ตอนที่ 251 ผู้เฒ่าสกุลชุย

หยางโปมองไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้ามืดหม่นลงแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว

นี่ฉันเป็นอะไรไป ? หยางโปออกแรงยันตัวขึ้นมานอนเอนตัวอยู่บนเตียง

คุณหมอบอกว่าความร้อนในหัวใจมากเกินไป ร่างกายเหนื่อยล้าเกินไป จำเป็นต้องพักผ่อน ลัวย่าวหัวกล่าว

หยางโปพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรมาก เงยหน้าขึ้นไปก็มองเห็นชุยอี้ผิงถือชาจอกหนึ่งอยู่ หยางโปรับมาแล้วก็ดื่มไปอึกหนึ่ง รสขมฝาดไปทั่วทั้งปาก

นี่คือชาขู่ติง ใช้เพื่อลดความร้อนภายใน ถ้าหากไม่อยากกินยาเยอะก็ทำได้แค่ดื่มชาให้มากแล้วล่ะ ชุยอี้ผิงกล่าว

หยางโปไม่ได้ดื่มอีก แต่มองไปทางชุยอี้ผิง

 

ชุยอี้ผิงหัวเราะขึ้นมา ฉันขอให้หงอวี้ช่วยฉันนัดนายให้มาปรึกษาที่จิงเฉิง เมื่อวานโทรศัพท์หานายตลอดนายไม่ได้รับสายเลย ถึงได้แล่นมานี่น่ะ

การประเมินเครื่องลายครามผมก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสุดยอดอะไร จิงเฉิงเองก็มีผู้เชี่ยวชาญไม่น้อย โดยเฉพาะทางพิพิธภัณฑ์แห่งชาตินั่น… หยางโปคิดถึงเหตุผลที่หงอวี้เชิญเขามา เป็นการประเมินเครื่องลายครามสมัยราชวงศ์ซ่งใบหนึ่ง

หยางโป พวกเราอยากให้นายมาประเมินให้น่ะ ชุยอี้ผิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง

หยางโปมองไปอย่างสงสัย อีกฝ่ายเน้นย้ำให้เขาไปมาโดยตลอด ราวกับไม่ได้สนการประเมินค่าเลยแม้แต่น้อย สิ่งนี้ทำให้หยางโปอดที่จะสงสัยขึ้นมาไม่ได้

พวกนายมีเรื่องอื่นใช่ไหม ? หยางโปเอ่ยถาม

 

รอจนนายไปถึงจิงเฉิงก็จะรู้เอง ชุยอี้ผิงกล่าว

หยางโปไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาอะไรกันแน่ ชุยอี้ผิงก็ไม่ได้อธิบายยิ่งทำให้หยางโปสงสัยขึ้นมา

ฉันตุ๋นซุปเอาไว้ที่ร้านอาหารด้านล่าง เดี๋ยวฉันลงไปเอามาให้ นายจะต้องหิวแล้วแน่ๆ ไม่ต้องรีบร้อนนะ อีกเดี๋ยวฉันก็กลับมา ชุยอี้ผิงกล่าวพลางออกจากห้องพักผู้ป่วยไป

หยางโปสงสัยมาก หันหน้าไปมองลัวย่าวหัว นายรู้เรื่องใช่ไหม ?

ลัวย่าวหัวส่ายหน้า ฉันไม่รู้

นายต้องรู้แน่ รีบบอกฉันมาเลยนะ ! หยางโปมองไป เห็นลัวย่าวหัวหลบตาก็ยิ่งตระหนักว่านี่จะต้องมีความลับอะไรอยู่แน่ๆ

ลัวย่าวหัวส่ายหน้า เรื่องนี้ฉันไม่ควรพูด เดี๋ยวนายจะได้รู้แน่ล่ะน่า

 

กล่าวจบ จู่ๆ ลัวย่าวหัวก็ยืดตัวขึ้นแล้วกล่าว ” ฉันไม่ไหวแล้ว ง่วงจะตายแล้ว คืนนี้อยากกลับไปนอน เดี๋ยวจะหานางพยาบาลสวยๆ มาอยู่เป็นเพื่อนนายนะ “

เห็นลัวย่าวหัวเป็นตายก็ไม่พูดอย่างแน่นอน หยางโปก็จนปัญญา

ชุยอี้ผิงเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไปครู่หนึ่งแล้วจึงค่อยหยิบโทรศัพท์ออกมาโทร ” คุณอาครับ หยางโปฟื้นแล้วครับ คุณอาวางใจเถอะนะครับ “

” ดี ! ” ชุยซื่อหยวนที่อยู่ปลายสายเอ่ยอย่างยินดีมาก ” ตอนนี้อาการของเขาดีอยู่ใช่ไหม ? “

” ครับ ดูไม่เลวแล้ว คุณอาวางใจเถอะครับ ผมกำลังดูทางนี้ให้อยู่ ! ” ชุยอี้ผิงกล่าว

” คิดไม่ถึงเลยจริงๆ เจ้าเสี่ยวโปคนนี้ถึงกับต้องลำบากขนาดนี้ เป็นฉันที่ทำผิดต่อเขา ! ” ชุยซื่อหยวถอนหายใจออกมา

 

” คุณอา อย่าโทษตัวเองนักเลยครับ ยังไงเรื่องก็ผ่านไปแล้ว ครั้งนี้ถ้าหากสามารถนับญาติกันได้ คุณอาก็ค่อยชดเชยเขาให้ดีก็ได้ครับ ” ชุยอี้ผิงกล่าว

” ใช่แล้ว ต้องชดเชยเขาให้ดี ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดมาตลอดว่าความสัมพันธ์ของเขากับพ่อแม่บุญธรรมดีมาก กลัวว่าเขาจะไม่มีทางยอมรับ คิดไม่ถึงว่าตัวเขาเองจะสืบเจอเบาะแสได้เล็กน้อยแล้ว เพื่อนสนิทของเขาคนนั้นได้บอกอะไรอีกไหม ? ” ชุยซื่อหยวนเอ่ยถาม

” ก็ไม่ได้มีอะไรอีกนะครับ จริงสิ คุณอาครับ ตอนนี้พ่อบุญธรรมของเขาถูกจับข้อหาลักทรัพย์ พวกเราจะดึงเรื่องเอาไว้ไหมครับ ? ” ชุยอี้ผิงเอ่ยถาม

” ไม่ต้อง เรื่องนี้ให้เอาตามวิธีที่เสี่ยวโปจัดการเถอะ พวกเราไม่ต้องรีบร้อนสอดมือไป ” ชุยซื่อหยวนกล่าว

” ถ้าหากต่อไปมีเรื่องอะไร เธอติดต่อฉันได้เลยนะ “

 

” อ้อ ครับ คุณอาวางใจเถอะนะครับ ตอนนี้ผมไปเอารังนกกับซุปไปให้เขา รอจนร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นอีกหน่อย ผมก็จะพาเขาไปที่จิงเฉิง จะได้ไม่ให้คุณอาต้องรอนาน ” ชุยอี้ผิงกล่าว

” อี้ผิง ไม่ต้อง เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อน รอจนเขาแข็งแรงดีแล้วค่อยว่ากันเถอะ ! ฉันรอมายี่สิบปีแล้ว ก็แค่อีกสักวันสองวันนี้เองทำไมจะรอไม่ได้ ” ชุยซื่อหยวนกล่าว

” ได้ครับ ถ้างั้นผมจะจัดการตามสมควรนะครับ ! ” ชุยอี้ผิงกล่าว

ชุยซื่อหยวนวางสายโทรศัพท์แล้วก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้ เพราะว่าหยางโปเข้าโรงพยาบาล ชุยอี้ผิงก็เลยเอาตัวอย่าง DNA ของหยางโปมาได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ตอนนี้ข้อมูลของพวกเขาสองคนพ่อลูกถูกส่งไปที่เซินเฉิงแล้ว ศูนย์วิจัยของทางนั้นจะส่งผลออกมาให้อย่างรวดเร็ว

 

ถึงแม้ผลลัพธ์จะยังไม่ออกมาแต่ชุยซื่อหยวนก็กล้ามั่นใจว่าหยางโปเป็นลูกชายที่หายไปกว่ายี่สิบปีของตน ! ตอนนี้ตนเองจะต้องเตรียมตัวล่วงหน้าเอาไว้ให้ดี !

ชุยซื่อหยวนครุ่นคิด เรื่องที่สำคัญตอนนี้มีอยู่สามเรื่อง เรื่องแรกคือท่าทีของหยางโป เรื่องที่สองคือท่าทีของภรรยาของเขา เรื่องที่สามก็คือท่าทีของคุณพ่อของเขา

ท่าทีของหยางโปน่าจะไม่ต้องคิดมาก พ่อแม่บุญธรรมทำกับเขาแบบนี้ พ่อแท้ๆ ใส่ใจขนาดนี้ ตระกูลชุยยิ่งใหญ่เกรียงไกร ไม่ว่าในอนาคตหยางโปจะทำอะไร ขอแค่ยอมรับความสัมพันธ์ทางสายเลือดนี้เขาก็จะสะดวกขึ้นมาก

 

ท่าทีของภรรยาจำเป็นต้องครุ่นคิด แต่ที่สำคัญก็ขึ้นอยู่กับคุณพ่อของเขา ขอแค่คุณพ่อพยักหน้าก็จะไม่มีใครกล้าคัดค้านเขาอย่างแน่นอน ถึงแม้ในครอบครัวจะโวยวายก็ต้องไม่กล้าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ชุยซื่อหยวนก็นั่งไม่ติด ไม่รอให้เลิกงานเขาก็ขึ้นรถแล้วรีบมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ของคุณพ่อทันที

ตอนที่มาถึงเรือนสี่ประสาน ชุยซื่อหยวนก็รีบร้อนเดินเข้าไป มองเห็นคุณพ่อเล่นหมากรุกอยู่กับผู้เฒ่าเก๋อ ชุยซื่อหยวนจำต้องสงบสติลงแล้วยืนรออยู่ด้านข้าง

หมากกระดานหนึ่งเล่นไปครึ่งชั่วโมงกว่าแล้วค่อยได้บทสรุป ผู้เฒ่าเก๋อแพ้ไปครึ่งตัว หันหน้ามามองเห็นชุยซื่อหยวนยืนอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นก็โยนหมากลงบนกระดาน

” ฉันก็ว่าฉันแพ้ได้ยังไง ? ที่แท้ก็เป็นลูกชายของบ้านนายกลับมาแล้ว ฮึ

พวกนายสองคนพ่อลูกรุมรังแกฉัน ! “

 

กล่าวจบ ผู้เฒ่าเก๋อก็หันหลังแล้วเดินจากไป

เส้นผมของคุณพ่อขาวโพลนไปทั้งศีรษะแล้ว รอจนผู้เฒ่าเก๋อเดินออกไป ชุยซื่อหยวนเริ่มเก็บหมากแล้วถึงค่อยเอ่ยปากถาม ” ครั้งนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ ? “

สองมือของชุยซื่อหยวนที่กำลังเก็บหมากชะงัก ” พ่อ ผมมีเรื่องหนึ่งอยากปรึกษาพ่อ “

” เรื่องอะไรล่ะ ? ” คุณพ่อเอ่ยถาม

ชุยซื่อหยวนลังเลเล็กน้อยแล้วก็เอ่ยปากว่า ” พ่อก็รู้ว่าเมื่อยี่สิบปี ผมมีลูกที่จินหลิงคนหนึ่ง หลายปีมานี้ผมตามหาเขามาตลอด “

ในที่สุดคุณพ่อก็หันหน้ามามอง ” ตอนนี้หาเจอแล้ว ? “

 

ชุยซื่อหยวนพยักหน้า ” หาเจอแล้วครับ ตอนนี้ผมส่ง DNA ของเขาไปตรวจแล้ว อีกเดี๋ยวผลก็ออกแล้ว ผมคิดว่าครั้งนี้ความเป็นไปได้สูงมาก เพราะว่าหน้าตาของเขาเหมือนผมตอนหนุ่มๆเลย “

กล่าวจบ ชุยซื่อหยวนก็หยิบรูปภาพใบหนึ่งส่งไป

คุณพ่อมองดูแล้ว เขาก็รีบลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปในห้อง มองเห็นคนหนุ่มที่อยู่บนรูปภาพถึงกับคล้ายชุยซื่อหยวนอยู่หกเจ็ดส่วน ทันใดนั้นเขาก็กล่าวว่า

” นี่คือคนของตระกูลชุยของเรา !

ชุยซื่อหยวนดีใจอย่างมาก ” พ่อ พ่อเห็นด้วยที่ผมจะยอมรับเขา ? “

พ่อพยักหน้า ” ความจริงไม่ใช่แค่แกที่ตามหา ฉันก็วานให้เพื่อนในสนามรบช่วยอีกด้วย แกก็อายุไม่น้อยแล้ว หลายปีนี้ไม่มีลูกมาตลอด ฉันไม่มีทางปล่อยให้แกไร้ผู้สืบสกุลหรอก ! “

ชุยซื่อหยวนน้ำตาเอ่อคลอทั้งสองตา ” พ่อครับ ! ขอบคุณ ! ขอบคุณมากครับ ! “