เชียนอ้าวเซี่ยนําเนื้อชิ้นหนึ่งมาให้มู่เฉียนซีราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า เขายิ้ม กล่าวว่า “เสี่ยวซีซี เจ้าหิวแล้วใช่ไหม ? กระต่ายหิมะนี้รสชาติดีเลยทีเดียว เจ้าลองชิมดูสิ”
“ไม่ต้อง”
“ให้ข้าป้อนเจ้าดีไหมล่ะ ?”
“อยู่ให้ห่าง ๆ ข้า”
“เช่นนั้นข้าคงลำบากใจ ใช้ปากป้อนเจ้าดีกว่า”
ดวงตาสีดําขลับเป็นประกายคู่นั้นของมู่เฉียนซีทําให้ผู้คนที่ได้เห็นรู้สึกหนาวเหน็บ ดวงตาใสกระจ่างของเชียนอ้าวเซี่ยเป็นประกายพลางถามด้วยความสงสัย “เสี่ยวซีซี ข้าน่ารําคาญขนาดนั้นเลยหรือ ?”
“เจ้ารู้ตัวก็ดีแล้ว” มู่เฉียนซีกล่าวเสียงต่ำ
เชียนอ้าวเซี่ยรู้สึกว่าหัวใจของเขาแตกสลายกลายเป็นผุยผง เขาจากไปอย่างเศร้าโศก
เวลานี้อู่เผิงยื่นน้ำมาแก้วหนึ่งพลางยิ้ม “แม่นางมู่น่าจะกระหายน้ำแล้วกระมัง นี่คือน้ำของหัวใจหิมะ มันหวานอร่อยมาก เจ้าลองชิมดูก่อนได้”
หลังจากที่มู่เฉียนซีรับแก้วน้ำมา เชียนอ้าวเซี่ยก็เข้ามาใกล้อีกครั้ง “ดูแล้วเหมือนจะอร่อยมาก ข้าขอดื่มก่อนเถอะ”
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวว่า “คุณชายเซี่ย เจ้าเป็นชายร่างใหญ่ริคิดจะมาแย่งน้ำของข้ารึ ?”
อู่เผิงยิ้มอย่างจนปัญญาก่อนจะกล่าวว่า “คุณชายเซี่ย หากเจ้าชอบข้ายังมีอีก เจ้าดื่มแก้วอื่นก็ได้”
“ไม่เอา ข้าต้องการแก้วนี้ของเสี่ยวซีซี” โรคบ้าความหยิ่งยโสของคุณชายเชียนอ้าวเซี่ยกำเริบขึ้นอีกแล้ว
ดวงตาของอู่เผิงฉายแววมืดมัว คุณชายเซี่ยผู้นี้เป็นอะไรกันแน่ ? หรือว่าเขา… พบอะไรเข้า ?
“เอามาให้ข้า!” มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเข้ม
เชียนอ้าวเซี่ยยิ้มอย่างมีเสน่ห์ก่อนจะกล่าวว่า “เสี่ยวซีซี หากมันอร่อยจริง ๆ ละก็ เมื่อข้าดื่มเสร็จข้าจะส่งมันให้เจ้า ถึงตอนนั้นน้ำนี้จะยิ่งหอมหวานมากขึ้น”
สายตาที่มีเสน่ห์ของเขาจับจ้องไปที่ริมฝีปากสีแดงเรื่อดูสมบูรณ์แบบของมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีขยับตัว ไม่ว่าเชียนอ้าวเซี่ยจะยุ่งวุ่นวายกับเรื่องนี้อย่างไร นางก็แย่งแก้วน้ำมาได้และดื่มมันทันที
“เสี่ยวซีซี!” เชียนอ้าวเซี่ยคว้าแขนมู่เฉียนซีไว้อย่างตระหนกตกตื่น ขณะเดียวกันมู่เฉียนซีกล่าวขึ้นมาห้าคําที่ข้างหูของเขาขณะที่นางเดินผ่านเขา
“ข้าเป็นนักปรุงยา”
เชียนอ้าวเซี่ยส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เขามองมู่เฉียนซีที่รังเกียจเขาอย่างที่สุดและไม่กล้าเข้าใกล้นางอีก
ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ดื่มน้ำลงไป ทําให้อู่เผิงดีใจมาก
ค่ำคืนนี้ผ่านไปได้อย่างสงบราบเรียบ
มู่เฉียนซีไม่ได้สนใจเชียนอ้าวเซี่ย ในเมื่อเจ้าคนน่ารำคาญนั่นรู้ว่าอู่เผิงวางยาพิษแล้วยังจะกล้าดื่มเหล้าอีก จะต้องมีวิธีแก้พิษเป็นแน่ เชียนอ้าวเซี่ย…ชายผู้นี้น่าสงสัยอย่างมาก ถึงแม้จะเป็นผู้ไร้ความสามารถก็มิอาจดูถูกเขาได้
……
เช้าวันรุ่งขึ้น อู่เผิงพาพวกเขาออกเดินทาง พวกเขามาถึงหุบเขาน้ำแข็งที่กว้างขวาง รอจนพวกเขาก้าวเข้าไปในหุบเขาน้ำแข็ง ทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมาราวกับเสียงฟ้าร้อง
“อู่เผิง! วันนี้สํานักเจินอู่ของพวกเจ้าส่งเครื่องสังเวยมาหรือยัง ?”
อู่เผิงกล่าวอย่างนอบน้อม “นายท่านวางใจได้ ทั้งหมดสิบเครื่องสังเวยไม่ขาดไม่เกินขอรับ” เมื่อได้ยินการสนทนานี้ สีหน้าของอิ๋นซวงซวงก็เปลี่ยนไปอย่างมาก “ว่าอย่างไรนะ เครื่องสังเวยรึ ? สํานักเจินอู่ อู่เผิง เจ้าหมายความว่าอย่างไร ?”
อู่เผิงยิ้มอย่างชั่วร้าย “หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ ? องค์หญิงรองที่น่ารักของข้า ท่านยังไม่ทราบหรือว่ามันหมายถึงอะไร ?”
อิ๋นซวงซวง “เจ้าบังอาจนัก สํานักเจินอู่ของพวกเจ้าจะทําอะไร ?”
แท้จริงแล้วอู่เผิงไม่ใช่นักผจญภัย แต่มาจากสำนักเจินอู่ของสำนักนิกายครึ่งระดับจากแคว้นอิ๋นเหยียน ซึ่งไม่น่าเชื่อเลย
— ตูม! ตูม! —
เมื่อประตูน้ำแข็งเปิดออก ภายในประตูน้ำแข็งนั้นก็ปรากฏสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แต่ทั่วทั้งเรือนร่างนั้นเต็มไปด้วยขนสีขาว
“ไหนเล่า ?”
อู่เผิงผลักเด็กหนุ่มทั้งเจ็ดคนไปด้านหน้า เด็กหนุ่มทั้งเจ็ดคนราวกับหุ่นเชิดที่เชื่อฟังคําสั่งของอู่เผิงทุกประการ
“เจ็ดคนรึ ?” ตัวประหลาดดูเหมือนจะไม่พอใจ
“องค์หญิงรอง!” อู่เผิงวางแผนจะลงมือกับองค์หญิงรอง
องค์หญิงรองตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้ากล้าดีอย่างไร ?! ยังไม่ฆ่าคนพวกนี้และสัตว์ประหลาดให้ข้าอีก”
— ตุบ! ตุบ! ตุบ! —
เมื่อองค์หญิงรองออกคำสั่ง องครักษ์เหล่านั้นมิเพียงแต่ไม่ได้ลงมือทำตามคำสั่ง แต่กลับล้มลงกับพื้น พวกเขาต้องโดนพิษแล้วเป็นแน่
องค์หญิงรองเองก็รู้สึกหมดแรงไปทั้งร่าง นางเบิกตากว้าง กล่าวว่า “เจ้า… เจ้ากล้าวางยาข้า เจ้า…”
— ปัง! —
ในตอนนั้นเอง ตัวประหลาดขนสีขาวตัวนั้นก็ลงมือ ตบกวาดไปทางอู่เผิง
“เจ้าขยะนี่ เจ้าอย่าบอกนะว่าสตรีผู้นี้เป็นหนึ่งในนั้น”
อิ๋นซวงซวงที่ถูกประคองอยู่ในมือมาตลอด เมื่อเห็นตัวประหลาดตัวนั้นมองนางอย่างรังเกียจราวกับนางเป็นสิ่งสกปรกอะไรบางอย่าง นางโกรธกรุ่นแทบสลบ
อู่เผิง “ข้าน้อยมิทราบว่าข้าน้อยทำอะไรผิดถึงทําให้นายท่านไม่พอใจ ?”
“พวกเจ้าสำนักเจินอู่ให้สัญญากับข้าว่าจะส่งบุรุษสตรีบริสุทธิ์สิบคนมาทุกปี แต่สตรีนางนี้…” หัวใจของอู่เผิงเต้นระรัว ไม่มีทาง!
องค์หญิงรองผู้ยังไม่เคยเข้าพิธีแต่งงานผู้นี้ ถูกผู้อื่นลอบกระทำเข้าเสียแล้วหรือ ?
“เจ้า… เจ้า…” เมื่อถูกผู้อื่นทำความลับแตก อิ๋นซวงซวงแทบจะมุดแผ่นดินหนีไป
อู่เผิงมองไปที่มู่เฉียนซีกับเชียนอ้าวเซี่ยก่อนจะกล่าวว่า “นายท่านโปรดอภัยด้วย ยังมีสองคนนี้อีก พวกเขาทั้งสองต้องยอดเยี่ยมอย่างแน่นอนขอรับ”
ตัวประหลาดขนขาวกล่าวขึ้น “อืม เจ้าสองคนนี้นับว่าไม่เลว” เวลานี้องครักษ์ของเชียนอ้าวเซี่ยรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงในฉับพลัน
“ไม่กระมังคุณชาย…?! ความบริสุทธิ์ของคุณชายยังอยู่…”
“นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยินมา”
“คุณชายนั้นเริ่มวิ่งตามสตรีงามตั้งแต่อายุสามขวบ สตรีงามที่อยู่ด้านหลังจวนนั้นไม่ถึงหนึ่งหมื่นก็คงจะมีสักสามพันคนแล้ว แต่คนขนขาวผู้นี้กลับบอกว่า…”
เจ้าตัวประหลาดขนขาวน่ากลัวเป็นอย่างมาก แต่พวกเขานั้นไม่สงสัยในสายตาของมันเลย ใบหน้าของเชียนอ้าวเซี่ยเวลานี้ดำคล้ำเสียยิ่งกว่าก้นหม้อ “พวกเจ้าถึงกับต้องตะลึงขนาดนั้นเลยรึ ? ข้านั้นเป็นผู้โดดเด่นมาแต่ไหนแต่ไร แต่ไม่เคยติดพันอยู่กับนารีผู้ใดเข้าใจไว้ด้วย”
เขามองไปที่มู่เฉียนซีอย่างเขินอายก่อนจะกล่าวว่า “แต่ถ้าเสี่ยวซีซีละก็ถือเป็นข้อยกเว้น หากเสี่ยวซีซีต้องการสนุกกับข้า ข้าจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน”
ตัวประหลาดขนขาวกล่าวขึ้น “ไม่ต้องมาหยอกมาเกี้ยวกันที่นี่ พวกเจ้าล้วนแต่เป็นเหยื่อของข้า”
มู่เฉียนซีมองตัวประหลาดเฒ่าอย่างเห็นอกเห็นใจ “เจ้าฝึกฝนจนธาตุอัคคีแตกและเข้าสู่วิถีมาร แล้วเจ้ายังคิดหลงผิดที่จะใช้วิธีการบำรุงทดแทนนี้เพื่อมาสะกดควบคุมความเป็นพิษในตัวของตนเอง ทำให้ตัวเจ้าเองนั้นกลายเป็นตัวประหลาดผู้ที่อยู่ในสภาพครึ่งผีครึ่งคน”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ ?”
เมื่อถูกมู่เฉียนซีกล่าวถึงสภาพร่างกายของตนด้วยน้ำเสียงที่เวทนานั้น ตัวประหลาดขนขาวโกรธขึ้นมาอย่างสุดขีด เขายื่นมือที่ใหญ่โตนั้นไปทางมู่เฉียนซี ทันใดนั้นเอง เงาร่างสีขาวกระโจนเข้ามาผลักมู่เฉียนซีออกไป
“เสี่ยวซีซี เจ้ารีบไป!”
— ปั้ก! —
คุณชายเซี่ยผู้ที่เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง
อู่เผิงกล่าวขึ้น “พวกเจ้าอย่าดิ้นรนไปเลย พวกเจ้าทั้งหมดล้วนแต่ถูกข้าวางยาพิษ คิดที่จะต่อต้าน ฝันไปเถอะ!”
สีหน้าของเหล่าองครักษ์เปลี่ยนไป ทว่าองครักษ์ขององค์หญิงรองแย่ยิ่งกว่า ทั้งหมดสลบไปแล้วในเวลานี้
— กึก! —
มู่เฉียนซีหิ้วร่างเชียนอ้าวเซี่ยที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา เวลานี้ใบหน้าของเชียนอ้าวเซี่ยซีดเผือดเสียจนแทบจะขาวทะลุโปร่งใสแล้ว
เขากล่าวขึ้นด้วยเสียงอันแหบแห้ง “เสี่ยวซีซี ระวังตัวด้วย!”
มู่เฉียนซีลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ นางมองไปที่อู่เผิงก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “อู่เผิง เจ้าหลอกข้า ที่แห่งนี้ดูเหมือนจะไม่มีดอกบัวผลึกหิมะเก้าชั้นอะไรทั้งสิ้น จะมีก็แต่ตัวประหลาดเฒ่าที่ป่วยหนักเสียจนไร้สิ้นหนทางรักษา”
อู่เผิงยิ้ม เขากล่าว “แม่นางมู่ ข้าว่าสิ่งที่เจ้าควรกังวลในตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาที่ว่าโดนข้าหลอก แต่ควรเป็นเรื่องชีวิตน้อย ๆ ของเจ้าต่างหาก!”
.