“เป็นจริงอย่างที่ว่า ข้าได้รับการเก็บเกี่ยวมามากมาย ทว่าอย่าพูดถึงเรื่องเหล่านั้นในตอนนี้เลย”

เซี่ยปิงยอมรับว่าตนเองได้รับการเก็บเกี่ยวมามากมาย

“เยี่ยม เยี่ยมมาก”

ในความเป็นจริง กู่ชีไหลก็รู้สึกว่าได้ว่าออร่าของร่างกายเซี่ยปิงนั้นไม่ธรรมดาเลย เทียบกับหนึ่งปีที่แล้ว มันมีความแตกต่างราวกับฟ้ากับเหว แกนพลังฉีอยู่ในจุดที่น่าสะพรึงกลัว คาดการณ์ได้ว่าคงจะพัฒนาจนมาอยู่ในระดับเดียวกับตนเองหรืออาจจะเหนือกว่าตนเองด้วยซ้ำ

ทว่าคิดได้ถึงจุดๆนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้เหนือจินตนาการจริงๆ

ต้องรู้ด้วยว่าเขาที่เป็นราชันไร้เทียมทานนั้นได้ทำการบ่มเพาะมานานนับพันปีจึงจะสามารถพัฒนาตนเองมาอยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดได้ ต่อให้เจ้าเซี่ยปิงจะมีพรสวรรค์ดั่งปีศาจอย่างมากมายแค่ไหน ทว่าการที่ภายในระยะเวลาอันสั้นเพียงแค่หนึ่งปีก็สามารถที่จะพัฒนามาอยู่ในระดับเดียวกับเขาได้นั้น นี่มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป

“อืม ใช่สิ เมื่อครู่นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

กู่ชีไหลกวาดสายตามองออกไปรอบๆ ค้นพบว่ามีเด็กรุ่นใหม่มากมายที่อยู่ที่นี่เช่นกัน

“ไม่มีอะไร นี่เป็นเพียงการพบปะกับสหายเก่าเท่านั้น ในช่วงเวลานี้ก็แค่มีความเข้าใจผิดกันเล็กๆน้อยๆ”

เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย

เขาไม่ได้เน้นย้ำถึงความขัดแย้งของหลิวจี๋และคนอื่นๆ ตอนนี้การที่เขามีตำแหน่งเช่นนี้นั้น ต่อให้เขาจะไม่พูดอะไรออกมา เพียงแค่แสดงสถานะของตนเองออกไปนั้น คนเหล่านี้ก็ควรจะรู้ว่าตนเองควรต้องทำอย่างไร

ผู้ที่สามารถก้าวเข้ามาสู่ตำแหน่งที่สูงส่งในสังคมมนุษย์ได้นั้น ไม่ใช่คนที่โง่เขลา พวกเขาต้องเข้าใจการประพฤติตัวที่เหมาะสม หากต้องบอกกล่าวทุกเรื่องล่ะก็ จากนั้นก็คงจะเป็นคนที่โง่เขลาจริงๆ

“เข้าใจแล้ว หากไม่มีเรื่องอะไร ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ ราชันมนุษย์จำนวนมากกำลังรอเจ้าอยู่ที่รัฐบาลโลก”

กู่ชีไหลพยักหน้า สำหรับเขา นี่เป็นเพียงแค่เรื่องที่เล็กน้อยจริงๆ นอกจากจะเป็นวิกฤติความเป็นความตายของเผ่าพันธุ์มนุษย์หรือเรื่องแกนพลังฉีของตนเองนั้น ก็ไม่ได้มีเรื่องอื่นๆมากมายที่เขาจะให้ความสนใจ

“ขออภัยด้วย ข้ามีธุระเร่งด่วน ราชันมนุษย์จำนวนหนึ่งกำลังรอพบข้า ข้าต้องไปก่อน หวังว่าพวกเราจะได้พบกันใหม่อีกครั้ง ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ เป็นมื้ออาหารที่รสชาติดีทีเดียว” เซี่ยปิงพูดกับหวาห่าวและคนอื่นๆ

“เอ่อ…ไม่เป็นไร”

หวาห่าวและคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึง พวกเขารู้สึกว่าร่างกายของตนเองสั่นไหว รู้สึกว่าภาพลักษณ์ของเซี่ยปิงดูยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันที แม่เจ้า ราชันมนุษย์จำนวนมากกำลังรอพบ ท้ายที่สุดแล้วนี่คือบุคคลที่มีสถานะใดกัน?!

สำหรับการที่จะทักทายเขา แม้แต่วีรบุรุษของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ราชันไร้เทียมทานกู่ชีไหลก็เดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง เมื่อคิดได้ถึงสถานะของเซี่ยปิงนั้น พวกเขาต่างก็รู้สึกหวาดหวั่น นี่จะต้องเป็นผู้ที่มีภูมิหลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน

จากนั้น เซี่ยปิงและกู่ชีไหลก็ได้เดินทางออกไป

ราชันมนุษย์คนอื่นๆก็ได้ติดตามไปเช่นกัน เดินทางออกไปจากร้านสวรรค์บนดินแห่งนี้อย่างรวดเร็ว หลงเหลือไว้เพียงแค่หวาห่าวและคนอื่นๆเพียงเท่านั้น

“แม่เจ้า อันที่จริงเจ้าชายหนุ่มคนเมื่อกี้มีภูมิหลังเป็นอย่างไรกัน ทำไมกู่ชีไหลวีรบุรุษของเผ่าพันธุ์มนุษย์ถึงได้เดินทางมาทักทายเขาด้วยตนเอง? จะต้องมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน ทว่าเขาเป็นใครมาจากไหนกัน?”

“เจ้าจดจำเขาไม่ได้หรือ? นั่นคือราชันเซี่ยปิง ราชันมนุษย์ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ปีที่แล้วเขาก็เป็นผู้ชนะเลิศในการประลองของเหล่าอัจฉริยะเช่นกัน อีกทั้งในอดีตก็ยังเคยสังหารราชันปีศาจเป็นจำนวนมาก เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร”

“เดิมทีเป็นเซี่ยปิงนี่เอง เดิมทีเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นราชันมนุษย์นี่เอง ไม่ประหลาดใจว่าทำไมถึงได้น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก”

“แต่ปัญหาก็คือว่าต่อให้เจ้าเซี่ยปิงจะเป็นราชัน ทว่าการที่ทำให้ราชันไร้เทียมทานเดินทางมาต้อนรับด้วยตนเองเช่นนี้ นี่มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป”

“ไม่ การที่เซี่ยปิงเลื่อนขั้นเป็นราชันนั้นมันเป็นเรื่องของปีที่แล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าแกนพลังฉีของเขาจะพัฒนาไปถึงขั้นไหน บางทีเขาอาจจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตของราชันไร้เทียมทานก็เป็นได้”

“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งปี นี่มันไม่สมเหตุสมผลเกินไป ต่อให้จะเป็นอัจฉริยะ ทว่าก็ไม่เคยมีอัจฉริยะคนใดที่ประสบความสำเร็จจนถึงขั้นนี้”

ผู้คนต่างก็พูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม

เพียงแค่การรับประทานอาหาร ก็มีราชันไร้เทียมทานเดินทางมาทักทายด้วยตนเอง ช่างเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการเกินไป

“เขาและพวกเจ้าเป็นสหายร่วมบ้านเกิดกันจริงๆหรือ?”

หวาห่าวรู้สึกหวาดกลัวและมองหมีไทรานและคนอื่นๆด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าเจ้าหมีไทรานและอีกสองคนมีสหายร่วมบ้านเกิดที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ มีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่จนน่าสะพรึงกลัว

เมื่อคิดได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองวางมาดใหญ่โตต่อหน้าเซี่ยปิง อวดเบ่งถึงความร่ำรวยของตนเอง อีกทั้งยังนำรถแฟนท่อมสามพันออกมาโชว์ เขาก็ปรารถนาที่จะขุดหลุมฝังตนลงไปทันที

นี่มันเป็นเหมือนกับการที่ชาวบ้านผู้มั่งคั่งได้อวดรถไถ่นาของตนเองให้บุคคลที่ร่ำรวยระดับโลกก็ว่าได้ อีกทั้งยังโอ้อวดถึงแรงม้าของรถคันนี้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเลยว่ารถซูเปอร์คาร์ของผู้ที่ร่ำรวยระดับโลกนั้นรวดเร็วกว่ารถของตนเองแค่ไหน

คิดได้แบบนี้ เขาก็รู้สึกโศกเศร้าและละอายใจ ช่างเป็นการทำให้ตนเองขายหน้าจริงๆ

“ใช่”

หมีไทรานและอีกสองคนต่างก็ยืดอกขึ้นมา รู้สึกภาคภูมิใจมาก การที่เป็นสหายร่วมบ้านเกิดกับบุคคลเช่นนี้ ช่างมีหน้ามีตาในสังคมจริงๆ พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าตนเองได้รับความรุ่งโรจน์ไปเช่นกัน

บอกตามตรง ก่อนหน้านี้พวกเขานั้นก็ไม่ได้เข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของเซี่ยปิงจริงๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้นั้นไต่เต้าไปอยู่ในระดับที่สูงส่งแค่ไหน

ทว่าเมื่อได้เห็นกู่ชีไหลราชันไร้เทียมทานที่เข้ามากล่าวทักทายเซี่ยปิงด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีกลุ่มของราชันมนุษย์จำนวนมากที่รอจะได้พบกับเขานั้น พวกเขาก็ล่วงรู้ว่าตนเองและเซี่ยปิงนั้นอยู่กันคนละมิติก็ว่าได้

เรียกได้ว่าเซี่ยปิงนั้นยืนอยู่ในระดับสูงสุดของโลกใบนี้ เป็นผู้มีอิทธิพลที่สามารถควบคุมชะตากรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้อย่างแท้จริง

“ข้า..ขอโทษด้วย โปรดให้อภัยข้าเถอะ”

ในตอนนี้หลิวจี๋ก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่โศกเศร้า ตึบ ไม่คาดคิดว่าเขาจะคุกเข่าลงต่อหน้าหวาห่าวและคนอื่นๆโดยตรง น้ำมูกและน้ำตาไหลออกมา หวาดกลัวจนร่างกายสั่นเทา

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้ถึงสถานะของเซี่ยปิงและไม่ได้รู้ถึงพลังอำนาจของเซี่ยปิง ทว่าเขาก็รู้ว่ากู่ชีไหลนั้นเป็นบุคคลที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน ล่วงรู้ว่าราชันไร้เทียมทานนั้นเป็นบุคคลที่ไม่สามารถท้าทายได้อย่างแน่นอน

ต่อให้ในยุคนี้จะมีราชันมนุษย์ที่กำเนิดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทว่าราชันไร้เทียมทานนั้นก็ยังคงเป็นตัวตนในระดับสูงสุด สามารถที่จะทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างได้

อย่าว่าแต่เขาหลิวจี๋เลย แม้แต่ทั้งตระกูลหลิว ตราบใดที่กู่ชีไหลเพียงแค่เอ่ยปากออกมา ทั่วทั้งตระกูลหลิวก็จะต้องเปลี่ยนกลายเป็นผุยผงอย่างกะทันหัน

คิดได้แบบนี้ เป็นเพราะว่าตนเองได้ก่อเรื่องที่เล็กน้อยเช่นนี้จนเกือบที่จะทำให้ตระกูลหลิวเผชิญกับการทำลายล้างนั้น ร่างกายของเขาก็สั่นเทาอย่างที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้

คาดการณ์ได้ว่าหากผู้อาวุโสจำนวนมากของตระกูลหลิวล่วงรู้ถึงเรื่องนี้ จะต้องปรารถนาที่จะสังหารเขาในทันที ช่างเป็นการนำหายนะมาสู่ตระกูลอย่างแท้จริง

ตอนนี้เขาก็ล่วงรู้ว่าทำไมชายตาเดียวถึงได้ตบใบหน้าของเขา หากก่อนหน้านี้ชายตาเดียวไม่สามารถจดจำตัวตนที่แท้จริงของเซี่ยปิงได้ล่ะก็ ตอนนี้เขาก็คงจะต้องตายไปโดยที่ไม่มีหลุมฝังศพอย่างแน่นอน

คิดได้แบบนี้ เขาก็ยังคงรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้

“ไม่คาดคิดว่าจะคุกเข่าลง?!”

หวาห่าวและคนอื่นๆก็ตกใจอย่างมาก บุคคลที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา ตระกูลหลิวที่ไม่สามารถท้าทายได้ ทำได้เพียงแค่มองดูไปตลอดทั้งชีวิต ทว่าตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามกลับหวาดกลัวจนคุกเข่าลงต่อหน้าพวกเขา อ้อนวอนขอความเมตตาอย่างต่อเนื่อง

ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยปิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่มองหลิวจี๋อย่างไม่ที่ต้องการมองหนึ่งครั้ง ทว่าก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามหวาดกลัวจนทรุดลงไป หวาดกลัวจนขวัญกระเจิง นี่คือพลังอำนาจและอิทธิพลที่แท้จริง

ต่อให้จะไม่สามารถที่จะมองเห็นได้หรือสัมผัสได้ ทว่ามันก็เป็นของจริง ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถที่จะต้านทานได้!

…………..

“เจ้ามนุษย์คนนั้นก็คือเซี่ยปิงอย่างนั้นหรือ? ไม่คาดคิดว่าจะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเขาออกไปจากโลกแห่งเมฆาและเดินทางไปในจักรวาลหรือ? จะต้องรีบรายงานท่านราชันทันที นี่เป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนทั่วทั้งโลกแห่งเมฆา จะต้องรายงานให้ราชันปีศาจทั้งหมดได้รู้”

สายลับของเผ่าพันธุ์ปีศาจที่อยู่ภายในร้านสวรรค์บนดินแห่งนี้ก็ตกใจขึ้นมาทันที สัญชาตญาณของมันกำลังบ่งบอกว่าการกลับมาของเซี่ยปิงนั้นไม่ใช่เรื่องปกติอย่างแน่นอน จะต้องมีเรื่องที่สำคัญที่สามารถพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินโลกแห่งเมฆาอย่างแน่นอน

อีกทั้งไม่ใช่เพียงแค่สายลับของเผ่าพันธุ์ปีศาจเท่านั้น แม้แต่สายลับของเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลและสายลับขององค์กรต่างๆของมนุษย์ก็ล่วงรู้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน ทันใดนั้นก็ได้กระจายข่าวออกไป เซี่ยปิงปรากฎตัวขึ้นมาภายในเกาะหยานหวง ข่าวนี้ก็ได้กระจายไปถึงหูของผู้มีอิทธิพลระดับสูงของกลุ่มอิทธิพลต่างๆเช่นกัน