ตอนที่ 1074 ถ้าถังหนิงกล้าโผล่หน้าออกมา

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิงได้เชิญแฟนๆ มาร่วมชมภาพยนตร์ก่อนกำหนดฉายจริงด้วยซ้ำ ไม่เพียงแต่ต้องการให้ความสำคัญกับแฟนคลับของเธอ แต่ยังเป็นการพิสูจน์ความมั่นใจของถังหนิงในภาพยนตร์ของตัวเอง 

 

 

คืนนั้นแฟนๆ ของศิลปินคนอื่นคงจะนึกอิจฉาแฟนๆ ของถังหนิง 

 

 

มันทำให้แฟนคลับของถังหนิงรู้สึกมีศักดิ์ศรี ทุกคนพูดกันไม่ใช่หรือว่าถังหนิงไม่ได้สนใจแฟนคลับของตัวเอง 

 

 

ถ้าเช่นนั้นศิลปินของพวกเขายอมเสี่ยงและลงทุนเชิญแฟนๆ มาชมภาพยนตร์ของพวกเขาก่อนกำหนดออกฉายจริงได้ไหมล่ะ 

 

 

พวกเขาทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะต่อให้พวกเขาอยากจะทำก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ หากแต่ไม่ใช่สำหรับถังหนิง! 

 

 

ถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้สร้าง สามารถตัดสินใจเรื่องสำคัญทั้งหมดได้ 

 

 

สิ่งนี้ยิ่งทำให้แฟนๆ ของเธอภาคภูมิใจเป็นพิเศษ ตอนนี้พวกเขาสามารถพกความมั่นใจไปได้ทุกที่แล้ว! 

 

 

… 

 

 

เวลาหนึ่งทุ่ม สมาชิกของสมาคมคนรักถังหนิงมารวมตัวกันด้านนอกโรงภาพยนตร์เพื่อรอการฉายในเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง 

 

 

คนที่ได้รับเชิญในรอบฉายพิเศษนี้ล้วนเป็นผู้ดูแลและประสานงานของสมาคมทั้งหมด ด้วยความทุ่มเทของพวกเขากิจกรรมของสมาคมจึงดำเนินไปได้อย่างราบรื่น 

 

 

มันไม่ได้ทำให้แฟนๆ ทั่วไปรู้สึกไม่เป็นธรรม เพราะพวกเขาต่างรู้ว่าแฟนตัวยงเหล่านี้ทำงานหนักเพื่อสมาคมขนาดไหน อีกทั้งถังหนิงยังได้ประกาศแล้วว่าเธอจะจัดการฉายสำหรับแฟนๆ ทั่วประเทศในคราวหลัง 

 

 

แฟนๆ จึงสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและเอาใจใส่ของเธอ 

 

 

สิบนาทีต่อมา หันซิวเช่อปรากฏตัวขึ้นในโรงภาพยนตร์อย่างที่คาดไว้ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเปิดเผยใบหน้าได้ในขณะที่มันปรากฏหราบนหน้าข่าวมาก่อน เขาจึงแต่งตัวเหมือนกับเป็นพนักงานและแอบเข้ามา 

 

 

แต่เขาไม่รู้ตัวว่าทุกการเคลื่อนไหวของเขาถูกกล้องวงจรปิดบันทึกเอาไว้ 

 

 

เมื่อเห็นดังนั้น หลงเจี่ยก็ส่ายหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ “ไอ้เวรนั่นมาจริงๆ ด้วยสินะ เราชี้แจงเรื่องเทคนิคพิเศษไปแล้ว การทดลองฉายก็จบไปแล้ว การฉายจริงก็กำลังจะมาถึง แต่เขาก็ยังพยายามก่อเรื่องอีก” 

 

 

“เขาไม่อยากจะพลาดโอกาสไปสักครั้งหรอก ถ้าเราไม่หยุดเขาไว้เร็วๆ นี้ เขาจะต้องดึงดันต่อไปจนกระทั่งถึงกำหนดฉายจริงแน่! ยังไงถึงเราจะหยุดเขาได้วันนี้ ฉันก็รู้สึกว่าเขาก็จะยังไม่ขอโทษอยู่ดี…” 

 

 

“อย่างนั้นแผนของเราจะไม่เสียเปล่าเหรอคะ” 

 

 

“ไม่หรอก” ถังหนิงตอบอย่างมีเลศนัย 

 

 

“โอเคค่ะ” 

 

 

หลงเจี่ยเฝ้ามองหันซิวเช่อที่ทำตัวลับๆ ล่อๆ ซ่อนอยู่ในมุมหนึ่ง เธอไม่เข้าใจเขาจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงต้องใช้ชีวิตอย่างนี้ด้วย น่าสมเพชสิ้นดี! 

 

 

“หนังกำลังจะเริ่มฉายแล้ว มาทำตามแผนของเรากันเถอะ” 

 

 

“โอเคค่ะ” หลงเจี่ยพยักหน้ารับ 

 

 

ถังหนิงยืนมองเศษสวะจอมเจ้าเล่ห์อยู่ด้านหนึ่งผ่านหน้าจอขาวดำของกล้องวงจรปิด เขาได้แต่ซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบที่แสงส่องมาไม่ถึง 

 

 

ไม่นานภาพยนตร์ก็เริ่มฉาย ก่อนหันซิวเช่อจะก้าวเข้าไปในก้องพนักงานหลังจากดูต้นทางอย่างรอบคอบ ทว่าเขากลับถูกพนักงานตัวจริงจับได้เสียก่อน “คุณครับ คนที่ไม่ใช่พนักงาน ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในนี้นะครับ” 

 

 

ความพยายามของหันซิวเช่อเป็นอันต้องคว้าน้ำเหลว เขาจึงตัดสินใจเดินออกมา ทว่าในจังหวะที่เขากำลังจะหันหลังกลับ ก็พลันชนเข้ากับแขกคนหนึ่ง 

 

 

ตอนนี้เองที่หลงเจี่ยเดินผ่านเขา เมื่อเห็นเขาเธอก็ตะโกนออกมาทันที “อ้าว หันซิวเช่อเหรอ” 

 

 

หันซิวเช่อตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก เขาอยากจะหนีออกไป แต่หลงเจี่ยรั้งเขาไว้อย่างรวดเร็ว “คุณคิดจะไปไหน” 

 

 

หลังจากได้ยินเสียงตะโกนของหลงเจี่ย พนักงานของโรงภาพยนตร์ก็มามุงในทันที 

 

 

“คุณมาทำอะไรที่นี่ ยังทำร้ายถังหนิงไม่พออีกเหรอ พยายามมาก่อเรื่องในโรงหรือยังไง คุณมันเป็นคนชั่วช้านี่” 

 

 

เมื่อได้ยินชื่อถังหนิง แขกบางคนก็เข้ามาดูสิ่งที่เกิดขึ้นทันที หลายคนหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปหันซิวเช่อไว้ 

 

 

“ผมแค่บังเอิญผ่านมา…” 

 

 

“ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอก!” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยขณะที่เดินเข้ามาสมทบ “เมื่อกี้เขาแอบเข้าไปในห้องพักพนักงานแล้วก็กำลังจะสวมชุดเครื่องแบบของผม!” 

 

 

“ปล่อยฉันนะ พวกคุณกำลังพยายามกักขังหน่วงเหนี่ยวผมอยู่เหรอ” หันซิวเช่อสะบัดตัวออกจากการจับกุมของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่จับตัวเขาไว้ 

 

 

“ทุกคนในปักกิ่งรู้ว่าคุณวางแผนทำร้ายถังหนิงหมดแล้ว แต่อยู่ๆ คุณก็โผล่มาที่โรงหนังนี่ กำลังพยายามทำอะไรอยู่กันแน่” หลงเจี่ยถาม “แล้วในเมื่อคุณอยู่ที่นี่แล้ว คุณก็ควรจะชดใช้สิ่งที่ติดค้างเอาไว้ไม่ใช่เหรอ” 

 

 

“ผมบอกว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญไง!” หันซิวเช่อตะโกนใส่หน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย 

 

 

“ถังหนิงยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ แต่คุณก็ยังพยายามทำร้ายเธออีกเหรอ” 

 

 

“อ้อ เขานี่เอง เขาเป็นคนที่ทะเลาะกับแฟนคลับของถังหนิงตลอดเวลา ก่อนหน้านี้เขาพนันกับหลงเจี่ยเอาไว้ว่าจะคุกเข่าขอโทษถ้าเขาแพ้” 

 

 

“จากนั้นเขาก็หายหน้าไปเลยไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้โผล่มาที่นี่ได้ล่ะ” 

 

 

“ใครจะไปรู้ว่าเขาแอบเข้ามาทำอะไรในโรงหนัง อย่างที่ทุกคนรู้กันนั่นแหละว่าถังหนิงเชิญแฟนคลับของเธอมาดูหนังของเธอที่นี่” 

 

 

“เขาหน้าด้านสุดๆ ไปเลย!” 

 

 

“คุกเข่าลงซะ ไอ้ขี้ขลาด!” 

 

 

คนที่เห็นเหตุการณ์เริ่มรุมประณามเขา “ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายที่ไม่ยอมรับคำสัญญาของตัวเองมาก่อน แล้วก็ไม่เคยเจอผู้ชายที่แย่กว่าคุณเลย แฟนเก่าฉันยังไม่แย่เท่านี้เลยด้วยซ้ำ!” 

 

 

ขณะที่ทุกคนชี้และต่อว่าเขา หันซิวเช่อว่าเย้นหยัน “ถ้าคุณทำให้ถังหนิงโผล่หน้ามาตอนนี้ได้ ผมอาจจะคุกเข่าขอโทษจริงๆ ก็ได้!” 

 

 

“ถังหนิงคงไม่อยากเห็นหน้าคุณหรอก! คุณมันไม่คู่ควร!” หลงเจี่ยตอบ 

 

 

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีทางได้รับคำขอโทษที่ต้องการหรอก…” 

 

 

“คุณ…” เธอจะทำอะไรกับคนไร้ยางอายเกินทนอย่างนี้ได้กัน 

 

 

“อีกอย่างจู่ๆ คุณก็โผล่มาตอนที่ผมอยู่ตรงทางออกของโรงหนัง อย่าบอกนะว่าคุณวางกับดักเอาไว้น่ะ อยากเห็นผมคุกเข่าขนาดนั้นเลยเหรอ ผมจะบอกคุณให้นะ ถ้าผมไม่ได้เห็นถังหนิงก็ไม่ต้องมาพูดอะไรกันอีก” 

 

 

หลงเจี่ยพูดอะไรไม่ออก อย่างไรเสียเธอก็เป็นผู้ดีในขณะที่หันซิวเช่อไม่ใช่ 

 

 

“คุณกำลังจะบอกว่าถ้าถังหนิงมา คุณจะขอโทษเธอใช่ไหม” หลงเจี่ยถามย้ำ “กำลังจะบอกอย่างนั้นใช่ไหม” 

 

 

หันซิวเช่อจ้องหน้าเธอก่อนเหยียดยิ้ม “อยู่ที่สาธารณะแบบนี้ แค่ถังหนิงโผล่หน้าออกมาผมจะคุกเข่าเลย!” 

 

 

“ก็ได้ คุณพูดเองนะ” เธอเอ่ยก่อนจะต่อสายหาถังหนิงและอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างให้ฟัง “คุณอยากมาเจอหันซิวเช่อไหมคะ” 

 

 

“ในเมื่อเขาขอมาอย่างนั้นฉันก็จะทำให้เขาสมใจอยากเอง!” 

 

 

หันซิวเช่อส่งสายตาท้าทายมาให้หลงเจี่ยอยู่ตลอดเวลา มีคนมากมายอยู่ขนาดนี้ ถ้าถังหนิงกล้าโผล่หน้าออกมาเขาจะทำให้เธออับอายต่อหน้าทุกคนซะ! 

 

 

หลงเจี่ยรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ดังนั้นหลังจากวางสาย เธอจึงหันไปเอ่ยกับเขา “ฉันหวังว่าครั้งนี้คุณจะไม่กลับคำก็แล้วกัน!” 

 

 

อีกด้านหนึ่งผู้ชมต่างมีความสุขที่ถังหนิงจะมาปรากฏตัว 

 

 

“ถังหนิงจะมาจริงๆ เหรอ” 

 

 

“คนเยอะขนาดนี้เธอคงไม่มาหรอกมั้ง” 

 

 

“ฉันคิดว่ามันไม่ได้จำเป็นที่เธอต้องมาเพราะไอ้ชั่วนี่เลยนะ!”