ภาคที่ 2 บทที่ 139 ใช้ของท้องที่

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 139 ใช้ของท้องที่

“ชนะแล้ว ! เราชนะแล้ว !”

จ้าวซินร้องตะโกนขึ้นเสียงดังแล้วพุ่งเข้าไปกอดซูเฉิน หากแต่ซูเฉินกลับซวนเซไปเล็กน้อย ใบหน้าซีดเผือด

“ซูเฉิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่ ?”

“ข้าไม่เป็นไร เพียงเหนื่อยเล็กน้อยเท่านั้น บัดซบเอ๊ย ไอ้หมอนั่นมันแข็งแกร่งไม่น้อย หากมันยังรั้งอยู่ได้อีกหน่อย ข้าคงลำบากแย่” ซูเฉินพูดไปหอบหายใจไป

เขาไม่เคยใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกับคู่ต่อสู้ดุเดือดเช่นนี้มาก่อน การต่อสู้เมื่อครู่นับว่าเป็นครั้งแรกของเขาในหลาย ๆ ความหมาย

“เผ่าคนเถื่อน 2 คน ! ซูเฉิน ท่านสังหารพวกมัน 2 คนด้วยตัวคนเดียว ท่านทรงพลังมาก !” จ้าวซินเอ่ยเสียงตื่นเต้น

แม้เขาจะแยกร่างเป็น 3 ร่างได้ก็ยังไม่อาจเอาชนะเผ่าคนเถื่อนคนหนึ่งได้ ดังนั้นการต่อสู้เมื่อครู่ของซูเฉินจึงน่าตกตะลึงไม่น้อย

“แข็งแกร่งอะไรของเจ้า ? ไม่เห็นหรือว่าข้าซดยาเหล่านั้นเข้าไปกี่ขวด ?” ซูเฉินเอ่ยเสียงกระชากเล็กน้อย

“ใช่แล้ว ยาพวกนั้นมันอะไรกัน ? เหตุใดจึงทรงพลังนัก ?” จ้าวซินถามขึ้น

“ยาเพิ่มกำลังขั้นสูง ยาหนังเหล็กขั้นสูง ยาเพิ่มพลังชีวิตขั้นสูง ยาเคลื่อนกายดั่งลมขั้นสูง ยาบ้าคลั่ง” ซูเฉินตอบ

“โอ้โห !” จ้าวซินร้องลั่น “หากกระดกยาไม่กี่ขวดแล้วแกร่งขึ้นได้ถึงเพียงนี้ เช่นนั้นท่านก็ปรุงพวกมันขึ้นให้ข้าอีกสักหลายขวด ข้าจะได้เอาชนะเผ่าคนเถื่อนได้บ้าง เช่นนั้นได้หรือไม่ ?”

“ปรุงขึ้นอีกหรือ ? เจ้ารู้หรือไม่ยา 5 ขวดนี้มีราคาเท่าไร ?” ซูเฉินเอ่ย

จ้าวซินชะงักไปเล็กน้อย “เท่าไร ?”

ในใจเขารู้ดีว่ายาเหล่านั้นคงไม่ถูกแน่

ซูเฉินตอบ “ยา 5 ขวดนั่นเป็นยาระดับสูง แต่ละขวดราวหินพลังต้นกำเนิด 2,500 ก้อน ยาบ้าคลั่งขวดละหินพลังต้นกำเนิด 3,500 ก้อน”

แม้จะเตรียมใจมาแล้ว แต่จ้าวซินก็ยังตะลึงไป “ท่านจะบอกว่าท่านใช้ยาที่มีมูลค่าเท่ากับหินพลังต้นกำเนิด 13,500 ก้อนไปแล้วงั้นหรือ ?”

“ถูกต้อง หินพลังต้นกำเนิด 13,500 ก้อนสามารถทำให้เจ้าบ้าพลังขึ้นมาได้เพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะให้ฤทธิ์แรงเช่นนั้นได้หรือ ?”

นักปรุงยาสามารถแบ่งระดับความชำนาญออกเป็นระดับเริ่มต้น ระดับฝึกหัด ระดับชำนาญ ระดับปรมาจารย์ และระดับตำนาน ระดับเหล่านี้จะเกี่ยวพันกับมูลค่ายาที่พวกเขาสามารถปรุงขึ้นมาได้ มีมูลค่าเท่ากับหินพลังต้นกำเนิดหนึ่งร้อย พัน หมื่น แสน และหนึ่งล้านก้อนตามลำดับ

ยาที่ซูเฉินปรุงขึ้นต่างเป็นยาระดับสูงทั้งสิ้น มีเพียงนักปรุงยาระดับฝึกหัดที่จะสามารถปรุงขึ้นได้ ดังนั้นแต่ละขวดจึงมีมูลค่าหลายพัน จริง ๆ แล้วก็ยังนับว่าถูกอยู่ไม่น้อย เนื่องจากชายหนุ่มไม่กล้าปรุงยาที่ให้ผลรุนแรงมากนัก อย่างโอสถปลุกวิญญาณที่มีเพียงนักปรุงยาระดับชำนาญเท่านั้นที่จะปรุงได้นั้นมีราคาราวหินพลังต้นกำเนิด 30,000-40,000 ก้อน ไม่เช่นนั้นเหตุใดอารามนิรันดร์จึงพยายามต่อรองกับซูเฉินนัก ? ยา 3 พันขวดราคาแตะหินพลังต้นกำเนิด 100 ล้านก้อน เมื่อเทียบกับยาฟื้นพลังที่เขาปรุงขึ้นเมื่อก่อนหน้านับเป็นยาระดับต่ำ ไม่มีมูลค่าเท่าไรนัก

ซูเฉินนำเพียงวัตถุดิบส่วนผสมต่าง ๆ ติดตัวมาเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าของเหล่านั้นไร้ค่า

ยาที่มีมูลค่าเท่ากับหินพลังต้นกำเนิด 13,500 ก้อนยังต้องใช้วัตถุดิบมูลค่ากว่าหินพลังต้นกำเนิด 3,000 ก้อน ในของทั้งหลายทั้งมวลที่เขานำติดตัวมามีมูลค่าทั้งหมดเท่ากับหินพลังต้นกำเนิด 13,000 ส่วนผสมทำยานั้นกินพื้นที่ไปแล้วเท่ากับหินพลังต้นกำเนิด 11,000 ก้อน

หรือก็คือเขาสามารถปรุงยาเช่นนั้นออกมาได้เพียง 3 ชุดเท่านั้น

แล้วเมื่อครู่เขาก็ใช้ไปแล้วชุดหนึ่ง

“เดิมทีข้าคิดว่าจะให้หวังโต้วซานกับอวิ๋นเป้าใช้พวกมัน เพราะอย่างไรข้าก็ไม่เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด ไม่อาจแสดงผลของยาได้อย่างเต็มที่ แต่หากเป็นสองคนนั้นดื่มยาลงไปก็สามารถโค่นเผ่าคนเถื่อน 2 ถึง 3 คนได้ด้วยตัวคนเดียวเลย แต่โชคข้าไม่ค่อยดีนัก……” ซูเฉินถอนหายใจเสียดายของ เผ่าคนเถื่อนสองคนที่ถูกเขาตีจนตาย หากมาได้ยินเข้าจะรู้สึกอย่างไรก็ไม่อาจรู้ได้

“เช่นนั้นท่านก็ปรุงยาได้อีก 2 ชุดเท่านั้นสินะ” จ้าวซินเองก็ถอนใจออกมาเช่นกัน

“จริง ๆ แล้วข้าปรุงได้อีกชุดเดียวเท่านั้น” ซูเฉินตอบ

“ว่าไงนะ ? เพราะเหตุใดกัน ? ไม่ใช่ว่าท่านยังเหลือวัตถุดิบปรุงยาอยู่อีกราวหินพลังต้นกำเนิด 7,000-8,000 ก้อนไม่ใช่หรือ ?”

“เพราะของที่ข้านำมาไม่ได้ใช้ปรุงยานั่นทั้งหมดได้ เช่นยาเพิ่มกำลังขั้นสุดจำต้องใช้หญ้าหินผาและบัวสีเลือด ข้านำหญ้าหินผาติดตัวมาพอปรุงยายาเพิ่มกำลังขั้นสุดได้ 4 ขวดเท่านั้น แต่บัวสีเลือดมีของไว้ปรุงได้เพียง 2 ขวด ทว่าตอนนี้ข้าเหลือบัวสีเลือดอีกแค่ดอกเดียว ถึงจะมีหญ้าหินผาพอ แค่ก็เหลือบัวสีเลือดเอาไว้ปรุงยาได้เพียงขวดหนึ่งเท่านั้น”

จ้าวซินชะงักไป “เหตุใดท่านจึงนำของมาเช่นนั้น ?”

“เพราะเราหาบัวสีเลือดที่นี่ได้” ซูเฉินตอบ

จ้าวซินดูมึนงงไป “ท่านรู้ได้อย่างไร ? ครั้งนี้เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่มีคนเข้ามาที่นี่ไม่ใช่หรือ ?”

ซูเฉินคลี่ยิ้ม “แม้จะไม่ได้เข้ามาแต่ก็สืบหาข้อมูลได้ เช่น เราต่างรู้แล้วว่าซากโบราณแห่งนี้มีมาเกือบ 36,000 ปี ดังนั้นมันน่าจะเกิดขึ้นช่วงสหัสวรรษที่ 41 แห่งยุคแห่งความโกลาหล ในช่วงนั้นอาณาจักรอาร์คาน่าเพิ่งสร้างเครื่องมือสกัดสายเลือดขึ้นมา น่าจะกำลังทำการศึกษาวิจัยเรื่องสายเลือดกันอย่างบ้าคลั่ง บัวสีเลือดสำคัญกับเครื่องมือสกัดสายเลือดมาก

ดังนั้นปรมาจารย์อาร์คาน่าทุกคนจะปลูกพวกมันไว้ในพลังงานสูญส่วนตัวเป็นจำนวนมาก อีกทั้งหญ้าลมสงบที่ใช้ปรุงยาเคลื่อนกายดั่งลมขั้นสูงก็สำคัญต่อสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในพลังงานสูญ สามารถสร้างอากาศหายใจ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พลังงานสูญมีสิ่งมีชีวิตอยู่ได้ และข้าก็ได้ตรวจสอบจนแน่ใจแล้ว ในป่าใกล้ ๆ นี้ข้าพบหญ้าลมสงบ โชคร้ายที่ที่นั่นมีอสูรกายอยู่ ดังนั้นข้าจึงเก็บกลับมาไม่ได้ แม้ข้าจะไม่เคยเข้ามาในซากโบราณมาก่อน แต่ข้ามั่นใจว่ายังมีสมุนไพรและหญ้าเช่นนี้ขึ้นอยู่กระจัดกระจายทั่วพื้นที่เป็นแน่”

จ้าวซินได้ยินแล้วก็ตะลึงไป “เช่นนั้นท่านก็วางแผนจะใช้ของท้องที่มาปรุงยาตั้งแต่แรกแล้วหรือ ?”

“ถูกต้อง แต่ข้าก็เผื่อส่วนผสมใช้ปรุงยาขึ้นมาสองชุดในกรณีที่ข้ายังเจาะลึกข้อมูลไม่พอและคาดการณ์ผิดไป หากต้องการใช้เมื่อไรก็จะสามารถใช้ได้เลย ไม่คิดว่าจะต้องใช้มันเกือบจะในทันทีที่เข้ามาเข้าจริง ๆ”

“ท่านรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไรกัน ?” จ้าวซินเอ่ยถามด้วยใบหน้าประหลาดใจยิ่ง

“ระหว่างที่พวกเจ้าเริงร่ากันอยู่ในหอบุปผา ข้าก็ค้นคว้าข้อมูลอยู่ในหอตำรา”

ยามได้ยินคำว่า ‘หอบุปผา’ จ้าวซินก็พลันหน้าแดง หัวเราะเสียงแห้งออกมา “เช่นนั้นหากมีส่วนผสมครบก็สามารถปรุงยาได้อีก 4 ชุดสินะ ?”

“จริง ๆ แล้วคือ 6 ชุด” จ้าวซินตะลึงไปอีก

“ไหนท่านบอกว่าท่านปรุงได้ 4 ชุด ?”

“ข้าบอกให้อวิ๋นเป้าและคนอื่น ๆ ช่วยกันนำส่วนผสมเข้ามาด้วยเช่นกัน” ซูเฉินดีขึ้นมาก สามารถลุกขึ้นยืนได้มั่นคงแล้ว “ดังนั้นสำคัญที่สุดคือต้องรีบหาตัวพวกเขา ข้ามีแผนแล้ว แต่ต้องการให้เจ้าช่วย”

“ท่านว่ามา ข้าช่วยท่านแน่นอน” จ้าวซินเอ่ย ตอนนี้เขานับถือซูเฉินไม่น้อย ดังนั้นแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้มีหมายเลขศิษย์อันดับที่ 3 เขาก็จะยอมฟังคำอีกฝ่ายอยู่ดี

“ข้าอยากให้เจ้าออกไปจากที่นี่ ตามหาสองคนนั้นและคนอื่น ๆ เจ้ามีนัยน์ตาเหยี่ยวทอง หากระวังภัยรอบกายมากพอก็คงไม่พบอันตรายใดมากมาย หลังจากพบคนแล้วบอกสองอย่าง อย่างแรกบอกว่าข้าอยู่ที่นี่ หากบาดเจ็บให้เดินทางมาหาข้าได้”

“ท่านจะรั้งอยู่ที่นี่หรือ ?” จ้าวซินไม่อยากแยกกับซูเฉินนัก

“ข้าจะเข้าป่าไปหาวัตถุดิบและปรุงยาอีกสักหน่อย ข้าต้องมีสถานที่เป็นหลักแหล่งเอาไว้รักษาแผลคนบาดเจ็บ จะให้กระจัดกระจายไปทั่วไม่ได้ ดังนั้นเจ้ารับหน้าที่ตามหาคนอื่น ๆ ถือโอกาสวาดแผนที่ให้สมบูรณ์กว่าเก่าไปเลยก็ได้”

“ได้เลย” จ้าวซินเห็นด้วย แต่ก็ยังไม่เต็มใจ

“อย่างที่สอง เจ้าบอกพวกเขาว่าข้าต้องการส่วนผสมเหล่านี้” ซูเฉินหยิบม้วนกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง ในนั้นมีรายชื่อสมุนไพรต่าง ๆ ที่เขาต้องการ

เขาส่งมันให้อีกฝ่าย “หากพบสมุนไพรเหล่านี้ให้นำมันมาให้ข้า”

“อืม !” จ้าวซินพยักหน้ารับแข็งขัน

เห็นได้ชัดว่าสมุนไพรเหล่านี้สำคัญเพียงไหน หากพวกเขาสามารถรวบรวมพวกมันให้ซูเฉินสามารถปรุงยาระดับสูงเช่นเมื่อครู่ได้อีก 6 ชุดก็นับว่ากลายเป็นอาวุธชั้นยอดได้ รับมือกับเผ่าคนเถื่อนได้หลายคน

“อย่างสุดท้าย เจ้ามีอีกหน้าที่หนึ่ง” ซูเฉินเอ่ย

“คืออะไร ?” จ้าวซินถาม

“ไปตามหาจี้ลั่วอวี่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามให้เขาเป็นอะไรเป็นอันขาด !”