หลินจือโอนเงินสองหมื่นให้กับชาร์ลีขณะที่อยู่ต่อหน้าของเพื่อนผู้ป่วยของเขา
เห็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาทันทีหลังจากที่ได้รับเงินแล้ว หลินจือเอ่ยพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้น : “พ่อ ตอนนี้ทั้งตัวฉันเหลือเพียงแค่เงินที่จะกินข้าวเท่านั้น ฉันพยายามแล้วจริงๆ”
หลังจากที่หลินจือเอ่ยพูดออกมาแล้วก็แสร้งทำเป็นเช็ดน้ำตาตรงหางตา เดิมทีเธอก็ดูอ่อนโยนอยู่แล้ว ท่าทางในเวลานี้นั้นดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก
ชาร์ลีที่อยากจะเอ่ยพูดอะไรออกมา ญาติของเพื่อนผู้ป่วยที่อยู่ข้างๆก็เอ่ยขึ้น : “สองหมื่นก็มากแล้วนะ”
อีกคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้น : “ตาลี ไม่ใช่บอกว่ามีลูกชายอีกคนหนึ่งหรอกหรือ? ทำไมเขาไม่มาล่ะ?”
“ใช่ๆ ไม่ใช่ว่าเลี้ยงลูกเอาไว้ดูแลตอนแก่เฒ่าหรอกหรือ จะให้ลูกสาวมาออกเงินทุกอย่างแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ”
ชาร์ลีอ้าปากค้าง กลืนคำพูดที่ตัวเองกำลังจะพูดลงไป
เขาอยากจะบอกว่า ให้หลินจือออกไปซื้อของกินมาให้เขา และทางที่ดีที่สุดให้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆมาให้เขามาซักสองสามชุดด้วย
เธอหายไปปีกว่า เงินสองหมื่นก็คิดจะไปอย่างนั้นหรือ?
เขาจำเป็นที่จะต้องควบคุมเธอเสียหน่อย
แต่ในเมื่อคนอื่นออกปากมาแล้ว วันนี้เขาจะปล่อยเธอไปก่อนเป็นการชั่วคราว เพราะถึงอย่างไรเธอปรากฏตัวออกมาแล้ว ต่อไปยังมีโอกาสที่จะไปเอาเงินเอาของจากเธอได้อีก
ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนคำพูดไป : “เอาล่ะๆ ฉันรู้ว่าแกยุ่ง แกกลับไปก่อนเถอะ ฉันอยู่นี่ไม่ต้องมีใครอยู่ด้วยหรอก”
หลินจือพยักหน้าลงอย่างขอบคุณ : “พ่อดูแลตัวเองดีๆนะ มีอะไรก็โทรหาฉัน”
หลินจือทำท่าทางเป็นลูกที่ว่าง่าย หลังจากที่หันหลังกลับออกไปแล้วก็บล็อกเบอร์โทรของชาร์ลีไปทันที
ชาร์ลีจะต้องคิดว่าในเมื่อเธอปรากฏตัวออกมาแล้ว ต่อไปก็จะสามารถฆ่าแกงโดยพวกเขายังไงก็ได้ ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ปรากฏตัวมาเจอพวกเขา ต่อไปเจอกัน เธอก็จะเห็นพวกเขาเป็นคนแปลกหน้า
หลินจือบอกถึงชีวิตของตัวเองกับไวท์ก่อนหน้านี้ หลังจากที่เธอออกไปแล้วไวท์ก็แจ้งเรื่องนี้กับเทาเท่เป็นเรื่องแรก
เทาเท่รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน : “ชาร์ลีกับภรรยาเขาไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆของเธออย่างนั้นเหรอ?”
“อืม” ไวท์เอ่ยขึ้น “เรื่องนี้เธอจะต้องไม่ได้โกหกแน่ๆ รู้สึกได้ว่าเธอเองก็ดูจนตรอกแล้วจริงๆเหมือนกัน ถึงได้วางแผนที่จะใช้เรื่องนี้มาตัดขาดฉีกหน้าความสัมพันธ์กับสองพ่อลูกชาร์ลี”
เทาเท่เม้มปากไม่ได้เอ่ยพูดออกมา
ความจริงแล้ว จากความประพฤติและคุณธรรมอย่างพ่อลูกชาร์ลี ในเมื่อหาตัวเธอเจอแล้ว จะต้องไม่ยอมปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน
และจากความสามารถทางการเงินของเธอในตอนนี้ จะให้กับสองพ่อลูกชาร์ลีที่โลภมากไม่รู้จักพอได้อย่างไรกัน?
เดิมทีแล้ว เขายังคิดที่อยากจะหาเวลาคุยเรื่องเกี่ยวกับสองพ่อลูกชาร์ลีกับเธอ อยากจะถามว่าเธอต้องการความช่วยเหลือของเขาหรือเปล่า ช่วยเธอทำให้สองพ่อลูกนั่นไปให้ไกลจากเธอ
เขามีเป็นร้อยวิธีที่จะทำให้พวกเขาไม่มาก่อกวนเธออีก แต่ตอนนี้ดูแล้ว เธอเหมือนจะไม่ต้องการความช่วยเหลือของเขาแล้ว
พูดขอบคุณไวท์แล้ว เทาเท่ก็เตรียมจะวางสาย
แล้วไวท์ทางปลายสายนั้นก็เอ่ยพูดขึ้นอีก : “แล้วอีกอย่างเธอบอกว่าจะเลี้ยงข้าวฉันเป็นการแสดงความขอบคุณด้วย”
เทาเท่ : “……..”
ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่เธอกลับมา เขาเองก็ช่วยเหลือเธออยู่หลายครั้ง ทำไมเขาถึงไม่ได้การตอบแทนอย่างไวท์แบบนี้บ้าง?
ไวท์อุทานออกมา : “จะว่าไปแล้วก็คิดถึงฝีมือทำอาหารของเธอจริงๆนะ แต่ดูเหมือนว่าบอกเธอว่าอยากจะกินอาหารที่เธอทำเอง ก็จะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก”
เทาเท่หัวเราะเยาะออกมา : “ในเมื่อรู้ว่าไม่เหมาะสม ก็อย่าพูดถึงสิ”
เทาเท่พูดจบแล้วก็วางสายไปอย่างอารมณ์ไม่ดี ไวท์ทางปลายสายก็หัวเราะขึ้นมาอย่างไม่มีเสียง
หลินจือออกมาจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน ชาร์ลีก็บอกให้เรียวจิมาทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้เขา
ครั้งที่แล้วเรียวจิถูกพาตัวไปที่สถานีตำรวจ ตำรวจตำหนิสั่งสอนเขาแล้วก็ปล่อยตัวเขาไป
เรียวจิเอ่ยถามชาร์ลีขึ้นมาอย่างแทบรอไม่ไหว : “เธอให้มาเท่าไหร่?”
ชาร์ลีเข้าไปใกล้ตรงที่นั่งข้างคนขับอย่างพอใจ : “สองหมื่น”
เรียวจิรู้สึกว่ามันน้อยเกินไป : “ทำไมถึงแค่สองหมื่น? สองแสนก็ว่าไปอย่าง”
เรียวจิเคยชินกับการได้เงินมากมายจากเทาเท่เมื่อก่อน จึงดูถูกับเงินสองหมื่นนี้ของหลินจือ
ชาร์ลีเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ : “รีบร้อนอะไรล่ะ? อนาคตยังอีกยาวไกลไม่ใช่รึไง?”
ชาร์ลีเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้ง : “ฉันเห็นมันให้มาอย่างสบายๆเลย ในมือจะต้องมีเงินอีกไม่น้อยแน่ๆ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่ามันหย่ากับเทาเท่แล้วจะไม่ได้เอาเงินมาเลย”
“ได้ผูกสัมพันธ์กับคนที่มีฐานะดีอย่างเทาเท่แบบนั้น ออกมาตัวเปล่า? คนโง่เท่านั้นแหล่ะถึงทำแบบนั้น!”
“ฉันเห็นท่าทางดูอ่อนแอแบบนั้นของมัน รังแกได้ง่ายมาก”เมื่อชาร์ลีนึกถึงว่าในอนาคตจะมีหลินจือคนโง่ๆที่ตามคนอื่นไม่ทันคนนี้ก็สามารถควบคุมได้แล้ว จึงรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก “ดูแล้วตอนนั้นเอามันไว้อยู่ในครอบครัวพวกเราก็เป็นการเลือกที่ถูกแล้วจริงๆ ใครจะคิดกันว่ามันจะมากลายเป็นตัวทำเงินของพวกเรา”
เรียวจิเองก็หัวเราะเสียงดังตามไปด้วยเช่นกัน
ใช่แล้ว พ่อของเขาติดเงินเป็นชีวิตจิตใจ ตอนแรกจะเป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมที่จะรับเลี้ยงหลินจือที่เพิ่งเกิดมาเอาไว้ เนื่องจากว่าเพิ่มมาอีกหนึ่งคนต่อไปในครอบครัวก็จะต้องมีข้าวให้เธอกินเพิ่มขึ้นด้วย
แต่มารดาที่ดูไม่มีอารมณ์โกรธอะไรนั้น ยืนยันว่าจะรับหลินจือเอาไว้
ตอนนี้ดูแล้ว รับเอาไว้ถูกต้องแล้วจริงๆ
เงินสองหมื่นสำหรับสองพ่อลูกชาร์ลีแล้ว ไม่นานก็ใช้เงินกันตามอำเภอใจจนหมด แต่พวกเขาจะต้องเปลี่ยนเบอร์โทรหาเธออย่างแน่นอน
และเป็นอย่างที่คิดจริงๆ วันนั้นเธอได้รับสายจากเบอร์แปลก
เธอรับสายอย่างนิ่งๆ แล้วก็ได้ยินเสียงตะคอกของเรียวจิจากทางปลายสายนั้น : “หลินจือ แกอยู่ที่ไหน? ทำไมไม่อยู่บ้าน?”
หลินจือเอ่ยถามกลับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ : “ฉันอยู่บ้านเพื่อน หาฉันมีเรื่องอะไรเหรอ?”
เรียวจิเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก : “เงินที่แกให้มาก่อนหน้านี้ เอาไปรักษาพ่อหมดแล้ว–”
“ฮัลโหล? ฮัลโหล?” เรียวจิยังไม่ได้พูดจบนั้น ก็ได้ยินเสียงฮัลโหลแบบนี้จากหลินจือที่อยู่ทางปลายสาย จากนั้นเธอก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความกลัดกลุ้มอยู่บ้าง : “พี่ พี่พูดอะไรนะ? พูดอีกทีสิ เมื่อกี้สัญญาณไม่ดีเลย ฟังไม่ชัด”
เรียวจิโมโหสุดๆ แต่ก็ทำได้เพียงอดทนแล้วพูดอีกครั้งที่จะขอเงินเมื่อครู่นี้
หลินจือตอบกลับไปอีกครั้ง : “ขอโทษทีนะพี่ สัญญาณทางฉันไม่ดีเลย เดี๋ยวไว้ค่อยว่ากันนะ”
หลังจากที่เธอพูดจบแล้วก็วางสายไปอย่างรวดเร็ว ตอนที่เรียวจิโทรไปอีกครั้งนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ปิดเครื่องไปแล้ว
เรียวจิกัดฟันด้วยความโมโห นับว่าเขาเข้าใจแล้ว อะไรที่ว่าสัญญาณไม่ดีเธอได้ยินไม่ชัด หลินจือตั้งใจนั่นเอง
เธอตั้งใจจะเล่นเขา แล้วก็ตั้งใจจะใช้วิธีนี้เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะให้เงินเขานั่นเอง
ชาร์ลีคิดว่าจะเอาเงินกับหลินจือจะง่ายมากเสียอีก ดังนั้นจึงรู้สึกงุนงงกับความลนลานนี้ของเรียวจิ : “เป็นอะไรไป?”
เรียวจิเล่าเรื่องราวให้ชาร์ลีฟัง ชาร์ลีเองก็กระโดดขึ้นด้วยความโมโหเช่นกัน : “นี่มันต้องการจะหลบพวกเราต่ออย่างนั้นเหรอ?”
เรียวจิเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ : “ต้องใช่แน่ๆ”
ชาร์ลีมีประสบการณ์ที่สั่งสมมา จึงเอ่ยพูดขึ้นมาทันที : “ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่ามันทำงานเขียนบทอยู่ที่บริษัทภาพยนตร์ละครนั่นไม่ใช่เหรอ? เราก็ไปวุ่นวายที่บริษัทมัน ดูว่ามันจะยังไม่ปรากฏตัวออกมาอีก”
“ถ้าหากมันยังไม่ออกมา เราก็ก่อเรื่องให้มันเสียชื่อเสียงไปเลย จนไม่สามารถทำงานที่นั่นได้อีกต่อไป แม้กระทั่งไม่สามารถยืนอยู่ในได้วงการเขียนบทเลยด้วย!”
ชาร์ลีเอ่ยออกมาแล้ว ก็ได้รับการสนับสนุนจากเรียวจิขึ้นมาทันที : “พ่อ มีพ่ออยู่ด้วยนี่ดีจริงๆ ทำไมผมคิดไม่ถึงนะว่าไปก่อความวุ่นวายที่บริษัทมันก็ได้นี่?”
“มันไม่ให้เงินอีก พวกเราจะยังเลี้ยงมันไปเสียเปล่าอีกหลายปีแบบนั้นได้อย่างนั้นเหรอ?”
แต่ความจริงแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่หลินจืออยู่ที่ตระกูลเนธาเนียล ล้วนแต่เป็นสินสอดของมารดาที่เสียชีวิตไปแล้วมาใช้ทั้งนั้น ชาร์ลีไม่เคยเอาเงินแม้แต่บาทเดียวมาใช้กับเธอเลยเสียด้วยซ้ำ