ตุ้บ!
เสียงดังมาจากปลายสายเหมือนอะไรตก จากนั้นสายก็ตัดไป
เสี่ยวเชี่ยนเดาว่าอวี๋หมิงซีทำโทรศัพท์ตกพื้น
ดูท่าเธอจะเดาถูก
เสี่ยวเชี่ยนถอนหายใจยาว
เรื่องที่เธอกังวลที่สุดมันเกิดขึ้นแล้ว
ในใจของอวี๋หมิงซีมีคนๆหนึ่งอยู่ ผู้ชายที่เธอชอบ
แต่คนๆนี้มีความเป็นไปได้ถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ว่าจะไม่ใช่ไห่เจา เรื่องนี้ยุ่งยากแล้ว
เมื่อกี้เสี่ยวเชี่ยนเสนอความคิดให้ไห่เจา เพื่อให้เขาลองทดสอบดูว่าชอบอวี๋หมิงซีจริงหรือเปล่า ตอนที่เธอทำการวินิจฉัยให้ไห่เจานั้นเธอค่อนข้างมั่นใจว่าอวี๋หมิงซีไม่มีทางรักใคร
เพราะเธอแสดงออกมาให้เห็นตลอดว่ารักตัวเองมากกว่า
แต่จากบทสนทนาเมื่อครู่ทำให้เสี่ยวเชี่ยนอยู่ๆก็ได้พบว่า ในใจของอวี๋หมิงซีมีใครคนหนึ่งอยู่!
งั้นถ้าไห่เจาแน่ใจว่าตัวเองชอบอวี๋หมิงซีจริงๆ แบบนั้นไม่เท่ากับว่าไม่มีโอกาสเหลือแล้วเหรอ?
สาเหตุที่เสี่ยวเชี่ยนแน่ใจว่าในใจของอวี๋หมิงซีมีคนอื่นทั้งๆที่คุยแค่ไม่กี่ประโยค ทั้งหมดเป็นเพราะการเงียบไปสามวินาที สามวินาทีนั้นมันหมายถึงการสับสนในใจของผู้หญิงที่ควบคุมตัวเองได้เก่งคนนั้น
ถ้าคนที่อยู่ในใจของอวี๋หมิงซีคือไห่เจา แล้วจะปฏิเสธเขาทำไม?
เสี่ยวเชี่ยนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความ
ถ้าไม่อยากติดอยู่ในวังวนนั้นจนออกไม่ได้ตลอดชีวิตก็มาหาฉัน
ผ่านไปไม่กี่นาทีอวี๋หมิงซีก็ตอบกลับ
อีกสามวันฉันจะมีคอนเสิร์ต เธอมาหาฉัน
ปริศนาจะถูกไขในอีกสามวันให้หลัง
เสี่ยวเชี่ยนตอบกลับไปว่าโอเค เธอหลับตาลองคำนวณดู
ช่วงเวลาการรักษาให้ไห่เจาช่วงแรกจะสิ้นสุดในอีกหนึ่งเดือนให้หลัง
แผนเดิมของเธอคือใช้เวลาหนึ่งเดือนในการทำให้สงบลง แต่ดูจากตอนนี้ ช่วงเวลามันนานเกินไปแล้ว
เสี่ยวเชี่ยนเริ่มคิดหนัก เธอเหมือนมีลางสังหรณ์กลายๆ การไขปริศนานี้อาจได้คำตอบที่ปวดใจ แต่ถ้าไม่ไขปริศนาบาดแผลก็จะอยู่ในใจของไห่เจากับอวี๋หมิงซีไปตลอดชีวิต
เสี่ยวเชี่ยนคิดอยู่สักพักจึงโทรหาไห่เจา
“ไห่เจา ฉันจะเลื่อนการบำบัดแบบโมริตะให้ไวขึ้น”
“ไวขึ้นแค่ไหน”
“อีกสองวันให้หลัง”
“ไหนว่าให้หารูปมาแปะสักเดือนก่อนค่อยรักษาไง?”
“เรื่องแปะรูปฉันหลอกนาย ก็แค่อยากให้นายสงบสติอารมณ์”
“!!!” นั่นไง เฉินเสี่ยวเชี่ยนมีตอนไหนบ้างที่ไม่ตุ๋นคน! ไห่เจาโวยวายในใจ เงามืดในจิตใจขยายวงกว้าง
“มีปัจจัยบางอย่างทำให้ต้องเลื่อนขึ้น อีกสองวันนายมาหาฉันที่เมืองหลิน ฉันจะช่วยนายจัดการความสงสัยที่อยู่ในใจนายเอง”
เสี่ยวเชี่ยนได้ยินเสียงเพลงดังลอดเข้ามา เธอเดาว่าเขาคงไปปิดผับแล้ว จึงเตือนด้วยความหวังดี
“ถ้าในช่วงสองวันนี้นายควบคุมอวัยวะส่วนล่างไม่ได้ล่ะก็ นายจะเสียใจไปตลอดชีวิต อย่าลืมที่ฉันพูดล่ะ การทำเรื่องแย่ๆเพื่อประชดคนอื่นเป็นการกระทำที่โง่ที่สุด”
ไห่เจาหลอนขึ้นมาทันที นี่เธอมีตาทิพย์เหรอ? ทำไมรู้ล่ะว่าตอนนี้เขาอยู่ผับ?”
เสี่ยวเชี่ยนวางสาย ไห่เจามองสาวที่เขาเรียกมานั่งกินเหล้าแก้เซ็งเป็นเพื่อน อันที่จริงเขาไม่ได้คิดจะทำอะไร คำพูดก่อนหน้านี้ของเสี่ยวเชี่ยนมีอิทธิพลต่อจิตใจเขา เขาก็แค่ไม่อยากกินเหล้าคนเดียวเลยเรียกคนมาอยู่เป็นเพื่อน
เสียใจไปตลอดชีวิต…ไห่เจานึกถึงคำนี้ มันยากที่จะทำให้เขาไม่คิดถึงใบหน้าที่สวยได้รูปนั้น
คำพูดของเฉินเสี่ยวเชี่ยนเชื่อได้จริงเหรอ?
ไม่ว่าจะจริงหรือหลอกแต่เขาก็โบกมือไล่ผู้หญิงพวกนั้นออกไป ส่วนตัวเองก็กระดกเหล้ายกใหญ่ ได้แต่หวังว่าในจินตนาการหลังจากเมาแล้ว อวี๋หมิงซีจะไม่ทำเขาเสียใจอีก
เสี่ยวเชี่ยนจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จก็หลับตาคิดเงียบๆ
ความรักที่สมบูรณ์แบบคืออะไรกันแน่?
คำตอบคือ ไม่มีรักไหนที่สมบูรณ์แบบ
อย่าว่าแต่เรื่องความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของไห่เจากับอวี๋หมิงซีเลย
เอาแค่ระหว่างอวี๋หมิงหลางกับเสี่ยวเชี่ยน เห็นๆอยู่ว่ารักกันมาก ไม่มีปัญหาเรื่องไหนเลย แต่วันแต่งงานก็ยังเกิดเรื่องที่ทำให้เสี่ยวเชี่ยนต้องไปชนเหล้ากับแขกคนเดียวเลยไม่ใช่เหรอ?
เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้ว่าความสมบูรณ์แบบในสายตาคนอื่นเป็นอย่างไร เธอรู้แค่ว่าตัวเธออยากคว้าความรักครั้งนี้เอาไว้
ไม่มีความรักใดที่ดีพร้อม มีแต่คนที่เหมาะสม
อีกสองวันเธอจะทำการทดสอบไห่เจา ช่วยให้เขาแน่ใจความรู้สึกของตัวเอง อีกสามวันเธอจะไปงานคอนเสิร์ตของอวี๋หมิงซี ไปตามหาคนที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจอวี๋หมิงซี คนที่เธอไม่กล้าแตะต้องคนนั้น
แต่ตอนนี้ เธอต้องการหาคนที่เหมาะสมกับตัวเองคนนั้นแล้ว
เสี่ยวเชี่ยนนั่งรถของผู้บัญชาการกลับไปคนเดียว เขาไม่ได้กลับไปด้วย อยู่ทำธุระต่อที่เมืองQ พอเสร็จแล้วก็จะกลับเมืองหลวง การที่ได้นั่งรถของผู้บัญชาการเข้าไปในค่ายทหารก็ทำให้เห็นแล้วว่านี่เป็นการชดเชยเรื่องที่ทำให้เจ้าบ่าวต้องออกจากงานวิวาห์ไปก่อน
เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้สนใจงานพิธีอะไรพวกนี้เท่าไรอยู่แล้ว วันนี้อารมณ์เธอไม่ค่อยดี เรื่องของหมิงซีกับไห่เจาทำเธอปวดหัวยิ่งกว่าเรื่องที่อวี๋หมิงหลางไม่อยู่ในงานเสียอีก
ดังนั้นระหว่างทางหน้าเธอจึงบึ้งตึงตลอดเวลา ไม่ได้พูดคุยกับคนขับรถ
จนกระทั่งรถใกล้ถึงเมืองหลินโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น
เบอร์คุ้นเคย
“ลูกเชี่ยน ขอโทษนะ ผมผิดไปแล้ว! คุณจะจัดการผมยังไงก็ได้ แต่อย่าเมินเฉยผมเลยนะ!”
พอเสี่ยวเชี่ยนรับสายอวี๋หมิงหลางก็รีบขอโทษขอโพยทันที
เมื่อกี้เสี่ยวเชี่ยนยังทำหน้าบึ้งอยู่ พอได้ยินเสียงของเขาก็ดีขึ้นหน่อย แต่ก็ยังถามกลับด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์อยู่ดี
“หืม? นายผิดอะไร? นายถูกเรียกตัวไปมันเป็นหน้าที่ที่บอกปัดไม่ได้ ทำไมต้องขอโทษด้วย?”
เธอถนัดเรื่องเก็บความรู้สึก อวี๋หมิงหลางก็ฟังไม่ออกว่าเธอโกรธจริงเลยพูดแบบนั้น หรือแกล้งโกรธกันแน่
ภารกิจเพิ่งเสร็จเขาเลยรีบโทรมาขอโทษเธอทันที พอเสี่ยวเชี่ยนรับสายก็ไม่เวิ่นเว้อรีบขอโทษตรงๆ
เขาเองก็ไม่ได้หวังให้เธอยกโทษให้ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใครก็คงรับไม่ได้ ทิ้งเจ้าสาวไปต่อหน้าญาติและเพื่อนๆมากมาย เวลานี้ในใจของเสี่ยวเฉียงร้อนดั่งไฟแผดเผา ถ้ายื่นมีดให้ไม่แน่เขาอาจเอามาปาดคอเพื่อชดเชยความผิดที่มีต่อเสี่ยวเชี่ยน
ตอนไปเขามีแต่คำว่าไม่อยากและจำใจเป็นพันเป็นหมื่น
ถึงขนาดที่ว่าเขาไม่ได้แม้แต่จะอธิบายให้เธอฟัง อยู่ๆก็ทิ้งเธอไว้ตรงนั้น แม้แต่เขาก็ยังไม่อยากอภัยให้ตัวเอง
“ผมไม่ควรไป ผมอยากอยู่กับคุณจัดงานให้เสร็จจริงๆนะ แต่เบื้องบนส่งรถมารับแล้ว ผมไม่มีทางเลือกอื่น ลูกเชี่ยนคุณคงโกรธใช่ไหม คุณจะลงไม้ลงมือต่อว่าผมยังไงก็ได้ แต่อย่าเมินเฉยผมเลยนะ! ถ้าไม่ได้จริงๆงั้นเราจัดงานใหม่ก็ได้นะ!”
ตอนที่เขางานยุ่งไม่มีเวลานึกถึงท่าทีของเธอ พอจับคนร้ายเสร็จเรียบร้อยมีเวลาเป็นของตัวเองเขาถึงได้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ นึกถึงนิสัยของเธอแล้วก็รู้สึกว่าเขาอาจทำเธอเสียความรู้สึกเข้าแล้ว
ลูกเชี่ยนเป็นคนทะนงตน มั่นใจในตัวเองสูง ปกติไม่เคยยอมเสียเปรียบให้ใครแม้แต่นิดเดียว ใครกล้ามาหาเรื่องเธอก็พร้อมจะสู้กลับ แต่วันนี้เขาทำผิดมหันต์!
“ไม่จำเป็นต้องจัดพิธีใหม่ สิ่งที่ต้องทำฉันทำหมดแล้ว หึหึ”
เสียงเย็นชาในตอนท้ายทำเอาหัวใจอวี๋หมิงหลางเกือบหยุดเต้น
เขารู้สึกมืดแปดด้าน แย่แล้ว เมียโกรธจริงแล้ว!
ยังอยากอธิบายกับเธอ— อันที่จริงก็ไม่ใช่การอธิบายหรอก เป็นการอ้อนวอนอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า
เสี่ยวเชี่ยนไม่ให้โอกาสเขาแม้แต่นิดเดียว กดตัดสายทันที
คนขับรถมีหลักการไม่เสียมารยาทแอบฟัง แต่ไม่ทันระวังก็ได้ยินอยู่บ้าง คนที่มีอาชีพทหารย่อมเข้าใจความลำบากของอวี๋หมิงหลาง ขณะที่กำลังจะพูดให้กำลังใจเสี่ยวเชี่ยนนั้นอยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะฮิฮิจากเสี่ยวเชี่ยน
“เอ่อ…หมอเฉินครับ คุณคงไม่ได้โกรธจริงๆใช่ไหม?”
คนขับรถมากับผู้บัญชาการ จึงรู้เรื่องของเจ้าสาวในวันนี้ด้วย เป็นผู้หญิงที่สุดยอดมากคนหนึ่ง
“โกรธอะไรเหรอคะ? ถ้าฉันโกรธแล้วจะขอผู้บัญชาการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในค่ายทหารทำไมล่ะคะ?”
“แล้วเมื่อกี้—”
“ก็แค่ขู่เขา ล้อเขาเล่น”
เออะ หมอเฉิน แสบมาก!