ตอนที่ 1070 ถ้ายอมรับไม่ได้ก็เงียบปากไปซะ!

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“เพราะมันทำให้ผมนึกเกลียดตัวเองขึ้นมา เพราะถึงยังไงสิ่งแรกที่ผมทำตอนที่ได้ยินว่านักแสดงกำลังจะสร้างหนังก็คือการดูถูกเธอเหมือนกัน! 

 

 

“ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นได้พิสูจน์แล้วว่าความสามารถในการตบหน้าของถังหนิงเป็นที่หนึ่งในวงการ ผมเลยอยากขอโทษเธออย่างเป็นทางการ และขอร้องด้วยความจริงใจให้สื่อมวลชนเลิกฟังข่าวลือผิดได้แล้ว ช่างเทคนิคพิเศษที่อ้างว่าตัวเองอยู่ชั้นแนวหน้าด้วยนะครับ กรุณาถอยกลับไปโลกที่คุณจากมาเถอะ อย่าโผล่หน้ามาให้ผมเห็นอีกเด็ดขาด! 

 

 

“ตอนนี้ได้ระบายความอัดอั้นตันใจส่วนตัวไปแล้ว มาพูดกันถึงเรื่องหนังจริงกันดีกว่าครับ ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่าหนังเรื่องนี้ทำให้ผมตะลึงและทึ่งสุดๆ ได้ขนาดไหน!” 

 

 

ตามมาด้วยหน้าที่สอง… 

 

 

…และหน้าที่สาม… 

 

 

นักวิจารณ์ภาพยนตร์ที่เคยคลุกคลีในวงการฮอลลีวูดได้แสดงความเห็นของเขา ผ่านไปหน้าแล้วหน้าเล่า อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เพียงแค่ใช้คำบรรยายแต่ยังถ่ายวิดีโออีกด้วย 

 

 

เมื่อชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นบนหน้าจอ ทุกคนเห็นชั้นหนังสือด้านหลังเขาซึ่งอัดแน่นไปด้วยภาพยนตร์ดังระดับนานาชาติในตำนาน ในบรรดาภาพยนตร์เหล่านี้มีบางเรื่องที่เขาเคยมีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน 

 

 

เพราะวิดีโอนี้สื่อจึงได้รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญผู้ลึกลับคนนี้คือชายคนที่ถูกตั้งคำถามก่อนหน้านี้ 

 

 

“ผมถ่ายวิดีโอนี้ไว้เพราะอยากจะบอกทุกคนว่าวงการฮอลลีวูดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดต่อของมดราชินี ทำไมผมถึงมั่นใจนักน่ะเหรอ เพราะว่าผมเคยทำงานในฮอลลีวูดมาก่อนน่ะสิ แล้วทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ผมก็ได้โทรหาเพื่อนชาวอเมริกันของผม ใช่ครับ ถังหนิงพาทีมงานของเธอไปที่อเมริกาจริง แต่พวกเขาไปเรียนรู้และลองทำงานด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ได้ใช้บุคลากรหรือเทคนิคจากฮอลลีวูดเลย 

 

 

“ผมไม่รู้ว่าช่างเทคนิคพิเศษชั้นแนวหน้าด่วนสรุปว่าถังหนิงโกหกได้ยังไง บางทีเขาอาจจะมีสายตาที่มองทะลุตัวคนได้มั้งครับ แต่ผมบอกทุกคนได้เลยว่ามดราชินีถูกสร้างขึ้นในจีนทั้งหมดอย่างไม่มีข้อบกพร่องสักนิด! 

 

 

“ผมมาชี้แจงทุกอย่างเพราะไม่ต้องการให้คนมีอคติกับหนังที่สร้างในประเทศอย่างมดราชินี ถ้าใครมีช่องทางติดต่อช่างเทคนิคพิเศษที่ออกมาพูดก่อนหน้านี้ ก็รบกวนส่งมาให้ผมด้วยนะครับ ผมยินดีจะคุยกับเขา 

 

 

“สุดท้ายนี้…อย่าถามคำถามโง่ๆ อย่าง มดราชินีดีหรือเปล่า กับผมอีกนะครับ 

 

 

“ถังหนิงทุ่มเทกับการแสดงยังไง เธอก็ทุ่มเทกับการสร้างหนังแบบเดียวกัน ถ้าเธอทำให้คนรักหนังไซไฟที่เคยอยู่ในวงการฮอลลีวูดอย่างผมเชื่อได้ เธอจะต้องไม่ทำให้พวกคุณผิดหวังแน่นอนครับ! 

 

 

“และนี่คือความเห็นของผมหลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้ครับ! 

 

 

“อ้อ แล้วก็นักวิจารณ์หนังที่ชมถังหนิงในงานทดลองฉายที่แฟนๆ พูดถึงกันก็คือผมเองครับ!” 

 

 

ที่แท้ความเห็นจากแฟนๆ ที่ดูเกินจริงก็เป็นเรื่องจริงหรือเนี่ย 

 

 

ทำให้ตาสว่างอะไรอย่างนี้! 

 

 

วิดีโอของนักวิจารณ์ภาพยนตร์ลามไปไกลอย่างกับไฟป่าในเวลาต่อมา ก่อนชื่อเสียงของมดราชินีจะดีขึ้นทันตา 

 

 

แน่นอนว่าด้วยบทวิจารณ์และการสนับสนุนนี้ คนที่เรียกตัวเองว่าช่างเทคนิคพิเศษชั้นแนวหน้าหลบหายเข้าไปในกลีบเมฆ ความจริงแล้วเขาอยากจะกำจัดเรื่องโง่ๆ ที่ตัวเองได้พูดออกไปแทบแย่ 

 

 

เขายอมรับว่าจริงๆ แล้วรับเงินจากหันเจี๋ยให้ออกมาพูดในสิ่งได้พูดไป เดิมทีเขาคิดว่าจะได้เกาะกระแสของถังหนิง หากแต่เห็นได้ชัดว่าเขารนหาที่แท้ๆ! 

 

 

ผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าคนนี้ก็เป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญในการลวงโลกเท่านั้น! 

 

 

หลังจากการทดลองฉายเสร็จสิ้นลง ความคิดเห็นที่มีต่อมดราชินีได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น เพราะภาพยนตร์ทั้งโดนสบประมาทและใส่ร้ายมามากมาย แฟนคลับอดใจรอชมภาพยนตร์จริงในโรงแทบไม่ไหว 

 

 

[ทีแรกฉันก็กลัวว่ามันจะห่วย เลยอยากจะเห็นว่าหนังมันจะแย่ได้สักแค่ไหนกัน แต่ตอนนี้ที่คนดังในแวดวงและนักวิจารณ์หนังผู้เชี่ยวชาญออกมาชื่นชมขนาดนี้ ฉันเลยเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันอยากจะไปดูว่ามันจะเยี่ยมแค่ไหน!] 

 

 

[ฉันว่าเทคนิคพิเศษต้องน่าตื่นเต้น ฉากก็คงน่าเร้าใจ ความจริงแล้วหนังทั้งเรื่องก็น่าจะระทึกใจเป็นบ้า!] 

 

 

[ไอหยา! รีบปล่อยมันออกมาได้แล้ว!] 

 

 

 

 

 

ท่ามกลางความคาดหวังของคอภาพยนตร์… ถังหนิงเห็นความหวังของมดราชินีในท้ายที่สุด 

 

 

ในจังหวะนี้เองที่เธออยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ หากเฉียวเซินยังอยู่และเห็นสิ่งนี้ เขาจะมีความสุขแค่ไหนกัน 

 

 

ดังนั้นถังหนิงจึงตัดสินใจส่งตั๋วภาพยนตร์ไปให้ลูกสาวของเฉียวเซิน อย่างต้องการบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองเติมเต็มความฝันของเฉียวเซินได้แล้ว 

 

 

และมันก็ใกล้ถึงเวลาที่มดราชินีจะถูกปล่อยออกมา! 

 

 

ทว่าตั้งแต่ที่การทดลองฉายจบลง โม่ถิงได้ตามสืบเรื่องช่างเทคนิคพิเศษชั้นแนวหน้าคนนั้น 

 

 

ใครทำให้เขากล้าเริ่มสร้างข่าวฉาวโดยอ้างว่าถังหนิงโกหกในช่วงเวลาที่บังเอิญขนาดนี้กัน 

 

 

“ท่านประธานครับ เราพบว่าช่วงนี้มีคนติดต่อผู้ชายคนนี้ไปเยอะเลยครับ แต่คนที่น่าสงสัยเป็นพิเศษก็คือผู้ชายคนนี้ครับ” ลู่เช่อรายงานสิ่งที่พบให้โม่ถิงทราบ 

 

 

“หันเจี๋ยเหรอ” 

 

 

“อาจจะเพราะว่าเขามีเรื่องบาดหมางกับคุณหลังจากที่ถูกฉีกหน้าเขากลางงานเทศกาลหนัง หรือบางทีเขาอาจจะทำเพื่อแก้แค้นให้น้องชายของตัวเอง อีกอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณผู้หญิงครั้งนี้ก็มีบางอย่างเกี่ยวข้องกับเขาแน่นอนครับ” ลู่เช่อเอ่ย “เราควรทำอะไรสักอย่างไหมครับ” 

 

 

“บอกให้คนในวงการกำราบเขาสักหน่อย ปล่อยให้เขาอยู่ไม่สุขกับเรื่องที่ตัวเองทำ จากนั้นเราจะคิดหาทางจบเรื่องทุกอย่าง” โม่ถิงว่าเสียงเย็นชา “แล้วเอกสารอื่นที่อยู่ในมือนายล่ะ” 

 

 

“เป็นเรื่องที่คุณผู้หญิงให้เสี่ยวมั่นไปสืบน่ะครับ ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของพี่น้องตระกูลหัน เราเจอเรื่องบางอย่างเข้าผมเลยกำลังจะส่งต่อให้เธอครับ” ลู่เช่อตอบ 

 

 

“ส่งไปให้เร็วที่สุด” 

 

 

พี่น้องสองคนนั้นทำตัวหน้าไม่อาย ไม่แปลกที่คนจะต้องการทำให้พวกเขาต้องจบเห่ 

 

 

หลังจากการทดลองฉายจบลง ถังหนิงจึงได้วางแผนจะลากหันซิวเช่อออกมา ถ้าเธอไม่จัดการกับชายลอบกัดคนนี้ในเร็วๆ นี้ ต่อไปเขาคงได้ก่อเรื่องให้เธอต้องเดือดร้อนกว่านี้แน่ 

 

 

ไม่นานถังหนิงก็ได้รับข้อมูลจากหลงเจี่ย 

 

 

“ลู่เช่อทุ่มเทอย่างหนักกว่าจะได้ข้อมูลนี้มาเลยล่ะค่ะ ในเมื่อสองพี่น้องมีความลับมากมายขนาดนี้ ไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะไม่อยากให้ใครรู้เข้า 

 

 

“แม่ของพวกเขานอกใจพ่อ ความจริงแล้วเธอไม่ได้แค่นอกใจไปกับผู้ชายแค่คนเดียวด้วยค่ะ พ่อแม่พวกเขาเลยหย่ากัน แล้วสุดท้ายพี่น้องสองคนก็มาอยู่กับพ่อ 

 

 

“บางทีอาจเพราะเหตุผลนี้ พวกเขาเลยมีทัศนคติผิดๆ กับผู้หญิงก็ได้นะคะ 

 

 

“นี่อาจจะอธิบายได้ว่าทำไมหันซิวเช่อถึงเอาแต่คิดว่าคุณโกหก 

 

 

“ตอนนี้คุณรู้ประวัติของพวกเขาแล้ว คุณจะทำยังไงต่อเหรอคะ” 

 

 

“ก่อนอื่นฉันจะทำให้หันซิวเช่อออกมาขอโทษฉัน ตั้งแต่เรื่องจู้ซิงมีเดีย ผู้ชายคนนี้ก็ตามเล่นงานไม่เลิก ฉันไม่อยากเสียเวลากับเศษสวะชิ้นนี้อีกแล้ว” ถังหนิงตอบ “ดังนั้นก็ทำตามแผนแล้วจัดการเรื่องนี้ให้จบในอีกสองวัน” 

 

 

“คุณจะลงมือด้วยตัวเองเหรอคะ” 

 

 

“แน่สิ ฉันมีบางอย่างที่อยากจะถามเขาน่ะ…”