“เมืองหลิน…รักษาการหัวหน้าใหญ่ของหน่วยเสินเจี้ยนมันOneไม่ใช่เหรอ? ผมขอเสนอให้หน่วยเสินเจี้ยนของเมืองหลินเข้าร่วมปฏิบัติการตามจับในครั้งนี้ครับ” มีคนเสนอขึ้น
ผู้บัญชาการใหญ่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะทำท่าคิดหนัก เขาจำหัวหน้าที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาทหารทั้งหมดคนนี้ได้ดี ผลงานของเขาโดดเด่นมาก เป็นคนมากฝีมือที่หาได้ยาก
คนที่สามารถใช้ความสามารถของตัวเองและผลงานข่มภูมิหลังอันใหญ่โตของตัวเองได้ ก็มีแค่อวี๋หมิงหลางเท่านั้นที่ทำได้
“ถ้าOneมาร่วมด้วยย่อมดีแน่นอน แต่ถ้าผมจำไม่ผิดดูเหมือนเขาจะลากลับไปแต่งงานอยู่นะครับ” คนที่อยู่ข้างผู้บัญชาการพูดขึ้น
“ต้องตามจับคนร้ายที่ฉลาดเป็นกรด แถมยังอยู่ในพื้นที่ของเมืองหลิน ยังไงก็ต้องให้เขาออกหน้า”
อาข่าหันไปแอบทำท่ามหากางเขนในใจ
มิน่าบอสถึงได้พูดว่างานแต่งของประธานเชี่ยนต้องเกิดปัญหา ที่แท้เขาก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว
“ทุกท่านครับ ถึงผมจะเป็นคนนอกไม่ควรแทรกแซงการทำงานของพวกคุณ แต่เท่าที่ผมวิเคราะห์ความคิดในทางจิตวิทยาของผู้ร้ายคนนี้ ช่วงเวลาที่จะจับเขาไม่คาบเกี่ยวกับงานแต่งของOneพอดี แล้วเราจะปล่อยให้เขาพลาดโอกาสเหรอครับ?”
ชีอวี่เซวียนที่นิ่งเงียบมาตลอดอยู่ๆก็พูดขึ้น อาข่าหันไปมองบอสตัวเองด้วยสีหน้าตะลึง
เอ๋ บอสเธอไม่ชอบหน้าอวี๋หมิงหลางไม่ใช่เหรอ? ถ้าอวี๋หมิงหลางถูกสั่งให้มาทำงานไม่แน่บอสเธออาจจุดพลุฉลองด้วยซ้ำ แล้วทำไม…?
“ศาสตราจารย์ชี การวิเคราะห์ของคุณมีอะไรอ้างอิงไหมครับ?”
“ผู้ร้ายคนนี้อาจมีบุคลิกที่พิเศษ คนแบบนี้ใจกล้า มีความรอบคอบ เขากล้ากลับไปยังบ้านเกิดก็แสดงว่าอยากท้าทาย คนแบบนี้ไม่มีทางเปลี่ยนสถานที่กบดานง่ายๆ ดังนั้นยังพอมีเวลาครับ ผมขอรับรองด้วยเกียรติของผม”
ชีอวี่เซวียนพูดแบบนั้นแต่ในใจคิดถึงเสี่ยวเชี่ยน เบบี๋เชี่ยน ช่วยได้เท่านี้แหละนะ
…
คืนสุดท้ายก่อนวันแต่งงาน ปาร์ตี้สละโสดของเสี่ยวเฉียงสนุกกันสุดเหวี่ยง
ภายในห้องจัดงานส่วนตัวที่ขยายใหญ่เป็นพิเศษมีเพื่อนของเขานั่งกันเต็มไปหมด เหล่าเพื่อนๆที่เคยร่วมแก๊งค์ป่วนชาวบ้านของเขามากันจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อฉลองให้กับจอมเผด็จการที่จะโสดเป็นคืนสุดท้าย
บนหน้าจอขนาดใหญ่มีการเปิดเพลงสร้างความครึกครื้น เพื่อสมัยเด็กคนหนึ่งกำลังแหกปากร้องเพลงอยู่
จากเพลงที่ปกติ ให้กำลังใจฮึกเหิม แต่ไม่รู้ทำไมเวลานี้กลับถูกร้องออกมาให้ความรู้สึกที่แปลกออกไป
“เพื่อนข้าต้องกล้าหาญ ต่อให้วันพรุ่งนี้ไม่มีสายรุ้ง! แสงอาทิตย์ย่อมปรากฏหลังสายฝน ส่องประกายบนท้องฟ้าในจิตใจ!” คนร้องจริงจังมากถึงขั้นเส้นเลือดปูด
ดีนะที่เป็นเพื่อนสมัยเด็ก โตมาด้วยกัน ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็ เสี่ยวเฉียงตบกระเด็นไปแล้ว
พรุ่งนี้เขาจะมีงานมงคล ดูมันร้องเพลงเข้าสิ!
ได้ลงเอยกับลูกเชี่ยนที่รักของเขา ยังจะต้องใช้ความกล้าหาญอะไรด้วยเหรอ? ชีวิตคู่เป็นเรื่องหอมหวานที่เขาเฝ้ารอคอย แต่ไอ้หมอนี่กลับร้องออกมาเสียขื่นขม!
หนึ่งเพลงผ่านไป เหล่าผองเพื่อนพากันปรบมือเกรียวกราว ตามมาด้วยเสียงผิวปากสร้างความครึกครื้น คนร้องเลยได้ใจใหญ่
“ชอบกันใช่ไหมล่ะ? มา เดี๋ยวจะร้องให้ฟังอีก ฉลองให้กับไอ้เล็กที่กำลังจะเข้าสู่สุสานแห่งความรัก เพื่อนข้าต้องกล้าหาญ!”
“พอเลย เปลี่ยนเพลงอื่น!” อวี๋หมิงหลางทนไม่ไหว
“ก็ได้ งั้นเอาเพลงอื่น เอาเพลงไรดี?” คนร้องพูดขึ้น
“เอาเพลงคนโสดมะ? เลิกกันอย่างมีสุข?” มีคนเสนอความคิด
“เอาเพลงความรักฮิโรชิม่าดีกว่า ได้ยินว่าเฮี้ยนสุดเลยเพลงนี้ ใครร้องเลิกหมด!”
ช่วยไม่ได้ ตอนเด็กๆเคยถูกไอ้เล็กรังแก ทนมาตั้งนาน ตอนนี้ได้เวลาเอาคืนแล้ว!
รู้กันอยู่ว่าพรุ่งนี้จอมเผด็จการจะกลายเป็นชายที่มีพันธะแล้ว วันนี้ห้ามอารมณ์เสีย ตามธรรมเนียมสากล ปาร์ตี้สละโสดต้องเอาให้สุดเหวี่ยง เจ้าบ่าวห้ามอารมณ์เสียเด็ดขาด เหล่าผองเพื่อนจึงวางแผนเอาคืนอย่างสาสม!
เสี่ยวเฉียงยอมรับชะตากรรม นี่แหละผลกรรมที่ทำบาปเอาไว้เยอะ
เขาตบโต๊ะ มือข้างหนึ่งถือขวดเบียร์พลางยืนขึ้น เอามือดีดฝาเบียร์จนกระเด็นโค้งเป็นวงสวย
“อยากเห็นฉันดื่มไม่ใช่เหรอ? มา ยกขวดเลย แต่ขอเพลงโรแมนติคที่สุดนะโว้ย!”
เขามองออก ถ้าวันนี้ไม่ยอมให้เจ้าพวกนี้เอาคืน เห็นทีเขาคงไม่ถูกปล่อยไปง่ายๆ
“โอ๊ะโอ~ รีบมาดูเร็ว จอมเผด็จการของเราทำตัวยอมง่ายๆเป็นด้วย? แถมยังอยากได้เพลงโรแมนติค? อยากสั่งเพลงก็ต้องทำอะไรแลกหน่อย! คิดว่าเบียร์ขวดเดียวจะสั่งเพื่อนได้? อย่างน้อยๆมันต้องสิบขวดโว้ย!”
“สองขวด!”
“แปดขวด!”
สุดท้ายจบกันที่สามขวด แต่ต้องดื่มรวดเดียว
อวี๋หมิงหลางเป็นหัวหน้าแก๊งค์ของทุกคนได้ เพราะเขาชกต่อยเก่ง สติปัญญาฉลาดเกินเพื่อน โดดเด่นกว่าในทุกๆด้าน โดยเฉพาะเรื่องกินเหล้า
ทุกคนต่างรู้ว่าของแค่นี้ล้มอวี๋หมิงหลางไม่ได้ พอเห็นอวี๋หมิงหลางกระดกรวดเดียวสามขวดก็ส่งเสียงวี้ดวิ้วแซวกันใหญ่
ค่ำคืนเพิ่งจะเริ่มต้น ไม่เชื่อหรอกว่าจะล้มไอ้หมอนี่ไม่ได้!
ปาร์ตี้สละโสดดำเนินต่อไป การประชุมลับของอีกฝั่งก็ดำเนินมาถึงช่วงท้าย
“ในเมื่อจะให้Oneเข้ามาร่วม งั้นเดี๋ยวผมจะดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” ผู้บัญชาการใหญ่สรุป
ปฏิบัติการใหญ่ขนาดนี้ในพื้นที่ของอวี๋หมิงหลาง แล้วจะข้ามหน้าข้ามตาอวี๋หมิงหลางได้อย่างไร
ชีอวี่เซวียนยกมือ
“ตอนนี้อย่าเพิ่งทำอะไรครับ คู่ต่อสู้ของพวกเราเป็นบุคคลอันตรายที่ก่อเหตุมามากมาย ดังนั้นต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้ค่อยบอกOneครับ”
ผู้บัญชาการพยักหน้า คนเก่งๆอย่างศาสตราจารย์ชีมาร่วมปฏิบัติการด้วยก็ถือว่าเหนือความคาดหมายมากแล้ว
พอออกมาจากห้องอาข่าก็อดไม่ได้ที่จะถามชีอวี่เซวียนที่กำลังฮัมเพลงอยู่
“บอสคะ บอสทำแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่? บอสเกลียดขี้หน้าอวี๋หมิงหลางไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมยังไปช่วยให้เขาได้เข้าพิธีแต่งงานก่อนด้วย?”
“ฉันไม่ชอบเขาจริง นอกจากเกิดมาหน้าตาดีแล้ว มีตรงไหนบ้างที่เหมาะกับเบบี๋เชี่ยน?”
“ไม่ชอบแล้วทำไมยังช่วยให้เขาได้เข้าพิธีแต่งงานก่อน?”
“เธอรู้ขั้นตอนการหมักเหล้าดอกไม้แกะสลักไหม?”
“อะไรนะ?” คุยเรื่องสำคัญอยู่ดีๆพูดเรื่องหมักเหล้าทำไม?
“ไม่พูดขั้นตอนการหมักที่ซับซ้อนดีกว่า เอาเรื่องที่ต้องฝังไว้ใต้ต้นไม้หลายปี ต้องขึ้นไปเหยียบบ่อยๆ ทุกครั้งที่ไปก็จะเฝ้ารอ รอให้เด็กน้อยคนนั้นโตไวๆ วันที่เขาแต่งงานจะได้ขุดเอาเหล้าออกมา แล้วให้ผู้ชายที่มาชิงตัวเขาไปดื่มเหล้านี่ ความรู้สึกนั้นเป็นยังไง?”
“หา?” สีหน้าของอาข่ากำลังบอกว่า อิหยังวะบอส
“นั่นก็เพราะฉันอยู่กับเขาไปตลอดไม่ได้ สักวันฉันก็ต้องจากไป ยังไงก็ต้องมีคนมารักเขาแทนฉัน เพื่อสิ่งนี้แล้ว ฉันยอมทำทุกอย่าง เฝ้ารอเขา ปกป้องเขา ทั้งหมดนี้มันก็เหมือนเหล้า ทำได้แค่ฝังไว้ใต้ดิน ผู้ชายคนนั้นจะดีกับเขาหรือเปล่า? ความรักที่ผู้ชายคนนั้นมีให้จะเจือจางไปตามกาลเวลาไหม? ผู้ชายคนนั้นไม่รู้หรอกว่าเขาแต่งเธอไปอย่างง่ายดาย แต่มันคือการเฝ้ารอคนๆหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนาน นานจนเจ็บปวดหัวใจที่ไม่ได้ครอบครองของล้ำค่าที่ประเมินราคาไม่ได้นี้”
…ก็ยังไม่เข้าใจ ฮือ…บอส นี่บอสดื่มไปเยอะหรือฉันเมากันแน่? ทำไมฟังไม่เข้าใจเลยสักประโยค? อาข่ารู้สึกสะเทือนใจ
“อาข่า ถึงเธอจะโง่ไปหน่อย แต่อาจารย์จะสอนเธอไว้นะ คิดให้ดีจะเลือกใครมาเป็นคู่ชีวิต และก็คิดให้ดีว่าตัวเองจะมีความสุขหรือเปล่า”
“ว่าไงนะ?” ในที่สุดก็มีประโยคที่ฟังเข้าใจแล้ว!