นายท่าน!

ชายวัยกลางคนตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัวจนต้องลงไปคุกเข่าทั้งสองข้างที่พื้น แม้แต่หน้าผากก็ยังแนบติดกับพื้น ปากก็พูดอ้อนวอนอย่างตะกุกตะกัก “นายท่าน ผมไม่ได้ทำ เอ่อ นายท่าน…ผมกับพวกคนชุดดำพวกนี้ ผม—-ผมไม่รู้จักพวกมัน ผมไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงอยากพบท่าน ผมไม่รู้อะไรเลย”

 

ชายวัยกลางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมชูฮันต้องอยากให้เขาคุกเข่าลงกับพื้น และเขาก็ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าสถานการณ์ตรงหน้านี้มันคืออะไร  และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้คือใคร

 

ชูฮันทำให้เขาอิจฉา เขารู้สึกอิจฉา…

 

ไม่มีความลังเลต่อความอับอายกับการกระทำ ไม่มีมีศักดิ์ศรี หรือลูกเล่นใดๆ และการอ้อนวอนขอความเมตตาก็กลายเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับคนที่ต้องการอยู่รอดในโลกาวินาศ เพื่อที่จะมีชีวิตรอด กลายเป็นคนโลภเพื่อมีชีวิตอยู่ ทุกคนสามารถยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อแลกมา

 

ชูฮันเหลือบตามองจ้องตาชายวัยกลางคนอย่างไม่มีอารมณ์ใดๆแสดงออกมา และจู่ๆชูฮันก็มีปฏิกิริยา เขากระชากผมของชายวัยกลางคนขึ้นมาอย่างแรงและออกแรงลากไปราวกับกำลังลากถุงทรายอยู่ จนมาถึงร่างของชายชรา ชูฮันก็ปล่อยมือออก

 

ปัง!

ชายวัยกลางคนถูกเขวี้ยงไปตามพื้น

 

“ดู!” ชูฮันสั่งออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอดกลั้น

 

ชายวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงงงวยกับภาพเบื้องหน้า…มันคือพ่อของเขาเอง ที่โดนหินทุบจนตาย พร้อมกับมีบาดแผลเปิดอ้าขนาดใหญ่บนศีรษะ ถัดมาคือของเหลวในสมองที่ไหลออกมาจนส่งกลิ่นเหม็นเน่า

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” ชายวัยกลางหัวเราะใส่ชูฮันจนตาเป็นรูปสระอิ “เขาไม่ใช่ทั้งคนเข้มแข็งหรือเจ้าหน้าที่ ฉันต้องอิจฉาเหรอไง?”
“ไอ้แก่นี่นะเหรอ? ฉันฆ่ามันเองแหละ ตลกสิ้นดี”

 

เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ของชายวัยกลางคนและแววตาที่เต็มไปด้วยความรังเกลียดอย่างรุนแรง หัวใจของชูฮันก็แทบจะกรีดร้องออกมาลั่น มันกู่ร้องให้เขาฆ่าไอ้เลวนี่

 

ชูฮันมองไปที่ใบหน้าของชายชราตรงหน้าที่บิดเบี้ยว ไม่มีร่องรอยใดบ่งบอกเลยว่าก่อนหน้านี้เขาคือคนจิตใจอ่อนโยนเพราะในตอนนี้ร่างของชายชรานั้นเต็มไปด้วยเลือดนองและมีสภาพเละเทะไปหมด

 

นี่คือลูกชายของคุณ ลูกชายที่คุณทำงานอย่างหนักและยินดีจะรับใช้ราวกับทาส เห็นมั้ยว่ามันพูดอะไร! เห็นมั้ยว่าในแววตาของมันไม่มีความเป็นคนหลงเหลือแล้ว!

 

มันคุ้มค่าหรือไม่?

 

“เฮ้! เฮ้! ท่าน” เมื่อชายวัยกลางคนเห็นว่าชูฮันไม่ปริปากพูดอะไรเลย เขาจึงพยายามเข้าไปใกล้ “ผมได้ยินพวกมันพูด ท่านชื่อชูฮันเหรอ? ท่านมาจากไหน? กำลังจะไปซางจิงหรือเปล่า ท่านพาผมไปด้วยได้มั้ย? ผมจะทำตามท่านทุกอย่าง พร้อมรับใช้เหมือนกับสุนัขที่เชื่อฟังเจ้านาย!”

 

ชายวัยกลางคนทำทุกวิถีทางเพื่อขอร้องโดยไม่สนใจที่จะต้องลดคุณค่าตัวเอง เขารู้ว่าคนตรงหน้าเขานี้เป็นคนที่แข็งแกร่งมาก เขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือใครแต่เขารู้ว่าถ้าเขาเกาะชายคนนี้ไว้ได้ เขาจะได้มีชีวิตอยู่ตลอดไป

 

โชคร้าย ที่ชายวัยกลางเลือกทางเดินผิด

 

ชูฮันเบนสายตาที่จับจ้องร่างชายชราไว้กลับมาที่ชายวัยกลางคนด้วยแววตาที่เปล่งประกายจ้า

 

ขวานซิ่วโหลในมือขยับ—-

 

“อ๊ากกกก—-” ชายวัยกลางคนแหกปากร้อง “ตากู! อ๊ากกก! ตากู!”

 

ชูฮันไม่แม้แต่จะมองชายวัยกลางคน เขาเพียงแค่หมุนตัวและเดินจากไป

 

ฉันจะไม่ฆ่าแกเพราะเห็นแก่ความดีของพ่อแก แต่แกจะไม่ได้อยู่ดี ในเมื่อขนาดพ่อแกมองไม่เห็นแกยังทำกับท่านแบบนี้ งั้นก็ลิ้มลองรสชาติแบบท่านดู

 

ให้แกอยู่แบบทรมานดีกว่าตายไปง่ายๆ!

 

เสียงฝีเท้าของชูฮันรวดเร็วมาก มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่แรกเริ่มจนจบหวังไคไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา มันรู้ว่าชูฮันรู้สึกย่ำแย่มากแค่ไหน และการฆ่าอย่างรุนแรงและรวดเร็วเมื่อครู่นั้นก็ยิ่งทำให้มันหวาดกลัวเข้าไปอีก

 

จนกระทั่งชูฮันออกมาจากหมู่บ้านไกลพอสมควรและหลังจากความเงียบระยะหนึ่ง หวังไคก็พูดเสียงกระซิบขึ้นมา “ชูฮัน ชายชราเป็นคนดี”

 

“อืม” ชูฮันนิ่วหน้า เขาไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมามาก

 

“คนดีตายอย่างน่าสังเวช แต่ลูกชายชั่วๆกลับไม่ตาย” หวังไคดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ

 

“อืม” ชูฮันยังคงเพียงเออออตอบ หวังไคไม่รู้ว่าชูฮันคิดอะไรอยู่กันแน่

 

“นี่คือโลกาวินาศเหรอ? นี่คือธรรมชาติของมนุษย์?” หวังไคนึกไม่ออกถึงวิธีการคิดของมนุษย์…เห็นได้ชัดว่าคนดีจะตายก่อนและคนเลวจะได้อยู่

 

“จำที่ฉันพูดกับแกบนเรือได้มั้ย?” ทันใดนั้นชูฮันก็พูดถึงเรื่องเมื่อนานมาแล้ว “ทุกคนและทุกสิ่งมีสองด้าน บริสุทธิ์หรือชั่วร้าย”

 

“เอ่อ…” หวังไคส่ายหัว “ฉันไม่เข้าใจ”

 

“ช่างมัน” ชูฮันไม่คิดจะคุยกับหวังไคต่ออีก

 

“ยังไงฉันก็ไม่เข้าใจ นายรู้ดีเพราะนายเคยมีชีวิตในโลกาวินาศมาแล้ว 10 ปี” หวังไคถอนหายใจ

 

“ใช่ แล้วฉันจะได้อยู่ถึงวันสุดท้ายของโลกาวินาศ คนสุดท้าย——” จู่ๆเสียงของชูฮันหยุดชะงัก พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่หยุดเช่นกัน “นายรู้อะไรบ้าง?”

 

“ฉันรู้”

 

“แกรู้อะไร?”

 

“รู้ทุกอย่าง!” รู้ว่า—-“

 

“หุบปากซะ”

 

———–

 

ไม่นานหลังจากชูฮันจากไป มีร่างของคนสองเดินมาจากที่ไกลจนมาถึงหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว มีเลือดนองและซากศพตามพื้นตลอดทางที่ทั้งคู่เดินผ่าน มีรอยเลือดมากมายเปื้อนอยู่บนหิมะสีขาว

 

“เรามาช้าอีกแล้ว”

 

คนสองคนที่พึ่งมาถึงก็คือจุนจื่อและจุ้ยชูนั้นเอง ในตอนนั้นทั้งคู่มองไปที่ศพที่อยู่ตรงพื้นและทันใดนั้นสายตาของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปทันที เพราะที่พื้นมันมีร่างศพของพวกลูกผสมที่ปะปนอยู่กับศพมนุษย์

 

“อ๊ากกกก! ชูฮัน! แกมันปีศาจ!” ชายวัยกลางคนที่มีเลือดไหลออกมาจากตาแหกปากร้องแดดิ้นด้วยความทรมานอยู่ที่พื้น “กูจะฆ่ามึง! ไอ้ปีศาจ!”

 

เมื่อมองไปที่ชายวัยกลางคนที่กำลังแสดงอาการคลั่งอยู่ที่พื้น จุนจื่อก็มองไปที่จุ้ยชู “เขาพึ่งพูดว่า ชูฮัน ใช่มั้ย?”

 

“ถ้างั้นพวกลูกผสมพวกนี้ถูกชูฮันฆ่า?” คิ้วของจุ้ยชูขมวด “นับจำนวนลูกผสมที่ตาย”

 

จุนจื่อรีบหันไปมองหน้าพี่สาวเขาทันที “พี่สาว มันมี 20 ตัว ตรงกับที่เรากำลังตามสอบสวนกันอยู่เลย”

 

“ดูเหมือนจะใช่” จุ้ยชูมองไปที่ชายวัยกลางคนที่ยังคงบ้าคลั่งและแหกปากสาปแช่งชูฮันไม่หยุด “ภารกิจถูกปล้นอีกครั้ง!”

 

“พวกลูกผสมพวกนี้สร้างหายนะมากมายในพื้นที่บริเวณนี้ เหล่าผู้รอดชีวิตที่มุ่งหน้าไปซางจิงต่างถูกฆ่าล้างเป็นจำนวนมาก ชูฮันแค่ผ่านมาและเห็นพวกมันเขาก็ฆ่าพวกมันซะ” จุนจื่อกล่าว “นี่เขาเป็นคนรึเปล่า? ความสามารถในการสู้รบระดับนี้ค่อนข้างน่ากลัวนิดหน่อย! “

 

จุ้ยชูไม่ได้นิ่งสงบเหมือนกับจุนจื่อ เป้าหมายของภารกิจถูกชูฮันชิงตัดหน้าไปถึงสองครั้ง ซึ่งมันทำให้เธอค่อนข้างไม่พอใจเท่าไหร่ เธอมองไปที่ชายวัยกลางคนที่แหกปากร้องอยู่อีกครั้ง

 

เธอดึงมีดที่เปล่งประกายความเย็นชาออกมา และทันใดนั้นก็แกว่งมันจากด้านข้าง!

 

พัฟ!

มีดแทงเข้าที่หัวของชายวัยกลางคนอย่างแม่นยำและรุนแรง!

 

น่าหนวกหูชะมัด!