ตึบ!

เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียว บาหลีหั่นก็รู้สึกว่าร่างกายของตนเองไม่สามารถที่จะต้านทานพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้ ทั่วทั้งร่างกายกระเด็นปลิวออกไป ปัง เหมือนกับเผชิญหน้ากับคลื่นทะเลที่ซัดเข้ามา เกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่อง

“อั่ก!”

ทันใดนั้น เขาก็กลั้นเลือดที่พุ่งออกมาไม่ได้ ทั่วทั้งร่างกายกระเด็นออกไปและไถลไปตามพื้น ท้ายที่สุดก็อัดเข้ากับกำแพงของห้องโถง อัดจนกลายเป็นรูขนาดใหญ่

ดาบน้ำเยือกแข็งในมือของเขาก็ได้หลุดออกไป ปัง ตกลงไปที่พื้น

บาหลีหั่นมองเซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อและมองดูมือที่ไร้เรี่ยวแรงซึ่งทำดาบน้ำเยือกแข็งหลุดออกไป เขาต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าก็ไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้

“แม่เจ้า เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกัน?”

“น่าเหลือเชื่อจริงๆ นี่คือบาหลีหั่นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองร้อยลี้ เพียงแค่กระบวนท่าเดียวก็พ่ายแพ้ไปอย่างนั้นหรือ?”

“หมัดนี้ทรงพลังเกินไป ข้ารู้สึกได้ถึงพลังอำนาจที่ล้นหลามซึ่งไม่มีทางต้านทานได้ เหมือนกับจะสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง”

“ความพ่ายแพ้ของบาหลีหั่นนั้นไม่ได้ถือว่าไม่ยุติธรรม หมัดนี้แข็งแกร่งเกินไป มีพลังอำนาจที่ใกล้เคียงกับระดับจักรพรรดิ”

“หากมีพลังอำนาจเช่นนี้อยู่ การที่จะสังหารดราโกเนี่ยนระดับราชันไปสามคนนั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

กลุ่มของผู้บัญชาการที่อยู่รอบๆได้พูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม พวกเขานั้นก็เป็นผู้บ่มเพาะในระดับราชัน มีสายตาที่เฉียบแหลม แน่นอนว่าสามารถที่จะเห็นได้ถึงหมัดที่น่าสะพรึงกลัวของเซี่ยปิงเมื่อครู่นี้

ถึงแม้ว่าพลังอำนาจจะไม่ได้ปะทุออกมาทั้งหมด เป็นเพียงแค่พลังอำนาจส่วนน้อยนั้น ทว่าผู้บ่มเพาะในระดับราชันปกติธรรมดาก็ไม่สามารถที่จะต้านทานได้ นี่คือพลังอำนาจที่เผด็จการอย่างถึงที่สุด

ในเวลาเดียวกันอัจฉริยะบางคนของชนเผ่าบาหลีก็สามารถที่จะเห็นได้ถึงความพิเศษและความสง่างามของหมัดนี้ มีพลังเกลียวแอบแฝงอยู่ เหมือนกับว่ามีความลึกลับของวิทยายุทธอยู่ ล้ำลึกและไม่สามารถประเมินค่าได้

“เซี่ย เจ้าชนะ ข้าและคนอื่นๆยอมรับพลังอำนาจของเจ้า”

ผู้บัญชาการจำนวนมากของชนเผ่าบาหลีพูดออกมาอย่างชื่นชมนับถือ ไม่ว่านักวิทยายุทธจะแข็งแกร่งหรือไม่นั้น แค่ได้ต่อสู้กันก็จะรู้เอง เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่ผลลัพธ์เช่นนี้จะเป็นการกุเรื่องสร้างภาพหลอกลวงผู้คน

หากอ่อนแอและพ่ายแพ้ไปในหมัดเดียว มีที่ไหนที่จะสามารถพูดแก้ตัวอะไรได้

“เซี่ย เมื่อครู่นี้หมัดของเจ้าเป็นทักษะหมัดอะไรหรือ?”

บาหลีหั่นผู้ปกครองเมืองมีสายตาเป็นประกาย เขารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นจนอดใจที่จะถามออกไปไม่ได้ เขารู้สึกว่าหมัดนี้มีพลังอำนาจในระดับสูง ล้ำลึกและไม่สามารประเมินค่าได้

หลังจากที่เขาได้เห็นหมัดนี้ เขาก็รู้สึกได้ชั่วครู่หนึ่ง เหมือนกับว่ามันมีพลังอำนาจที่เข้าใกล้กับระดับจักรพรรดิ

“ทักษะหมัดเกลียวทมิฬ เป็นทักษะหมัดที่ข้าได้คิดค้นขึ้นมาเอง”

เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย

คิดค้นขึ้นมาเอง?!

ผู้คนต่างก็ตกตะลึง ทักษะหมัดที่ทรงอำนาจเช่นนี้ ไม่คาดคิดว่าจะเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้ได้คิดค้นขึ้นมาเอง นี่มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ อันที่จริงนี่เป็นพรสวรรค์ในระดับไหนกัน?

“เมื่อครู่นี้เจ้าเป็นผู้ชนะของการต่อสู้ เจ้าได้สิทธิ์ในการเข้าไปบ่มเพาะภายในชีพจรมังกร ทว่าข้าขอลองประมือกับเจ้าได้ด้วยหรือไม่? บาหลีหู่ผู้ปกครองเมืองกำหมัดขึ้นมา มองเซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นอย่างมาก

“อะไรนะ? ผู้ปกครองเมืองจะลงมือด้วยตนเองหรือ?!”

ผู้คนของชนเผ่าบาหลีจำนวนมากต่างก็ช็อกไปตามๆกัน แม้แต่บาหลีหั่นก็เช่นเดียวกัน เพราะว่าผู้ปกครองเมืองบาหลีหู่นั้นเป็นยอดฝีมือที่เหนือยิ่งกว่าระดับราชันขั้นสูงสุด ถือว่าเป็นผู้ที่ก้าวขึ้นไปในระดับจักรพรรดิได้ครึ่งก้าวก็ว่าได้

แม้แต่อัจฉริยะอย่างบาหลีหั่นนั้น ก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะยอดฝีมือในระดับนี้ได้ ทำได้เพียงแค่ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างจริงใจเท่านั้น

ตั้งแต่ที่บาหลีหู่กลายเป็นผู้ปกครองเมืองนั้น พวกเขาก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ตนเองไม่ได้เห็นบาหลีหู่แสดงฝีมือของตนเองออกมา เมื่อใดที่เคลื่อนไหวออกมานั้น มันก็มักที่จะเป็นการบ่งบอกว่าเกิดเรื่องที่ร้ายแรงขึ้นที่เมืองร้อยลี้

“ไม่มีปัญหา เข้ามา” เซี่ยปิงไม่ได้สนใจ เขาก็ต้องการประสบการณ์การต่อสู้ที่มากยิ่งขึ้นเช่นกัน ตราบใดที่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดนั้น มันจะสามารถขัดเกลาวิทยายุทธของตนเองได้ ทำให้รากฐานวิทยายุทธพัฒนาขึ้นไปเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ต้องการที่จะเห็นความร้ายกาจของยอดฝีมือเผ่าพันธุ์มนุษย์ในทวีปเทพเจ้ามังกรแห่งนี้เช่นกัน นี่จะเป็นการช่วยในเส้นทางวิทยายุทธของเขาได้อย่างมาก

“มาเริ่มกันเลย”

หลังจากที่พูดจบ บาหลีหู่ก็ได้เคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน ความสามารถศักดิ์สิทธิ์–หมัดพยัคฆ์แปดแขน!

ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็บวมปูดออกมาทันที ร่างกายสูงขึ้นถึงแปดเมตร แม้แต่ที่หลังก็มีแขนงอกออกมาหกข้าง เมื่อรวมกับสองข้างที่มีอยู่แล้วนั้น มันก็จะกลายเป็นแขนทั้งหมดแปดข้าง

สายตาที่เขาจับจ้องมานั้นดูดุร้ายอย่างมาก เป็นเหมือนกับพยัคฆ์แปดแขน ร่างกายมีออร่าความคลุ้มคลั่งที่แผ่ออกมา ดูเหมือนว่าจะเป็นพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ปกครองผืนป่า มีความเผด็จการอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

“ล่าถอย ล่าถอยออกไปโดยเร็ว!”

รู้สึกได้ถึงออร่าความคลุ้มคลั่งนี้ เหล่าผู้บัญชาการที่อยู่รอบๆก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นก็ตะโกนออกมา บอกให้ผู้คนที่อยู่รอบๆล่าถอยออกไปทันที ไม่อย่างนั้นจะต้องบาดเจ็บจากออร่านี้อย่างแน่นอน

บางคนที่มีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งนั้น ถูกผลักกระเด็นออกไปหลายร้อยเมตรทันที

ทว่าบางคนที่มีพลังอำนาจอ่อนแอนั้นโชคร้ายอย่างมาก ช็อกไปอย่างกะทันหัน ฟองไหลออกมาจากปากและหมดสติไป หากไม่ใช่เพราะผู้บัญชาการที่อยู่ข้างๆได้เข้ามาช่วยและนำตัวทหารที่หมดสติเหล่านี้ออกไปอย่างรวดเร็วนั้น บางทีพวกเขาอาจจะถูกสังหารไปจากคลื่นกระแทกที่กวาดออกมาจากการต่อสู้นี้ได้

หล่ง หล่ง หล่ง~

เห็นเพียงแค่ว่าสองเท้ายืนอยู่บนพื้นดิน ทันใดนั้นก็ระเบิดจนกลายเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ รอยแตกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมา เป็นเหมือนกับใยแมงมุมก็ว่าได้ กระจายออกไปทั่วทั้งห้องโถงแห่งนี้

ซู่ ซู่ ซู่!!!

ทันใดนั้นร่างกายของบาหลีหู่ก็เคลื่อนไหวออกมา ทั้งแปดแขนได้กวัดแกว่งออกไป บนอากาศปรากฏเป็นพลังหมัดจำนวนนับไม่ถ้วน ก่อตัวเป็นสสาร แต่ละหมัดนั้นเป็นเหมือนกับพยัคฆ์ดุร้ายที่ออกมาจากผืนป่า มีพลังอำนาจที่จะทำลายล้างผืนป่าทั้งหมด

แม้แต่การโจมตีทางพลังวิญญาณก็มีเช่นกัน หากเป็นผู้ที่มีพลังวิญญาณที่อ่อนแอนนั้น จะมองเห็นภาพลวงตาปรากฏขึ้นมา คิดว่าตนเองถูกพยัคฆ์จำนวนนับไม่ถ้วนกลืนกินเข้าไป หวาดกลัวจนหมดสติไปโดยตรง

เซี่ยปิงทำการรังแกและต่อสู้กับบาหลีหู่โดยที่ไม่ได้ใช้ทักษะหมัดใดๆออกมา ตอบโต้ไปตามสัญชาตญาณเพียงอย่างเดียว

ทว่าเมื่อพัฒนามาถึงในระดับของเขานั้น แม้แต่หมัดและลูกเตะธรรมดาก็ยังมีพลังอำนาจที่จะสามารถเปิดภูเขาและบดทำลายก้อนหินได้ มีพลังงานที่ลึกลับและไม่สามารถคาดเดาได้

เพ่ง เพ่ง เพ่ง!!!

ทันใดนั้นภาพเงาทั้งสองก็ได้ต่อสู้กันบนอากาศ หมัดและเท้าได้ปะทะกัน แต่ละฝ่ายต่างก็ไม่ป้องกัน ใช้พลังอำนาจของร่างกายในการต่อสู้เพียงอย่างเดียว เป็นเหมือนกับว่าบรรพบุรุษในยุคสมัยโบราณที่ได้จุติลงมา ต่อสู้กันอย่างดุเดือดและป่าเถื่อน

การปะทะแต่ละครั้งจะเกิดแรงระเบิดขึ้นมา ซึ่งระเบิดพื้นที่จนกลายเป็นหลุมลึกอย่างกะทันหัน

ทหารของชนเผ่าบาหลีที่อยู่รอบๆต่างก็มองเห็นเหมือนกับว่าบนอากาศมีนกศักดิ์สิทธิ์และพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังต่อสู้กันอย่างลางๆ กรงเล็บที่แหลมคมของทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกัน

“ทรงพลังจริงๆ”

เซี่ยปิงรู้สึกมีความสุขอย่างมาก เขาไม่ได้เผชิญกับการคู่ต่อสู้ที่ป่าเถื่อนเช่นนี้มานานมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพลังอำนาจในร่างกายของบาหลีหู่นั้นก็ไม่ได้น้อยเลย คาดการณ์ได้ว่าคงจะกินเนื้อของอสูรดุร้ายที่มีเลือดของมังกรเข้าไปเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน บ่มเพาะร่างกายจนอยู่ในระดับที่เหนือมนุษย์

นอกจากนี้ด้วยพรสวรรค์ที่เหนือธรรมชาติของเขา ก็ส่งผลให้เขามีร่างกายเป็นดั่งปีศาจ อยู่เหนือคนปกติธรรมดาอย่างสิ้นเชิง

เหล่าทหารของชนเผ่าบาหลีก็อดใจที่จะกำหมัดขึ้นมาไม่ได้ นี่เป็นการต่อสู้ที่เข้มข้นจริงๆ ในชีวิตนี้อาจจะไม่ได้มีโอกาสได้เห็นการต่อสู้เช่นนี้อีก

ทว่าน่าเสียดายที่เขาต้องมาพบเจอกับเซี่ยปิง เทียบกับเขาแล้วเซี่ยปิงเป็นปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวกว่ามาก มีพลังอำนาจที่เหนือกว่าเขาอย่างมหาศาล ยิ่งการที่มีร่างอีกานรกทองคำและร่างจักรพรรดิพงไพรนั้น มันก็ทำให้ร่างกายทรงพลังอย่างถึงที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นๆจะเทียบด้วยได้

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น บาหลีหู่ก็ยังสร้างแรงกดดันให้กับเซี่ยปิงได้มากพอสมควร

แต่ละการปะทะนั้น เขารู้สึกว่าเลือดในร่างกายของตนเองเดือดระอุขึ้นมา หัวใจสูบฉีดอย่างรุนแรง เลือดภายในเส้นเลือดกำลังไหลเวียนอย่างรวดเร็วเหมือนกับแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่ก็ว่าได้

เซลล์อีกานรกทองคำภายในร่างกายเหมือนกับว่าจะถูกกระตุ้นขึ้นมาเช่นกัน ถูกปลุกขึ้นมา ละลายและผสมผสานเข้ากับเลือดในร่างกาย ทำให้สายเลือดอีกานรกทองคำของเขาเข้มข้นมากขึ้น

ด้วยการต่อสู้ในครั้งนี้ พลังอำนาจในร่างกายของเซี่ยปิงก็ได้รับการพัฒนาขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย