กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ตอนที่ 527
จอมมารเศร้าใจ “ทางที่เขียนไว้บนแผนที่เป็นทางนี้จริง ๆ นะ ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะเดินวนอยู่ที่เดิมได้?”

กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูด

เขาพาพวกเขาเดินวนซ้ำ ๆ เหมือนคนบ้าเช่นนั้น ยังรู้สึกเศร้าใจอีกงั้นหรือ?

ผู้ที่น่าเศร้าใจควรเป็นใครกันแน่?

“เอาอย่างนี้ ท่านพาข้าลงเขาไปเสียก่อน เพียงแค่ลงเขาไปได้ ข้าก็จักทราบทางโดยทันที”

“พวกเราเดินวนอยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืน เจ้าเพียงแค่ต้องการลงเขาอย่างนั้นรึ?”

“ใช่แล้วล่ะ จะต้องลงเขาเสียก่อน หากลงเขามิได้แล้วเราจักเดินทางไปยังหุบเขาตันหุยได้อย่างไรกัน”

กู้ชูหน่วนรู้สึกว่านางจะถูกเขายั่วโมโหเจียนตายได้ “เหตุมดจึงไม่บอกก่อนว่าเจ้าจะลงเขา?”

“แต่ท่านก็มิได้ถามข้าเช่นกัน”

“ให้ตายเถิด…เดินลงไปตลอดทางก็ลงเขาแล้วมิใช่หรือ? จำต้องเดินอ้อมไปอ้อมมาเพียงนี้เชียวหรือ?”

จอมมารตระหนักได้ในทันที “ใช่สิ ทำไมข้าถึงคิดไม่ถึงกัน เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เดินทางไปด้านหน้าตลอดทาง เราจะลงเขากัน”

แม้แต่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังส่งสายตาเหยียดหยามให้กับจอมมาร

มันสมองเช่นนี้ มิอาจรู้ได้เลยว่าเขาเป็นถึงจอมมารได้อย่างไรกัน?

ท้องของกู้ชูหน่วนเต็มไปด้วยความโกรธ

เมื่อรู้ทางแน่ชัดแล้ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็พาพวกเขาลงเขาไปอย่างเร็วไว

กู้ชูหน่วนถาม “ลงเขาแล้ว ต่อไปเราจะเดินไปทางใดต่อกัน?”

“ทางนี้ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้”จอมมารชี้ไปทิศทางหนึ่ง

กู้ชูหน่วนกุมขมับ “นั่นมันทิศตะวันตกเฉียงเหนือ”

“งั้นรึ ข้าจำผิดไปน่ะ น่าจะต้องเดินไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือนะ”

“เจ้าเคยบอกข้ามิใช่หรือว่าหุบเขาตันหุยนั้นเต็มไปด้วยป่าไม้ตลอดทั้งปีทุกฤดู ตั้งอยู่ในหุบเขาอันยิ่งใหญ่มิใช่หรือ แต่ทว่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเต็มไปด้วยทะเลทราย มิเห็นมีป่าไม้เขียวขจีเหมือนดั่งเจ้าว่าเลย”

“เช่นนั้นก็คงเป็นทางนี้ ทิศตะวันออกเฉียงใต้”

หากแทบอยากจะฟาดฝ่ามือใส่เขาให้เขาได้สติเสียหน่อย

“สรุปแล้วไปทางไหนกันแน่? ซือม่อเฟย แกล้งข้าสนุกนักอย่างนั้นหรือ?”

จอมมารหน้าหดเหี่ยว และกล่าวอย่างเศร้าใจ “พี่หญิง ยังมิเคยมีผู้ใดกล้าโหดเหี้ยมกับข้าเพียงนี้ ท่านเป็นคนแรก”

“…”

มิเพียงเช่นนั้น แต่นางแทบอยากจะตีคนแล้ว

“เอาเถิด ๆ ท่านอย่าโกรธข้าเลย เดินไปทางทิศตะวันออกตะวันตก ครั้งนี้มิผิดพลาดอีกแล้ว”

“ทิศตะวันออกตะวันตกหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้?”

“ทิศตะวันออกเฉียงใต้”

“แล้วเจ้าเพิ่งบอกว่าเป็นทิศตะวันออกตะวันตก?”

“งั้นหรือ ข้าพูดว่าทิศตะวันออกเฉียงใต้ตลอดนะ”

“…”

กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างพิโรธ “หากเจ้านำทางผิดอีก เจ้าก็มิต้องตามติดข้าอีกต่อไป”

“รู้แล้ว”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่งเสียงโวยวายและพุ่งไปทางที่จอมมารชี้ไปอย่างรวดเร็ว

จอมมารชี้ไปทางนี้ทีทางนั้นที เดินอ้อมไปมาอยู่ท่ามกลางหุบเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

กู้ชูหน่วนเดินอ้อมจนเวียนศรีษะ

ทันใดนั้น นางก็รู้สึกว่าเดินวนหุบเขาหลายลูก

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เองก็มึนงงกับทิศทางที่ได้มา มันอยากจะพานายท่านไปถึงหุบเขาตันหุยโดยเร็ว แต่ทว่าจอมมารยังคงชี้ทางมั่วซั่วไม่หยุด ทำให้เขาสิ้นเรี่ยวแรงและหายใจลำบาก

ผ่านไปอีกหนึ่งวันหนึ่งคืน พวกเขายังคงเดินอ้อมไปมาอยู่ในหุบเขาอันกว้าใหญ่นี้

ความโกรธของกู้ชูหน่วนเพิ่มขึ้นไปอีก

และระเบิดออกมาในที่สุด

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ หยุดเดี๋ยวนี้”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็หยุดลงอย่างเชื่อฟัง และหายใจถี่ ๆอย่างไร้เรี่ยวแรง ดูออกว่าเหนื่อยล้าจนสุดขีดแล้ว

“ซือม่อเฟย ที่นี่คือที่ใดกัน?”

“ทางไปหุบเขาตันหุยไงเล่า”

“แล้วหุบเขาตันหุยอยู่ที่ใด?”

“เรื่องนี้…ก็ยังในหุบเขาอันกว้างใหญ่นี้ไง”

“เป็นเวลาสองวันสองคืนเต็มแล้ว เจ้าพาข้าเดินอ้อมอยู่ในหุบเขาอันแห้งแล้งนี้เป็นเวลาสองวันสองคืนแล้ว ข้าใคร่อยากจะถามว่าอีกนานเพียงใดถึงจะไปถึงหุบเขาตันหุยได้”

เหลือเวลาอีกเพียงเก้าวันก่อนที่จะคืนพระจันทร์เต็มดวงถัดไป

เวลายิ่งใกล้เข้ามามากเพียงใด นางก็ยิ่งกังวลมากเท่านั้น

นางมิกลัวศัตรูที่แข็งแกร่งเทียมเทพ แต่กลัวสหายที่โง่เขลาดั่งสุกร

“นั่นมันเพราะว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ชักช้าเกินไป มิใช่ความผิดของข้าเสียหน่อย”

“เจ้าดูเจ้าทำให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เหนื่อยมากเพียงใด เวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนมันใช้แรงในการดื่มนมของมันไปเสียหมด แต่เจ้ายังคิดอยากโบ้ยความผิดให้มันอีก”

จอมมารมองไปตามสายตาของกู้ชูหน่วน และเห็นเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่กำลังเหนื่อยล้าและหายใจลำบากกำลังมองเขาอย่างอาลัยอาวรณ์

มันเหนื่อยจนยากที่จะเคลื่อนไหว แม้เพียงครู่เดียวก็ตาม

เอ่อ…

นี่มัน…

ก็ได้ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์พยายามมากแล้วจริง ๆ ตลอดทางมันก็มิเคยหยุดลงเลย ทั้งยังเดินไปข้างหน้าด้วยความเร็วสุด

มองดูหุบเขาอันกว้างใหญ่ที่มีภูเขาติดกันนับไม่ถ้วน จอมมารก็สำนึกผิดเหมือนเด็กน้อยทำผิดอย่างช่วยมิได้

“ข้า…หลงทางน่ะ…”

กู้ชูหน่วนไร้หนทางจนกุมขมับ

นางทราบดีว่าซือม่อเฟยนั้นมิได้เรื่องจริง ๆ

เป็นความผิดของนางเองที่ตื่นเต้นถึงได้เชื่อคนมิได้เรื่องคนหนึ่งได้

“พี่หญิง บัดนี้เราจะไปทางไหนต่อกันดี?”

“เจ้ายังจำแผนที่ของหุบเขาตันหุยได้มากเพียงใด วาดออกมาให้หมด เดี๋ยวข้าจักหาทางเอง”

“เรื่องนี้…แผนที่ของหุบเขาตันหุยนั้นซับซ้อนนัก ข้ารีบร้อนจึงได้ลืมไปหมดแล้ว”

สีหน้าของกู้ชูหน่วนมึดครึ้มราวกับถ่าน

“เช่นนี้ก็แสดงว่าเจ้ามิรู้เส้นทางเลย เพียงแค่สั่งการเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ให้วิ่งว่อนไปทั่วและพาข้าเดินอ้อมไปมาอย่างนั้นรึ?”

“เรื่องนี้…ข้าเองก็อยากดูธรณีสัณฐานเช่นกันิแน่อาจจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ แต่ทว่าข้าเองก็เดินอ้อมไปมาจนวิงเวียนศรีษะแล้วเช่นกัน

“ออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้”

กู้ชูหน่วนโกรธจนระเบิดคำหยาบออกมา

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แลบลิ้นและใช้ดวงตากลมดุจระฆังคู่นั้นจ้องมองเขาอย่างไม่เป็นมิตร

จอมมารใจลอย

เขาสับสนกับแผนที่และกำลังสำนึกผิดอยู่อย่างตั้งใจ

แม้นว่าเขาจักนำทางผิด พี่หญิงก็มิควรโกรธเพียงนี้หรอกกระมัง

“แพรบ ๆ ๆ…”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ให้กู้ชูหน่วนขึ้นมาก่อน มันจักพานางลงเขาไปเสียก่อน

ท้องฟ้ามืดครึ้มและบัดนี้ก็แบ่งแยกทิศเหนือ ออก ตก ใต้ได้ยากนัก รวมทั้งมิได้กินอะไรเป็นเวลาสองวันสองคืนแล้ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เองก็เหนื่อยจนสุดขีดแล้วเช่นกัน

กู้ชูหน่วนถอนหายใจ

“ช่างเถิด พักผ่อนกันก่อนเถิด ข้าจักไปล่าสัตว์ให้เจ้าได้กินอาหารเสียหน่อย”

ทันทีที่ได้ยินว่ามีอาหารเลิศรส เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็ดูสดชื่นขึ้นมาทันที และหมุนรอบกู้ชูหน่วนไม่หยุด

สายตาจอมมารเบิกกว้าง “ล่าสัตว์? ล่าสัตว์อย่างนั้นรึ? ข้าไปเอง”

เพียงแค่สะบัดชายเสื้อของจอมมาร ก็มีเสียงคร่ำครวญดังมาจากแดนไกล จากนั้นเขาก็ใช้ฝ่ามือขวาดูดและดูดไก่ฟ้าและนกป่าได้มิน้อย

จอมมารนำไก่ฟ้าและนกป่ากลับไปเต็มมือ และกล่าวอย่างประจบ “พี่หญิง ข้ารู้ว่าข้ามิควรนำทางผิด ท่านอย่าโกรธไปเลย เดี๋ยวข้าย่างไก่ฟ้าให้ท่านกิน”

“…”

สายตาของจอมมารไร้เดียงสาและเศร้าใจนัก

กู้ชูหน่วนเองก็เต็มไปด้วยความโกรธ

แต่ทว่าเมื่อคิดว่าเขาที่เป็นถึงจอมมาร เพื่อนางแล้ว เขาไม่เพียงแต่เสี่ยงอันตราย เข้าไปในเขตหวงห้ามโดยมิสนใจกฎของบรรพบุรุษ หมอบกุญแจรูปดาวให้กับนาง ทั้งยังพานางตามหาเส้นทางไปหุบเขาตันหุยอีก

ถึงแม้นจะบอกทางผิด แต่เขาก็ลำบากกับเราทั้งสองวันสองคืนด้วยเช่นกัน

เขาในฐานะจอมมาร มิจำต้องลำบากเพียงนี้และมิจำต้องพานางไปหุบเขาตันหุยด้วย ทว่าเขาก็ยังยอมโดยไม่มีข้อแม้

ความโกรธของกู้ชูหน่วนลดลงเล็กน้อย

“ช่างเถิด เจ้าไปย่างเสียไป”

“พี่หญิงวางใจได้ ข้าจะต้องย่างไก่ฟ้าที่หอมและเลิศรสที่สุดออกมาได้อย่างแน่นอน”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ต่อต้านอย่างน่าสงสาร

“นายท่าน เพียงแค่ไก่ย่าง นกเผ่าไม่กี่ตัว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มิอิ่มท้องหรอกขอรับ”

กู้ชูหน่วนหาสถานที่เหมาะสมและนั่งลงไป กล่าวอย่างเบื่อหน่ายว่า “ทนไปก่อนนะ อีกประเดี๋ยวข้าจักให้ซือม่อเฟยไปล่าหมูป่ามาให้”

“ข้าจะเอาสิบตัว”

“อีกประเดี๋ยวให้เขาไปล่ามา”

“จอมมารย่างเป็นหรือขอรับ?”

“คาดว่าคงย่างเป็นนะ”