ตอนที่ 271 พิสูจน์หัวใจตนเอง

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

ตอนที่ 271 พิสูจน์หัวใจตนเอง
ตอนที่ 271 พิสูจน์หัวใจตนเอง

ซูหวานหว่านรีบยกมือขึ้นมาขวางเอาไว้อย่างทันท่วงที ทำให้คมมีดบาดมือนางเป็นแผลยาว เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาจากบาดแผลหยดลงบนพื้น

“เจ้า…” ซูหวานหว่านใช้มืออีกข้างมืออีกข้างจู่โจมดาบเล่มนั้น หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นก็พบว่าคนที่ถือดาบคือฉีเฉิงเฟิง!

“ฉีเฉิงเฟิง เจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?” ซูหวานหว่านจ้องมองอีกฝ่าย หัวใจของนางพลันชาวาบขึ้นมา ร่างทั้งร่างรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา “ฉีเฉิงเฟิง เหตุใดเจ้าถึงไม่พูดสิ่งใดเลย? เจ้าพาข้าออกมาเพราะต้องการฆ่าข้าอย่างงั้นเหรอ?”

“หากเป็นเช่นนั้นแล้วจะทำไม? หากไม่ใช่แล้วยังไง? เหตุใดเจ้าถึงอยากรู้ความจริงมากมายขนาดนี้?” ฉีเฉิงเฟิงเอ่ย รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าเปลี่ยนเป็นถมึงทึงน่ากลัวขึ้นมา ชูดาบเปื้อนเลือดในมือของเขาขึ้นมาจ่อไปที่ซูหวานหว่านอีกครั้ง หญิงสาวสาวผงะถอยหลังหนึ่งก้าว ชายหนุ่มก็ขยับตามไปหนึ่งก้าว “ซูหวานหว่าน ตอนนี้ที่พบเจอเจ้าเป็นครั้งแรก ข้ามีความรู้สึกอยากจะฆ่าเจ้า! มาถึงตอนนี้ ในที่สุดความปรารถนาของข้าก็จะเป็นจริง!”

“ฉีเฉิงเฟิง!” ซูหวานหว่านยื่นตัวตรงมองดวงตาที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดของฉีเฉิงเฟิง ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา ราวกับกำลังเยาะเย้ยตนเอง ราวกับกำลังสินหวัง ฉีเฉิงเฟิงในเมื่อข้ากำลังจะตาย เช่นนั้นแล้วช่วยบอกความจริงกับข้าได้หรือไม่ ที่เจ้าเคยบอกว่ารักข้า มันจริงหรือไม่?”

“มันไม่ใช่เรื่องจริง” ฉีเฉิงเฟิงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“แล้วเจ้ากับสือฉินเอ๋อร์รักกันจริง ๆ นอนร่วมห้องกัน คือเรื่องจริงหรือไม่?” ซูหวานหว่านถามมาด้วยน้ำตาเอ่อคลอ

“มันคือความจริง” ฉีเฉิงเฟิงเอ่ย และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ดวงตาของเขาพลันอบอุ่นขึ้นมา “สือฉินเอ๋อร์เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ข้าเจอมาในชีวิตนี้ นางจิตใจดีงาม มีความสามารถ โดดเด่น เมื่อปีก่อนนางปักถุงเงินลายดอกบัวให้ข้า ข้าชอบมันมาก”

“ว่าอย่างไรนะ?” ซูหวานหว่านกระตุกยิ้ม ทันใดนั้นก็มีเข็มเงินเล่มยาวปรากฏขึ้นในมือและพุ่งไปทางฉีเฉิงเฟิง!

และแทงเข้าไปบริเวณหน้าอกของฉีเฉิงเฟิงทันใด เพียงช่วงอึดใจสภาพแวดล้อมรอบกายพลันเปลี่ยนไป! กลายเป็นฉากเดียวกับตอนที่ซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงออกมาก่อนหน้านี้! สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือ คนที่ซูหวานหว่านกำลังแทงคือสือฉินเอ๋อร์!

“เฮอะ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถทำลายภาพลวงตาของข้าได้!” สือฉินเอ๋อร์หัวเราะพลางยกมือขึ้นกุมหน้าอกตนเอง แต่ไม่กล้าดึงเข็มเล่มเงินนั้นออกมา “ซูหวานหว่าน ข้าตีค่าความรักของเจ้าที่มีต่อองค์ชายสามสูงเกินไป!”

“เจ้าเดาเกือบถูกแล้ว” ซูหวานหว่านยิ้มบาง หากแต่เดินเข้าไปหาสือฉินเอ๋อร์ช้า ๆ “เจ้ายังประเมินความรู้จักที่มีต่อเขาสูงเกินไป ปกติแล้วคำพูดของเขาไม่มากเช่นนี้ ไม่เอ่ยเยินยอหญิงสาวแบบนี้ และเขาชอบถุงเงินสีเรียบ ๆ หากจะให้ปักลวดลายใด ๆ ลงไป สิ่งแรกที่เขาจะเลือกก็คือใบไผ่

ซูหวานหว่านรู้ไม่สึกไม่เชื่อตั้งแต่ก่อนสือฉินเอ๋อร์เอ่ยชื่นชมตนเอง ที่ถามออกไปก็เพื่อต้องการข้อมูลเพียงเท่านั้น และในตอนที่นางกำลังเยินยอตนเอง หญิงสาวก็สามารถเดาออกได้ว่าคนคนนั้นไม่ใช่ฉีเฉิงเฟิง ดังนั้นตอนที่นางแทงเข็มลงไปจึงรู้สึกดีมาก

หน้าอกของนางรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา สือฉินเอ๋อร์กุมหน้าอกของตัวเองเอาไว้แน่น เมื่อเห็นซูหวานหว่านก้าวเท้าเข้ามาให้ ก็ผงะถอยหลังไปหลายก้าว หากแต่ก็ถูกอีกฝ่ายยื่นมือออกมาคว้าค้างของนางเอาไว้

น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกของนางทำให้อุณหภูมิรอบกายลดลงอย่างรวดเร็ว “เจ้าต้องการฆ่าข้ามากเช่นนี้! วันนั้นข้าปล่อยเจ้าไปแล้ว วันนี้ข้าจะไม่ให้เจ้าได้มีชีวิตอยู่ต่อไป!”

“เจ้าไม่อยากให้ข้าให้มีชีวิตอยู่ต่อไปงั้นเหรอ? หากข้าตายไป ฉีเฉิงเฟิงจะตายไปในภาพลวงตาด้วย!” สือฉินเอ๋อร์เอ่ยก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง จ้องมองไปยังซูหวานหว่าน

เมื่อซูหวานหว่านหันไปมองก็เห็นฉีเฉิงเฟิงยืนอยู่ตรงนั้น ภายในมือถือเข็มเล่มสีเงินเอาไว้ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงหวานของหญิงสาวดังขึ้นในอากาศ ซูหวานหว่านตื่นตกใจ เพราะเสียงที่ดังขึ้นในอากาศคือเสียงของนาง!

“ฉีเฉิงเฟิง ที่เจ้าบอกว่ารักข้ามันไม่จริง! เจ้าเป็นองค์ชาย นิสัยเจ้าชู้ ตำหนักของเจ้าเต็มไปด้วยสนมมากหน้าหลายตา หากเจ้าไม่สามารถมีข้าคนเดียวได้ก็อย่ามายุ่งกับข้า” ซูหวานหวานเอ่ย

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ซูหวานหว่านที่อยู่นอกห้วงแห่งภาพลวงตาก็ตกใจ แม้จะมองไม่เห็นตัวตนที่โปร่งใสและจอมปลอมของตนเอง แต่นางก็สามารถรับรู้ได้ว่าภาพลวงตาโปร่งใสนั้นคือนางอีกคน! คนคนนั้นรู้ว่านางต้องการอะไร รู้ว่าหัวใจของนางต้องการพูดอะไร!

“สาวน้อย เหตุใดเจ้ายังไม่เชื่อข้าอีก?” ฉีเฉิงเฟิงยิ้มออกมาบาง ๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มอันขมขื่น

“หุบปาก! เจ้าไม่เคยรักข้าเลย! ถ้าอย่างงั้น…ถ้าอย่างงั้นก็ใช้ดาบกรีดหน้าอกควักหัวใจออกมาให้ข้าดูเสีย!”

ประโยคนี้…ทั้งน่าขยะแขยงและโหดเหี้ยม! นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางคิดแล้ว! หัวใจของซูหวานหว่านพลันรู้สึกเย็นชา และอดสั่นสะท้านไม่ได้ หัวใจของนางยังคาดหวังประโยคถัดไปของฉีเฉิงเฟิง แต่นางก็กลัว… กลัวว่าเขาจะทำร้ายตนเอง เมื่อคิดหน้าคิดหลังแล้ว ซูหวานหว่านจึงตัดสินใจก้าวเท้าเดินออกไป แต่คำพูดของสือฉินเอ๋อร์ก็ทำให้นางตกใจตนชะงักฝีเท้า “ซูหวานหว่าน ถ้าหากเจ้าทำร้ายภาพลวงตานั้น เขาจะตายในทันที!”

ไม่รู้ว่าที่นางเอ่ยมาจริงเท็จแค่ไหน… ซูหวานหว่านหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับสือฉินเอ๋อร์ “ข้าจะบอกอะไรให้นะ เก็บภาพลวงของเจ้าไปเสีย! ไม่อย่างนั้นอย่ามาหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”

“หึ ลูกธนูขึ้นสายเต็มเหนี่ยว ข้าไม่สามารถเหนี่ยวรั้งได้อีกต่อไป ไม่อย่างนั้นฉีเฉิงเฟิงจะตาย” สือฉินเอ๋อร์พูดพลางมองซูหวานหว่านก่อนจะหัวเราะออกมา “แต่ว่ามีอีกวิธีนึงที่สามารถช่วยฉีเฉิงเฟิงได้ เช่นนั้นก็ต้องดูแล้วว่าเจ้าจะสามารถทำได้หรือไม่!”

“วิธีใด?” ซูหวานหว่านเอ่ยถาม แววตาของนางเต็มไปด้วยความร้อนรน “รีบพูดมาสิ!”

“ได้” สือฉินเอ๋อร์พยักหน้า นางไม่มีข้อต่อรองใด ๆ และชี้ไปยังต้นไม้ต้นหนึ่งที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ “เจ้าไปยืนอยู่ตรงนั้น หลังจากนั้นฟังเสียงก้าวที่สองของข้า”

“ได้” ซูหวานหว่านรีบเดินออกไปทันโดยไม่คิดสิ่งใดให้มากความ แต่ก็ยังได้ยินสือฉินเอ๋อร์เอ่ยว่า “ห้ามหันหลังกลับมา!”

ห้ามหันกลับไป? นี่มันอะไรกัน? ซูหวานหว่านก้าวเดินไปไม่กี่ก้าวก็รีบหันกลับไปทันที แต่ก็เห็นอีกฝ่ายกำลังจะหนีไป!

ตอนนี้ซูหวานหว่านถึงจะเข้าใจที่แท้สือฉินเอ๋อร์กำลังหลอกนาง! ไม่แน่ว่าสิ่งที่บอกว่าไม่สามารถขัดขวางฉีเฉิงเฟิงก็เป็นเรื่องโกหกเช่นกัน!

ซูหวานหว่านกำลังจะเข้าตามไปจับนางเอาไว้ แต่ก็กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉีเฉิงเฟิง ทำให้นางชะงักงัน ได้แค่ยืนสังเกตการณ์อยู่ข้าง ๆ

“เจ้าว่าอย่างไรนะ เจ้าบอกว่าคนที่เจ้ารักคือซุยรุน” ฉีเฉิงเฟิงเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ ซูหวานหว่านตกใจ ด้วยในภาพลวงตานั้นกำลังใส่ร้ายนาง บอกว่านางชอบซุนรุย

ซูหวานหว่านรู้สึกร้อนรนขึ้นมา หากเขาเชื่อจะเป็นอย่างไร!

ในตอนที่กำลังตกตะลึงอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้าพูดถูกแล้ว! ข้าชอบเขา เขามอบตัวข้าให้กับเขานานแล้ว! เจ้าดูเสีย โส่วกงซา [1] บนแขนข้ามันหายไปนานแล้ว! คราวนี้เชื่อหรือยัง? ต่อไปเจ้าอย่ามายุ่งกันข้าอีก! ข้าไม่เคยรักเจ้าเลย!”

“ไม่! เจ้ากำลังหลอกข้าใช่หรือไม่!” ฉีเฉิงเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“ข้าไม่ได้หลอกเจ้า” เสียงของซูหวานหว่านดังขึ้นอีกครั้ง

ฉีเฉิงเฟิงหยิบดาบขึ้นทาจ่อหัวใจตนเอง และเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง “ข้าจะฟังคำของเจ้า จะเอาออกมาให้เจ้าดู!”

“เจ้ารีบแทงเข้าสิ! ทำให้ข้าเห็นว่าหัวใจของเจ้านั้นแท้จริงเป็นสีแดงหรือเปล่า! …และจริง ๆ แล้วกำลังโกหกข้าหรือเปล่า!”

“ซูหวานหว่าน” ฉีเฉิงเฟิงจ่อดาบไปที่หน้าอกของตนเอง!

หญิงสาวรู้สึกตื่นตะหนกขึ้นมา ฉีเฉิงเฟิงจะแทงเข้าไปที่หน้าของตนเองจริง ๆ

[1] โส่งกงซา หรือ ผงตุ๊กแก แต้มไว้ที่แขนหรืออวัยวะส่วนอื่นของหญิงสาวเพื่อบ่งบอกว่ายังบริสุทธิ์ หากไปมีเพศสัมพันธ์ ผงตุ๊กแกสีแดงจะเลือนหายไป