วันต่อมาเสี่ยวเชี่ยนตื่นตรงเวลาเพราะความหิว สมองเธอว่างเปล่าไปหลายวินาที รู้สึกแค่ว่าร่างกายเหมือนถูกรถบรรทุกบดทับมา
จนกระทั่งเธอลุกขึ้นนั่ง เห็นที่ข้อเท้ามีรอยจางๆ ความทรงจำเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมา ใบหน้าเธอร้อนผ่าวแทบระเบิด
ไอ้เบญจมาศอาเหม็ดคนทุเรศ…
ส่งของพวกนั้นมาให้มันทำร้ายกันสุดๆ!
เสี่ยวเชี่ยนหยิบชุดนอนมาสวม เคลื่อนย้ายร่างกายอันหนักอึ้ง เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดเรื่องอาบน้ำ เริ่มมองหาไปทั่วห้อง
ของทรมานร่างกายเธอพวกนั้นมันไปไหนแล้ว จะรีบเอาไปทิ้งให้หมด!
ขนาดใช้แค่อย่างเดียวยังเล่นซะเธอแทบลุกไม่ขึ้น พอนึกถึงลังใบใหญ่นั่น เสี่ยวเชี่ยนอยากจะหลั่งน้ำตา
ไม่ได้การ เธอต้องฉวยโอกาสตอนที่อวี๋เสี่ยวเฉียงไปทำงานเอามันไปทำลายซะ
เธอไม่เชื่อหรอกว่า บ้านเล็กแค่นี้จะมีของที่เธอหาไม่เจอด้วย?
หาไม่เจอจริงๆ…
เมื่อคืนเห็นๆอยู่ว่ายัดไว้ใต้เตียง แต่ตอนนี้ใต้เตียงว่างเปล่า ถ้าไม่เห็นรอยจางๆที่ข้อเท้าเธอคงคิดว่าเมื่อคืนเธอแค่ฝันเรื่องที่ไม่อาจบรรยาย
ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ ห้องนอนเล็ก หรือแม้แต่เสื่อทาทามิตรงที่นั่งเล่นริมหน้าต่างก็ถูกเสี่ยวเชี่ยนรื้อหมด
ทุกมุมในบ้านก็ค้นทั่วแล้ว แต่ไม่มี!
ตอนที่อวี๋หมิงหลางเปิดประตูเข้ามาก็เห็นภรรยาที่แสนน่ารักกำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้น ร่างกายก้มลงอยู่ในท่าที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ ดูเหมือนเธอกำลังหาอะไรอยู่
เขาแกล้งไอ “เมียจ๋า ถึงตอนนี้ผมจะอยู่ในเวลางาน แต่ยั่วผมแบบนี้ ผมอาจจะตบะแตกนะ!”
เสี่ยวเชี่ยนลุกขึ้นยืน มองเขาด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด
ตานี่ทำไมอยู่ๆก็กลับมา?
อวี๋หมิงหลางยกกล่องข้าวในมือ “ผมเดาว่าคุณน่าจะตื่นแล้วเลยเอาอาหารเช้ามาให้ แล้วจะได้เรียกคุณไปที่หน่วยด้วยกัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณคือผู้ช่วยของทีมจิตวิทยาในหน่วยผม ทำงานวันแรกไปสายไม่ดีนะ”
เขากวาดตามองเธอด้วยแววตาที่คิดไม่ซื่อ จากนั้นก็ไปหยุดอยู่ตรงอวัยวะที่เธอกระดกเมื่อครู่ แล้วพยักหน้าอย่างมีเลศนัย
“ถึงผมจะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ถ้าเมียสุดที่รักยั่วผม บางทีผมอาจจะทนไม่ไหว ไม่งั้นเราไปสายหน่อยไหม? ผมเกรงใจไม่อยากปฏิเสธความต้องการของคุณ”
เมียเขารักเขาขนาดนี้ เอาแต่ยั่วยวนเขาจะทำไงดี?
ก็ต้องจัดให้สิคร้าบ!
เสี่ยวเชี่ยนอยากจะเข้าไปฟาดหน้าไอ้คนหน้าไม่อายนี่จริงๆ
คนๆนี้ทำตัวหน้าด้านได้ตลอดเวลา เลเวลความหน้าด้านไม่มีคำว่าที่สุด มีแต่หน้าด้านยิ่งกว่า
“ถ้านายกล้าทำให้วันแรกฉันไปสาย ต่อไปโซฟาห้องรับแขกจะเป็นบ้านของนายไปตลอดกาล” เธอหันไปมองโซฟาด้วยสายตาอำมหิต
อวี๋หมิงหลางทำได้แค่ล้มเลิกความคิดแล้วเอาอาหารเช้าวางบนโต๊ะ
“ลูกเชี่ยน คุณเป็นพวกอยากแต่ก็ทำเป็นปฏิเสธอย่างที่เขาว่ากันหรือเปล่า?”
คำตอบที่ได้กลับมาคือเบาะรองนั่งของโซฟา “ฉันแสร้งปฏิเสธกับผีสิ!”
“เมื่อกี้คุณหาอะไรอยู่เหรอ?” อวี๋หมิงหลางหลบ ‘อาวุธ’ ที่เธอโยนมา แล้วถามด้วยความสงสัย
เสี่ยวเชี่ยนใบหน้าร้อนผ่าว แน่นอนว่าเธอไม่มีทางบอกว่ากำลังหาลังใส่ของประหลาดที่อาเหม็ดส่งมา ครั้นแล้วจึงทำเป็นตอบด้วยท่าทางนิ่งๆ
“ฉันแค่ตรวจดูว่าบ้านสะอาดไหม ใต้โซฟาต้องมาถูหน่อย มันเป็นมุมอับ”
“อ่อ ผมคิดว่าคุณกำลังหาของขวัญเสียอีก วางใจเถอะ ของลังนั้นผมเอาไปจัดการแล้ว”
“ทิ้งแล้ว?” เสี่ยวเชี่ยนดวงตาเป็นประกาย
อวี๋หมิงหลางยิ้มยิงฟัน “เปล่า ก็แค่เอาไปซ่อนให้ดี เมียจ๋าวางใจได้ ไม่ว่าใครมาบ้านเราก็ไม่มีทางได้รู้ว่าหมอเฉินแสนเก่งมีรสนิยมแบบพิเศษ ที่ที่ผมเอาไปซ่อนมีแค่ผมเท่านั้นที่หาเจอ มีผมเป็นสามี ‘สุข’ ไหมเมียจ๋า”
มีทักษะซ่อนของติดตัวมาด้วย
“ฉัน…มีรสนิยมพิเศษเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนกัดฟัน
คนบางคนแถวนี้ยังพยักหน้าเอาซื่อๆ “ไม่ใช่เหรอ เมียผมเป็นผู้หญิงที่ร้อนแรงม้าก”
เสี่ยวเชี่ยนกระดิกนิ้ว “งั้นนายอยากได้จูบตอนเช้าจากผู้หญิงที่ร้อนแรงคนนี้ไหม?”
เรื่องแบบนี้ถ้าปฏิเสธก็ไม่ใช่ผู้ชายแท้แล้ว
อวี๋หมิงหลางเป็นผู้ชายแมนทั้งแท่ง พอได้ยินเรื่องดีๆแบบนี้ก็รีบแจ้นเข้าไปหา ในใจยังแอบคิดเข้าข้างตัวเอง นี่คงเป็นรางวัลที่เมื่อคืนเขาทำดีสินะ เมียนี่ใจดีจัง ใจดีถึงขั้น—”
“โอ๊ย!”
ไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีเสียงร้องโอดโอยดังออกมาจากบ้านของหัวหน้าใหญ่
เช้าตรู่ที่แสนงดงามเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายซ้อมคนอย่างพอเหมาะ
กินอาหารเช้าเสร็จเสี่ยวเชี่ยนก็ใส่ชุดทำงานเดินตามอวี๋หมิงหลางออกจากบ้าน งานผู้ช่วยที่เธอขอเริ่มทำตั้งแต่วันนี้
เจอคนที่ใส่ชุดทหารเตรียมตัวไปทำงาน พวกเขาต่างมองคู่นี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อวี๋หมิงหลางหยุดทักทายคนไปเรื่อย
ถึงเสี่ยวเชี่ยนจะย้ายมาอยู่ได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่เนื่องจากปกติเวลาทำงานและพักผ่อนของเธอจะแตกต่างจากคนอื่นๆที่อาศัยอยู่ที่นี่ อีกทั้งอวี๋หมิงหลางกับเธอก็ไม่ได้ทำตัวโดดเด่นอะไรนัก ดังนั้นเธอย้ายเข้ามาอยู่นานขนาดนี้หลายคนจึงไม่รู้จักว่าผู้หญิงสวยคนนี้ก็คือภรรยาหัวหน้าใหญ่คนดังในตำนาน
จนกระทั่งเมื่อวานเสี่ยวเชี่ยนเปิดตัวอย่างองอาจ ทุกคนถึงได้รู้ว่าสาวที่สวยเหมือนดาราคนนี้ก็คือภรรยาสุดที่รักของหัวหน้าอวี๋
“หัวหน้าใหญ่ครับ ตาเป็นอะไรเหรอครับ?” มีคนตาดีเห็นตาซ้ายของหัวหน้าอวี๋คนเก่งดูเขียวๆ
อวี๋หมิงหลางเอามือลูบตา แล้วหันไปมองผู้หญิงข้างๆ
เสี่ยวเชี่ยนก้มหน้าทำตัวเจี๋ยมเจี้ยม แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ
“นี่อะเหรอ มีต้นเหตุมาจากผู้หญิงร้อนแรงน่ะ…”
อวี๋หมิงหลางจนปัญญา เมียเขาร้อนแรงเหลือเกิน! แสร้งทำเป็นเหมือนจะจูบแต่กลับเหวี่ยงหมัดเข้ามาที่ตาเขา!
ต่อไปต้องทำข้อตกลงกันหน่อยแล้ว จะทำร้ายก็อย่าเล่นที่หน้าได้ไหม?
วันนี้เขาคงต้องอยู่กับแผลนี่ไปทั้งวัน
“หัวหน้าใหญ่ว่าอะไรนะครับ?” คนถามได้ยินไม่ชัด
“เปล่า นี่เป็นร่องรอยจากสงครามเมื่อวานน่ะ”
คำพูดแฝงความนัย เขาพูดในใจเสริม หรือเมียเขาจะไม่พอใจ ‘สงคราม’เมื่อคืน วันนี้ก็เลยโมโหหนักใช่ไหม?
แต่ทว่าคนถามกลับรู้สึกชื่นชม
สมกับเป็นหัวหน้าใหญ่ เมื่อวานแต่งงานยังออกไปจับคนร้าย วันนี้ยังมาทำงานด้วยสภาพใบหน้าฟกช้ำ สมกับเป็นยอดชาย!
“พี่สะใภ้ครับ หัวหน้าใหญ่ของพวกเราอยู่ข้างนอกเก่งสุดๆเลยนะครับ เวลาเขาอยู่บ้านเชื่อฟังพี่มากเลยใช่ไหมครับ?”
คนๆนี้เห็นเสี่ยวเชี่ยนเอาแต่ก้มหน้าดูเป็นผู้หญิงอ่อนหวานจึงอดถามไม่ได้ ชีวิตส่วนตัวของหัวหน้าใหญ่นี่นา ใครๆก็อยากรู้
“ไม่เลย เขาเป็นผู้ชายที่มีความเป็นผู้นำสูง ฉันต้องฟังเขาตลอด เห้อ สมัยนี้ใครแข็งแรงกว่าก็ย่อมได้เป็นใหญ่” เสี่ยวเชี่ยนพูดพลางตีหน้าเศร้า อวี๋หมิงหลางที่เดินอยู่ข้างหน้าถึงกับสะดุด
เดี๋ยว เดี๋ยว ตรรกะอะไรกัน?