บทที่ 85 การประท้วงไม่เป็นผล

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

เย่เทียนวนเวียนอยู่ในบริษัท ไม่นานนักก็ถึงเวลาอาหารเที่ยง

เช้าเดียวก็ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเหอเชิ่งดีขึ้นมา จนรู้สึกว่าไม่น่าเพิ่งมารู้จักกันเลย

ดังนั้น ตอนเที่ยงเหอเชิ่งจึงชวนเย่เทียนออกไปกินข้าวข้างนอก

แต่เพิ่งเดินออกมาถึงหน้าประตูบริษัท ทั้งสองก็โดนหยุดไว้

“ไอ้หนุ่ม ฉันรอแกอยู่นานแล้ว!”

จางฟู่ฉีที่เมื่อวานโดนอัดซะหนัก และกลายเป็นข่าวฉาวของบริษัท บัดนี้มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเย่เทียน

หน้าตาเขาเหี้ยมเกรียม แค้นเย่เทียนขนาดที่อยากให้เขาตายๆไปซะ!

และข้างกายของเขามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบหลายคนตามมาด้วย เห็นได้ชัดว่าจางฟู่ฉีเล่นงานโต้งๆไม่ได้ จึงคิดจะเล่นเหลี่ยม

“ตำรวจโก คนนี้แหละที่เป็นคนอัดฉัน คุณรีบจับตัวเขาไว้และส่งเขาไปที่สถานีตำรวจด้วย!”

จางฟู่ฉีกัดฟันกรอด

ตำรวจที่ถูกเรียกว่าตำรวจโกพยักหน้า เขาเป็นหัวหน้าของพื้นที่นี้ วันนี้ได้รับแจ้งเข้ามา บวกกับจางฟู่ฉีฐานะไม่ธรรมดา เขาจึงมาด้วยตัวเอง

“เย่เทียนใช่มั้ย? ผมสงสัยว่าคุณกระทำความผิดเจตนาทำร้ายผู้อื่น หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือและไปกับเรา!”

ตำรวจโกทำท่าทำทางเหมือนปฏิบ้ติตามหน้าที่ เขาเดินเข้ามาและเอ่ยเสียงเย็น

จางฟู่ฉียืนอยู่ด้านข้าง เผยรอยยิ้มสะใจ ขอเพียงจับเย่เทียนเข้าไปในสถานีตำรวจ เขามีเป็นร้อยวิธีในการเล่นงานเขา!

เหอเชิ่งที่เห็นฉากนี้ขมวดคิ้วเป็นปม เขารีบก้าวออกมา “คุณตำรวจครับ นี่เข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่าครับ?”

“เข้าใจผิดบ้าอะไรกันวะ! แกเห็นหน้าฉันมั้ย เขานี่แหละที่เป็นคนตี! และมีอีกหลายคนที่เป็นพยานให้ฉันได้ ไอ้หนุ่ม เตรียมตัวตายเถอะ!”

จางฟู่ฉียิ้มเย็น พูดจบก็กวาดสายตามองเหอเชิ่งอย่างไม่เป็นมิตร “เหอเชิ่ง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก ถ้าแกอยากเป็นพระเอก ฉันไม่ถือสาที่จะจับแกอีกคนหรอกนะ!”

เหอเชิ่งใจกระตุกวูบ จางฟู่ฉีฐานะไม่ธรรมดา ถึงจะถูกขับไล่ออกจากบริษัทตระกูลเฉินแล้วก็ไม่ใช่คนที่คนตัวเล็กๆอย่างเขาต่อกรด้วยได้

เขามองเย่เทียนอย่างลำบากใจ กลับพบว่าใบหน้าของเย่เทียนนั้นสงบ

“นายแน่ใจนะว่าจะจับฉัน?”

เย่เทียนทอดสายตามองจางฟู่ฉี

จางฟู่ฉีหัวเราะเย็นๆอย่างเหยียดหยัน “แกกล้าทำร้ายฉัน แล้วยังทำให้ฉันถูกไล่ออก วันนี้แกต้องชดใช้!”

“งั้นหรอ?”

เย่เทียนส่ายหัว คิดไม่ถึงว่าจางฟู่ฉีจะรบเร้าไม่เลิก ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

แต่เขาไม่ได้คิดจะลงมือ เขาตั้งใจจะโทรหาจี้เยียนหรัน ให้เธอมาจัดการเรื่องนี้

ถึงยังไงจี้เยียนหรันก็เป็นคนของสถานีตำรวจใหญ่แห่งเจียงหนัน ด้วยเส้นสายของเธอจะจัดการเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเลย

กำลังคิดอยู่ ก็มีพอร์เชอ 911 คันหนึ่งขับเข้ามา

ประตูรถเปิดออก ฉินเจิงหรงวิ่งลงมาจากรถด้วยสีหน้าลนลาน ยังไม่ทันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ก็รีบเข้ามาอยู่ตรงหน้าเย่เทียนและปั้นยิ้มกว้าง

“เย่เทียน ไม่สิ คุณเย่ คุณเย่……”

เย่เทียนเห็นว่าเป็นฉินเจิงหรงออกมา ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “นายมาทำไมอีก?”

“คุณเย่ ผม ผมผิดไปแล้วครับ ได้โปรดอย่าถือสาผมเลยนะครับ ถือซะว่าผมยังเด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยกโทษให้ผมที่เสียมารยาทกับคุณไปก่อนหน้านี้ได้มั้ยครับ?”

ฉินเจิงหรงพูดออกมาจากใจจริง ตอนที่เขาถูกไล่ออกจากบ้านหัวใจของเขานั้นเรียกได้ว่าทุกข์ระทมเลยล่ะ

ในใจเขากลัวมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นพี่สาวของตัวเองหรือแม่ หรือแม้กระทั่งาการแสดงออกของพ่อเขาล้วนทำให้เขาได้รู้ว่าเย่เทียนตรงหน้าไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน!

ถึงเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คำพูดของพ่อเขายังวนเวียนอยู่ข้างหู จนฉินเจิงหรงไม่กล้าคิดอะไรมากกว่านี้

ถ้าเย่เทียนไม่ให้อภัยเขา เขาต้องโดนพ่อตัวเองไล่ออกจากตระกูลฉินแน่นอน!

ภาพที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ทำให้จางฟู่ฉีขมวดคิ้ว อดตะคอกเสียงดังไม่ได้ “แกเป็นใครวะ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่เห็นหรอว่าฉันกำลังทำธุระอยู่”

ขณะที่พูดอยู่เขาก็ยกมือจะไปผลักฉินเจิงหรง

ฉินเจิงหรงได้ยินเสียงเช่นกัน เขาหันมาสบเข้ากับตาของจางฟู่ฉีพอดี

“คุณ….คุณชายรองฉิน?”

มือข้างหนึ่งของจางฟู่ฉีชะงักอยู่กลางอากาศ คนทั้งคนราวกับโดนฟ้าผ่าใส่

เขางงไปหมด คิดไม่ถึงว่าคนที่มาขอการอภัยจากเย่เทียนจะเป็นคุณชายรองฉินผู้เลื่องชื่อ

คุณชายรองฉินเป็นใคร นั่นน่ะคุณชายน้อยของตระกูลฉินเชียวนะ เป็นแก้วตาดวงใจของคนทั้งตระกูลฉิน!

ปกติแล้วฉินเจิงหรงพึ่งบารมีของครอบครัว ไม่เคยมีใครในเจียงหนันกล้าขัด เขาโอหังหยิ่งผยอง เป็นหนึ่งในบุคคลแห่งเจียงหนันที่ไม่ควรมีเรื่องด้วย!

แม้ว่าจางฟู่ฉีจะไม่เคยได้สมาคมด้วย แต่ก็รู้ว่าฉินเจิงหรงหน้าตาเป็นยังไง

พอตอนนี้ได้เห็นฉินเจิงหรง ใจเขาสะท้านไปด้วยความตะลึง

นี่มันเกิดอะไรขึ้น เย่เทียนเป็นแค่บอดี้การ์ดเล็กๆไม่ใช่หรอ? ทำไมแม้แต่คุณชายรองฉินยังมาขอโทษเขาล่ะ และดูจากท่าทีของคุณชายรองฉินแล้วเหมือนจะกลัวมากเลยว่าเย่เทียนจะไม่ให้อภัยเขา

“มึงเป็นใครวะ ถึงกล้าพูดจากับกูแบบนี้”

ถึงฉินเจิงหรงจะทำตัวหงอต่อหน้าเย่เทียน แต่ต่อหน้าคนอื่น เขายังคงเป็นหัวโจกใหญ่

ไม่เห็นหรอว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับการทำให้เย่เทียนให้อภัยตัวเองอยู่? ไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใครกัน ถึงกล้ามารบกวนตัวเอง?

“คุณชายรองฉิน ท่าน ท่านเข้าใจผิดแล้วครับ…..”

เม็ดเหงื่อไหลซึมออกมาจากหน้าของจางฟู่ฉี ไม่กล้าส่งเสียงอะไรอีก

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉินเจิงหรงต้องจัดการไอ้เด็กที่ไม่เคารพตัวเองให้เข็ดหลาบ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้

“ไสหัวไปซะ!”

ฉินเจิงหรงพูดออกมาคำเดียวเย็นๆและไม่สนใจเขาอีก เขาหันมามองสีหน้าเฉยชาของเย่เทียน คุกเข่าลงต่อหน้าทุกคนโดยไม่สนใจศักดิ์ศรีของตัวเอง และกอดขาของเย่เทียนไว้แน่น

ผมฉันทำอะไรก็ได้!”

เย่เทียนเหนื่อยใจ คิดไม่ถึงว่าฉินเจิงหรงจะมาไม้นี้

“เอาเถอะ นายกลับไปซะ ไปบอกคุณปู่ของนายว่าฉันมีเวลาเมื่อไหร่จะไปดูอาการป่วยให้เขา!”

“คุณเย่ คุณยังไม่ให้อภัยผมนี่”

ฉินเจิงหรงยังไม่ยอมปล่อยมือ

เย่เทียนยังอึ้งกับความหน้าด้านของเขา “ฉันให้อภัยนายแล้ว พอใจรึยัง?”

ฉินเจิงหรงไม่ยอมฟังเลย “ไม่ครับคุณเย่ คุณยังไม่ให้อภัยผมเลย”

พอเห็นแบบนี้เย่เทียนก็พูดอะไรไม่ออก เขารู้ดีว่าคงจะเกลี้ยกล่อมไอ้หนุ่มนี่ด้วยคำพูดไม่ได้ กรอกตาไปมา และพลันหันไปเห็นจางฟู่ฉีที่ยืนอยู่ด้านข้าง

สัมผัสได้ถึงแววตมุ่งร้ายในสายตาของเย่เทียน จางฟู่ฉีขนลุกวาบในใจ เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาอย่างมาก

และก็จริง เย่เทียนดึงฉินเจิงหรงให้ลุกขึ้น “นายไปอัดไอ้หนุ่มนั่นจนแม่เขายังจำเขาไม่ได้ แล้วฉันจะให้อภัยนาย!”

พอได้ยินแบบนี้ จางฟู่ฉีใบหน้ากระตุก ฉินเจิงหรงกลับเผยสีหน้าดีใจ เขาพยักหน้ารัวๆและเดินถูมือเข้าไปหาจางฟู่ฉี

สิ่งที่น่าเศร้ากว่านั้นคือจางฟู่ฉีไม่กล้าหนีไป เพราะพื้นเพของตระกูลฉินก็รู้ๆกันอยู่ ถ้าเขาหนีไป ด้วยนิสัยของฉินเจิงหรงต้องเล่นงานเขาจนตายอย่างแน่นอน!

“คุณ คุณชายรองฉินครับ ท่าน คงไม่คิดจะตีผมจริงๆใช่มั้ยครับ…..”

“แกคิดว่ายังไงล่ะ?”

เพื่อให้เย่เทียนยอมให้อภัย อย่าว่าแต่อัดคนอื่นเลย ต่อให้บอกให้เขาไปฆ่าคนเขาก็จะไม่ขมวดคิ้วเลยสักนิด

เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ตบหน้าไปหนึ่งฉาดทันที

“อ๊าก!”

“โอ๊ย…..อย่าตีหน้าครับ…..”

น่าเสียดายที่การประท้วงไม่เป็นผล คำสั่งของเย่เทียนคืออัดเขาจนแม่เขายังจำเขาไม่ได้ จะไม่ให้ตีหน้าได้ยังไง?

ชั่วขณะนั้น เสียงกรีดร้องอันน่าอนาถดังอย่างต่อเนื่องอยู่ริมถนน