ตอนที่ 309: ถ้ำอมตะ
หลังจากจัดการกับชายทั้งสอง เจี้ยนเฉินจึงเก็บเข็มขัดมิติของเซียนปฐพีทั้งสอง เจี้ยนเฉินพลิกร่างของพวกเขาไปมา เขาไม่เห็นสิ่งมีค่าอื่นบนร่างกาย ในขณะที่ทั้งสองเป็นเซียนปฐพี นอกเหนือจากเสื้อคลุมและเข็มขัดมิติ พวกเขาก็ไม่มีสิ่งของมีค่าอย่างอื่น
แหวนมิติเป็นสมบัติล้ำค่าในทวีปเทียนหยวนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถานะและอำนาจ เซียนปฐพีมีคุณสมบัติที่จะมีแหวนมิติ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มี
เจี้ยนเฉินมองหยุนเจิ้งที่เปื้อนเลือดและพูดกับเขาว่า “กลับไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ถ้ำเถอะ การเดินออกจากที่นี่พร้อมกับการบาดเจ็บไม่ใช่เรื่องปลอดภัย” ทั้งสองออกจากพื้นที่นั้น
หยุนเจิ้งเฝ้าดูเจี้ยนเฉินหายไปอย่างช้า ๆ ด้วยความตกใจ ก่อนที่เขาจะกระพริบตา เจี้ยนเฉินได้สังหารเซียนปฐพีไป 2 คน สิ่งเช่นนี้จะฝังลึกอยู่ในใจของเขาจนวันตาย
“อ๊ะ เขาจะใช่อัจฉริยะที่ทุกคนกล่าวขานหรือไม่ ? ” หยุนเจิ้งถอนหายใจก่อนที่จะวิ่งตามเจี้ยนเฉินไป
ทั้งสองกลับไปยังถ้ำ ร่างที่เปื้อนเลือดของหยุนเจิ้งดึงดูดความสนใจของทุกคน สหายของหยุนเจิ้ง ศิษย์พี่อันยืนขึ้นด้วยสีหน้าโกรธแค้น “หยุนเจิ้ง ใครทำร้ายเจ้า ? บอกข้ามา ข้าจะไปจัดการพวกมันเอง ! “
เมื่อเห็นว่าศิษย์พี่อันเป็นห่วงมาก หยุนเจิ้งจึงฉีกยิ้ม ” ข้าแค่โชคร้าย ตอนที่ข้าออกไปล่าสัตว์ ข้าไปเจอเซียนปฐพี 2 คน แต่โชคดีที่น้องเจี้ยนเฉินเข้ามาช่วยและฆ่าพวกเขาทั้งสองคน”
เมื่อได้ยินเรื่องราวจากหยุนเจิ้ง ฉินเซียวซึ่งอยู่ใกล้ ๆ จ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าประหลาดใจก่อนที่จะสงสัยในคำเล่า “เจี้ยนเฉิน สิ่งที่เขาพูดจริงหรือไม่ ? เจ้าจัดการเซียนปฐพี 2 คนได้ด้วยตัวเองรึ ? ” ฉินเซียวพูดด้วยน้ำเสียงที่คาดหวัง
ฉิวเจว๋ที่นั่งใกล้ ๆ หูกระดิกเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้เปิดตา
เจี้ยนเฉินพยักหน้าแต่ไม่ตอบสนอง
ฉินเซียวมองด้วยความประหลาดใจเมื่อเขาพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “เจี้ยนเฉิน เจ้าก้าวหน้าอย่างน่าทึ่งในระยะเวลาอันสั้นได้อย่างไร ? ตอนแรกที่เราต่อสู้กันครั้งแรก ข้ารู้ว่าเจ้าน่าทึ่ง แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถฆ่าเซียนปฐพีถึง 2 คนได้อย่างง่ายดาย ! “
“นั่นเป็นเพราะในช่วงเวลาที่ข้าออกจากตระกูลเทียนฉิน ข้าพยายามจนได้เป็นเซียนปฐพี” เจี้ยนเฉินตอบ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของฉินเจว๋ก็เบิกกว้างในขณะที่เขามองเจี้ยนเฉินด้วยความตกใจ ตอนนี้เขาตัวแข็งทื่อเหมือนรูปปั้น
“มันเป็นเช่นนี้เอง..” ฉินเซียวพูดด้วยความเข้าใจ
………
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในที่สุดเวลาของการแข่งขันก็เหลือเพียงครึ่งเดือน ในเวลานั้นเจี้ยนเฉินแทบจะไม่ได้ออกไปผจญภัยและใช้เวลาส่วนใหญ่ในถ้ำและปกป้องฉินเซียวอย่างเงียบ ๆ หญิงสาวชุดเหลืองใช้ธนูสุริยันจันทราเพื่อสร้างถ้ำใหม่ให้ตัวเองฝึกฝนอย่างเป็นส่วนตัว ศิษย์พี่อันและหยุนเจิ้งออกไปข้างนอกทุกวันและกลับมาที่ถ้ำพร้อมกับร่างกายที่ฟกช้ำเป็นส่วนใหญ่ สองสามครั้งที่พวกเขาถูกเซียนปฐพีที่แข็งแกร่งกว่าตามไล่ล่าซึ่งเจี้ยนเฉินจะจัดการกับพวกเขาทันที
พลังที่เจี้ยนเฉินแสดงอยู่เสมอเตือนศิษย์พี่อันและหยุนเจิ้งให้ทราบถึงความแข็งแกร่งของเขา คนที่อยู่ในวัฏจักรเดียวกันกับเจี้ยนเฉินจะมีพลังต่ำกว่ามาก เซียนปฐพีวัฏจักรที่ 2 และ 3 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจี้ยนเฉิน หลังจากนั้นไม่นาน เจี้ยนเฉินก็กลายเป็นเสาหลักของหยุนเจิ้งและศิษย์พี่อันโดยไม่รู้ตัว
หลังจากผ่านไปหลายวัน ฉินเซียวก็หายเป็นปกติ ฉินเซียวทำให้เจี้ยนเฉินขุ่นเคืองเราะเขารีบฝึกฝนทันทีที่เขาหายดีด้วยความช่วยเหลือของแกนอสูรเพื่อที่จะเป็นเซียนปฐพีโดยเร็วที่สุด
สำหรับฉินเจว๋ที่รักษาหายดีไปก่อนหน้านี้ เหมือนกับว่าคำพูดแต่ละคำคือทองคำ นับตั้งแต่ที่เขาเจอกับเจี้ยนเฉินมาจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยพูดมากกว่า 10 คำ มันทำให้เขาดูเงียบกว่าคาตาเฟยในเมืองเวค
ในถ้ำที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงของฟืนที่เผาไหม้เท่านั้นที่ส่งเสียงดังในขณะที่มีแสงกระพริบตลอดเวลา
เจี้ยนเฉินนั่งอยู่ในท่าสมาธิที่มุมหนึ่งของถ้ำพร้อมกับแกนอสูรระดับ 5 ในมือพร้อมที่จะดูดซับ ตอนนี้อาณาจักรเกอซุนใกล้ถึงอันตรายรวมทั้งตระกูลเจียงหยาง เขาจึงต้องรีบเร่งและเพิ่มความแข็งแกร่ง ไม่มีเวลาที่จะทะเลาะกันให้มันเสียประโยชน์
ภายในถ้ำมืด ทุกคนกำลังบ่มเพาะทำให้พลังงานที่รั่วไหลจากแกนอสูรมารวมตัวกันภายในถ้ำ ราวกับว่าถ้ำเต็มไปด้วยพลังงานนี้และเป็นสวรรค์สำหรับผู้บ่มเพาะ
ในเวลานี้ทุกคนได้ยินเสียงฝีเท้าที่รวดเร็ว หูของเจี้ยนเฉินกระดิกเล็กน้อย แต่เขาไม่เคลื่อนไหวหรือลุกจากตำแหน่ง
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามามากขึ้นเมื่อศิษย์พี่อันและหยุนเจิ้งเข้ามา
“เจี้ยนเฉิน ข้ามีข่าวดี ! ข้าได้ยินจากคนภายนอกว่ามีถ้ำทางใต้ของป่าเคยมีผู้อาวุโสอาศัยอยู่ มันมีขุมทรัพย์อยู่ข้างใน และข้ายินดีที่จะเดิมพันว่าอย่างน้อยมันต้องทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ! ” ศิษย์พี่อันรีบร้อนเอ่ยออกมา
ช่วงเวลาที่เจี้ยนเฉินได้ยินคำว่า ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ เขาก็ลืมตาขึ้นมาทันที แม้ว่าทุกคนกำลังบ่มเพาะอยู่ภายในถ้ำ แต่ในสภาพเช่นนี้ พวกเขายังคงระแวดระวังกับโลกภายนอก พวกเขาสัมผัสได้ถึงลมกระโชกอันละเอียดอ่อนและกะทันหัน
ฉินเซียวเบิกตากว้างขณะที่เขาพูดว่า ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์รึ ? เจ้าแน่ใจหรือไม่ ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าศัตรูบางคนพยายามที่จะประกาศข่าวเท็จและต่อมาได้วางกับดักขนาดใหญ่สำหรับทุกคนไว้ที่นั่น ? “
ศิษย์พี่อันส่ายหน้า “เรื่องนั้นข้าก็ไม่รู้ แต่หลายคนกำลังมุ่งหน้าไปที่นั่น ข้าได้ยินมาว่าห้าจอมยุทธก็จะไปที่นั่นด้วย”
“ห้าจอมยุทธรึ? ห้าจอมยุทธคือใคร ? ” ฉินเซียวถาม.
“ห้าจอมยุทธเป็นบุรุษที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด ในเวลาอันสั้น แทบทุกคนและทุกคนรู้จักชื่อของพวกเขา” หยุนเจิ้งพูดกับเจี้ยนเฉิน ในขณะที่เขารู้ว่าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งกว่าจอมยุทธทั้งห้าคนหรือไม่
หัวใจของเจี้ยนเฉินเต้นระทึก “ใครคือจอมยุทธทั้งห้า และพวกเขาชื่ออะไร ? “
” พวกเขาคือฉินจี๋, ตู่กูเฟิง, เทียนมู่หลิง,ชิเซียงกราน และเจียเต๋อหวูคัง”
**หมายเหตุ; ฉินจี๋ไม่ได้มาจากตระกูลเทียนฉิน
เจี้ยนเฉินหรี่ตาในขณะที่เขาพึมพำถึงชื่อหนึ่งว่า “ข้าไม่รู้เลยว่าเขาอยากได้สมบัติเหล่านี้ อีกทั้งเขายังเป็นหนึ่งในห้าจอมยุทธ”
“เจี้ยนเฉิน เราจะไปหรืออยู่ต่อ ? ” ฉินเซียวพูดเป็นแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเจี้ยนเฉินเป็นผู้นำ
เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะพูดว่า “เราจะไป” เขายืนขึ้นพูดอีกครั้งว่า เราไม่ควรเสียเวลา เราต้องไปตอนนี้ เหลือเวลาอีกเพียง 15 วันในการแข่งขัน”
จากนั้นเจี้ยนเฉินจึงนำศิษย์พี่อัน, หยุนเจิ้ง, ฉินเจว๋และฉินเซียวออกจากถ้ำ ในขณะที่หญิงสาวก็บินออกจากถ้ำของนางโดยบังเอิญเช่นกัน
“ข้าได้ยินมาว่ามีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ในถ้ำทางใต้ เรากำลังจะไปสำรวจ เจ้าจะไปกับเราหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามหญิงสาว
ดวงตาของหญิงสาวก็ชำเลืองมองเจี้ยนเฉินครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไรอีก
“คราวนี้เราอาจเจอสหายเก่า เจ้าควรเตรียมตัวให้พร้อม” เจี้ยนเฉินกล่าว
ทั้งหกออกจากถ้ำและมุ่งหน้าไปทางทิศใต้
ระหว่างทางเจี้ยนเฉินสังเกตเห็นผู้คนมากมายมุ่งหน้าไปทางใต้เช่นกัน เพราะข้อมูลเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของผู้อาวุโสที่ถูกทิ้งไว้ในถ้ำ ทุกคนต่างก็เร่งรีบไปที่นั่น
คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่มีกระเป๋าใบเล็ก ๆ บนหลัง เข็มขัดมิติของพวกเขาถูกยึดกันไปนานแล้ว พวกเขาจึงมีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุดพร้อมอาหาร สำหรับคนเหล่านี้พวกเขาไม่มีป้าย เซียนปฐพีก็จะไม่รบกวนพวกเขาอีกต่อไปเว้นแต่จะมีความบาดหมางใจบางอย่างระหว่างกัน เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษเหล่านี้จึงสามารถเดินทางบนท้องถนนได้โดยไม่ต้องกลัวอะไร
บางครั้งจะมีการต่อสู้หลายครั้งที่เกิดขึ้นในหมู่ศัตรู แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ขัดขวางกลุ่มของเจี้ยนเฉิน หลายคนที่เห็นกลุ่มของเจี้ยนเฉินค่อนข้างฉลาด เมื่อพวกเขาเห็นเสื้อผ้าที่มีสีสันและเข็มขัดมิติของแต่ละคน พวกเขาจึงสามารถเดาได้ว่าผู้คนที่อยู่กับเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งมาก
พวกเขาเดินทางเป็นเวลา 5 วัน เจี้ยนเฉินและกลุ่มได้มาถึงป่าทึบ ในสถานที่นี้มีคู่แข่งหลายกลุ่มที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดเพื่อดูว่าข้อมูลนั้นถูกต้องหรือไม่
“ข้าได้ยินมาว่ามีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมากหลายตัวคอยปกป้องถ้ำ แม้แต่จอมยุทธทั้ง 5 คนและเซียนปฐพีประมาณ 30 คนก็ยังต่อสู้กันหลายครั้งโดยยังไม่มีใครประสบความสำเร็จในการเข้าไปในถ้ำ’
“ถูกต้อง ข้าได้ยินมาว่ามีการสู้รบหลายครั้งและเซียนปฐพีบางคนได้เสียชีวิตไปแล้ว มีจอมยุทธเพียง 3 ใน 5 คนเท่านั้นที่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บ
” สัตว์อสูรที่คอยปกป้องถ้ำนั้นแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง ! ถ้ามันเป็นเช่นนี้,ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครสามารถเข้าไปในถ้ำได้ก่อนที่เวลาจะหมด!”
“ไม่มีใครรับประกันอะไรได้ ตอนนี้ความลับของสถานที่นี้รั่วไหลออกไปแล้ว เจ้าไม่เห็นผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาที่นี่รึ ? รอให้จอมยุทธทั้งห้ารวมตัวกันแล้วพวกเขาก็จะสามารถเข้าไปได้”