ตอนที่ 414 ปราบปราม
มู่จวินฮานรู้ดีว่าครั้งนี้อันอิงเฉิงพบศัตรูที่แข็งแกร่งจึงเอ่ยปลอบขึ้นมา “ท่านโหวมิต้องกังวล ครั้งนี้ข้ามาก็เพื่อช่วยท่านจัดการปัญหาของเมืองเยว่เฉิง”
อันอิงเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยแต่ฉายสีหน้าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “แต่น่าละอายที่…”
ซึ่งความลังเลของอันอิงเฉิงมิได้หลุดรอดสายตาของมู่จวินฮานไป เขากระแอมก่อนเอ่ยต่อ “ท่านโหวอันเชิญกล่าวมาได้เลย ! ”
ในเมื่อมู่จวินฮานเอ่ยเช่นนี้อันอิงเฉิงจึงพูดตามที่คิดเอาไว้ “ที่จริงแล้วตอนนี้อันหลิงเหยียนและอันหลิงหยูโดนอีกฝ่ายจับตัวเป็นเชลยอยู่”
“ท่านพ่อ นี่มันเรื่องอันใดกันเจ้าคะ ! ” อันหลิงเกอได้ยินดังนั้นก็รีบเอ่ยถาม
ครั้งนี้บุตรชายของหลี่ซื่อร่วมกองทัพมาด้วยนางเองก็รู้ ส่วนอันหลิงหยูก็ถูกเว่ยซื่อผลักดันให้มาฝึกครั้งนี้ แต่คาดมิถึงว่าจักเผชิญเรื่องเยี่ยงนี้ได้
จากนั้นอันอิงเฉิงก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นออกมา เดิมทีอันหลิงเหยียนเป็นผู้นำทหารไปปราบปรามเผ่าหมอเทวดาแต่มิได้กลับมา อันหลิงหยูที่เป็นห่วงอันหลิงเหยียนจึงแอบออกไปกลางดึกเพื่อตามไปช่วยเหลือจึงถูกจับตัวไปอีกคน
“ส่วนวันนี้ก็เป็นวันที่…” อันหลิงเกอยังกล่าวมิทันจบก็ได้ยินเสียงทหารนายหนึ่งเข้ามารายงานเสียก่อน
“เรียนท่านอ๋อง เผ่าหมอเทวดาส่งคนนำจดหมายมามอบให้ขอรับ”
อันอิงเฉิงรับจดหมายมาแล้วส่งต่อให้มู่จวินฮาน
มู่จวินฮานเปิดจดหมายออกดูเนื้อความ ‘หากอ๋องมู่ต้องการช่วยเด็กสองคนนี้ หลังฟ้ามืดก็จงพาพระชายามาเป็นแขกที่เผ่าหมอเทวดา ! ’
พอมู่จวินฮานอ่านจบก็ส่งจดหมายให้อันหลิงเกอพร้อมเอ่ยอย่างยิ้มเยาะ “เฮอะ ข่าวไวมากทีเดียว”
เมื่อเห็นเช่นนั้นอันอิงเฉิงก็เอ่ยอย่างกังวล “อ๋องมู่ นี่คือแผนล่อท่านไปติดกับ ! พวกท่านไปมิได้…”
มิรอให้อันอิงเฉิงกล่าวจบ อันหลิงเกอก็พูดแทรกบิดาทันที “ท่านพ่อ ตอนนี้ธนูอยู่บนคันศรแล้ว เรามิอาจหยุดยิงได้เจ้าค่ะ”
“นี่มัน…”
มู่จวินฮานรู้ดีว่าอันอิงเฉิงกังวล ทว่าตนก็คิดเช่นเดียวกับอันหลิงเกอ เพราะต่อให้เป็นแผนหลอกล่อพวกตน มิว่าอย่างไรก็ต้องไปอยู่ดี
“ท่านโหวอันมิต้องกังวล ในเมื่อพวกเขามาเชิญเช่นนี้ก็แสดงว่ามีข้อแลกเปลี่ยนอย่างแน่นอน ข้าแค่ไปในฐานะทูตเท่านั้น”
อันหลิงเกอจึงพูดเสริม “ใช่แล้วเจ้าค่ะ พวกเรามิเป็นอันตรายหรอก ท่านพ่อโปรดวางใจ”
เพราะนางเชื่อใจมู่จวินฮานแล้วก็เชื่อมั่นในตนเอง
ส่วนอันอิงเฉิงก็รู้ดีว่าตอนนี้หมดหนทางอื่นแล้วจึงทำได้แค่ยอมให้ทั้งสองไปตามคำเชิญเพื่อช่วยคน
“ข้าและพระชายาขอพักผ่อนสักครู่ ขอท่านโหวอัน…” มู่จวินฮานมิได้เอ่ยต่อ
อันอิงเฉิงได้ยินก็มองพวกเขาอย่างพิจารณา เมื่อเห็นท่าทางอิดโรยของอีกฝ่ายก็รู้ได้ทันทีว่าคงเหนื่อยล้าเพราะรีบเดินทางมาจากเมืองหลวง ดังนั้นจึงรีบสั่งคนรับใช้ให้ไปจัดการเรื่องห้องพัก
ราตรีนั้นเอง มู่จวินฮานและอันหลิงเกอก็เอ่ยลาอันอิงเฉิงเพื่อเดินทางไปเผ่าหมอเทวดา
เมื่อไปถึงเผ่าหมอเทวดาก็พบว่าหัวหน้าเผ่ามีการเตรียมอาหารเอาไว้มากมาย “อาหารป่าพวกนี้คงสู้อาหารรสเลิศในเมืองหลวงมิได้ ขอท่านอ๋องได้โปรดอภัยด้วย ! ”
มู่จวินฮานได้ยินคำพูดของหัวหน้าเผ่าก็มิได้ตอบอันใดออกไป เขาทำแค่นั่งลง ส่วนอันหลิงเกอก็นั่งลงข้างกายมู่จวินฮานพร้อมแววตาที่เต็มไปด้วยการหยั่งเชิง
สุราถูกรินจนเต็มจอก มู่จวินฮานมิได้สงสัยเพราะเขายกดื่มจนหมดจอก
แต่อันหลิงเกอที่อยู่ด้านหลังกำลังขมวดคิ้วมุ่น เผ่าหมอเทวดาถนัดเรื่องวางยาพิษทั้งยังถนัดเรื่องพิษหนอนกู่อีกด้วย เหตุใดมู่จวินฮานจึงไร้ท่าทีระมัดระวังเช่นนี้ ?
หัวหน้าเผ่าเห็นดังนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “ฮ่าฮ่า ท่านอ๋องช่างเป็นคนตรงไปตรงมาเสียจริง ท่านมิกลัวข้าใส่ยาพิษในสุราหรือไร ? ”
มู่จวินฮานตอบพร้อมรอยยิ้ม “เจ้ามิทำเช่นนั้นหรอก รีบพูดมาว่าเจ้าต้องการสิ่งใดเป็นการแลกเปลี่ยนกับพวกอันหลิงเหยียน ? ”
หัวหน้าเผ่าหัวเราะร่า “ข้อแลกเปลี่ยนหรือ ? ข้าเพียงได้ยินว่าในกายของพระชายามีหนอนกู่อยู่ตัวหนึ่ง ข้าอยากศึกษาและหากเป็นไปได้ก็อยากให้พระชายาอยู่ที่นี่สักสามสี่วันได้หรือไม่ ? ”
มู่จวินฮานได้ยินดังนั้นก็ปฏิเสธทันที “มิได้ เปลี่ยนข้อแลกเปลี่ยนของเจ้าเสีย ! ”
และมิรอให้หัวหน้าเผ่ากล่าวอันใดอีก อันหลิงเกอก็หัวเราะออกมา “ได้ เพียงแต่ตอนนี้ข้าอยู่ไกลถึงเมืองเยว่เฉิง มิรู้ว่าตอนนี้หนอนกู่ตัวแม่จักทำอันใดหนอนกู่ตัวลูกที่อยู่ในกายข้าได้หรือไม่ ? ”
อันหลิงเกอก็อยากลองดูเช่นกันว่าพิษหนอนกู่จักถูกจำกัดด้วยระยะทางหรือไม่
หัวหน้าเผ่าได้ยินดังนั้นก็เอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ขอเพียงท่านยอมอยู่ให้ข้าศึกษาหนอนกู่คู่สุดท้าย ข้าจักรับประกันความปลอดภัยของท่าน ! ทั้งยังปล่อยน้องชายของท่านไปอีกด้วย ข้อเสนอนี้เป็นเยี่ยงไร ? ”
เมื่อหัวหน้าเผ่ากล่าวเสร็จก็เรียกลูกน้องเข้ามาและสั่งให้ไปพาตัวเชลยมาที่นี่
มู่จวินฮานจึงหันไปมองหน้าอันหลิงเกอด้วยสีหน้ามิสู้ดี “เจ้าจักทำอันใด ! ”
อันหลิงเกอมองมู่จวินฮานแล้วเอ่ยปลอบ “ท่านวางใจเถิด ข้ามิเป็นอันใดหรอกเจ้าค่ะ”
กล่าวจบอันหลิงเกอก็มองไปทางหัวหน้าเผ่า เมื่อเห็นว่าเขามิได้สนใจทางนี้ก็รีบกระซิบที่ข้างหูของมู่จวินฮาน “ข้าจักอยู่ที่นี่เพื่อถ่วงพวกเขาไว้ พวกท่านกลับไปคิดหาวิธีเพราะตอนนี้มีเพียงเผ่าหมอเทวดาเท่านั้นที่จักนำหนอนกู่ออกมาได้ ให้พวกเขาลองศึกษาดูก็มิเป็นไรเจ้าค่ะ”
หลังจากนั้นมู่จวินฮานก็กลับมาถึงกองทัพ อันอิงเฉิงเห็นเพียงพวกมู่จวินฮานที่กลับมา แต่มิเห็นเงาของอันหลิงเกอจึงเอ่ยด้วยความเป็นห่วง “ท่านอ๋อง เกอเอ๋อเล่า ? เหตุใดนางมิได้กลับมากับพวกท่าน ? ”
มู่จวินฮานเห็นท่าทางร้อนรนของอันอิงเฉิงก็มิรู้ว่าจักกล่าวด้วยน้ำเสียงเช่นไรดี เขาเงียบไปนานแล้วสุดท้ายก็เลือกปิดบังเรื่องหนอนกู่เอาไว้ “นางใช้ตนเองแลกเปลี่ยนกับน้องชายทั้งสอง”
เมื่อได้ยินเยี่ยงนั้นอันอิงเฉิงก็กล่าวออกมาอย่างสะเทือนใจ “ว่าอันใดนะ ? เกอเอ๋อ เด็กคนนี้…”
อันหลิงเหยียนและอันหลิงหยูเห็นดังนั้นก็เสียใจมิน้อย อันหลิงหยูเดินไปข้างกายบิดาแล้วเอ่ยขอโทษ “ท่านพ่อขอรับ ลูกทำให้ท่านต้องลำบากแล้ว…”
อันอิงเฉิงมองอันหลิงหยูแล้วก็ตบหลังมืออีกฝ่ายเบา ๆ “เจ้านี่นะ ลำบากเจ้าแล้วเช่นกัน”
ตอนนี้เขารู้สึกแค้นเคืองตนเองที่เป็นหัวหน้าครอบครัวผู้มิได้เรื่อง ขนาดเผ่าหมอเทวดาเขาก็ยังมิสามารถต่อกรได้ !
อันหลิงเหยียนที่มองพวกเขาอยู่ก็คุกเข่าให้มู่จวินฮาน “ข้าน้อยทำผิดต่อท่านอ๋อง ขอท่านอ๋องได้โปรดลงโทษด้วยขอรับ ! ”
ตั้งแต่รู้ว่าอันหลิงเกอเสียสละตนเพื่อช่วยพวกเขา อันหลิงเหยียนก็มิได้สนใจเรื่องที่ผ่านมาอีก
สถานการณ์ตอนนี้แม้จักวุ่นวาย แต่ตอนนี้มู่จวินฮานมาถึงเมืองเยว่เฉิงแล้วก็สามารถจัดการทหารได้เป็นอย่างดี ทำให้กำชัยชนะได้หลายครั้ง
กอปรกับมู่จวินฮานเข้าใจเรื่องพิษหนอนกู่ดีจึงสามารถเอาชนะแผนการของศัตรูได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ส่วนทางฝั่งเผ่าหมอเทวดา หัวหน้าเผ่าต้องการหนอนกู่คู่นี้มากจึงพยายามทำตามคำขอของอันหลิงเกออย่างเต็มที่ ดังนั้นมิเพียงอันหลิงเกอจักมิได้รับความลำบากอันใดแล้วยังอยู่อย่างสุขสบายอีกด้วย
เดิมทีเขาคิดจักนำหนอนกู่ตัวลูกออกมาจากกายของอันหลิงเกอ จากนั้นก็ไปตามหาฟางซู่ซู่ที่เมืองจิงเพื่อเอาหนอนกู่ตัวแม่อีกที
ทว่าหนอนกู่คู่นี้ถูกมอบให้หมอฟางที่อยู่ในเผ่า พวกเขาจึงมิเข้าใจมันมากนัก ไปไปมามามิว่าทำเช่นไรก็ยังมิสามารถนำมันออกได้
“หัวหน้าเผ่า หากเราปล่อยไว้เช่นนี้ก็อาจพ่ายแพ้ได้ขอรับ ! ” ลูกน้องของหัวหน้าเผ่ารายงานอย่างร้อนรน
หัวหน้าเผ่าได้ยินก็รู้สึกโมโหจึงยกเท้าถีบลูกน้องจนกระเด็นออกไปแล้วตะโกนเสียงดัง “มิได้เรื่อง ข้าจักมีพวกเจ้าไว้ทำไม ? ไสหัวไปให้พ้น ! ”
ลูกน้องคนนั้นรีบออกไปอย่างลนลาน “ขอรับ…”
“หมดกัน เพราะมันแท้ ๆ…มู่จวินฮาน ! ”
จากนั้นหัวหน้าเผ่าก็เดินไปหาอันหลิงเกออย่างโมโห เมื่อเดินไปถึงประตูก็ใช้เท้าถีบมันอย่างแรงแล้วสั่งลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าประตูว่า “ไปจับนางมาให้ข้า ! ”