บทที่ 82 เทาเท่เกลียดเธอขนาดนั้น

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

จู่ๆถูกเจเทาวน์เอ่ยถามแบบนี้ หลินจือก็หยุดดื่มน้ำไป สีหน้าท่าทางที่งุนงงขึ้นมา

หลังจากที่สบตาที่เต็มไปด้วยความรักความห่วงใยของเจเทาวน์แล้ว เธอก็ดึงสติกลับมาในทันที

ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างที่นานิพูดเอาไว้ว่าเจเทาวน์สนใจเธอ

หลินจือรู้สึกมาโดยตลอดว่านานิกำลังจับคู่ให้ไปทั่ว แต่เวลานี้แววตาของเจเทาวน์เปิดเผยทุกอย่างออกมาแล้ว

เธอวางแก้วน้ำลงอย่างไม่สบายใจ : “ประธานเจเทาวน์ ฉัน–”

คำพูดข้างหลังเธอยังไม่ได้เอ่ยพูดออกมา เจเทาวน์ก็สารภาพรักกับเธอแล้ว : “หลินจือ ผมชอบคุณนะ”

หลินจือรู้สึกตกใจมาก เกือบจะหนีไปแล้ว

ไม่มีคนมาสารภาพรักกับเธอมาหลายปีมากแล้ว พอเรียนจบมหาวิทยาลัยก็แต่งงานกับเทาเท่ เพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันมานอกจากนานิแล้วก็ไม่ได้ติดต่อใครเลยซักคน ตัดขาดจากโลกและทำหน้าที่เป็นคุณหลินจือ

ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหนมากเกินไป เลี่ยงการมีข่าวทางด้านลบให้กับเทาเท่และตระกูลฟอเรนา

และเวลานี้ถูกเจเทาวน์สารภาพรักขึ้นมากะทันหันแบบนี้ นอกจากหลินจือจะตกตะลึงแล้วก็ยังตกใจอีกด้วย

เจเทาวน์มองออกถึงความไม่สบายใจของเธอ น้ำเสียงจึงค่อยๆชะลอลง : “ตอนแรกผมเพียงแค่ถูกความเฉียบแหลมทางด้านภาษาของคุณดึงดูด ต่อมาค่อยๆได้มาใกล้ชิด ก็พบว่านิสัยของคุณก็สวยงามและอ่อนโยนมาก ทำให้อยากจะทะนุถนอมและปกป้อง”

“ผมรู้ว่าในใจของคุณตอนนี้ยังไม่อยากจะนึกถึงเรื่องความรัก เดิมทีแล้วผมอยากจะเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ต่อ แต่เรื่องสองพ่อลูกเมื่อครู่นี้ ทำให้ผมไม่อยากจะซ่อนความรู้สึกต่อไปแล้ว”

เจเทาวน์มองเธอ แล้วเอ่ยพูดขึ้นทีละคำๆอย่างจริงใจ : “ผมอยากยืนอยู่ข้างๆคุณ ปกป้องคุณ ทำให้คุณไม่ต้องมาถูกคนอื่นทำร้าย”

หลินจือยอมรับ ว่าตอนนี้ที่เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดแบบนี้ คำพูดของเจเทาวน์ทำให้เธอรู้สึกประทับใจมาก

แต่ยิ่งประทับใจ เธอก็ยิ่งเข้าใจในเหตุผล

ยิ่งรู้ เธอก็จะทำร้ายเจเทาวน์ไม่ได้

เธอส่ายหน้าแล้วเอ่ยขึ้น : “ประธานเจเทาวน์ ขอบคุณสำหรับความรักของคุณนะคะ แต่ฉันเชื่อว่าต่อไปคุณจะยังสามารถเจอผู้หญิงที่ดีกว่านี้ได้”

เธอเคยหย่ามาแล้ว ไม่คู่ควรกับเจเทาวน์

สุภาพบุรุษที่สมบูรณ์แบบอย่างเจเทาวน์ ก็คู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่า

เจเทาวน์รู้ว่าทำไมเธอถึงได้พูดแบบนี้ออกมา จึงเอ่ยถามเธออย่างเจ็บปวด : “ทำไมดูถูกตัวเองแบบนี้? คุณเป็นคนดีมาก สมบูรณ์แบบ แล้วก็เก่งมากด้วย”

เจเทาวน์พยายามทำให้เธอหลินจือยอมวางความขัดข้องที่อยู่ในใจลง : “ฐานะทางครอบครัวของผมธรรมดามาก พ่อแม่ของผมก็เป็นคนธรรมดา อยู่กับผม คุณไม่ต้องแบกรับความกดดันเรื่องฐานะทางครอบครัวเลย”

นี่เป็นความเจ็บปวดครั้งใหญ่ในหัวใจของหลินจือ เป็นเพราะว่าวีนาและพินอินไม่ได้ดูถูกเธอจากก้นบึ้งของหัวใจ ดังนั้นช่วงสามปีนั้นในใจของเธอจึงมีจุดมืดขนาดใหญ่เกิดขึ้นมา

หลินจือรู้สึกได้ถึงความจริงใจของเจเทาวน์ แต่เธอยังคงหลบตาแล้วเอ่ยพูดขึ้น : “ขอโทษนะคะ ประธานเจเทาวน์…….”

เธอเคยรู้สึกรัก รู้ว่าความรักเป็นความรู้สึกแบบไหน

แต่กับเจเทาวน์ เวลานี้เธอไม่ได้มีความรู้สึกรัก

แววตาของเจเทาวน์มืดมนลง แต่จากนั้นเขาหัวเราะขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น : “ผมก็รู้อยู่แล้วว่าคุณจะปฏิเสธ”

หนึ่งปีก่อนหลังจากที่เธอหย่ากับเทาเท่ เธอก็แสดงออกมาว่ามุ่งมั่นในเรื่องการทำงานมาโดยตลอด เจเทาวน์มองออก ดังนั้นเขาถึงไม่ได้เอ่ยพูดอะไรมากมายอีก

ถ้าหากไม่เกิดเรื่องวันนี้ขึ้น เขาก็จะอดทนต่อไปรอให้เธอเปิดใจ

“ไปเถอะครับ เดี๋ยวไปส่งคุณกลับบ้านก่อน” เจเทาวน์ลุกขึ้นแล้วเอ่ยพูด

หลินจือรีบพูดขึ้นมา : “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันกลับเองก็ได้”

เจเทาวน์ยืนยันว่าจะไปส่งเธอ : “ท่าทางคุณเป็นแบบนี้ ผมไม่วางใจที่จะให้คุณกลับไปเองหรอกนะ คุณเองก็ไม่ต้องมารู้สึกกดดันกับผมมากนักหรอกครับ”

หลินจือเองก็ทำได้เพียงต้องตามเจเทาวน์แล้ว ตอนที่ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องประชุมด้วยกัน พนักงานคนอื่นๆมองมายังหลินจือ ราวกับว่าเห็นเธอเป็นคนที่ไร้ความรู้สึกไม่เลี้ยงดูพ่อแม่แบบนั้นจริงๆ

หลังจากที่เข้าไปในลิฟต์แล้ว เจเทาวน์ก็ปลอบใจหลินจือ : “กลับมาแล้วผมจะช่วยคุณอธิบายกับทุกคนนะครับ”

เจเทาวน์คิดแล้วนั้นก็เอ่ยพูดขึ้นมาอีกครั้ง : “เรื่องนี้ ถ้าหากคุณมีอะไรที่ลำบากก็บอกกับผมได้ตรงๆเลยนะ”

“ขอบคุณค่ะ” หลินจือรู้สึกซาบซึ้งมา แต่เธอคิดว่าเธอคงจะไม่ต้องการความช่วยเหลือเป็นการชั่วคราว

ตอนบ่ายหลังจากที่เธอได้รับหลักฐานผลการตรวจดีเอ็นเอแล้ว ก็จะไปบอกความจริงนี้กับสองพ่อลูกชาร์ลี แล้วขีดเส้นความสัมพันธ์กับพวกเขาให้ชัดเจน

เพียงแต่ หลินจือคิดไม่ถึงว่าเธอเพียงแค่รอผลอยู่นั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นมาก่อน

สาเหตุจากคลิปวิดีโอช่วงหนึ่งที่ได้โพสต์ลงบนอินเตอร์เน็ตโดยบุคคลหนึ่ง ในคลิปนั้นเป็นการสัมภาษณ์ชาร์ลี

ในชาร์ลีกำลังให้สัมภาษณ์นั้นร้องห่มร้องไห้ฟ้องถึงความโหดร้ายและความเย็นชาของเธอ บอกว่าเธอไม่เลี้ยงดู บอกว่าตอนที่เขาป่วยเธอก็หายตัวไปเลย

บุคคลนั้นมีแฟนคลับเป็นล้านคน ลักษณะพิเศษของweiboของเขาก็คือการติดตามปัญหาของผู้ปกครองแบบนี้ ดังนั้นพอคลิปได้อัพโหลดขึ้นไปแล้วก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลขึ้นมาในทันที

คำวิพากษ์วิจารณ์นั้นล้วนแต่ด่าว่าหลินจือเป็นลูกอกตัญญู คำพูดแย่ๆก็ล้วนแต่ถูกพูดออกมาทั้งสิ้น

หลินจืออ่านคำวิพากษ์วิจารณ์ที่เหม็นโฉ่เหล่านั้น รู้สึกเพียงว่าโลกกำลังหมุนอยู่

ก่อนหน้านี้เธอเคยเห็นดาราหลายคน หรือเรื่องดังๆที่ถูกโจมตีบนอินเตอร์เน็ตมากมาย แต่เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเอง

ถึงแม้ว่าในคลิปชาร์ลีจะไม่ได้เอ่ยชื่อของเธอ แต่ทุกคนต่างก็รู้กัน

มีคนแอบโพสต์รูปเธอลงในคอมเม้นท์ และเป็นการทำให้หลินจือโดนด่าว่าขึ้นมาอีกครั้ง

รูปถ่ายนั้นดูออกว่าเพิ่งจะถ่ายมาในช่วงระยะนี้ สามารถพูดได้ว่าเป็นการแอบถ่ายเธออีกด้วย

หลินจือที่กำลังโมโหอยู่นั้นมือไม้สั่นเทาไปหมด สามารถถ่ายรูปเธอได้ จะต้องมีจุดประสงค์จะเล่นงานเธออย่างแน่นอน

สูดหายใจเข้าลึกๆ เธอพยายามทำให้ตัวเองนิ่ง

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออกหาชาร์ลี เธอเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา : “พวกคุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”

ชาร์ลีเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เล่นแง่ : “ก็ไม่ยังไง แกไม่เลี้ยงดูฉัน เราก็แต่ไปพูดแขวะกับสื่อแล้วจะทำไม?”

หลินจือหัวเราะเยาะ : “ทำลายฉัน พวกคุณก็พอใจแล้วใช่ไหม?”

ชาร์ลีส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา : “นั่นฉันก็ไม่ได้สนใจแล้ว แกทำให้พวกฉันมีชีวิตไม่ดี พวกฉันก็จะไม่ให้แกมีชีวิตที่ดีเหมือนกัน”

ตอนนี้พวกเขาได้หวังจะเอาเงินจากหลินจือแล้ว เพราะถึงอย่างไรก็มีคนให้เงินพวกเขาแล้ว

หลังจากที่พวกเขาถูกเบลดิ้งไล่ออกมาได้ไม่นาน ก็มีคนติดต่อพวกเขามา บอกว่าต้องการจะให้พวกเขาทำตกต่ำได้ ก็จะให้เงินพวกเขา

และยังแนะนำสื่อวีไอพีให้กับพวกเขาอีก กระแสแบบนี้และกำลังในการเปิดโปงก็มีแล้ว

หลินจือบอกกับชาร์ลี : “ฉันได้ผลตรวจดีเอ็นเอมาแล้ว เดี๋ยวฉันจะประกาศออกมา”

ชาร์ลีโมโหมาก : “ผลตรวจดีเอ็นเอ? แกไม่ทำมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ชาร์ลีคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจือจะยังมีวิธีนี้ด้วย

ก่อนหน้านี้จะเป็นจะตายเขาก็ไม่ยอมรับว่าหลินจือไม่ใช่ลูกแท้ๆ ก็อยากจะยึดเอาตรงจุดนี้ไว้ขอเงินกับหลินจือ

จากความลนลานนี้ ชาร์ลีตวาดออกมาอย่างเล่นแง่ : “ต่อให้เปิดเผยออกมาว่าเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน ถ้าอย่างนั้นแกก็ต้องเลี้ยงดูฉันอยู่ดี ฉันเลี้ยงแกมาจนโตขนาดนี้ ก็เป็นไปตามศีลธรรมเหมือนกัน!”

“แกจะพูดว่าฉันเอาเงินจากเทาเท่นั่นมาตั้งเท่าไหร่แล้วใช่ไหม?”

“แกมีหลักฐานอะไร?”

“ฉันจะพูดว่าฉันไม่ได้เอาไปแม้แต่บาทเดียว มีปัญญาก็ไปให้เทาเท่มาเป็นพยานให้แกสิ!”

“เขาเกลียดแกขนาดนั้น อยากจะให้เขามาเป็นพยานให้ แกฝันไปเถอะ!”

ประโยคเดียวของชาร์ลีที่ว่าเขาเกลียดแกขนาดนั้นทำให้ในใจของหลินจือรู้สึกเจ็บปวด

ใช่ เทาเท่เกลียดเธอขนาดนั้น จะมาเป็นพยานให้เธอได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมรับอย่างเปิดเผยว่าเธอเคยเป็นอดีตภรรยาของเขา

นั่นมันน่าอายเกินไป