นี่ไม่ใช่ผลย้อนกลับแม้แต่นิดเดียว!

ผู้ฝึกยุทธแซ่หลินยังไม่ตายสักหน่อย

ในเวลาเดียวกัน ผู้ฝึกยุทธระดับวงแหวนนภาคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ที่ทางเข้าโลก

เขากำลังอธิบายถึงความยอดเยี่ยมของเทพนิรันดร์ที่แท้จริงให้ฉานนู่ฟัง

แต่เซี่ยกูหงและชายชราผมขาวกลับไม่รู้เรื่องนี้

เซี่ยกูหงและชายชราผมขาวไม่ได้เห็นวิญญาณกรีดร้อง ไม่รู้ว่าหุบเหวนิรันดร์คืออะไร ไม่เคยเห็นการคืนชีพอันไร้ขีดจำกัดของนักพรตหลังจากตายไปแล้ว ดังนั้นต่อให้พวกเขาฝึกฝนจนถึงระดับสูงก็ไม่สามารถหาสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เหล่านั้นจากศพได้

ดังนั้น พวกเขาจึงเชื่ออย่างผิดๆ ว่าผู้ฝึกยุทธแซ่หลินตายแล้ว

ตายเพราะผลย้อนกลับจากกระจกโบราณ

จากนั้น…

ความลับในกระจกโบราณที่ผู้ฝึกยุทธแซ่หลินรู้ทำให้เซี่ยกูหงและชายชราผมขาวได้เห็นว่าต้องแลกด้วยความตายมันคืออะไร

กู่ฉิงซานชำเลืองมองชายชราผมขาว

ไม่มีอะไรผิดปกติ

เขาไม่คล้ายกับรู้อะไรเลย

ถ้าเช่นนี้…

กู่ฉิงซานถอนหายใจออกมา “เพื่ออนาคตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ หลินเต้าโหย่วสละชีวิตของตัวเอง นี่ช่างเป็นแบบอย่างสำหรับรุ่นของพวกเราจริงๆ ”

เซี่ยกูหงและชายชราผมขาวพยักหน้าเห็นด้วย

กู่ฉิงซานถามว่า “เขาพบความลับอะไรล่ะ”

เซี่ยกูหงส่งกระจกทองแดงให้กู่ฉิงซานแล้วกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “หลินเต้าโหย่วทำลายผนึกบนกระจกโบราณด้วยชีวิตของตัวเอง หัวหน้าจ้าว ท่านสามารถเข้าไปดูความลับที่อยู่ข้างในด้วยตาของตัวเองได้”

กู่ฉิงซานรับกระจกทองแดงมา

บนหน้าต่างระแบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นทันที

“ไอเท็ม: กระจกบันทึกแสงและเงา”

“คำอธิบาย: ในยุคโบราณ เผ่าพันธุ์มนุษย์ใช้อุปกรณ์สิ่งนี้เพื่อบันทึกความลับบางอย่าง”

แถวหิ่งห้อยสองแถวหายไป

ในกระจก ภาพเงาเริ่มปรากฏขึ้น

การเกิดเผ่าพันธุ์บรรพกาลเป็นเพียงการเคลื่อนย้ายของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณเท่านั้น

ภายหลัง เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณพบว่าบางสิ่งที่เรียบง่ายสามารถจัดการได้ด้วยสัตว์ประหลาดบรรพกาล นี่จึงทำให้พวกเขาค่อยๆ มีพลังและความสามารถมากขึ้น

จากนั้นมีความลับของการเกิดเทพ

เป็นการทดสอบที่ล้มเหลว

มันคือฮอร์ครักซ์ต่อสู้ประจำตัวจำนวนมากที่มีอายุการเก็บรักษานานผิดปกติ

ความลับของเผ่าพันธุ์บรรพกาลและเทพได้ปรากฏตรงหน้ากู่ฉิงซานแล้ว

ความลับเหล่านี้เป็นความจริงแน่แท้ พวกมันไม่แตกต่างจากที่กู่ฉิงซานรู้มาก่อนหน้านี้เลย

แม้อยู่ภายใต้แสงและเงา ภาพการเก็บเกี่ยวของมนุษย์สองกลุ่มยิ่งมีรายละเอียดและชีวิตชีวามากขึ้น

“หัวหน้าจ้าว ท่านคิดว่าบันทึกในกระจกทองแดงบานนี้เป็นความจริงหรือเปล่า” เซี่ยกูหงถาม

กู่ฉิงซานเผยยิ้มขมขื่นออกมา “เป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย”

เซี่ยกูหงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าได้อ่านมันหลายครั้งแล้ว ประกอบกับสิ่งสำคัญที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ พบว่าคำตอบนี้คือความจริง”

ชายชราผมขาวถอนหายใจก่อนกล่าวอย่างเศร้าสลดว่า “โชคชะตาของพวกเราเผ่าพันธุ์มนุษย์มันน่าอัปยศเกินไปแล้ว”

เซี่ยกูหงและกู่ฉิงซานเงียบ

ชายชราผมขาวหยิบกระดองเต่าออกมาแล้วเริ่มตรวจสอบเส้นกระดองเต่าอย่างละเอียด

เขากล่าวเสียงอ่อน

เซี่ยกูหงถามว่า “เมิ่งเหล่า เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ”

ชายชราผมขาวยังคงหมกมุ่นตอบว่า “นี่คือสมบัติที่ถูกฝังไว้ของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณ ต้องมีบางสิ่งที่สามารถช่วยพวกเราเปลี่ยนสภาพที่เป็นอยู่และเปลี่ยนโชคชะตาของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้สิ”

ความเศร้าโศกและความมุ่งมั่นเผยบนใบหน้าของเขา “ข้าอยากหาสิ่งนั้นให้เจอ!”

เซี่ยกูหงขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ไม่! เพื่อทำนายคลื่นโกลาหล เจ้าต้องใช้ส่วนหนึ่งของพลังชีวิตในการจ่าย เจ้าอย่าทำแบบนี้เพื่อโชคชะตาของเผ่าพันธุ์มนุษย์จะดีกว่า!”

ต่อให้ชายชราผู้เป็นยอดนักพรตระดับแสวงโลกาใช้ส่วนหนึ่งของพลังชีวิตก็ไม่สามารถทำนายคลื่นโกลาหลได้

แต่ตอนนี้เขาอยากหาให้ได้ว่าสมบัติที่เปลี่ยนชะตากรรมของมนุษยชาติซ่อนอยู่ที่ใด

ระดับการคำนวณนี้เกินกว่าขอบเขตของดาวฤกษ์หกแฉกทั่วไป มันข้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทั้งโลก ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ชายชราผมขาวจะสามารถแบกรับได้!

กู่ฉิงซานรีบห้ามขณะกล่าวว่า “เจ้าบ้าไปแล้ว ถ้าเช่นนั้น ต่อให้เจ้าหาสมบัติทรงพลังเจอจริง แต่เจ้าต้องตายอยู่ที่นี่นะ!”

ชายชราผมขาวกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว ท่านไม่ได้วางแผนจะล้างแค้นให้กับสำนักด้วยชีวิตของตัวเองหรอกหรือ”

เซี่ยกูหงกล่าวอย่างวิตกว่า “แต่หัวหน้าจ้าวไม่มีทางเสียสละอย่างไร้ความหมายแน่ เจ้าอย่าทำแบบนี้เลย ไม่อย่างนั้นเจ้าจะตายนะ!”

“ถ้าข้าสามารถหาทางสู้กับเผ่าพันธุ์เทพและเผ่าพันธุ์บรรพกาลได้ เช่นนั้นข้าก็เต็มใจที่จะตาย อย่ามาห้ามข้า นี่คือทางเลือกสุดท้ายของข้าแล้ว” ชายชราผมขาวกล่าว

‘ตูม!’

สายลมแรงกล้าพัดเข้าใส่ชายชราอย่างรุนแรง ผมและเครายาวสีขาวของเขาปลิวไสวไม่มีสิ้นสุด

เขาทำท่าร่ายวิชาซับซ้อนด้วยมือทั้งสองข้างก่อนกล่าวเสียงดังว่า “จงแผดเผาอายุขัยทั้งหมดของข้าเพื่อคำนวณวิธีเอาชนะศัตรู!”

กระดองเต่าในมือแตกร้าวจนไม่เหลืออะไร

หากเป็นเช่นนี้ แสดงว่าวิชาวัดดาวฤกษ์หกแฉกเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ไม่อาจแก้ไขอะไรได้!

ชายชราอยากยกชีวิตของตัวเองให้จริงๆ !

เซี่ยกูหงและกู่ฉิงซานมองหน้ากัน เกิดความรู้สึกเศร้าโศกในใจของทั้งคู่

ชายชราลอยขึ้นในอากาศขณะเหาะไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาอันต่อไป

เขากล่าวเสียงดังว่า “ความลับของสวรรค์อยู่กับข้า ทำให้ข้ารับรู้ได้ถึงสมบัติ!”

“พวกท่านรีบตามมา ข้าคงอยู่ได้อีกไม่นาน!”

เซี่ยกูหงและกู่ฉิงซานตามเขาไปทันที

ทั้งสามคนยืนอยู่บนค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาก่อนหายไปจากชั้นนี้ทันที

ชั้นที่สิบเจ็ด

ชั้นที่สิบแปด

ชั้นที่สิบเก้า

ชั้นที่สามสิบสาม!

ในที่สุดชายชราหยุดที่ชั้นนี้

ตอนนี้ ลมหายใจภายในร่างของเขาอ่อนแรงมาก เบ้าตาหดลง ผิวหนังเหี่ยวแห้ง เขากำลังจะตาย

ด้วยการสนับสนุนของเซี่ยกูหงและกู่ฉิงซาน เขาพยายามดิ้นรนเพื่อไปหาสมบัติ

มันคือหินยาวมีม่วงเข้มคล้ำ ความยาวอยู่ที่ราวห้าเมตร

“นั่นแหละ” ชายชรากล่าวด้วยเสียงอันอ่อนแรง

เซี่ยกูหงและกู่ฉิงซานมองหินพร้อมกัน

ชายชราเอื้อมมือไปคว้าหินก่อนออกแรงบีบ

แต่ชายชราคล้ายกับไม่เหลือเรี่ยวแรง ทำให้ไม่สามารถบีบหินก้อนนั้นจนแตกได้

“ข้าเอง” กู่ฉิงซานกล่าว

เขาออกแรงบีบจนสั่นสะท้านอีกครั้ง

หิวยาวทั้งก้อนกลายเป็นผุยผงจนแหลกละเอียด แผ่นหยกสองแผ่นที่ถูกมันปกคลุมเอาไว้ได้ปรากฏตรงหน้าทั้งสามคน

ชายชรารีบคว้าแผ่นหยกทั้งสองเอาไว้ โลหิตทะลักออกจากปาก

เขาคล้ายกับถึงจุดที่น้ำมันในตะเกียงแห้งเหือดแล้ว

“จ้าวตำหนักเซี่ย…”

ชายชราอ้าปากเรียกอีกฝ่าย

“ข้าอยู่นี่” เซี่ยกูหงกล่าวเสียงต่ำขณะช่วยชายชรา

ชายชราสูดหายใจขณะพยายามรักษาน้ำเสียงเอาไว้ “ข้าพบแล้ว นี่คือวิธีการหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ”

“ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพหรือ” เซี่ยกูหงถามด้วยความสับสน

“ใช่ ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ มีไว้เพื่อฟาดฟันเทพและสัตว์ประหลาดบรรพกาลโดยเฉพาะ”

เมื่อชายชรากล่าวเช่นนี้ โลหิตเริ่มหลั่งออกทั้งเจ็ดรูทวาร แต่เขายังฝืนต่อ

“วัสดุของแผ่นหยกสองแผ่นนี้พิเศษมาก ไม่มีทางหาเจอในโลกได้ การหลอมดาบทั้งสองเล่มต้องใช้แผ่นหยกสองแผ่นนี้รวมเข้ากับตัวดาบจึงจะสมบูรณ์ จำเอาไว้ให้ดี!”

“ข้าจะจำไว้” เซี่ยกูหงกล่าวอย่างจริงจัง

ตอนนี้ ชายชราพลันมีเรี่ยวแรงมากขึ้น สีแดงระเรื่อปรากฏบนใบหน้าของเขา

เซี่ยกูหงและกู่ฉิงซานมองหน้ากัน

ทั้งคู่รู้อยู่แก่ใจว่าชายชราผู้นี้มาถึงวาระสุดท้ายแล้ว

ชายชราสูดหายใจอีกครั้งแล้วกล่าวว่า “สัญญากับข้า… ว่าท่านต้องหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ… เพื่อเปลี่ยนแปลงพวกเราเผ่าพันธุ์มนุษย์…”

เขายังไม่ทันกล่าวจบ แต่กลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากลำคอแล้ว

เซี่ยกูหงปรี่เข้าไปพูดว่า “อย่ากังวลไปเลย ข้า เซี่ยกูหง จะต้องทำอย่างแน่นอน!”

ชายชราเผยสีหน้าวางใจก่อนปิดปากลงช้าๆ

ศีรษะของเขาพลันตกลง ทั่วทั้งร่างทรุดลงในอ้อมแขนของพวกเขา

เขาตายแล้ว

เซี่ยกูหงและกู่ฉิงซานไม่พูดอะไรอยู่พักใหญ่

พวกเขาเอนอยู่ข้างศพชายชราทั้งซ้ายขวา ในใจรู้สึกหมองหม่นและเศร้าโศก

เป็นเวลาพักใหญ่

เซี่ยกูหงยืนขึ้นก่อน

เขาเก็บแผ่นหยกสองแผ่นอย่างระวังก่อนกล่าวอย่างเปล่าเปลี่ยวว่า “จ้าวสำนักจ้าว ท่านได้เลือกสมบัติหรือยัง”

กู่ฉิงซานตกตะลึงสักพัก

เขาตอบทันทีว่า “ข้ายังไม่ได้เลือก”

เซี่ยกูหงกล่าวว่า “ข้ายังไม่ได้เลือก ตอนนี้ข้าจะเดินลงไปชั้นต่อไป หลังจากเลือกสิ่งที่ต้องการได้แล้ว ข้าจะไปจากที่นี่ทันที”

“จะไปทันทีหรือ” กู่ฉิงซานถาม

เซี่ยกูหงกล่าวอย่างแน่วแน่ว่า “ใช่ ข้าอยากกลับตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อยากเสี่ยงอะไรอีกแล้ว ข้าต้องนำวิธีการหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพกลับไปยังเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้ได้”

กู่ฉิงซานยังอุ้มร่างของชายชราเอาไว้ก่อนถอนหายใจออกมา “ไปเถอะ ข้าจะอยู่กับเขาอีกสักพัก ไม่ต้องห่วงข้า”

เซี่ยกูหงพยักหน้า เขาประสานมือแล้วกล่าวว่า “รักษาตัวด้วย”

เขาเหาะขึ้นไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาก่อนจากไปทันที

กู่ฉิงซานอยู่ที่นั่นอีกสักพัก

เขาวางร่างของชายชราผมขาวลงกับพื้นอย่างแผ่วเบาขณะกุมมืออีกข้างเอาไว้

“สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ นี่เป็นสิ่งที่กล้าหาญและยิ่งใหญ่นัก”

กู่ฉิงซานพึมพำอย่างแผ่วเบา

เขาคว้าคทาสีดำจากความว่างเปล่าอย่างเงียบงัน

บนคทา หัวกะโหลกมีเขาพลันขยับ

แสงสีแดงเรืองรองจากดวงตาของหัวกะโหลก

ความรู้สึกที่หวาดกลัวและสั่นสะท้านมาเยือนทันที!

ศพบนพื้นคล้ายกับตรวจพบบางสิ่ง วงแสงสีม่วงพลันปรากฏขึ้น

วินาทีต่อมา มันแผ่กลิ่นอายน่าทึ่งออกมาจนคล้ายกับมีชีวิต

นี่คือการเปลี่ยนแปลงแบบสุ่มที่ทำลายพรมแดนของความเป็นความตาย มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ อธิบายไม่ได้และไม่สามารถเข้าใจได้

นี่คือพลังของเทพนิรันดร์ที่แท้จริง!

ทว่า กู่ฉิงซานมีสิ่งนี้อยู่ในมือ

พลังอสนีบาต สะเทือนฝัน!

“สะเทือนฝัน: หลังจากถูกพลังจิตอสนีสัมผัสเข้า สติของอีกฝ่ายจะก่อเกิดความฝันระยะสั้นด้วยพลังอสนีจนเสียการควบคุมร่างกายจนกระทั่งสกิลสิ้นสุดลงเมื่อผ่านไป 5 วินาที”

“คำอธิบาย: นี่คือพลังเหนือธรรมชาติขั้นสูงที่อยู่เหนือการควบคุม มันแข็งกระด้างและแยกตัวออกจากสามวิถีอสนีบาตไม่ได้รับการยกเว้นจากสิ่งมีชีวิตใดๆ”

ชายชราไม่สามารถขยับได้ทันที

แสงสีม่วงบนร่างถูกขัดขวางทันควัน ภายในไม่กี่วินาที มันเปลี่ยนจากคนเป็นสู่คนตายอีกครั้ง

กู่ฉิงซานแทงคทาราชาแห่งความตายเข้าที่หน้าอกของศพอย่างเกรี้ยวกราด

ซากศพแผดเสียงครวญครางออกมาอย่างรุนแรง

มันดิ้นรนทุรนทุราย พยายามที่จะมีชีวิตอีกครั้ง

ขณะดิ้นรนจนผิวม่วงคล้ำ ดาบยาวได้เข้ามาตัดศีรษะของอีกฝ่ายทันที

ชายชรากลายเป็นซากศพอีกครั้ง

ดาบยาวไม่ได้ไปไหน มันยังติดอยู่ที่ลำคอขณะตัดศีรษะอีกฝ่ายครั้งแล้วครั้งเล่า

“ถ้ายังขยับอีก ข้าจะใช้คทา” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างแผ่วเบา

ชั้นสีชาดเรืองรองส่องมาจากคทาราชาแห่งความตาย

ซากศพรู้สึกได้ว่าพลังนิรันดร์กำลังสลายไปเพราะคทา ร่างกายของมันแข็งทื่อ ไม่กล้าทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ อีก

“ช่างน่าทึ่งจริงๆ” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างมีอารมณ์

จิตสังหารเลือนรางค่อยๆ แผ่ออกจากตัวเขา

ชายชราผมขาวสัมผัสได้ถึงจิตสังหารก่อนขอร้องวิงวอนว่า “ไว้ชีวิตข้าด้วย! ไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้าไม่อยากตาย!”

“โห” เสียงของกู่ฉิงซานค่อยๆ ดูซุกซนขึ้นมา “เพราะมีชีวิตนิรันดร์ เจ้าจึงสามารถรู้สึกถึงความตายนิรันดร์จากคทาของข้าได้ใช่หรือไม่”

“ใช่ ข้ารู้ นี่คือลมหายใจของหวนคืนชาติภพหกวิถีแห่งยมโลก”

ชายชรากล่าวเช่นนั้นขณะพลันจับคทาราชาแห่งความตายด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อพยายามตอบรับ

แต่มือของเขาระเบิดเป็นหมอกโลหิตทันที ทำให้ทั้งร่างส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนาออกมา

นี่คือคทาราชาแห่งความตาย หนึ่งในสัญลักษณ์ของสามอำนาจสูงสุดของยมโลก คนตายที่ต่ำต้อยเช่นนี้คู่ควรที่จะสัมผัสมันได้อย่างไร

กู่ฉิงซานถือคทาเอาไว้ ศีรษะก้มต่ำขณะจ้องมองคนตายตรงหน้าอย่างเงียบงัน

“อยากมีชีวิตงั้นหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“ใช่” ชายชราผมขาวพยักหน้า

ความจริง ถ้าเขาไม่โลภในชีวิตนิรันดร์แล้วจะทรยศต่ออดีตตัวเองไปเพื่ออะไร

“อยากมีชีวิตสินะ ดีมาก”

กู่ฉิงซานหมุนคทาอย่างแผ่วเบา

ชายชราถูกแทงโดยคทาตรงหน้าอกก่อนรู้สึกถึงความเจ็บปวดแสนสาหัสยิ่งทันที

“อ๊ากกกกก! ยกโทษให้ข้าด้วย ได้โปรด ท่านอยากทำอะไรกับข้าก็ได้ทั้งนั้น!” ชายชรากล่าวเสียงดัง

กู่ฉิงซานหยุดขยับมือ เขาจึงโล่งใจเล็กน้อย

“ในความเห็นของเซี่ยกูหง ความตายของหลินเต้าโหย่วเป็นเรื่องจริง ข้อมูลในกระจกเป็นของจริง แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถพบข้อบกพร่องในความถูกต้องของข้อมูลได้ เช่นนั้นความตายของเจ้าก็ยังเป็นเรื่องจริง”

“ไม่สงสัยเลยว่าเซี่ยกูหงถึงสามารถหาแผ่นหยกมาหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพได้ เขาพยายามสุดความสามารถที่จะหลอมดาบทั้งสองเล่มในวันข้างหน้า…”

“ไม่สงสัยเลยว่าตลอดเวลา เผ่าพันธุ์บรรพกาลไม่หยุดเผ่าพันธุ์มนุษย์จากการหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ”

“ตลอดเวลาหรือ” ชายชราผมขาวไม่เข้าใจ

กู่ฉิงซานส่ายหน้า

น้ำเสียงของเขาค่อยๆ ต่ำลงและลุ่มลึกขึ้น “เอาล่ะ ช่วยบอกข้ามาทีสิ ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพนั่นมันคืออะไรกันแน่”

…………………………..