ตอนที่ 1404 จักรพรรดินีเหล็ก (2)
ไม่มีใครคิดว่าจักรพรรดินีที่เคยถูกคนนับพันชี้นิ้วสาปส่งหาว่านางไม่บริสุทธิ์ ตอนนี้จะกลายเป็นจักรพรรดินีเหล็กที่ทำหน้าที่อย่างเด็ดขาด ออกคำสั่งได้ในพริบตา
หลังจากพวกคนพิษบุกโจมตี นางก็เป็นคนที่ตัดสินใจได้เร็วที่สุดในการเสริมการป้องกันชายแดน จำกัดการใช้จ่ายของประเทศ ใช้เงินและกำลังทหารไปในสงคราม กำหนดแผนการรบร่วมกับแคว้นฉีและแคว้นเฉียวเพื่อควบคุมสถานการณ์
คนที่เคยด่าทอสาปแช่งฉูหลิงเย่ ตอนนี้ต่างพากันปิดปากเงียบ
ทั่วแคว้นเหยียนตอนนี้ไม่มีใครกล้าพูดดูถูกฉูหลิงเย่อีกต่อไป
เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของนางกำนัล นางเดินไปเปิดประตูห้องทรงพระอักษร ทหารคนหนึ่งคุกเข่าอยู่ข้างนอกพร้อมกับมีสีหน้าตื่นเต้นอย่างมาก
“ฝ่าบาท! องค์จักรพรรดิ……เสด็จกลับวังแล้วพะย่ะค่ะ!”
เสียงของหล่นกระแทกดังขึ้น ฉูหลิงเย่มือสั่นจนทำที่ฝนหมึกหล่นลงบนโต๊ะ นางเงยหน้าขึ้นทันทีด้วยความแปลกใจ ในดวงตาที่น่าหลงใหลคู่นั้นเผยให้เห็นแววตาประหม่าและตกใจที่เคยเป็นของเด็กสาวที่ไร้เดียงสาเช่นเมื่อก่อน
“เจ้าว่าอะไรนะ……” ฉูหลิงเย่รู้สึกว่าเสียงของตัวเองเริ่มสั่น
“องค์จักรพรรดิเสด็จกลับวังมาแล้วพะย่ะค่ะ ตอนนี้กำลังรอฝ่าบาทอยู่ที่ท้องพระโรง” ทหารคนนั้นตอบ
ฉูหลิงเย่ลุกพรวดขึ้นทันที ใบหน้าที่สงบนิ่งอยู่เสมอนั้น แสดงให้เห็นถึงความประหม่าและเขินอายอย่างเด็กสาวทั่วไป
“ข้า……”
ฉูหลิงเย่เห็นว่านางไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า และชุดของนางก็เลอะหมึกสีดำ ทันใดนั้นนางก็ตระหนักว่าหลังจากทำงานโต้รุ่งติดต่อกันหลายคืน ใบหน้าของนางก็ซูบซีด ผมเผ้ายุ่งเหยิง
[นางกลับมาแล้ว แต่……ดูสภาพของตัวเองซิ จะไปเจอนางแบบนี้ได้ยังไง?]
“ฝ่าบาทเพคะ……” นางกำนัลอดพูดออกมาไม่ได้ นางเพิ่งมารับใช้ข้างกายฉูหลิงเย่ประมาณครึ่งปีที่แล้ว และไม่เคยเห็นฉูหลิงเย่แสดงท่าทางของหญิงสาวแบบนี้เลยสักครั้ง ปัจจุบันคนทั้งโลกรู้แล้วว่าแคว้นเหยียนของพวกเขามีจักรพรรดินีเหล็ก แต่ใครจะคิดว่าจักรพรรดินีเหล็กคนนี้ พอได้ยินว่าสามีของนางกลับมา ก็แสดงความประหม่าและโง่เขลาอย่างเด็กสาวได้น่ารักขนาดนี้?
เสียงเรียกของนางกำนัลทำให้ฉูหลิงเย่สะดุ้งเล็กน้อย นางมองไปที่ชุดหงส์บนตัวก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ
“ส่งคนออกไปบอกข่าวเรื่ององค์จักรพรรดิเสด็จกลับวังแล้วกับท่านมหาอำมาตย์และเล่ยเฉิน ให้พวกเขารีบเข้าวังทันที ข้า……จะไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทก่อน!” ฉูหลิงเย่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พยายามระงับความตื่นเต้นก่อนจะก้าวออกจากห้องทรงพระอักษร
ภายในท้องพระโรงของแคว้นเหยียน จวินอู๋เสียนั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมกับพลิกดูรายงานการรบเกี่ยวกับสถานการณ์ที่แนวหน้าของแคว้นเหยียนในช่วงนี้ เมื่อเสียงประกาศดังขึ้น นางก็เงยหน้าขึ้นและเห็นร่างที่สง่างามเดินเข้ามา
บนใบหน้าที่เคยมีแต่ความเขินอายของเด็กสาว ตอนนี้ได้สูญเสียความร่าเริงมีชีวิตชีวาไปบ้างแล้ว แต่กลับมีความสง่างามมั่นคงเข้ามาแทน เหมือนดักแด้ที่ลอกคราบกลายเป็นผีเสื้อ กิริยาท่าทางของนางแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง
หลังจากแยกจากกันมานานกว่าหนึ่งปี ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าของนางยังเหมือนเดิมแล้วล่ะก็ จวินอู๋เสียก็คงจำหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ว่าเป็นคนเดียวกับคนที่ทั้งหูทั้งหน้ากลายเป็นสีแดงหลังจากพูดกับนางแทบไม่ถึงสองคำ
ฉูหลิงเย่เดินเข้ามาคุกเข่าอย่างสง่างามในท้องพระโรง
“หม่อมฉันขอถวายการต้อนรับฝ่าบาทกลับวังเพคะ ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆปี” นางก้มคำนับอย่างจริงใจให้กับเทพในใจนาง
จวินอู๋เสียหันกลับมาสนใจและพูดว่า “ลุกขึ้นเถอะ”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” ฉูหลิงเย่พยายามนิ่ง แต่ก็ไม่สามารถหยุดมือที่สั่นอยู่ใต้แขนเสื้อได้ นางมองจวินอู๋เสียที่นั่งอยู่บนบัลลังก์จักรพรรดิ หลังจากไม่ได้เห็นนางมากว่าหนึ่งปี จวินอู๋เสียสูงขึ้นและรูปร่างก็เพรียวบาง แม้ว่านางจะรู้อยู่แก่ใจว่าจวินอู๋เสียเป็นผู้หญิง แต่พอได้เห็นจวินอู๋เสีย ในใจของฉูหลิงเย่ก็เต้นแรงทันทีอย่างควบคุมไม่ได้