บทที่ 225 ตัดออก หากคิดจะไปมิใช่เรื่องง่าย

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 225 ตัดออก หากคิดจะไปมิใช่เรื่องง่าย
พยาบาลยื่นมีดให้หัวหน้าศัลยแพทย์ ต้องให้ปลายมีดหันเข้าหาตน สิ่งแรกเพื่อให้หัวหน้าศัลยแพทย์สะดวกในการรับมีดเพื่อประหยัดเวลา อีกอย่างเพื่อไม่ให้มือของศัลยแพทย์ได้รับบาดเจ็บ
ความผิดพลาดของซุนซือสิงนั้นร้ายแรงอย่างมาก โชคดีที่นี่เป็นเพียงแค่เริ่มต้น เฟิ่งชิงเฉินยังคงมีเวลาให้ความสนใจกับเขา หากอยู่ในระหว่างการผ่าตัด เฟิ่งชิงเฉินกำลังมุ่งเน้นจุดสนใจทั้งหมดไปที่ถุงน้ำดี ไม่กล้าละสายตาออกไป แล้วซุนซือสิงยื่นมีดมา นางจะต้องรับไว้อย่างแน่นอน
ผู้ที่สามารถเข้าไปในห้องผ่าตัด ล้วนเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์เท่านั้น ฉะนั้นหมอจะไม่คิดมาก หากเฟิ่งชิงเฉินรับมีดไป มือของนางจะบาดเจ็บอย่างแน่นอน และผลที่ตามมานั้น….
ไม่เพียงแต่มือของเฟิ่งชิงเฉินบาดเจ็บ ซุนฮูหยินที่อยู่บนเตียงผ่าตัดก็จะตายเช่นกัน
ซุนซือสิงไม่รู้ว่าวันนี้เขาทำผิดพลาดร้ายแรงแค่ไหน
ในการผ่าตัดต่อมา เฟิ่งชิงเฉินทำเหมือนว่าซุนซือสิงไม่อยู่ในห้อง แม้ว่าเวลาจะเร่งรัดอย่างมาก แต่นางก็ผ่าตัดด้วยตนเอง นางเพิกเฉยซุนซือสิง
เรื่องบางเรื่องนางทำเองได้ แต่เหงื่อที่หยดลงมาบนหน้าผากล่ะ?
เฟิ่งชิงเฉินนั่งยองๆ เป็นเวลาสามชั่วโมงโดยไม่ขยับเลย ขาของนางชา แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่รู้สึก นางสลับมีดผ่าตัดและแหนบไปมา
สิ่งที่นางผ่าตัดกับซุนฮูหยินคือการตัดถุงน้ำดีออก แต่ในระยะเฉียบพลันเนื้อเยื่อรอบถุงน้ำดีมีอาการบวมน้ำ และความสัมพันธ์ทางกายวิภาคมักไม่ชัดเจน ฉะนั้นจะต้องละเอียดอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่ท่อน้ำดีและเนื้อเยื่อส่วนสำคัญที่อยู่ติดกัน
วินาทีนั้น เฟิ่งชิงเฉินฟุ้งซ่านไม่ได้ หากไม่ระวัง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง และอวัยวะอื่นๆ จะมีปัญหาตามมา
เหงื่อหยดจากหน้าผาก เฟิ่งชิงเฉินเห็นว่ามีคนอยู่ข้างๆ จึงกล่าวด้วยความเคยชินว่า “เช็ดเหงื่อ!”
ตอนแรกซุนซือสิงถูกทักษะอันยอดเยี่ยมของเฟิ่งชิงเฉินดึงดูดเอาไว้ แต่เมื่อได้ยินเสียงของเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็ได้สติขึ้นมา เขาเร่งหยิบผ้าขาวข้างๆมาเช็ดเหงื่อให้เฟิ่งชิงเฉิน
“มีดผ่าตัดหมายเลข 3” เฟิ่งชิงเฉินกำลังลอกถุงน้ำดีออกและนางไม่กล้าชะล่าใจ เฟิ่งชิงเฉินผู้ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับการผ่าตัดคิดว่าตนอยู่บนเตียงผ่าตัดในยุคปัจจุบันจึงออกคำสั่ง
ซุนซือสิงได้รับบทเรียนแล้ว ไม่กล้าที่จะทำพลาด เขาเร่งทำตามที่เฟิ่งชิงเฉินกล่าว
“แหนบ!”
“คีมห้ามเลือด!”
“กรรไกร!”
“มีดผ่าตัดหมายเลข 5!”

อาจารย์และศิษย์ ทั้งสองคนร่วมมือร่วมมือกันอย่างดี สองชั่วโมงผ่านไป เฟิ่งชิงเฉินตัดถุงน้ำดีที่เป็นเนื้อตายออกมาได้อย่างสมบูรณ์ แล้ววางลงบนถาดผ่าตัดด้านข้าง
เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเริ่มทำจัดการแผลต่อไป จนเมื่อการเย็บแผลในตอนท้าย เฟิ่งชิงเฉินส่งมอบให้ซุนซือสิง” เย็บแผล”
“ขอรับ” เมื่อซุนซือสิงเห็นเทคนิคที่ยอดเยี่ยมของเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็คันมือมากเช่นกัน เมื่อเห็นว่าตนสามารถลงมือได้ เขาไม่ประหม่าเลยแม้แต่น้อย
วินาทีนี้แม้นั่งยองๆ เป็นเวลาห้าชั่วโมง เขาก็ไม่รู้สึกเหนื่อย
สำหรับซุนซือสิงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินยังคงพอใจในตัวเขามาก นางปล่อยให้ซุนซือสิงเย็บ แต่นางจะไม่ปล่อยให้เขาทำคนเดียว นางจะคอยดูอยู่ข้างๆ
เนื่องจากการนั่งยองๆ มานานเกินไป ขาของนางจึงชา อีกทั้งเฟิ่งชิงเฉินภาวะโลหิตจางเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงใช้เวลานานกว่าจะยืดตัวตรงได้ นางเซเล็กน้อยและปวดน่องอย่างมาก
นี่เป็นผลสืบเนื่องของการนั่งยองๆ ในระยะยาว คงต้องหาหมอแผนจีนมาฝังเข็มให้หน่อยแล้ว
ซุนซือสิงฝึกเย็บแผลกับสัตว์ทุกวัน ฝีมือการเย็บแปลของเขาไม่มีปัญหา เมื่อเห็นว่าซุนซือสิงเสร็จสิ้นแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็กล่าวชื่นชมว่า “ดีมาก!”
พูดจบ เขาหันหลังเดินไปที่ตู้ข้างๆ แล้วหยิบขวดยาและยาปฏิชีวนะออกมา
นอกบ้านไม้ เหยาหวาและซูหว่านนั่งตั้งแต่เช้าจรดบ่าย ทั้งเหนื่อยและหิวแต่ไม่เห็นอะไรเลย เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นยืน ทั้งสองก็ถอนหายใจพร้อมกัน พวกเขาคิดวันนี้คงจบเพียงเท่านี้ แต่ไม่คาดคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินนั่งลงอีกครั้ง…
ทั้งสองมีใจที่จะอยากฆ่าเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินตั้งใจ พวกนางทั้งสองนั่งกลางแดดทั้งวัน ไม่ร้อนตายก็คงหนังถลอก แต่ดัน………
พวกนางกล่าวหลายครั้งแล้วว่าไม่ดูแล้ว จะกลับไป แต่เสด็จอาเก้ามิยอม และกล่าวอย่างชอบธรรมว่า ” องค์หญิงและคุณหนูมาโดยพระราชโองการของฝ่าบาท แน่นอนว่าต้องอยู่แต่เริ่มจนจบองค์หญิงเหยาหวา ซูหว่านซิ่วเจ้าทั้งสองอย่ากังวลไป วันนี้ข้าจะอยู่กับทั้งสอง แม้จะดึกเพียงใดก็ไม่เป็นกระไร”
ในที่สุด องค์หญิงเหยาหวาและซูหว่านก็เข้าใจคำว่า ทำตัวเอง เป็นอย่างไรแล้ว พวกนางจับผิวหน้าของตนที่ตากแดดจนไหม้ เหยาหวาและซูหว่านด่าทอเฟิ่งชิงเฉินในใจนับพันครั้ง ครั้งนี้ถือว่าพวกนางซวย แต่พวกนางจะไม่ยอมรับว่าตนถูกเฟิ่งชิงเฉินเล่นงาน………..
หลังจากการให้น้ำเกลือเรียบร้อย ซุนซือสิงได้เก็บห้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว เฟิ่งชิงเฉินเหลือบมองที่กระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลา 5 โมงเย็นแล้ว นั่นหมายความว่าพวกเขาอยู่ในห้องผ่าตัดกว่าแปดชั่วโมงแล้ว และคนที่อยู่ข้างนอกก็ตากแดดมากว่าแปดชั่วโมงแล้วเช่นกัน
เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ คนไร้อำนาจก็มีวิธีเอาคืนของคนไร้อำนาจ เฟิ่งชิงเฉินแก้แค้นตลอด เมื่อนางดึงแขนเสื้อลง นางเห็นว่าหน้าจอของกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ กะพริบขึ้นทันที
อย่าบอกนะว่าพังแล้ว!
เฟิ่งชิงเฉินตกใจอย่างมากและจ้องไปที่หน้าจอ นางกังวลอย่างมาก โชคดีที่ไม่นานทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ แต่หลังจากที่ที่กะพริบแล้ว มีข้อความแสดงขึ้นมาว่าจริยธรรมทางการแพทย์ +1 รวมเป็น 2 คะแนน
จรรยาบรรณทางการแพทย์ มันคืออะไร เหตุใดเมื่อก่อนไม่เคยเห็น กระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะยังมีฟังก์ชันนี้อยู่?
เครื่องหมายคำถามนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในหัวของเฟิ่งชิงเฉิน นางเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองซุนซือสิงและในที่สุดก็วางลง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ รอตอนค่ำค่อยกลับไปศึกษาที่ห้องแล้วกัน
ด้วยเหตุนี้ เฟิ่งชิงเฉินจึงเร่งรีบเล็กน้อย หลังจากที่ล็อกสิ่งน่าสงสัยทั้งหมดในห้องผ่าตัดเอาไว้แล้ว เฟิ่งชิงเฉินได้ส่งสัญญาณให้ซุนซือสิงตั้งเตียงผ่าตัดขึ้นมา แล้วเข็นซุนฮูหยินออกไป
ทันทีที่ประตูเปิดออก ซุนเจิ้งเต้าและตี๋ตงหมิงพุ่งเข้ามา แม้ว่าซูหว่านและเหยาหวาก็กังวลเช่นกัน แต่พวกนางจะต้องสำรวม จึงมิได้เร่งวิ่งเข้าหา
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ภรรยาของข้าเป็นอย่างไรบ้าง”

“การผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างมาก หมอหลวงซุนเจ้าวางใจได้ ซุนฮูหยินพักผ่อนให้พอก็เพียงพอแล้ว ขอรบกวนหมอหลวงซุนและซือสิงนำซุนฮูหยินไปที่ห้องแขก ซุนฮูหยินจะต้องอยู่ดูอาการที่นี่เป็นเวลาครึ่งเดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อหลังผ่าตัด ในช่วงเวลานี้พวกเจ้าสามารถอาศัยในจวนเฟิ่งได้ แต่ดูแลเรื่องที่พักอาหารด้วยตนเอง” เฟิ่งชิงเฉินทำท่าทีแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
แม้ว่านางจะถอดชุดผ่าตัดออก แต่ยังมีกลิ่นยาติดตัวอยู่
“ขอบคุณหมอเฟิ่ง” ซุนเจิ้งเต้ามีคำถามมากมายที่อยากจะถาม แต่เมื่อเห็นว่าลูกชายของตนตามตนไปแล้ว เขาก็มิได้รบกวนเฟิ่งชิงเฉินต่อ เขาไม่อยากมีส่วนร่วมในการต่อสู้ของผู้หญิงเหล่านี้
“กลิ่นอะไร ทำไมมีกลิ่นเหม็นจัง” ทันทีที่เหยาหวาและซูหว่านก้าวไปข้างหน้า พวกนางมองเฟิ่งชิงเฉินด้วยความรังเกียจ
“กลิ่นเหม็นอะไรกัน? ข้าคิดว่ามันหอมมาก อย่างน้อยก็ดีกว่ากลิ่นเหงื่อบนร่างกายของใครบางคน” ตี๋ตงหมิงไม่กล่าวเหยาหวาและซูหว่านคงลืมไปแล้วว่าตนตากแดดมาทั้งวัน และตัวเหมือนเหงื่ออย่างมาก
“เฟิ่งชิงเฉิน พวกเรานั่งข้างนอกมาทั้งวัน แต่ไม่เห็นกระไรเลย” แววของเหยาหวาเต็มไปด้วยความโกรธ ตอนนี้รอยยิ้มที่สง่างามอะไรเหล่านั้นล้วนเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ
“ข้าขออภัย องค์หญิง ซุนฮูหยินต้องทำการเปิดช่องท้อง จึงต้องเปลือยกาย ไม่สะดวกที่จะให้ชายได้เห็น หวังว่าองค์หญิงจะเข้าใจ ชิงเฉินประหม่าจึงลืมที่จะบอก หากว่าองค์หญิงอยากเห็นโปรดรอ สักครู่ ชิงเฉินเหลือส่วนที่สำคัญที่สุดเอาไว้ให้องค์หญิงได้เห็น”
หลังจากพูดจบ เฟิ่งชิงเฉินก็หันกลับมาและหยิบถาดออกมาจากห้องผ่าตัดซึ่งมีผ้าขาวคลุมอยู่ เมื่อตอนเดินออกมา เฟิ่งชิงเฉินขาอ่อนจึงล้มไปข้างหน้า
“ระวัง!”