ตอนที่ 1414 เข้าเมือง (2)
จวินอู๋เสียดึงจวินอู๋เหยาเดินไปที่หน้าประตูเมืองเมื่อฝูงชนเปิดช่องว่าง
ทหารที่ประตูเมืองตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นความวุ่นวายในฝูงชน ไม่เคยคิดเลยว่าจู่ๆใบไม้สีทองจะร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าได้จริงๆ
เมื่อพวกเขาหันมาเห็นจวินอู๋เสียและจวินอู๋เหยายืนอยู่ตรงหน้า พวกทหารก็ขมวดคิ้วทันที
“พวกเจ้าสองคนมาจากไหน?”
จวินอู๋เสียก้าวเข้าไปสอดทองสองก้อนเข้าไปในมือของทหารคนนั้นอย่างเงียบๆ ทหารคนนั้นจ้องมองมันอย่างไม่เชื่อสายตา!
พวกทหารที่ได้รับมอบหมายให้เฝ้าประตูเมืองมักจะไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลอะไร จึงไม่สามารถเก็บสินบนในเมืองได้มากนัก ดังนั้น พวกเขาจึงถูกส่งให้มายืนตากแดดตากฝนอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อน ดวงตาของทหารทั้งสองแทบจะถลนออกมานอกเบ้า
“พี่ชายทั้งสอง พวกเรามาจากเมืองใกล้ๆนี้ ชีวิตเดี๋ยวนี้มันอยู่ยาก พวกเราได้ยินว่าเมืองชิงเฟิงปลอดภัยก็เลยรีบเดินทางมาที่นี่กัน ขอพี่ชายทั้งสองเปิดทางให้เราด้วย” จวินอู๋เสียพูด
ดวงตาของทหารทั้งสองเป็นประกายเมื่อเห็นทองคำแวววาว เมื่อพวกเขาเห็นว่าคนอื่นๆยังก้มเก็บใบไม้ทองกันอยู่ และไม่มีใครสนใจทางด้านนี้ พวกเขาก็โบกมือให้ทั้งสองคนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“เข้าไปเร็ว”
“ขอบคุณมาก” จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รีบเข้าไป กลับพูดต่อว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่เรามาที่นี่ จึงไม่คุ้นเคยกับสถานที่ ไม่ทราบว่าพี่ชายจะสามารถชี้แนะเราได้ไหม?”
พูดจบ นางก็ดึงเอาทองออกมาอีกหนึ่งก้อน
ทหารเฝ้าประตูกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เขามองทองแล้วรีบหาคนมาแทนที่ตัวเองโดยไม่สนอะไรแล้ว จากนั้นก็พาจวินอู๋เสียกับจวินอู๋เหยาเข้าเมือง
เงินทำให้โลกหมุน จวินอู๋เสียรู้เรื่องนี้ดี
“ดูเจ้าสองคน เหมือนไม่ได้ลำบากอะไรมากเลยนะ เอาล่ะ พวกเจ้าก็เข้ามาในเมืองชิงเฟิงแล้ว ตราบใดที่เจ้ามีเงิน ก็รับประกันชีวิตที่ดีได้เลย” เมื่อรับเงินแล้ว ทหารที่พาทั้งสองคนเข้าเมืองก็ย่อมบอกพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา และไม่ได้ใช้คำพูดที่สุภาพเกรงอกเกรงใจเกินไปนัก
“ปกติเราจะไม่ปล่อยให้คนอย่างพวกเจ้าเข้าเมืองหรอก แต่เนื่องจากน้องชายท่านนี้เกลี้ยกล่อมเก่งมาก พวกเราเลยยกเว้นให้เจ้ากับเพื่อนแค่สองคนเท่านั้น ถ้าวันหน้าพวกเจ้าไม่เข้าใจอะไร ก็มาหาข้าได้” ทหารกล่าวด้วยรอยยิ้ม คำพูดของเขาฟังดูสูงส่งและยิ่งใหญ่ แต่จริงๆแล้วก็แค่มีน้ำใจกับเงินของพวกเขาเท่านั้น
“ปกติไม่ให้เข้า? หมายความว่ายังไง?” จวินอู๋เสียแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
ทหารบอกกับนางว่า “ท่านเจ้าเมืองของเราได้สั่งให้เราอนุญาตให้คนเข้าเมืองได้วันละ 300 คนทุกวัน โดยให้คนแก่กับเด็กเข้าก่อน คนอย่างพวกเจ้าสองคนน่ะ ต้องรออีกนานเลย”
“มีแบบนี้ด้วยหรือ? ช่วงเวลาแบบนี้ รับคนหนุ่มสาวและคนแข็งแรงไว้ไม่ดีกับเมืองมากที่สุดหรือ?” จวินอู๋เสียถาม
“ถึงสิ่งที่เจ้าพูดจะมีเหตุผล แต่ใครขอให้เจ้าเมืองของเราเป็นคนใจดีทนเห็นคนลำบากไม่ได้กันล่ะ? เจ้าไม่ได้สังเกตหรือว่าคนที่ยังติดอยู่นอกประตูเมืองเป็นพวกชายฉกรรจ์ทั้งนั้น? คนแก่ ผู้หญิง และเด็กได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างในแล้ว อีกอย่างหนึ่งนะ ถ้าเจ้ากำลังหาที่อยู่ ข้าคิดว่าเจ้าคงต้องรออีกสองสามวัน ไปหาโรงแรมอยู่ก่อนจะดีกว่า ถ้ามีเงินเยอะก็ไปหาบ้านเหมาะๆสักหลังซื้อไว้ แต่ที่ดินในเมืองตอนนี้ ที่ดินหนึ่งนิ้วต่อทองคำหนึ่งนิ้ว แพงมาก ถ้าเจ้าไม่มีเงิน ก็ไปรายงานที่ศาลาว่าการ จะมีคนจัดการหาที่ให้อยู่หลังจากนั้นไม่กี่วัน” อย่างน้อยทหารคนนี้ก็ตรงไปตรงมา เขาบอกทุกอย่างที่คิดว่าควรบอก และยังพาจวินอู๋เสียกับจวินอู๋เหยาไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง หลังจากเห็นว่าพวกเขาเข้าพักเรียบร้อยถึงได้กลับไป
จวินอู๋เสียและจวินอู๋เหยาจองห้องพักสองห้อง จากนั้นก็เดินเข้าไปพักผ่อนในห้องของตัวเอง