คุณชายเซี่ยไล่ตามหาสตรีผู้งดงามมาไกลถึงพันลี้ ในที่สุดเขาก็หานางพบ
มู่เฉียนซีแทบอยากจะกระชากบุรุษน่ารำคาญผู้นี้มาต่อยสักหมัด นางกล่าวเสียงเย็นชาเต็มสิบส่วน “อย่ามายุ่งวุ่นวายกับข้า ข้ามีธุระต้องทำ”
เชียนอ้าวเซี่ย “เสี่ยวซีซีข้าจะไม่วุ่นวายเลย ขอเพียงแค่ได้จ้องมองเจ้าเงียบ ๆ ก็พอใจข้าแล้ว”
เชียนอ้าวเซี่ยเรียนรู้ทักษะการต้มตุ๋นได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก แต่ตอนนี้มู่เฉียนซีไม่สนใจเขา นางมุ่งหน้าไปที่สมาคมพันธมิตรย่อยของหอการค้าอันดับหนึ่งเพื่อสืบข่าวเกี่ยวกับหอเชียนอินแล้ว
“เจ้า… เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน ?”
ในขณะที่มู่เฉียนซีย่างเท้าเข้าประตูหอการค้าอันดับหนึ่ง ทันใดนั้นเสียงทักทายอันแหลมคมก็ดังขึ้นมา
มู่เฉียนซีรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาสตรีชุดเขียวที่ยืนอยู่ตรงหน้านัก จากนั้นนางกล่าวเสียงแผ่วเบาว่า “องค์หญิงรอง นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโชคดีเอาชีวิตรอดออกมาได้”
อิ๋นซวงซวง “ข้าเป็นคนดวงแข็ง เจ้าไม่ต้องอิจฉาไปหรอก ที่นี่เป็นสมาคมพันธมิตรย่อยของหอการค้าอันดับหนึ่ง มิใช่ที่ที่เจ้าควรมา”
มู่เฉียนซี “ข้ามีธุระของข้า ข้าประสงค์จะพบท่านผู้นำแห่งสมาคมพันธมิตรย่อยสักหน่อย”
“ท่านผู้นำไม่ว่าง แต่ละวันท่านผู้นำมีกิจมีงานที่ต้องจัดการเป็นหมื่น ๆ เรื่อง ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากจะพบแล้วจะพบได้ พวกเจ้าตรงนั้นน่ะ มาลากตัวสตรีผู้นี้ออกไปจัดการประเดี๋ยวนี้”
“ขอรับองค์หญิงรอง”
ท่านลุงขององค์หญิงรองเป็นถึงท่านผู้นำรองแห่งหอการค้าอันดับหนึ่ง อีกทั้งสถานะของตัวนางก็เป็นถึงองค์หญิง คนในหอการค้าจึงไว้หน้านางอย่างมาก
มู่เฉียนซี “ข้าต้องการพบกับท่านผู้นำแห่งสมาคมพันธมิตรย่อย หากพวกเจ้ากล้าคิดจะลงมือกับข้า อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
อิ๋นซวงซวงกล่าวอย่างหยิ่งยโส “มู่เฉียนซี เจ้าอย่าคิดว่าเจ้ามีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัวอยู่ในมือแล้วจะทำตัวโอหังได้ตามใจชอบงั้นรึ ? หากเจ้ากล้าลงมือกับหอการค้าอันดับหนึ่งแล้วละก็ เจ้าต้องตาย!”
“แม่นาง เชิญ!” หนึ่งในองครักษ์กล่าวกับมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีเหลือบมองพวกเขาก่อนจะกล่าวอย่างเฉยเมย “เดิมทีข้าไม่ต้องการจะรบกวนเขา และไม่ได้ต้องการอาศัยอำนาจมาข่มเหงผู้อื่นเช่นนี้ แต่พวกเจ้าเป็นคนหาเรื่องเอง พวกเจ้าทำให้ข้าไม่มีทางเลือก”
มู่เฉียนซีหยิบป้ายคำสั่งออกมาจากในมิติเก็บของของนาง “ข้าคิดว่าตาของพวกเจ้าคงไม่ได้บอดหรอกกระมัง พอจะมองออกใช่หรือไม่ว่าป้ายคำสั่งนี้หมายถึงสิ่งใด ?”
ผ่านไปชั่วอึดใจทุกคนต่างนิ่งอึ้งตะลึงลาน “นะ… นายน้อย…”
อิ๋นซวงซวงได้ยินพลันผงะไป นางกล่าวด้วยความงุนงง “พวกเจ้าหมายความว่าอย่างไรที่ว่านายน้อย…? เหตุใดสตรีผู้นี้ถึงได้เป็นนายน้อยน่าหลานอวี้ไปได้”
นางไม่ใช่นายน้อยน่าหลานอวี้ แต่ป้ายคำสั่งที่นางถืออยู่นั้นเป็นป้ายคำสั่งของนายน้อยน่าหลานอวี้ หากผู้ใดเห็นป้ายคำสั่งนี้ก็เหมือนกับเห็นว่านายน้อยมาด้วยตัวเอง
เวลานี้พวกเขาไม่กล้าดูหมิ่นต่อมู่เฉียนซี อีกทั้งต้องเปลี่ยนมากล่าววาจาเอาอกเอาใจนาง หนึ่งในผู้ดูแลสมาคมพันธมิตรย่อยของหอการค้าอันดับหนึ่งกล่าวขึ้น “ข้าน้อยมีตาแต่หามีแววไม่ ได้โปรดแม่นางอย่าถือโทษโกรธข้าน้อยเลยนะขอรับ เดี๋ยวข้าน้อยจะให้คนไปส่งข่าวให้ท่านผู้นำรีบกลับมา แม่นางได้โปรดรอสักประเดี๋ยวนะขอรับ”
ป้ายคำสั่งของนายน้อยน่าหลานอวี้จะไม่มีทางถูกส่งให้คนอื่นเล่น ๆ เป็นแน่ นอกเสียจากคนผู้นั้นจะเป็นคนที่นายน้อยเชื่อใจและรักมากที่สุด แม่นางผู้นี้อาจจะเป็นฮูหยินของนายน้อยในอนาคตก็เป็นได้ พวกเขาจะกล้าละเลยได้อย่างไรกัน
องค์หญิงรองเดิมทีที่มีใบหน้าหยิ่งผยอง นางไม่นึกเลยว่าเหตุการณ์จะพลิกผันได้ถึงเพียงนี้จึงบ่นพึมพำกับตัวเอง “เป็นไปได้อย่างไรกัน ? นายน้อยน่าหลานอวี้จะไปชอบสตรีผู้มีสถานะไม่ชัดเจนผู้นี้ได้อย่างไร ป้ายคำสั่งนั่นนางต้องขโมยมาเป็นแน่”
ทว่า… นายน้อยน่าหลานอวี้เป็นถึงนายน้อยแห่งหอการค้าอันดับหนึ่งหรือบ้านประมูลอันดับหนึ่งอันเลื่องชื่อ ดังนั้นคิดว่าป้ายคำสั่งของนายน้อยของพวกเขาจะถูกขโมยไปได้ง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ ? ผู้ดูแลสมาคมย่อยที่ได้ยินคำพึมพำนั้นของอิ๋นซวงซวงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
สายตาของมู่เฉียนซีจ้องมองไปที่อิ๋นซวงซวง นางกล่าวอย่างเยือกเย็น “ข้าไม่อยากได้ยินเสียงแมลงหวี่แมลงวันรบกวนข้า”
“องค์หญิงรอง เชิญกลับตำหนักก่อนขอรับ”
แม้ว่าอิ๋นซวงซวงจะเป็นองค์หญิง แต่ก็ไม่ได้เป็นคนของหอการค้าอันดับหนึ่งแต่อย่างใด ทว่าน่าหลานอวี้เป็นถึงเจ้าของที่นี่ สถานะย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อิ๋นซวงซวง “เพื่อสตรีผู้นี้ซึ่งพวกเจ้าก็ไม่รู้ว่านางเป็นผู้ใดมาจากไหน แต่พวกเจ้ากลับกล้าไล่ข้าผู้ซึ่งเป็นถึงองค์หญิง คอยดูเถอะ ท่านลุงข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าเอาไว้แน่”
“องค์หญิงรอง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาใช้อารมณ์เช่นนี้นะขอรับ หากแม่นางผู้นี้เอาเรื่องขึ้นมาจริง ๆ แม้แต่ตำแหน่งท่านผู้นำรองของท่านลุงขององค์หญิงก็อาจจะเสียไปได้”
สำหรับองค์หญิงผู้ดื้อรั้นผู้นี้ พวกเขามีแต่ต้องใช้ไม้แข็งกับนางเท่านั้น ไม้อ่อนใช้ไม่ได้กับคนอย่างนาง
ในที่สุด คำกล่าวเหล่านี้ก็ทำให้องค์หญิงผู้ดื้อรั้นโกรธจนร้องไห้วิ่งออกไปจากหอการค้าอันดับหนึ่งจนได้
“แม่นาง เชิญด้านในขอรับ ท่านผู้นำกำลังมาแล้ว”
พวกเขานำทั้งชาดีและติ่มซำมาบริการให้มู่เฉียนซีและดูแลนางอย่างดี หวังว่านางจะไม่เอาเรื่องที่ผ่านมา
ท่านผู้นำแห่งสมาคมพันธมิตรย่อยของหอการค้าอันดับหนึ่งในแคว้นอิ๋นเหยียน เป็นชายหนุ่มวัยกลางคนที่มีพุงย้อยออกมา ในขณะที่เขาเห็นมู่เฉียนซี เขาก็หัวเราะเสียงดัง “ฮ่า ๆ ๆ แม่นาง รูปโฉมของแม่นางช่างมีเสน่ห์ในแบบที่หาได้ยากนัก มิน่าล่ะว่าเหตุใดเสี่ยวอวี้ถึงได้มีใจให้ หากแม่นางไม่ได้เอาป้ายคำสั่งออกมาให้เห็นกับตา พวกข้าก็คงสงสัยว่าเสี่ยวอวี้คงจะชอบบุรุษแล้ว”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย เขาเดาถูกแล้ว… นายน้อยน่าหลานของพวกเขาชอบไม้ป่าเดียวกัน
มู่เฉียนซี “ข้ากับน่าหลานอวี้เป็นเพียงสหายทั่วไปเท่านั้น วันนี้ที่ข้าเอาป้ายคำสั่งนี้ออกมาก็เพราะมีเรื่องต้องการให้ท่านผู้นำช่วย”
“สหายรึ ?” ท่านผู้นำยิ้ม
เจ้าน่าหลานอวี้เป็นคนฉลาดหลักแหลมเหมือนจิ้งจอกมาตั้งแต่ยังวัยเยาว์ ไม่ยอมทำการค้าที่ขาดทุนเด็ดขาด และเขาเป็นผู้ที่ปกป้องผู้คนได้ดีมากดุจดั่งญาติสนิทของตัวเอง
หากไม่ใช่เป็นเพราะความไว้ใจและความรักที่มีต่อแม่นางผู้นี้ เขาจะไม่มีวันมอบของสำคัญอย่างเช่นป้ายนี้ของเขาให้นางแน่นอน
ผู้นำเหอ “แล้วแม่นางมีสิ่งใดต้องการให้ข้าช่วยหรือ ?”
มีป้ายคำสั่งนี้อยู่ หากไม่ยอมทำตามก็เท่ากับพวกเขาขัดขืนคำสั่งของนายน้อยน่าหลานอวี้ เป็นเรื่องที่อันตรายต่อหอการค้าอันดับหนึ่งมาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องตอบตกลงอย่างไร้ข้อกังขาใด ๆ
“ข้าต้องการซื้อข่าวสารจากหอเชียนอิน อยากจะให้ท่านผู้นำช่วยเชื่อมสัมพันธ์ให้ข้าสักหน่อย ส่วนค่าตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นหยกวิญญาณ สมุนไพรวิญญาณหรือยาวิญญาณข้าให้ได้หมด”
ผู้นำเหอ “แม่นางแสดงป้ายคำสั่งของนายน้อยน่าหลานอวี้เช่นนี้ พวกข้าจะกล้ารับค่าตอบแทนได้อย่างไรกันเล่า ? หอเชียนอินนั้นลึกลับมาโดยตลอด แต่ก็มีการติดต่อค้าขายกับพวกเราอยู่บ้าง เอาเป็นว่าข้าจะช่วยให้แม่นางได้เชื่อมสัมพันธ์โดยเร็ว”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “อืม ข้าขอบคุณท่านมาก นามข้านั้นคือมู่เฉียนซี ข้าพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมหยุนไหล หากมีข่าวความคืบหน้า ก็ติดต่อข้าที่นั่นได้ตลอดเวลา”
จากนั้นนางหยิบยาวิญญาณออกมาขวดหนึ่ง “ท่านผู้นำ ในร่างกายของท่านมีสิ่งเจือปนอยู่มากจึงทำให้ท้องของท่านนับวันยิ่งป่องขึ้นเรื่อย ๆ ยานี้สามารถช่วยล้างพิษในร่างกายของท่านได้”
ผู้นำเหอตกตะลึงเพราะได้รับความเมตตาอย่างไม่คาดคิด “แม่นางมู่ นั่งพักสักครู่ก่อนแล้วค่อยไปดีกว่า พวกข้านั้นพร้อมต้อนรับ”
“ไม่เป็นไร หากมีข่าวคืบหน้าให้ท่านรีบแจ้งข้าก็พอแล้ว”
หลังจากที่มู่เฉียนซีจากไป อีกทางด้านหนึ่งก็ได้ส่งข่าวของมู่เฉียนซีไป ตัวตนไม่ชัดเจน มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน เป็นนักปรุงยาระดับกลางของกลุ่มนักปรุงยาพันธมิตร
ผู้นำเหอจับขวดยาของมู่เฉียนซีเอาไว้แน่น เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อายุยังน้อยเช่นนี้ได้เป็นถึงนักปรุงยาระดับกลางแล้ว แสดงว่ายานี้ของนางต้องดีเป็นแน่แท้ นางคงไม่เพียงแค่คุยโวอวดโอ้เกินจริง
‘มิน่าล่ะว่าเหตุใดนายน้อยน่าหลานอวี้ถึงได้ลงทุนเช่นนี้ ที่แท้นางก็เป็นนักปรุงยาอัจฉริยะ’ ผู้นำเหอพึมพำในใจ
พวกเขาเป็นพ่อค้า พ่อค้าถือเรื่องเงินทองเป็นเรื่องใหญ่ หลาย ๆ เรื่องต้องคำนวณเรื่องผลกำไรให้ถี่ถ้วน เพียงแต่เขานึกไม่ถึงว่าคนที่ฉลาดหลักแหลมอย่างนายน้อยน่าหลานอวี้ต้องการช่วยมู่เฉียนซีด้วยใจบริสุทธิ์ก็เท่านั้น
“ติดต่อกับหอเชียนอิน”
……
ในขณะที่มู่เฉียนซีกลับมายังโรงเตี๊ยม เชียนอ้าวเซี่ยก็เดินเข้ามาหานางพลางกล่าวขึ้น “เสี่ยวซีซี ข้าสั่งให้พ่อครัวทำของอร่อย ๆ ที่ขึ้นชื่อของแคว้นอิ๋นเหยียนไว้หลายอย่าง เจ้าสนใจอยากลองชิมดูหรือไม่ล่ะ ?”
“ข้าไม่สน” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างไร้เยื่อใย
“เสี่ยวซีซี อย่างไรเราสองคนก็เป็นสหายกันแล้ว เพียงแค่รับประทานอาหารด้วยกันสักมื้อไม่ได้เลยหรือ ?”
“หากข้าบอกว่าเราไม่ใช่สหายกันล่ะ ?”
“หากเสี่ยวซีซีไม่เห็นว่าข้าเป็นสหาย เช่นนั้นข้าก็จะขอผูกคอตายที่นี่”
ทันใดนั้นเอง องครักษ์ผู้หนึ่งยื่นผ้าสีขาวให้กับเชียนอ้าวเซี่ย “คุณชาย ผ้าขอรับ”
.
.
.