“นี่มันใส่ร้ายกันชัดๆ! คุณจะต้องรับผิดชอบทางกฎหมายสำหรับเรื่องนี้!”

เมื่อ หลี่ จื่อเมิ่ง ได้ยินคำพูดของ เฉิน เจียนไป่ เธอก็ชี้นิ้วไปที่เขาแล้ว ตะโกนเสียงดังออกมาในทันที

“รับผิดชอบทางกฎหมายเหรอ ฮ่า ๆๆๆๆ นังโง่เอ้ย!”

เฉิน เจียนไป่ เย้ยหยัน ” แม้แต่คนดังที่มีชื่อเสียง ก็ยังไม่กล้าที่จะพูดกับนักข่าวอย่างฉันแบบนี้เลย ฉันเป็นผู้เผยแพร่ความคิดเห็นต่อสาธารณะ มันเป็นเรื่องง่ายมากที่ฉันจะทำลายชื่อเสียงของแก บริษัท หลัวฝาง มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกแกจริงๆ แต่ …”

ดวงตาที่เรียวเล็กคู่หนึ่ง มองไปที่เรือนร่าง ที่ผอมเพรียวของ หลี่ จื่อเมิ่ง อย่างหยาบคาย จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาพร้อมกับพูดว่า“ถ้าสาวสวยอย่างคุณหลี่ ตกลงที่จะใช้เวลาหนึ่งคืนร่วมกับฉัน บางทีฉันอาจจะปล่อย บริษัท หลัวฝาง ไปก็ได้”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ !” คนอื่นๆก็พากันหัวเราะ การเยาะเย้ยผู้หญิงคนหนึ่ง นี่มันทำให้พวกเขามีความสุขเป็นอย่างยิ่ง

“ไอพวกเหี้..ย” หลี่ จื่อเมิ่ง ขบฟันของเธอด้วยความโกรธ เธอจ้องมองไปที่ เฉิน เจียนไป่ เขม็ง ในใจของเธอเต็มไปด้วยโทสะและความหงุดหงิด

เฉิน เจียนไป่ ไม่ได้คิดอะไรและยังคงแซวเธอต่อไป“ถ้าฉันสามารถพิชิตผู้หญิงที่ฉลาดและเฉลียวฉลาดอย่าง คุณหลี่ ได้นั่นมันจะเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของฉันอย่างแน่นอน ฮิฮิ!”

ร่างกายของ หลี่ จื่อเมิ่ง สั่นเทาด้วยความโกรธ ไอขยะ เฉิน เจียนไป่ มันไม่สมควรที่จะเป็นนักข่าวเลย

“พูดได้ดี!”

ในเวลานั้น เสี่ยวหลัว ก็ปรบมือยกย่องเธอในทันที

จากนั้น เสี่ยวหลัว ก็ค่อยๆดึงเครื่องบันทึกเสียงออกมาจากกระเป๋าและกดเล่น เครื่องอัดเสียงเล่นซ้ำคำพูดของ เฉิน เจียนไป่ ในทันที:“ฉันเขียนทุกอย่างตามที่ฉันต้องการ เมื่อฉันพูดว่าขนมปังของแกฆ่าคน ขนมปังของแกก็จะต้องฆ่าคน…”

คุณภาพของเสียงนั้นดีมาก

ใบหน้าของ เฉิน เจียนไป่ เปลี่ยนสีไปในทันที จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่ เสี่ยวหลัว อย่างโกรธแค้น: “แกกล้าขู่ฉันงั้นเหรอ?”

เสี่ยวหลัว ไม่สนใจ เขายื่นปากกาบันทึกเสียงไปให้กับ หลี่ จื่อเมิ่ง และ พูดกับเธอว่า: “เราจะฟ้องร้องเขา เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของ บริษัท หลัวฝาง ฉันจะให้คุณจัดการกับเรื่องนี้ ฉันมีเพียงคำขอเดียวนั่นคือ ทุกคนใน เจียงเฉิง จะต้องรู้เรื่องนี้!”

การที่เสี่ยวหลัว ให้งานนี้ไปทำ มันมีจุดประสงค์ก็คือเพื่อที่จะทดสอบว่า หลี่ จื่อเมิ่ง เป็นสายให้กับ Taste Buds หรือไม่ แน่นอนว่าเป้าหมายหลักก็เพื่อฟื้นฟูชื่อเสียงของ บริษัท หลัวฝาง นี่เป็นภารกิจที่เร่งด่วนที่สุดเพราะมีเพียงชื่อเสียงที่ได้รับกลับคืนมาแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถมีลูกค้าเข้ามาอีกครั้ง มิฉะนั้นธุรกิจคงจะขาดทุนไปตลอด

“ค,,,, ค่ะ”

หลี่ จื่อเมิ่ง รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากและพยักหน้ารับ เธอชื่นชมวิธีการของ เสี่ยวหลัว มาก ที่ใช้ปากกาบันทึกเสียง เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำคัญในศาล แม้แต่ เฉิน เจียนไป่ ก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงในข้อนี้ได้ อย่างไรก็ตาม เฉิน เจียนไป่ จะปล่อยให้พวกเขาออกไปจากที่นี่พร้อมกับปากกานี้จริงๆงั้นเหรอ !?

ตามที่คาดไว้กลุ่มของ เฉิน เจียนไป่ หลายสิบคนเข้ามาล้อมรอบพวกเขาด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่เป็นมิตร พวกเขาก่อกำแพงมนุษย์และปิดกั้นเส้นทางหลบหนีทั้งหมดของพวกเขา

เฉิน เจียนไป่ จ้องมองไปที่เสี่ยวหลัว อย่างโหดเหี้ยม พร้อมกับพูดว่า“เจ้าเล่ห์นักนะ! แกกล้ามาก ฉันอยากจะรู้นักว่าแกจะออกไปจากที่นี่ยังไง!” เขาโบกมือให้กับเพื่อนๆ ของเขาแล้วพูดว่า“เอาเลยพี่น้อง ฉันอยากจะให้มันหมอบคลานบนพื้นมาหาฉัน!”

ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจนจบ ทันใดนั้น เสี่ยวหลัว ก็พุ่งเข้ามาหาเขาด้วยพละกำลังอันมหาสารพร้อมกับส่งหมัดออกไปกระแทกเข้ากับหน้าอกของ เฉิน เจียนไป่ โดยตรง “ปัง” เฉิน เจียนไป่ เหมือนถูกรถชนพุ่งชน ตัวของเขากระเดนลอยถอยหลังกลับไปสามสี่เมตร!

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยไม่มีการเตือนใดๆ การแสดงพลังอันแข็งแกร่งของเขา มันทำให้ผู้คนทั้งหมดสั่นคลอน!

หลี่ จื่อเมิ่ง เบิกตากว้างและมองไปที่เสี่ยวหลัว อย่างไม่อยากเชื่อสายตา

กลุ่มคนกว่าหนึ่งโหลที่วางแผนจะโจมตี เสี่ยวหลัว ต่างตกตะลึง พวกเขามองดู เฉิน เจียนไป่ ที่ล้มลงกับพื้นและส่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด จากนั้นพวกเขาก็มองกลับไปที่เสี่ยวหลัว อย่างประหลาดใจ เหงื่อเย็นไหลออกมาจากตัวของพวกเขา พวกเขาคิดกับตัวเอง: ทำให้ผู้ชายคนหนึ่ง บินออกไปสามสี่เมตร ด้วยการชกเพียงครั้งเดียว เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรือไร!

“พวกแกต้องการที่จะต่อสู้เพื่อเขา?” เสี่ยวหลัว หันไปมองกลุ่มคน และถามออกมา

คนที่สบตากับเขา ส่ายหัวอย่างไม่รู้ตัวและก้าวถอยหลังกลับไปอย่างไม่สบายใจ

เสี่ยวหลัว ตวาดออกไปอย่างเย็นชาว่า: “ออกไปให้พ้น!”

เด็กวัยรุ่นจำนวนกว่าหนึ่งโหล รีบวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว เสี่ยวหลัวทำให้พวกเขานั้นกลัวอย่างสมบรูณ์

เมื่อ เสี่ยวหลัว เดินออกไปไกลพอสมควร ในที่สุดสติของ หลี่ จื่อเมิ่ง ก็กลับมาสู่ความเป็นจริง เธอมองไปรอบๆสนามอย่างตกตะลึง และรีบเดินตามเสี่ยวหลัวไป เธอวิ่งตามมาด้วยรองเท้าส้นสูง จนเกือบที่จะสะดุดล้ม

สำหรับคนที่น่าสงสาร อย่าง เฉิน เจียนไป่ นั้น เขายังไม่สามารถลุกขึ้นมาจากพื้นดินได้ ความเจ็บปวดในหน้าอกของเขานั้น มันรุนแรงมากราวกับว่าอวัยวะทั้งหมดของเขามันเคลื่อนไหวไปมาภายในร่างกายของเขา เสียงอู้อี้ดังออกมาจากลำคอของเขา ในขณะที่ร่างกายของเขายังคงสั่นกระตุก

……

หลี่ จื่อเมิ่ง เดินตามหลังของเสี่ยวหลัวมาเหมือนกับเป็นเลขาฯ เธอคอยมองดูเสี่ยวหลัวและคอยศึกษานิสัยของเจ้านายของเธอ ชายคนนี้นั้นสงบและแสดงความมั่นใจของเขาออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในความฝัน การชก เฉิน เจียนไป่ จนกระเดนและทำให้กลุ่มคนกว่าโหลหนีไป เขาจะต้องแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน!?

เสี่ยวหลัวหยุดเดินและหันหลังกลับมา

หลี่ จื่อเมิ่ง เกือบที่จะเดินชนเขา แต่เธอก็หยุดตัวเองได้ทันเวลา เธอรีบก้าวถอยหลังออกไปในทันที เพื่อรักษาระยะห่างจากเสี่ยวหลัว

“คุณหลี่ คุณกลับไปก่อนได้เลย ฉันยังมีธุระที่ต้องจัดการต่ออีก”เสี่ยวหลัว กล่าว

“ได้ค่ะ!” หลี่ จื่อเมิ่ง พยักหน้า

จากนั้นเสี่ยวหลัวก็พูดเสริมว่า“เริ่มเตรียมเอกสารต่างๆเพื่อฟ้อง เฉิน เจียนไป่ ในวันพรุ่งนี้ เรามีเทปจากปากกาบันทึกเสียง ฉันแน่ใจว่า เฉิน เจียนไป่ น่าจะติดคุกสักสองสามปี”

หลี่ จื่อเมิ่ง พยักหน้าช้าๆอย่างเห็นด้วยและพูดว่า“ฉันแน่ใจว่าเขาจะต้องติดคุกสองสามปีอย่างแน่นอน เขาเป็นคนที่ขุดหลุมฝังศพของเขาเอง!”

“อืม เจอกันพรุ่งนี้!”

เสี่ยวหลัว ยิ้มและเดินจากไป ที่จริงแล้วเขาไม่มีธุระอะไรเลย เขาไม่ต้องการรบกวน หลี่ จื่อเมิ่ง นอกจากนี้เขาก็ไม่ต้องการให้เธอรู้ว่า เขาอาศัยอยู่ในเขตอุตสาหกรรม เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของเขา

หลี่ จื่อเมิ่ง ยังคงยืนอยู่ที่เดิม และเฝ้าดูเขาเดินจากไป เธอจะไม่ไปไหนจนกว่าเงาของเขาจะหายไปอย่างสมบูรณ์ จากนั้นเธอจึงเดินกลับไปที่รถของเธอ

แข็งแกร่งฉลาดมีมารยาท แต่ก็ไร้ความปราณีเมื่อจำเป็น!

สิ่งเหล่านี้คือความประทับใจที่เสี่ยวหลัว สร้างให้กับเธอ ความประทับใจเหล่านี้มันทำให้เขามีเสน่ห์แบบพิเศษ ที่ทำให้คนอย่างเธอที่มีประสบการณ์อันหลากหลายในการทำงานกับผู้คนหลากหลายประเภทรู้สึกถูกดึงดูดโดยเขา

……

เสี่ยวหลัวต้องการเรียกรถแท็กซี่เพื่อพาเขากลับ แต่ทันใดนั้นเสียงของโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น มันเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จักโทรมา

“สวัสดีครับ นี่คือใครเหรอครับ?”

เสียงที่หมดหวังและวิตกกังวลดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์:“พี่ชายเสี่ยวหลัว? พี่ใหญ่ของฉันคือ เฟิง อู๋ฮั่น ชื่อของฉันคือ เสี่ยวอู๋ แก๊งค์มังกรออกคำสั่ง ให้กลุ่มคนกว่าร้อยคน มาฆ่าเรา และคุณก็เป็นคนเดียวที่เรารู้จักในเจียงเฉิง คุณช่วยเราหน่อยได้ไหม”

เฟิง อู๋ฮั่น?

เสี่ยวหลัว ขมวดคิ้วและใช้เวลาอยู่สักพัก เพื่อระลึกว่าใครคือ เฟิง อู๋ฮั่น จากนั้นภาพเงาขนาดใหญ่ห้าภาพ ก็ปรากฏขึ้นในสมองของเขา

“ทำไมคุณไม่โทรหาตำรวจล่ะ”

“เราโทรไปแล้ว แต่พวกเขายังมาไม่ถึงที่นี่ ตอนนี้พวกเราน่าจะตายก่อนที่พวกตำรวจจะมาถึง”

จากนั้นเสี่ยวหลัว ก็ถามว่า“ตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหน”

“ใกล้กับท่าเรือ เจียงเฉิง”

“หาที่ซ่อนให้ดี ฉันจะรีบไป”

เสี่ยวหลัววางสายโทรศัพท์และเรียกรถแท็กซี่อย่างรวดเร็วเพื่อเดินทางไปท่าเรือ เจียงเฉิง

สำหรับพวกคนเหล่านั้น เสี่ยวหลัว เขามีความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่สามารถพูดได้ บางทีมันอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาทั้งหมดมาจากชนบทเหมือนกันกับเขา หรืออาจเป็นเพราะว่า เฟิง อู๋ฮั่น มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่ทำเพื่อพี่น้องของเขา ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นเหตุผลที่ เสี่ยวหลัว ทิ้งข้อมูลการติดต่อไว้ให้กับพวกเขาที่ร้านอาหาร ด้วยความหวังว่าในอนาคตสักวันเขาจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ แต่เสี่ยวหลัวเขาก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่า พวกเขาจะประสบกับปัญหาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ และมันก็เป็นปัญหาใหญ่เอาซะด้วย