บทที่ 527 การจับกุมไร้สาระ

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

บทที่ 527 การจับกุมไร้สาระ

บทที่ 527 การจับกุมไร้สาระ

จินเสี่ยวถูกเข็นเข้าไปในห้องเอ็กซเรย์และดูเป็นกังวลเล็กน้อย ถึงจะรู้สึกดีขึ้นแล้ว แต่สิ่งที่รองผู้อำนวยการหลี่พูดก็ทำให้เธอสับสนเล็กน้อย

ถ้ามันเป็นภาพลวงตาล่ะ?

นั่นน่าสิ้นหวังยิ่งกว่าการไม่มีความหวังเสียอีก

“หึ! ฉันจะรอดูว่าจะตีหน้าซื่อได้อีกนานแค่ไหน!”

รองผู้อำนวยการหลี่มั่นใจยิ่งกว่าใคร โรคมะเร็งระยะสุดท้ายจะรักษาหายได้ยังไงกัน?

ผู้กองลัวที่ยืนอยู่ข้างกายเขาเองก็ได้สติกลับมาแล้วขณะที่ยังคงล้อมอวี้ฮ่าวหรานอยู่

เขาวางแผนจะพาอีกฝ่ายออกไปทันทีที่ได้ผลเอ็กซเรย์

ถึงผู้ป่วยจะปกป้องเขา แต่หลังจากที่ทุกคนได้รู้เรื่องราวกลับไม่มีใครเชื่อทั้งสิ้น

ยังไงมันก็คือมะเร็งระยะสุดท้าย!

ถ้าอยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว ถึงเทพเจ้าจะลงมาก็ไม่อาจช่วยได้

แต่เมื่อผลเอ็กซเรย์ออกมา ทุกคนก็ต้องตกตะลึง!

คุณหมอเจียงมองผลเอ็กซเรย์บนหน้าจอด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ

“นี่…เป็นไปได้ยังไง? ก่อนหน้านี้มันยังเป็นฝ้าใหญ่ ๆ อยู่เลย… ทำไมจู่ ๆ ถึงลดไปตั้ง 90% ล่ะ?”

ดวงตาของเธอเบิกกว้างราวกับว่าเห็นผี

รองผู้อำนวยการหลี่รีบเข้าไปดูทันทีที่ได้ยินดังนั้น

“นี่มัน…”

น้ำเสียงของเขาพิลึกอย่างถึงที่สุดราวกับว่าถูกบีบคออยู่อย่างไรอย่างนั้น

คุณครูหวังกับสวี่รุ่ยมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตาและรีบเข้าไปตรวจสอบ

“พระเจ้า… มันคือเรื่องจริง! ฝ้าหายไปจริง ๆ ด้วย!”

คุณครูหวังอดสั่นสะท้านไม่ได้หลังจากที่เห็นผลการเอ็กซเรย์อย่างชัดเจน

เธอเองก็พอมีความรู้ด้านการแพทย์อยู่บ้าง และผลการตรวจนี้ก็ไม่ใช่มะเร็งระยะสุดท้ายอย่างแน่นอน

ถึงฝ้าเงาที่เหลืออยู่จะยังกระจัดกระจายอยู่มาก แต่โดยรวมแล้วมันก็น้อยกว่าครั้งก่อน ๆ มาก

“ขอผม… ขอผมดูหน่อย…”

หลังจากที่จินเสี่ยวออกมาจากห้องเอ็กซเรย์ เขาก็รีบคว้าแผ่นฟิล์มมาทันที

“ไม่… ไม่มีแล้ว! มันหายไปแล้วจริง ๆ!”

เขาคิดว่ามันสายเกินไปแล้ว

ชายวัยกลางคนระเบิดร้องไห้ออกมา

ถวนถวนถึงขั้นหายโกรธและเผยสีหน้าแห่งชัยชนะให้เห็น

“ดูสิ! หนูบอกแล้วว่าพ่อหนูเก่งที่สุด! คุณพ่อรักษาได้ทุกอย่าง!”

ตอนนี้ไม่มีใครเถียงสิ่งที่เธอพูดอีกแล้ว

เพราะหลักฐานแทบจะถูกโยนใส่หน้าพวกเขาแล้ว

“งั้นผมไปได้หรือยังครับ รองผู้อำนวยการหลี่?”

อวี้ฮ่าวหรานกล่าวอย่างสบาย ๆ และจิตสังหารของเขาก็ค่อย ๆ ลดลง

ตามกฎของเกมในโลกมนุษย์แล้ว ถ้าเขาไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ก็คงไม่อยากจะทำตั้งแต่แรก

น่าเสียดายที่มีคนไม่กลัวตายอยู่เสมอ!

“เดี๋ยวก่อน! ใครบอกว่าคุณไปได้?”

เสียงของรองผู้อำนวยการหลี่เยือกเย็นขึ้นมาในทันใด

เขาขยิบตาให้ผู้กองลัวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

“ผมลืมไปว่าการรักษาใหม่ของโรงพยาบาลเรา จะถูกทดลองใช้กับคุณจินเสี่ยวแต่ยังไม่มีเวลาได้ตรวจสอบผล ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงรู้เรื่องนี้และใช้มันหลอกลวงผู้คน!”

หลังจากที่พูดจบ ทุกคนก็สัมผัสได้ว่าบรรยากาศในห้องดูผิดแปลกไป

ราวกับว่าอุณหภูมิเย็นขึ้นหลายองศาในชั่วพริบตา!

“คุณแน่ใจนะว่าจะเอาแบบนี้?”

อวี้ฮ่าวหรานค่อย ๆ หันไปมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ฮะ! จะไม่มั่นใจอะไรอีกล่ะ? คุณก็แค่มิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสจากคนอื่น ผู้กองลัว! จับเขาเลย!”

รองผู้อำนวยการหลี่กล่าวอย่างเยือกเย็นอีกครั้ง

ตอนนี้เขาดูภาคภูมิใจอย่างถึงที่สุด

รักษามะเร็ง! ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ชื่อเสียงของโรงพยาบาลต้องดังระเบิดแน่!

และเขาจะกลายเป็นคนที่ถูกจับตามองไปในทันที! ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลย เขาอาจถูกย้ายไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลหลักเลยก็ได้!

ถ้าได้เห็นผลงานแบบนี้แล้วจะไม่ประทับใจได้ยังไงกัน?

ผลงานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้จะไปตกอยู่กับเด็กหนุ่มไม่รู้สาได้ยังไง?

“พ่อหนุ่ม น่าเสียดายนะที่เธอก็ยังเป็นมิจฉาชีพเหมือนเดิม มากับเราซะ”

ผู้กองลัวหัวเราะเยาะ เขากับรองผู้อำนวยการหลี่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด และชายคนนี้ก็ยินดีทำตามที่เขาสั่ง

ดวงตาของอวี้ฮ่าวหรานหลับตาลงครู่หนึ่ง เขาไม่ชอบให้ใครมาใช้กลอุบายใส่ต่อหน้าทั้งนั้น!

ในอดีตตอนอยู่แดนเทพเจ้า หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นคงจะมีสายโลหิตหลั่งไหลไปยาวกว่าหลายพันลี้แล้ว!

แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นก็เห็นดวงตาอันหวาดกลัวของถวนถวน ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

ยังไงเขาก็ไม่ใช่เทพเจ้าผู้น่าเกรงขามอีกต่อไปแล้ว

หลังจากนั้นอวี้ฮ่าวหรานก็ถูกพาตัวไป

จินเสี่ยวและจางต้าหยงพยายามห้ามพวกเขา แต่ก็ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลกีดกันออกไป

“พวกคุณไม่ต้องขอบคุณเขาหรอก นี่คือผลการรักษาจากโรงพยาบาลของเรา เขาเป็นมิจฉาชีพ”

รองผู้อำนวยการกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ประสาท! คุณนั่นแหละมิจฉาชีพ! ฉันรู้จักร่างกายของตัวเองและเขาช่วยรักษาฉัน”

จินเสี่ยวอดโพล่งออกไปไม่ได้

แต่ตอนนี้อวี้ฮ่าวหรานได้ถูกพาตัวไปแล้ว

ข้างในรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“พ่อหนุ่ม ผมจะบอกให้นะ อย่ามาเล่นแง่กับผม กลับไปที่สถานีตำรวจแล้วบอกทุกอย่างมาให้หมด!”

เขามองดูชายหนุ่มตรงหน้าและรู้สึกตลกไม่ได้

แบบไหนเรียกว่ามีความผิดนะ?

แบบนี้ไง!

“ฮ่าฮ่า คุณรู้จักรองผู้อำนวยการหลี่ไหม? เขารู้จักคนเยอะแยะไปหมด สงสัยคุณคงจะต้องอยู่ในคุกสัก 7-8 ปีแล้วละ”

อวี้ฮ่าวหรานหลับตาครุ่นคิดและไม่เอาคำพูดของอีกฝ่ายมาใส่ใจ

“คุณเชื่อไหม? ผมจะออกมาภายในไม่เกิน 1 วัน”

“1 วันเหรอ? ฮ่าฮ่า ฝันไปเถอะ คุณนี่ไม่รู้จักความเป็นความตายจริง ๆ มาหาเรื่องคนใหญ่คนโตไม่รู้ตัวซะแล้ว”

ผู้กองลัวหัวเราะร่วน รถตำรวจพลันเงียบลงในทันใด

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ข้างในสถานีตำรวจ

“โย่ หัวหน้าออกไปทำงานเหรอ?”

“หัวหน้าออกไปทำงานตั้งแต่ 5 โมงเย็นแล้ว”

ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างสบายใจ แต่แล้วก็เห็นว่าชายหนุ่มข้างหลังเขาดูคุ้นหน้าคุ้นตาเหลือเกิน

“อะไรนะ?”

เมื่อมองดูให้ดี สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันใด!

เขารีบดึงผู้กองลัวมาข้าง ๆ

“พระเจ้า! หัวหน้าพาเขาคนนี้กลับมาทำไม???”

“ว่าไงนะ?”

ผู้กองลัวไม่เข้าใจ

“เขาคือหนึ่งในคนหนุ่มสาวที่โดดเด่นที่สุดในฮ่วยอัน ประธานบริษัทเครือฮ่าวหราน! พระเจ้า… หัวหน้าจับเขามาเหรอ?”

เขาดูกระวนกระวายสุดขีด

เขาอุตส่าห์ส่งชายคนนั้นกลับไปได้ในที่สุด แต่หัวหน้ากลับพาเขากลับมาเสียอย่างนั้น!

เรื่องนั้นผมรู้แล้ว! หัวหน้าจับเขามาทำไม?”

หลังจากที่สงบสติอารมณ์ลงเขาก็รีบถามทันที

ถ้าเหตุผลมีน้ำหนักก็คงไม่เป็นไร

“อืม… เขาหลอกเอาเงินของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลน่ะ” ผู้กองลัวตอบ

เมื่อรองผู้กำกับได้ยินดังนั้นก็รู้สึกมึนหัวขึ้นมาทันที…

เรื่องบ้าบออะไรกัน!!! ประธานบริษัทเครือฮ่าวหรานแสนยิ่งใหญ่หลอกโกงเงินงั้นเหรอ??

มีอะไรไร้สาระได้มากกว่านี้อีกไหม?

“ลองคิดดูเองสิว่ามันสมเหตุสมผลไหม?”

รองผู้กำกับเกลียดที่เหล็กกล้าไม่อาจกลายเป็นรางเหล็กได้ ทำไมลูกน้องของเขาถึงเป็นแบบนี้นะ?

คราวก่อนเขากำราบผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองและทำให้พวกเขาสารภาพออกได้… ครั้งก่อนเป็นไปได้อย่างราบรื่น เขาก็เลยไปหลอกโกงเงิน!

ผู้กองลัวตะลึงงัน เขาไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายจะสื่อแต่ก็ต้องหยุดนิ่งและคิดทันที

ตัวเขามีมูลค่ามากกว่าพันล้านหยวนเสียอีก ทำไมเขาต้องไปหลอกโกงเงินในโรงพยาบาลด้วยล่ะ?

ต้องโง่ขนาดไหนกันถึงได้เชื่อเรื่องพรรค์นั้น?

“อะแฮ่ม นั่นมัน… รองผู้กำกับ… ช่วยผมหาทางออกด้วย”

ผู้กองลัวรู้สึกอับอายอย่างหนัก