บทที่ 454 เลเวล 47 กับค่าสถานะปัจจุบัน

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

บทที่ 454 เลเวล 47 กับค่าสถานะปัจจุบัน

บทที่ 454 เลเวล 47 กับค่าสถานะปัจจุบัน

“ให้ตายเถอะ ไอ้บ้านี่!” ผู้เล่นนักธนูฉุนขาดหลังได้ยินเซียวเฟิงพูดเหมือนเยาะเย้ยเขาเช่นนั้น

“เย็นไว้! เย็นไว้ก่อนพี่ชาย! ที่นี่น่ะ เมืองแห่งความโศกเศร้านะ! ขืนพี่ทำอะไรบุ่มบ่ามที่นี่ล่ะก็ พี่จะซวยเอานะ!” โชคยังดีที่ผู้เล่นนักเวทคนนั้นรั้งตัวนักธนูไว้ทัน

“ฉันไม่ได้จะหาเรื่องใครเลยนะ ฉันชื่อ ‘แด๊ด’ จริง ๆ ” เซียวเฟิงรู้สึกพูดไม่ออก ท้ายสุดจึงยอมปลดการซ่อนชื่อตัวละครออก เผยให้เห็นตัวอักษรคำว่า ‘แด๊ด’ สว่างโร่ขึ้นมาจนเป็นที่จับตามอง

“…”

คราวนี้แม้แต่ผู้เล่นนักเวทก็พลอยพูดอะไรไม่ออกไปด้วย เขามองชื่อตัวละครของเซียวเฟิง แล้วอ้าปากค้าง

ส่วนนักธนูคนนั้นก็ถึงกับชะงักนิ่งไปด้วยสีหน้านิ่งชา

ปฏิกริยาของทั้งสองทำเอาเซียวเฟิงประหลาดใจเล็กน้อย นั่นเพราะเขาค่อนข้างจะมั่นใจเลยว่าเมื่อครั้งอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งล่าสุด ชื่อตัวละครของเขาก็น่าจะแสดงให้เห็นไปแล้ว หรือว่าพวกนี้ไม่ได้ดูการถ่ายทอดสดงั้นเหรอ?

“เดี๋ยวก่อนสิ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าชื่อตัวละครนี้มันคุ้น ๆ จัง!”

ในที่สุด ผู้เล่นนักเวทก็ตระหนักอะไรบางอย่างขึ้นมาได้แล้วหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง

“จริง ๆ พอนายพูดแบบนี้ ฉันก็เริ่มรู้สึกเหมือนกัน” ผู้เล่นนักธนูเองก็เริ่มมองเซียวเฟิงด้วยความสงสัยแล้วหลังจากพูดไปเช่นนั้น

“พี่เซียว!”

ทว่าก่อนที่ทั้งสองจะคิดออก เฉียนโตวโตวและซือเยี่ยจิ๋งก็เป็นฝ่ายเข้ามาเจอเซียวเฟิงเสียก่อน พวกเธอทั้งสองตั้งใจจะกลับไปที่ปราสาทกันแต่มาเจอเซียวเฟิงก่อนพอดี เพราะงั้นพวกเธอจึงรีบเข้ามาให้ทันใด

“พี่เซียว! พี่หายไปตั้งสามวันเลยนะ! ไม่ใช่ว่าพี่สัญญากับพวกเราแล้วเหรอว่าจะอยู่เล่นเกมด้วยไม่หายไปไหนอีกแล้วน่ะ!”

เฉียนโตวโตวไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย เธอยังคงเป็นพวกไม่สนใจสายตาคนอื่นที่มองมาดังเดิม หญิงสาวเดินถลาเข้าหาเซียวเฟิงและกอดเขาไว้แน่น ๆ พลางพ่นลมหายใจฟึดฟัด

ทางด้านซือเยี่ยจิ๋งก็กลับไปสวมชุดคลุมสีดำเหมือนเดิมพร้อมกับซ่อนชื่อตนเองไว้ให้ลึกลับ เธอยังคงทำตัวไม่โดดเด่นเหมือนที่เป็นมาตลอด และมักจะมองอยู่ห่าง ๆ ให้เซียวเฟิงรับรู้ได้ถึงการเฝ้ามองและรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเท่านั้น หากเป็นแต่ก่อน ยามที่เซียวเฟิงสบตากลับ เธอก็จะกรอกตาหนีไป แต่ตอนนี้เธอดูจะมีคุณลักษณะอันพึงมีของสตรีมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อเซียวเฟิงหันกลับไปมองเธอ สาวเจ้ากลับหลบสายตาไปด้วยความรู้สึกผิด และไม่กล้าหันกลับมาสบตามองเซียวเฟิงอีก

“รีบไปเถอะ ฉันพกมาแค่ชุดเกราะมังกรเท่านั้น พวกเครื่องประดับกับหน้ากากระดับเทพเจ้าถูกกับไว้ในคลังแสงนู่น”

ซือเยี่ยจิ๋งสลัดความเขินอายแล้วเดินเข้ามากระซิบเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงใจเย็นมาก ๆ แต่เพียงแค่ได้ยิน เซียวเฟิงก็รับรู้ได้ว่าเธอกำลังฝืนตัวเองให้พูดด้วยน้ำเสียงนั้น

“อ่าฮะ” เซียวเฟิงพยักหน้าและเดินตามสองสาวไปยังคลังเก็บของ ซึ่งที่นั่นก็อยู่ทางเดียวกับปราสาทด้วย จริง ๆ ที่แห่งนี้ก็ไม่ใช่คลังเก็บของเสียทีเดียว แต่มันคือห้องเก็บของในปราสาทของเมืองแห่งความโศกเศร้าเลย ตามปกติแล้วจะไม่มีใครใช้กัน จะมีก็แต่พวกคนที่มียศสูงระดับขุนนางเท่านั้นถึงจะสามารถเข้ามาใช้ห้องเก็บของแห่งนี้ได้ ดังนั้นมันจึงเป็นส่วนที่มีความปลอดภัยสูงมาก ๆ

“พี่เซียว! ฮืออออออ! ฉันถูกจิ๋งจิ๋งกลั่นแกล้งด้วยล่ะ! พี่ต้องช่วยฉันนะ!” ตลอดทางที่เดินมาด้วยกัน เฉียนโตวโตวกอดแขนเซียวเฟิงไว้เหมือนปลาหมึกที่กำลังรัดเหยื่อ เธอแทบจะสิ่งเข้าไปในร่างของเซียวเฟิงพร้อมกับโวยวายไปตลอดทางด้วย

“แกล้ง? พวกเธอแกล้งอะไรกัน?”

เซียวเฟิงมองสองสาวด้วยความประหลาดใจ ตลอดสามวันที่เขาไม่อยู่นั้นเกิดอะไรขึ้นที่คฤหาสน์บ้างนะ? ถ้าจะบอกว่าพวกเธอสู้กันล่ะก็ ไม่มีทางที่เฉียนโตวโตวจะเป็นคู่ต่อสู้ให้ซือเยี่ยจิ๋งได้เลย เพราะยังไงเสียเธอคนนั้นก็ได้รับการฝึกปรือมาเป็นอย่างดี แล้วแบบนี้พวกนี้จะก่อเรื่องอะไรกันได้นะ?

“ฮืออออออ! หลังจากที่จิ๋งจิ๋งเปิดเผยหน้าจริงไปตอนอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ชิงชัย อันดับเทพธิดาประจำฮัวเซียก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาทันที! แล้วฉันในตอนนี้ก็หลุดออกจากอันดับนี้ไปแล้วด้วย! พี่เซียว พี่ต้องช่วยโหวตให้ฉันกลับขึ้นไปให้ได้นะ!”

ที่แท้เฉียนโตวโตวก็แค่แกล้งร้องไห้ แต่อย่างน้อย ๆ มันก็ทำให้เซียวเฟิงโล่งใจขึ้นมาได้เมื่อมันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรอย่างที่เขากังวล

“…โอเค” เขารู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย เพราะจากที่เขาจำได้ เฉียนโตวโตวนั้นเป็นเทพธิดาอันดับ 10 ของอันดับเทพธิดาแห่งฮัวเซีย เธอไม่เพียงแต่ถูกยกย่องว่าเป็นเทพธิดารั้งท้ายเท่านั้น แต่ยังมีศักดิ์เป็นเจ้าของร้านค้ามหาสมบัติอีกด้วย ด้วยฉายาและตัวตนทั้งสองอย่างนี้ มันก็ทำให้เธอมีแฟนคลับและผู้ติดตามมากมายแล้ว แต่ตอนนี้ หลังจากที่ใบหน้าที่แท้จริงของซือเยี่ยจิ๋งถูกเปิดเผย หนึ่งในฉายาที่เธอภาคภูมิใจก็ผลักเธอออกไปอย่างไม่แยแสเสียแล้ว

แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าเฉียนโตวโตวนั้นไม่สวย แต่ยังไงเสียเธอก็ยังเด็ก ทั้งร่างกายและเสน่ห์ยังสามารถเติบโตได้อีกเยอะ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ด้วยความร่าเริงและสดใสของเฉียนโตวโตวมันก็ทำให้เธอยืนอยู่เหนือสาว ๆ ในวัยเดียวกันได้อย่างโดดเด่นแล้ว มิเช่นนั้นเธอคงไม่มีวันติด 1 ใน 10 อันดับเทพธิดาแห่งเขตฮัวเซียที่มีประชากรผู้หญิงนับร้อยล้านคนเลยก็เป็นได้

หลังจากที่เห็นเซียวเฟิงพยักหน้าให้ เฉียนโตวโตวก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก เธอกอดแขนเซียวเฟิงไว้แน่นขึ้นจนในที่สุดซือเยี่ยจิ๋งก็อดไม่ได้ที่จะกรอกตามองใส่เซียวเฟิงไปด้วย

“ฉะ…ฉันเข้าใจถูกไหมนะ? เด็กสาวคนนั้นเป็นคนรวยมาก ๆ เลยงั้นเหรอ?”

ไม่ทันที่เซียวเฟิงและสองสาวจะเดินลับตา นักเวทคนเดิมก็มองไปยังกลุ่มคนเหล่านั้นและพูดด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา

“นะ…นั่นมันเธอนี่! เธอคนนั้นไง! ที่เป็นเจ้าของร้านค้ามหาสมบัติน่ะ! ฉันเคยเห็นเธอไกล ๆ เมื่อตอนมาร่วมงานประมูลที่นี่! ไม่คิดเลยว่าพอมาเห็นใกล้ ๆ แล้วจะเป็นคนสวยขนาดนี้!”

“ไม่ นั่นไม่ใช่เรื่องที่ควรจะคิดตอนนี้ ทำไมหญิงสาวที่มีสถานะเป็นถึงเจ้าของร้านค้ามหาสมบัติคนนั้นถึงได้ดูสนิทกับชายคนนั้นจังเลยล่ะ?”

“เวรล่ะ! ฉันจำเขาได้แล้ว! ชายคนที่บอกว่าตัวเองชื่อ แด๊ด ก่อนหน้านี้น่ะ! ชะ…ชะ…ชื่อตัวละครนั่น เป็นชื่อของเจ้าแห่งฮีลเลอร์! เขาคือ เจ้าแห่งฮีลเลอร์!”

ในที่สุดผู้เล่นนักเวทคนนั้นก็ตื่นขึ้นมาจากความฝันและตบหัวตนเองรุนแรง

“เฮ้ย! จริงด้วย! ฉันเองก็จำได้แล้ว!” นักธนูผู้หยาบโลนก็จำได้ตาม ๆ กันมา

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าของร้านค้ามหาสมบัติถึงต้องมาปรนนิบัติเขาดีขนาดนี้! แต่เดี๋ยวก่อนนะ ฉันว่ามีบางอย่างไม่ปกติ” ขณะที่นึกขึ้นได้ว่าหนุ่มสาวตรงหน้านั้นเป็นใคร เรื่องอีกเรื่องหนึ่งก็ผุดขึ้นมาจนนักเวทผู้ไหวตัวเร็วต้องขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์น่ะ เพิ่งจะเปิดเผยเรื่องที่ตัวเองแอบกุ๊กกิ๊กกับท่านไนท์คูนเนอร์เมื่อตอนอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งล่าสุดเหรอ? ทำไมวันนี้เขามาสนิทกับเฉียนโตวโตวคนนั้นซะแล้วล่ะ?”

“ฉันคิดว่าพวกเราไม่ยุ่งเรื่องนี้จะดีกว่านะ ยังไงเสียมันก็เป็นเรื่องของคนใหญ่คนโต ไม่เกี่ยวกับเราหรอก” แม้ในตอนแรกเขาจะดูเป็นนักธนูขี้ใจร้อน แต่ตอนนี้เขากลับเป็นคนที่กำลังสั่นเทาราวกับอากาศรอบ ๆ ตัวมันหนาวเสียอย่างงั้น

“อ๋า นั่นสินะ!”

คลังแสงที่ว่านั้นอยู่บริเวณด้านหลังเขตที่อยู่อาศัยของเหล่าขุนนาง มันใช้เวลาไม่นานก็เดินมาถึงได้ ซึ่งเซียวเฟิงก็ได้รับของทุกอย่างของเขาคืนจากด้านในนี้ รวมถึงได้ชุดเกราะมังกรปีศาจคืนมาจากซือเยี่ยจิ๋งด้วย ตอนนี้ค่าสถานะและความแข็งแกร่งของเขามันฟื้นกลับมาในจุดที่สุดของที่สุดแล้ว! พลังที่หลั่งไหลภายในตัวนี้มันอดทำให้เซียวเฟิงเปิดหน้าต่างข้อมูลตัวละครขึ้นมาดูไม่ได้!

ชื่อ : แด๊ด

เลเวล : 47

คลาส : สังฆราชศักดิ์สิทธิ์

ค่าชื่อเสียง : 27,280 แต้ม

ธาตุ : ศักดิ์สิทธิ์

พลังชีวิต : 1,550 / 1,550 หน่วย

มานา : 1,550 / 1.550 หน่วย

พลังโจมตีกายภาพ : 750 – 750 หน่วย

พลังโจมตีเวทมนตร์ : 750 – 750 หน่วย

พลังป้องกันกายภาพ : 475 – 475 หน่วย

พลังป้องกันเวทมนตร์ : 475 – 475 หน่วย

ค่าสถานะพื้นฐาน

ค่าความแข็งแกร่ง 750 แต้ม

ค่าร่างกาย 750 แต้ม

ค่าความว่องไว 750 แต้ม

ค่าเวทมนตร์ 750 แต้ม

ค่าจิตวิญญาณ 750 แต้ม

ค่าสถานะ : 0 แต้ม

สัตว์เลี้ยง : เทวทูต 6 ปีก ‘เสี่ยวไป๋’ (เลเวล 47 ระดับตำนาน)

สัตว์ขี่ : ยูนิคอร์นแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ ‘เสี่ยวเสวีย’ (เลเวล 47 ระดับเทพเจ้า)

ทักษะชีวิต : ทักษะตรวจสอบ [ระดับปรมาจารย์] (+1), ทักษะรวบรวม [ระดับกลาง] (+1), ทักษะหล่อหลอม [ระดับปรมาจารย์] (+1)

สกิลอาชีพ :

โฮลี่ไลท์ (เลเวล 4) (+1) : ฟื้นฟูพลังชีวิตเป้าหมาย 25% + ค่าสปิริตของผู้ร่าย คูลดาวน์ 30 วินาที

ถ้อยคำแห่งเงา (เลเวล 4) (+1) : ร่ายเงาดำใส่เป้าหมาย ฟื้นฟูพลังชีวิต 1% ของพลังชีวิตทั้งหมดต่อวินาทีแก่พันธมิตร หรือ ทำความเสียหาย 0.5% จากพลังชีวิตทั้งหมดต่อวินาที ระยะเวลาขึ้นอยู่กับค่าสปิริตของผู้ร่ายหาร 10 คูลดาวน์ 3 นาที

ชำระล้าง (เลเวล 4) (+1) : ลบล้างสถานะผิดปกติของเป้าหมาย อัตราความสำเร็จขึ้นอยู่กับระดับของสถานะผิดปกตินั้น ๆ หากเป็นระดับที่ต่ำกว่าหรือเท่ากับเลเวลของสกิลนี้ อัตราความสำเร็จจะอยู่ที่ 100% หากสูงกว่า 1 ระดับ อัตราความสำเร็จจะเหลือ 50% และถ้าหากสูงกว่า 2 ระดับ อัตราความสำเร็จจะเหลือเพียง 0% เท่านั้น คูลดาวน์ 20 วินาที

ปัดเป่า (เลเวล 4) (+1) : ขจัดผลของเวทมนตร์พื้นที่ ขอบข่ายแสดงผลขึ้นอยู่กับค่าสปิริต คูลดาวน์ 0 วินาที แต่ใช้มานาวินาทีละ 1%

อวยพรอาวุธ (เลเวล 4) (+1) : เพิ่มพลังโจมตีกายภาพให้เป้าหมาย 25% + ค่าพลังเวทผู้ร่าย ระยะเวลา 30 วินาที คูลดาวน์ 60 วินาที

อวยพรความกล้า (เลเวล 4) (+1) : เพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์ให้เป้าหมาย 25% + ค่าพลังเวทผู้ร่าย ระยะเวลา 30 วินาที คูลดาวน์ 60 วินาที

อวยพรชีวิต (เลเวล 4) (+1) : เพิ่มพลังค่าความแข็งแกร่งให้เป้าหมาย x 200% ของพลังชีวิตสูงสุด ระยะเวลา 30 วินาที คูลดาวน์ 60 วินาที

อวยพรคุ้มครอง (เลเวล 4) (+1) : เพิ่มพลังป้องกันกายภาพและพลังป้องกันเวทมนตร์ให้เป้าหมาย 25% + 25% ค่าความแข็งแกร่งกายภาพของผู้ร่าย ระยะเวลา 30 วินาที คูลดาวน์ 60 วินาที

ค้อนแห่งการพิพากษา (เลเวล 6) (+1) : เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 600% ในการโจมตีครั้งต่อไป ถือเป็นการโจมตีแบบพื้นที่ คูลดาวน์ 60 วินาที

หอกแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ (เลเวล 4) (+1) : เมื่อหอกแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ถูกเขวี้ยงออกไป สร้างความเสียหาย 400 + 40% ของพลังโจมตีเวทมนตร์แก่เป้าหมาย และเมื่อเป้าหมายถูกโจมตี จะถูกตรึงไว้กับพื้นชั่วขณะหนึ่ง

รักษา (เลเวล 4) (+1) : รักษาและฟื้นฟูเป้าหมายอย่างต่อเนื่องในเวลา 8 วินาที อัตราการฟื้นฟูอยู่ที่ พลังโจมตีเวทมนตร์ x 40% ของพลังชีวิตสูงสุดผู้ร่ายต่อวินาที คูลดาวน์ 30 วินาที

หอกศักดิ์สิทธิ์ลองกินัส (เลเวล 2) (+1) : ทำลายพื้นที่เป็นวงกว้างและสร้างคลื่นอัดกระแทก ความเสียหายขึ้นอยู่กับ พลังโจมตีเวทมนตร์ x ค่าพลังเวท x 2 คูลดาวน์ 72 ชั่วโมง และใช้มานา 100%

อุปกรณ์ :

กรงเล็บมังกร (อุปกรณ์สวมใส่มือ ระดับอาร์ติแฟกต์)

เกราะแขนมังกร (อุปกรณ์สวมใส่แขน ระดับอาร์ติแฟกต์)

ชุดเกราะมังกร (อุปกรณ์สวมใส่เต็มตัว ระดับอาร์ติแฟกต์)

เกราะเอวมังกร (อุปกรณ์สวมใส่เอว ระดับอาร์ติแฟกต์)

เกราะเท้ามังกร (อุปกรณ์สวมใส่เท้า ระดับอาร์ติแฟกต์)

เครื่องประดับ :

วัฏจักรชีวิต (ต่างหู เลเวล 20 ระดับเทพเจ้า)

การตื่นของความรอบรู้ (ต่างหู เลเวล 30 ระดับเทพเจ้า)

ถุงเครื่องหอมมันดาลา (สร้อยคอ เลเวล 15 ระดับเงิน)

แหวนอวกาศ (แหวน เลเวล 20 ระดับทอง)

แหวนแห่งชะตากรรม (แหวน เลเวล 5 ระดับเงิน)

แหวนศิลา (แหวน เลเวล 35 ระดับเทพเจ้า)

ชุดแฟชั่น : หน้ากากกระโหลก, ชุดนักบวช

ฉายา : ผู้ศรัทธาในแสงสว่าง, อาร์คบิชอป, ดยุกแห่งความมืด

ทุกอย่างทุกอย่างได้กลับมาหมดแล้ว! พลังต่อสู้ของเซียวเฟิง กลับมาในแบบที่มันควรจะเป็นเสียที! และด้วยค่าสถานะที่สูงเสียดฟ้านี้ ชายหนุ่มก็จะไม่ต้องเกรงกลัวใครอีก!

ค่าสถานะที่สูงถึง 750 แต้มนี้ สูงกว่าผู้เล่นธรรมดาทั่วไปถึงสองเท่า ดีไม่ดีก็สามถึงสี่เท่าเลย! ไม่ว่าจะด้วยพลังชีวิต, มานา, พลังโจมตี รวมไปถึงพลังป้องกัน ค่าพวกนี้แค่ได้เห็นตัวเลขก็ทำเอาคนอื่นท้อถอยไม่อยากสู้ด้วยไปแล้ว!

ทั้งหมดนี่ยังถือว่าอยู่ในขั้นปกติ เพราะเมื่อไหร่ที่เซียวเฟิงร่ายบัฟให้ตนเอง ค่าตัวเลขเหล่านี้มันจะยิ่งน่ากลัวขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า!

ในส่วนของสกิล เพราะเซียวเฟิงใช้เวลาอยู่กับการประลองในเขตฮันกึลเป็นเวลานาน มันทำให้ชายหนุ่มได้รับแต้มชัยชนะเยอะมาก ๆ ดังนั้นนอกจากสกิลหอกศักดิ์สิทธิ์ลองกินัสแล้ว สกิลอื่น ๆ ที่เขาชำนาญและใช้เป็นประจำก็ถูกยัดแต้มสกิลเข้าไปจนเต็มเปี่ยม แล้วยิ่งได้รับโบนัสเลเวลสกิลของชุดเกราะมังกรเข้ามาด้วยแล้ว มันก็ทำให้เลเวลสกิลทุกสกิลของเขาน่ากลัวขึ้นทันตาเลย!

ส่วนอุปกรณ์ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงยกเว้นแหวนเทพเจ้าเลเวล 35 ที่เขาได้มาจากเขตฮันกึลอย่าง แหวนศิลา อย่างไรก็ตาม เพราะเซียวเฟิงไม่ได้ออนไลน์มาเป็นเวลานาน มันเลยทำให้เขาไม่ได้อัปเกรดอุปกรณ์หลาย ๆ อย่างจนเลเวลมันค่อนข้างจะรั้งท้ายมาก ยกตัวอย่างเช่น สร้อยคอเครื่องหอมมันดาลา ที่มีเลเวลเพียง 15 เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เซียวเฟิงมีสร้อยคอเลเวล 50 ระดับเทพเจ้าอยู่ในกระเป๋าอยู่แล้ว ที่สามารถสวมใส่ได้หลังจากที่เขาเลเวล 3 ดังนั้นเซียวเฟิงจึงไม่ได้รีบร้อยเปลี่ยนอะไร

ท่ามกลางเครื่องประดับที่เป็นแหวนทั้งหมดเองก็มีแหวนที่เลเวลต่ำ ๆ อยู่สองวง อย่าง แหวนแห่งโชคชะตา ที่มีเลเวล 5 อันที่จริงเขาค่อนข้างที่จะหนักใจเลยเมื่อคิดถึงเรื่องเปลี่ยนแหวน เพราะสิ่งที่ทำให้มันไม่ธรรมดา นั่นก็คือการมันคุณสมบัติในการเพิ่มพลังชีวิตให้เขามากถึง 50 หน่วยเลย ซึ่งนับว่าดีมาก ๆ ทุกท่านควรจะรู้ไว้ว่า การที่พลังชีวิตโดยรวมของเซียวเฟิงมีมากถึง 1,550 หน่วยนั้น 50 หน่วยที่ห้อยท้ายก็มาจากแหวนวงนี้นั่นแหละ!

ส่วนแหวนอีกวงหนึ่งก็คือ แหวนกระโหลก ที่เขาคิดแล้วว่าควรจะเปลี่ยนมันได้ แหวนระดับทองเลเวล 20 วงนี้ไม่เหมาะกับเขาอีกต่อไป ตอนนี้ไทแรนนี่ติดหนี้แหวนอาร์ติแฟกต์กับเขาอยู่ชิ้นหนึ่ง และเซียวเฟิงหวังว่าจะนำแหวนวงนั้นมาแทนที่แหวนกระโหลกวงนี้ได้