บทที่ 524 รักษาได้

บทที่ 524 รักษาได้

ถึงถวนถวนจะยังเด็กแต่เธอก็อ่อนไหวมาก ตั้งแต่คุณครูหวังพูดแบบนั้นที่โรงเรียน เธอก็รู้ว่าจะไม่มีใครเชื่อเธออีกแล้ว

เด็กหญิงจึงรู้สึกเป็นกังวลไม่น้อยเลย ตอนนี้คำพูดไม่อาจดึงความมั่นใจของเธอกลับมาได้แล้ว

แต่สวี่รุ่ยก็งุนงงเล็กน้อยและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

อย่างไรแล้ว ในสายตาของเธอมะเร็งระยะสุดท้ายก็ไม่มีทางรักษาให้หายได้

แต่ชายตรงหน้าเธอก็ดูพึ่งพาได้ยิ่งนัก

ดูจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว เขาไม่เคยคุยโม้โอ้อวดเรื่องอะไรมาก่อน

“แต่…นี่มันเหลือเชื่อเกินไป…”

สวี่รุ่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็คิดไม่ออกว่าจะพูดอย่างไรดี

“น่าเหลือเชื่อใช่ไหมล่ะ? ขึ้นรถสิ ถ้าคุณครูคิดว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ที่ไม่มีวันเกิดขึ้น ผมจะทำให้เห็นเองว่าปาฏิหาริย์คืออะไร”

เมื่อเห็นว่าลูกสาวของตนมีความสุขมากขนาดไหน อวี้ฮ่าวหรานก็อารมณ์ดีตามไปด้วย

ตอนนี้ตงตงและคุณครูหวังอยู่บนรถอีกคันหนึ่งเพื่อล่วงหน้าไปยังโรงพยาบาลก่อน

สวี่รุ่ยพยักหน้าและขึ้นไปบนรถ เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเชื่อใจอีกฝ่ายแล้ว

โรงพยาบาลที่แม่ของตงตงรักษาตัวอยู่ไม่ห่างไปจากโรงเรียนอนุบาลมากนัก หลักจากผ่านไปไม่นานพวกเขาก็ไปถึง

ระหว่างทางอวี้ฮ่าวหรานซื้อผลไม้มามากมายตามคำขอของถวนถวน

ขณะที่ตรงเดินขึ้นบันได จู่ ๆ เขาก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่หนักหน่วงขึ้นในทันใด

ระหว่างทางเดิน ชายวัยกลางคนคนหนึ่งผู้มีหนวดเคราและผมเผ้ายุ่งเหยิงนั่งอยู่

“นี่มัน…พวกเรารู้ช้าเกินไป มันแพร่กระจายไปแล้ว ถึงจะทำคีโมบำบัดก็ไม่มีทางช่วยได้อยู่ดี”

แพทย์หญิงคนหนึ่งข้างกายเขากล่าวด้วยสีหน้าหมองหม่น

“คุณหมอเจียง ผมขอร้อง ได้โปรดทำอะไรสักอย่างเถอะ! ตงตงพึ่งจะ 4 ขวบเอง ผมจะให้เขาเสียแม่ไปไม่ได้!”

ชายวัยกลางคนขอร้องด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปวดร้าว

“เราไม่มีวิธีรักษาโรคนี้จริง ๆ ค่ะ”

แพทย์หญิงสาวส่ายหน้า เธอไม่สามารถทำอะไรได้จริง ๆ

เมื่อมาถึงที่สวี่รุ่ยก็ได้แต่เงียบกริบ นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เขามาที่นี่

ครั้งแรกที่มาเยี่ยม ความสิ้นหวังของมะเร็งระยะสุดท้ายทำให้เธอต้องตกตะลึง

เธอหวาดกลัวการเห็นความสิ้นหวังยิ่งกว่าอะไร

อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วเล็กน้อย หูอันเฉียบแหลมทำให้เขาได้ยินเสียงในห้องผู้ป่วยได้อย่างชัดเจน

“จินเสี่ยว…แล้วคนแก่แบบพวกเราจะทำยังไง…เธอยังเด็กอยู่เลย… ทำไมถึงเป็นโรคนี้ได้ล่ะ…”

“แม่…อย่าทำแบบนี้เลย ตงตงจะกลัวนะ…แม่…”

เสียงจากในห้องผู้ป่วยทำให้หัวใจของเขาบีบแน่นยิ่งกว่าเก่า

แม้จะมีประสบการณ์การใช้ชีวิตมากว่าหลายร้อยปี อวี้ฮ่าวหรานก็อดรู้สึกหนักหน่วงเพราะภาพนี้ไม่ได้

โลกใบนี้เต็มไปด้วยความสุขและความทุกข์ซึ่งน่าประทับใจเหลือเกิน

ประตูตึกคนไข้ถูกผลักเปิดออกอย่างรวดเร็ว

มีคนอยู่ข้างในห้องราว 5-6 คน

บนเตียงโรงพยาบาลคือหญิงสาวผู้ซึ่งมีผิวซีดเผือดคนหนึ่งอายุราว 30 ปีเท่านั้น ร่างกายของเธอดูอ่อนแอเป็นอย่างมาก

ชายผู้อยู่ข้างกายเธอร้องไห้อย่างขมขื่น คำพูดที่สั่นสะท้านของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวังขณะที่พยาบาลคนหนึ่งฉีดยาให้เธอ

ตอนนั้นเอง คุณครูหวังที่มาถึงก่อนก็นั่งลงตรงหน้าเตียงโรงพยาบาลอีกเตียงหนึ่ง และปลอบตงตงในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน

เธอรู้สึกว่ามันปุบปับเกินไปและภาพเช่นนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กจริง ๆ

“ตงตง!”

ถวนถวนดูจะไม่ได้รับผลกระทบจากบรรยากาศโดยรอบ เธอตะโกนลั่นทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง

อวี้ฮ่าวหรานก้มและวางตัวเธอลง

แม่ของตงตงบนเตียงโรงพยาบาลหันไปมองชายที่ประตูด้วยความสงสัย เธอรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคยเล็กน้อยแต่ก็นึกไม่ออกอยู่พักใหญ่

“ฉันแนะนำให้รู้จักนะคะ นี่พ่อของถวนถวนค่ะ วันนี้พวกเรามาเยี่ยมคุณด้วยกัน”

สวี่รุ่ยรีบเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นดังนั้น

“อ้อ…ฉันจำได้แล้ว พวกเราเคยเจอกันมาก่อน”

แม่ของตงตงนึกขึ้นได้ทันที

“คราวก่อนฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉันชื่อจินเสี่ยวค่ะ ขอบคุณที่อุตส่าห์มาเยี่ยมนะคะ”

การเข้ามาของคนนอกทำให้บรรยากาศในห้องพักผู้ป่วยดีขึ้นเล็กน้อย

“แม่ ไม่เป็นไรหรอก…ไม่เป็นไร อาหย่ง…อาหย่งบอกว่าเขาจะดูแลพ่อแม่เอง เขาบอก… เขาบอกว่าเขาจะไม่แต่งงานใหม่อีกแล้วในชีวิตนี้”

หลังจากที่จินเสี่ยวแนะนำตัวจบ เธอก็หันไปปลอบหญิงชราผมขาวข้าง ๆ ผู้กำลังโศกเศร้าและคร่ำครวญ

อันที่จริงเธอไม่มั่นใจเลยสักนิด หลังจากที่ไม่อยู่แล้วใครจะการันตีได้ว่าสามีของเธอจะไม่แต่งงานกับคนอื่น?

ชีวิตของเขายังอีกยาวไกล ความต้องการนี้มันมากเกินไป

ตอนนั้นเอง เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งเข้าไปข้างตงตงและคุณครูหวังก็ปล่อยเขาออกจากอ้อมกอด

เมื่อเผชิญหน้ากับภาพเช่นนี้ในห้องผู้ป่วย ตงตงดูจะสับสนเล็กน้อย เขายังไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกเกี่ยวกับความเป็นความตายมากนัก

ถวนถวนรีบเข้าไปจับมืออีกฝ่ายไว้ก่อน ทั้งสองคนเองก็สนิทสนมกันอยู่แล้ว

“ไม่ต้องเศร้าไป พ่อฉันเก่งที่สุด!”

หลังจากที่พูดจบ เธอก็เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของอีกฝ่าย

“พ่อของฉันรักษาโรคนี้ได้ พ่อสัญญาแล้ว…”

ถวนถวนชอบเพื่อนคนนี้มาก ก่อนที่พ่อจะมารับที่โรงเรียน เขาเล่นกับเธออยู่ในห้องเรียนเป็นประจำทุกวัน

เมื่อได้ยินดังนั้น ตงตงก็เริ่มมีความหวังขึ้นมา

“จริงเหรอ? แต่พวกเขา…ทุกคนบอกว่าเธอโกหกเรื่องพ่อ”

เขาอยากจะเชื่อสุดตัวแต่ก็ยังกลัวที่จะวางใจ

ถวนถวนเองก็อดรู้สึกอึดอัดไม่ได้จึงรีบคว้ามือของอีกฝ่ายและกล่าวอย่างหนักแน่น

“จริงสิ! พ่อของฉันสุดยอด!”

คุณครูหวังที่นั่งอยู่ข้างเขาอดรู้สึกปวดหัวไม่ได้เมื่อได้ยินดังนั้น

เรื่องโกหกเช่นนี้มักจะทำให้คนอื่นเจ็บปวดมากที่สุด แต่เมื่อพ่อของอีกฝ่ายอยู่ที่นี่แล้วเธอก็ไม่กล้าพูดออกไปตรง ๆ

เมื่อเห็นว่าลูกสาวเอาใจใส่ตงตงมาก อวี้ฮ่าวหรานก็อดรู้สึกเห็นอกเห็นใจเด็กน้อยคนนี้ไปด้วยไม่ได้

หลังจากเดินไปได้ 2 ก้าว เขาก็เป็นฝ่ายเริ่มปลอบประโลมเด็กชายตัวน้อย

“ฉันสัญญาว่าอีกไม่นานโรคของคุณแม่เธอจะหายแน่นอน”

สำหรับเด็ก ๆ แล้ว คำพูดจากผู้ใหญ่นั้นเชื่อถือได้เสมอ

ตอนนั้นเอง ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสนของตงตงก็กระจ่างใสขึ้นและเขารีบพยักหน้าทันที

“เย้! ขอบคุณนะถวนถวน ขอบคุณนะครับคุณลุง”

แต่ตอนนั้นเอง พยาบาลข้าง ๆ เขาก็แสดงความไม่พอใจออกมาเล็กน้อย

“ผู้ใหญ่อย่างคุณอย่าโกหกเด็ก ๆ สิ มันสายเกินไปแล้วล่ะ รักษาไม่ได้แล้ว”

เธอรังเกียจชายตรงหน้าอย่างถึงที่สุด ทุกคนพูดถึงเรื่องนี้ไปแล้ว ท้ายที่สุดแล้ว เธออุตส่าห์ทำให้เด็กชายตัวน้อยยอมรับได้แต่ ชายคนนี้กลับพูดจาไร้สาระออกมาอีกแล้ว

มะเร็งมันรักษาง่ายนักหรือไง?!

อวี้ฮ่าวหรานหันไปมองรอบ ๆ และพบว่าพยาบาลสาวทำหน้าบูดบึ้ง

“คุณคิดว่าผมพูดเล่นหรอ?”

“ฉันคิดว่าไงเหรอ? คุณพูดจาไร้สาระชัด ๆ!”

พยาบาลสาวสัมผัสได้ว่าคำพูดของเธอกำลังถูกท้าทาย จึงตะเบ็งเสียงดังขึ้นเล็กน้อย

“ฮะ ๆ นี่มันมะเร็งระยะสุดท้ายนะคะ คุณพูดเรื่องอะไรกัน?”

เธอได้ยินอย่างชัดเจนแล้วเมื่อครู่นี้ว่าเขาไม่ใช่ญาติของผู้ป่วยเสียด้วยซ้ำ

“อย่าพูดจารุนแรงนักเลยครับ โลกยังกว้างใหญ่กว่านี้อีกมาก”

อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้ว ทัศนคติของอีกฝ่ายทำให้เขาไม่พอใจอย่างถึงที่สุด

เห็นได้ชัดว่าด้วยเหตุผลบางอย่าง พยาบาลคนนี้เกลียดเขาเป็นพิเศษ