคราม ก็เป็นเรื่องระหว่างผู้ชาย..”
หลังจากพูดจบ หลิงหยุนก็เดินตรงไปหาโนซากิทันที เขายกมือขึ้นชี้ไปทางโนซากิ และโนซากิก็สิ้นใจตายลงในพริบตา
“ฟังนะ.. คนจีนไม่รังแกใครก่อน! ถ้าเจ้ากลับไปประเทศของเจ้า ก็ฝากคำพูดของข้าไปบอกผู้นำของเจ้าด้วย!”
หลิงหยุนหันไปมองโยชิซาวิ มินามิ ที่หน้าซีดเผือด ก่อนจะค่อยๆเปิดประตูและเดินออกไป
ตอนนี้เรือประมงของจีนก็อยู่ห่างจากเรือลาดตระเวน-478 เพียงแค่สองร้อยเมตรเท่านั้น
“ลุงหยาง.. เขายังไม่ตาย! ดูสิง.. เขายังยืนอยู่บนหัวเรือนั่น แล้วก็หล่อมากด้วย!”
บนเรือประมง.. หวังจงอี้ที่ในมือถือโทรโข่งนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและตื่นเต้น จนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้!