ตอนที่ 252 มื้อเช้า

หลังจากชุยอี้ผิงส่งซุปและรังนกมาแล้ว หยางโปก็ให้เขากลับไป ร่างกายของเขาไม่ได้ป่วยหนักอะไร แค่จำเป็นต้องพักผ่อนให้มากก็พอแล้ว

ชุยอี้ผิงก็ไม่ได้พูดมาก เอ่ยเตือนสองประโยคแล้วก็จากไป

หยางโปยังรู้สึกสงสัย แต่ว่าชุยอี้ผิงเพิ่งจะออกไป ก็มีสาวน้อยเดินเข้ามา หยางโปเงยหน้าไปมองก็เห็นว่าคนที่มาถึงกับเป็นเย่เสี่ยวซวน เขาประหลาดใจเล็กน้อย

เย่เสี่ยวซวนสีหน้าไร้อารมณ์ ” วันนี้ฉันเข้าเวร “

หยางโปพยักหน้า เขาแปลกใจกับท่าทีของเย่เสี่ยวซวนอยู่บ้าง แต่ว่าเขาหวนคิดถึงการปฏิบัติต่อครอบครัวแบบนี้ของตน ถึงแม้จะชื่นชอบกว่านี้ก็สลายหายไปแล้ว

 

เย่เสี่ยวซวนจัดข้าวของในห้องรอบหนึ่งแล้วก็นั่งลงบนโซฟา ในมือถือหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน

หยางโปมองอยู่หลายครั้ง ทั้งคิดอยากจะพูดเรื่องในช่วงนี้ ในใจก็หงุดหงิดเล็กน้อย พลิกไปพลิกมานอนไม่หลับ

เย่เสี่ยวซวนอ่านหนังสือ สายตากลับจ้องไปที่หยางโป ชั่วครู่หนึ่งเห็นหยางโปนอนไม่หลับ เธอก็ไม่ได้พูดอะไร

ผ่านไปเนิ่นนาน จู่ๆ หยางโปก็เอ่ยปากว่า ” เสี่ยวซวน งานเธอยุ่งไหม ? “

เย่เสี่ยวซวนมองไป คิดถึงการกำชับของพี่สาวตนก็เอ่ยเสียงเย็น ” ยุ่ง ยุ่งมากๆ “

” อื้ม ” หยางโปตอบกลับคำหนึ่งแล้วก็เงียบลงไป

ผ่านไปอีกพักหนึ่ง จู่ๆ หยางโปก็เอ่ยถามขึ้นมาอีกว่า ” พ่อแม่ของเธอดีกับเธอมากมาตลอดเลยใช่ไหม ? “

 

” ดี ดีกับฉันมากมาตลอด ! ” เย่เสี่ยวซวนตอบกลับอย่างเรียบง่ายมาก

หยางโปหันหลังกลับมา ” ถ้าหากว่าวันหนึ่ง จู่ๆ เธอค้นพบว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเธอมายี่สิบปีไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ อีกทั้งพวกเขาจู่ๆ ก็มีท่าทีเปลี่ยนแปลงไปมาก เธอจะเผชิญหน้ายังไง ? “

สีหน้าของเย่เสี่ยวซวนถึงได้เปลี่ยนไป เธอจ้องมองหยางโป ครู่หนึ่งถึงได้เอ่ยปากว่า

” เกรงว่านี่จะยากเย็นและกระอักกระอ่วนมากเลยนะ ! “

กล่าวจบ เย่เสี่ยวซวนก็จ้องมองหยางโป คิดถึงท่าทีของพ่อแม่หยาง เธอก็กระจ่างใจขึ้นมา

หยางโปถอนหายใจเบาๆ ” ถ้าหากเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ การรับหน้ากับพวกเขาที่ไร้เหตุผลถึงขนาดร้องขอกับเราอย่างไม่มีเหตุผล เธอจะยอมรับทุกอย่างเลยไหม ? ถ้าหากรู้ว่าเธอมีพ่อแม่แท้ๆอยู่ เธอจะไปหาตามไหม ? “

 

เย่เสี่ยวซวนมองหยางโป ” ถ้าหากพ่อแม่บุญธรรมเลี้ยงดูเราอย่างดี ปกติแล้วลูกเลี้ยงก็ไม่อยากตามหาพ่อแม่ที่ให้กำเนิดหรอก มีแค่พ่อแม่บุญธรรมไม่ดีเลยถึงได้ตามหา แต่ว่าคำขอไร้เหตุผลพวกนั้น ไม่ต้องตอบรับหรอก อย่าทำผิดต่อตัวเองจะดีกว่า “

หยางโปส่ายหน้ายิ้มขมขื่น ตัวเองเผชิญหน้ากับเรื่องซับซ้อนพวกนี้ คำพูดไม่กี่คำไม่มีทางเล่ามันออกมาได้ชัดเจนหรอก ” ช่างเถอะ ฉันคิดอีกทีก็แล้วกัน “

หยางโปเอนอยู่บนเตียง มองไปนอกหน้าต่าง แสงจันทร์สว่างดวงดาวริบหรี่ ภายนอกสงบเงียบ

เย่เสี่ยวซวนถอนหายใจ ในใจก็รู้สึกซับซ้อน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ หยางโปจึงหลับไปอย่างเงียบงัน

แต่เธอรู้ว่าในอกมีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านอยู่…

 

ตื่นขึ้นในวันต่อมา หยางโปรู้สึกว่าพละกำลังกลับมาแล้ว ความอ่อนล้าของร่างกายหายไปแล้ว ทั้งหมดฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ

เขาเดินเล่นในสวนดอกไม้ของโรงพยาบาลไปรอบหนึ่งแล้วถึงค่อยกลับมาที่ห้องพักผู้ป่วย ชุยอี้ผิงนั่งรอเขาอยู่ในห้องแล้ว

” อรุณสวัสดิ์ ! ” ชุยอี้ผิงกล่าว

หยางโปพยักหน้ายิ้มบาง ” อรุณสวัสดิ์ ! “

” ฉันเอาซาลาเปาไส้ปู ซุปลำไยกับเม็ดบัว แล้วก็ซาลาเปาไส้หมูแดง ตีนไก่อบ… “

หยางโปมองไป เห็นด้านหน้าของชุยอี้ผิงจัดวางไว้มากมาย เป็นอาหารเช้าทั้งหมด ทำให้เขาชะงักนิ่งไปทันที

” อาหารเช้าเท่านั้นเอง ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้มั้ง ? “

 

” อาหารเช้าจะต้องกินให้ดี ตอนนี้ร่างกายของนายอ่อนแอ จำเป็นต้องบำรุงให้มาก เพื่อให้นายหายป่วยเร็วๆ พวกนี้เป็นของจำเป็น นายวางใจเถอะนะ ฉันปรึกษากับคุณหมอแล้วถึงได้ซื้อของพวกนี้มา ” ชุยอี้ผิงกล่าว

หยางโปมองไปทางชุยอี้ผิง เขาประหลาดใจเล็กน้อย

” ถ้ายังไงฉันช่วยแนะนำอาจารย์หลายท่านให้กับนายได้นะ พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประเมินเครื่องลายครามมากกว่า นายไปหาพวกเขาก็ได้ “

ชุยอี้ผิงชะงัก เงยหน้ามองหยางโป ทันใดนั้นก็เข้าใจความหมายของหยางโปแล้ว ไม่ใช่เพื่อนไม่ใช่ญาติมาดูแลอย่างอบอุ่นแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกรับไม่ไหวจริงๆ

” หยางโป นายอย่าเข้าใจผิดเด็ดขาดนะ ฉันไม่ได้มีเจตนาอื่นก็แค่อยากให้นายหายดีเร็วขึ้นหน่อย พวกเราก็จะไปจิงเฉิงด้วยกัน ” ชุยอี้ผิงกล่าว

 

หยางโปมองชุยอี้ผิง ” ฉันรู้จักผู้เชี่ยวชาญหลายคนจริงๆ นะ “

” อย่าพูดเหลวไหลมากนักเลย ” ชุยอี้ผิงกล่าว

ลัวย่าวหัวเดินเข้ามา มองดมกลิ่นฟุดฟิด ” หอมจังเลยนะเนี่ย “

กล่าวจบ เขาก็เดินเข้ามา ” ยอดเยี่ยมจริงๆ ! “

เขาหยิบตีนไก่ขึ้นมากัด เขายังไม่ลืมหันไปโบกมือให้หยางโป ” ทำไมนายไม่มากินล่ะ อาหารเช้าดีๆ ขนาดนี้ หายากจริงๆ นะ ! “

หยางโปจำต้องเดินเข้าไป ชุยอี้ผิงยิ้มแล้วก็เอ่ยอธิบาย ” เมื่อกี้หยางโปกำลังสงสัยว่าฉันมีแผนการอื่นหรือเปล่า ? นายว่าฉันจะมีแผนการอะไรกับเขาได้ ? หลอกเอาสมบัติหรือว่าหลอกไปปล้ำ ? “

 

ลัวย่าวหัวเงยหน้าขึ้น ” ความเป็นไปได้ที่จะหลอกไปปล้ำต่ำเกินไป แต่ว่าหลอกเอาสมบัติน่ะได้ นายอย่าดูถูกเขา เขากำลังจะเป็นมหาเศรษฐีในอนาคต ! “

” โอ้ ? มหาเศรษฐีในอนาคต ? ทำไมล่ะ ? ” ชุยอี้ผิงเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ

ลัวย่าวหัวหัวเราะขึ้นมา ” เพราะว่าเขาเป็นหุ้นส่วนของโรงประมูลจินหลิงชุน ! “

” โรงประมูลจินหลิงชุน ? ทำไมฉันไม่เคยได้ยินล่ะ ? ” ชุยอี้ผิงเอ่ยถาม

ลัวย่าวหัวยิ้มฝืด ” เพราะว่าโรงประมูลนี้พวกเราสองคนร่วมเป็นหุ้นส่วนกัน ตอนนี้มันยังไม่เปิดกิจการ ดังนั้นถึงได้บอกว่าเป็นมหาเศรษฐีในอนาคตไง ! “

สีหน้าหยางโปอิหลักอิเหลื่อ เขาส่ายหน้าแล้วก็เริ่มกินข้าว

 

ชุยอี้ผิงหัวเราะฮ่าฮ่า ” ถ้างั้นก็เป็นเรื่องดีจริงๆ รอให้พวกนายเปิดกิจการแล้วต้องบอกฉันนะ ถึงตอนนั้นฉันจะมาอวยพรพวกนาย ! “

” ได้เลย ! ” ลัวย่าวหัวกล่าว

ถึงแม้ว่าหยางโปจะหายดีแล้ว แต่ว่าความอยากอาหารยังไม่มากนัก ไม่นานเขาก็กินอิ่มแล้ว ส่วนที่เหลือทั้งหมดถูกลัวย่าวหัวจัดการเรียบ

กินอาหารเสร็จแล้ว จากนั้นชุยอี้ผิงก็ต้มชา หยางโปนั่งอาบแดดอยู่บนโซฟาด้านหน้าของหน้าต่าง

ชุยอี้ผิงดึงเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งอยู่ไม่ไกล ลังเลเล็กน้อยแล้วก็เอ่ยกับหยางโปว่า ” หยางโป พรุ่งนี้พวกเราไปจิ่งเฉิงกันไหม ? “

หยางโปมองไป ” รีบขนาดนี้เลย ? “

 

ชุยอี้ผิงพยักหน้า ” การประเมินเสร็จเร็วสักหน่อยก็จะสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้นอีกนิด ! “

หยางโปลังเลเล็กน้อย เขามองออกแล้วว่าชุยอี้ผิงมีเรื่องอื่น ที่ว่าประเมินค่านั่นเป็นแค่ข้ออ้างล้วนๆ แต่ลัวย่าวหัวกลับยังร่วมเล่นงิ้วฉากนี้กับอีกฝ่าย เขาก็ไม่มีทางเลือก

แต่ว่า คิดถึงคำตอบที่ในท้ายที่สุดก็จะเปิดเผยออกมา หยางโปก็อดที่จะมองไปอย่างประหลาดใจไม่ได้

” คุณชุยไม่น่าจะมีเซอไพรส์รอผมอยู่ใช่ไหมครับ ? “

ชุยอี้ผิงพยักหน้า ” เดาถูกแล้ว “

ไม่ว่ายังไงหยางโปก็เดาว่าที่แท้เนื้อหาของพวกนี้คืออะไรไม่ถูก กระนั้นเขาก็ไม่ได้คิดมาก จึงพยักหน้ากล่าวว่า ” โอเค คุณไปจองตั๋วเลย พรุ่งนี้พวกเราไปกัน “

 

กล่าวจบ หยางโปก็มองลัวย่าวหัว ” จองตั๋วให้ย่าวหัวด้วยนะ เขาจะไปกับผม “

ลัวย่าวหัวรีบบ่ายเบี่ยงทันที ” ไม่ได้ ฉันไปไม่ได้ ตอนนี้โรงประมูลกำลังเตรียมการ… “

” นายไปได้สิ เปิดกิจการช้าไปสองวันก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ! ก่อนปีใหม่ไม่มีราคาดีๆ อะไรอยู่แล้ว ” หยางโปกล่าว

” ถ้างั้นก็ดี ! ” ท้ายสุดลัวย่าวหัวก็พยักหน้าตกลง